วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 21:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2016, 08:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


" หลักของพระพุทธศาสนา
สอนให้มีความจริงใจ พึ่งตนเองได้
โดยลำพังเราไปไม่รอด เหมือนเขาจะทำงาน
อะไรก็ต้องมีเครื่องมือใจที่จะก้าวเดิน
ให้ถูกทางก็ต้องอาศัยเครื่องดำเนินคือธรรม
ของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นธรรมที่ถูกต้อง
อย่างยิ่งแล้วไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น
ท่านจึงให้นามว่า สวากขาตธรรม
เราสวดอยู่ทุกเช้าทุกเย็นที่ว่าสฺวากฺขาโต
ภควตา ธมฺโมพระธรรมอันพระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสไว้ชอบแล้ว ทั้งเบื้องต้น
ท่ามกลางและที่สุดของจิตของธรรม
ล้วนแต่สอนแนวทางไว้โดยถูกต้อง ไม่มี
ผิดพลาดแม้แต่น้อยเลยหากผู้นับถือ
พระพุทธศาสนา จะยึดเป็นหลักเป็นเกณฑ์
ภายในจิตใจอย่างแท้จริงตามพระเมตตา
ที่ทรงประทานพระโอวาทไว้นี้
ก็พึ่งตนเองได้ ไม่เหลวไหลตลอดไป
ตั้งแต่ต้นจนอวสานแห่งชีวิต ภพนี้ภพนั้น
จะไม่เหลวไม่เลวในความเป็นอยู่เป็นไป
ทั้งภพนี้และภพหน้า ภพไหนๆ
และยังจะเป็นเครื่องตัดวัฏวนคือความเกิดตายนี้
ให้ย่นเข้ามาเป็นลำดับๆเพราะการทำถูกทำดี
เป็นเครื่องช่วยตนเองให้ทุกข์น้อยลง
ภพชาติน้อยลงเพราะกิเลสน้อยลง "
(โอวาทธรรมหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)





วิธีแก้ปวดขาเวลานั่งสมาธิ

โยม ; ได้ยินว่าหลวงปู่นั่งภาวนากรรมฐานได้นาน นั่งสมาธิครั้งล ๘ ชั่วโมง บางครั้งนานถึง ๑๕ วัน หลวงปู่ปวดขาไหมครับแล้วหลวงปู่มีวิธีแก้ปวดขาไหมครับ ผมเอาชนะความปวดไม่ได้สักที แล้วจิตก็พะวงกับเรื่องปวดจนไม่เป็นอันทำสมาธิ จิตไม่รวมลงสักที

หลวงปู่ ; เอ้าหลวงปู่ก็คนเนาะ เอาเนื้อเอาหนังเอากระดูกทำ หลวงปู่ก็ปวดเหมือนกันกับคุณนั้นหล่ะ อดทนสิ อดทน คนอดทนทุกคนล้วนได้ดี อดทนถึงที่ได้ดีทุกคน อดทนไม่ถึงที่ไม่ได้ดีสักคน

โยม ; หลวงปู่ครับ ผมอดแล้วทนแล้ว ทั้งอดทั้งทน แต่มันก็ยังปวดอยู่ ไม่มีวิธีนั่งๆ แล้วหายปวดบ้างโปรดโยมบ้างหรือครับผม

หลวงปู่ ; เวลาคุณปวดขี้ ปวดเยี้ยว คุณทำยังไง เวลาฟันคุณผุ ใส่ยาแล้วก็ไม่หาย รักษาแล้วก็ไม่หาย คุณทำยังไง

โยม ; ขออภัยหลวงปู่นะครับผม เวลาผมปวดขี้ ปวดเยี้ยวผมก็ไปห้องน้ำ เวลาผมปวดฟัน รักษาไม่หายก็ต้องถอนครับผม

หลวงปู่ ; เออ เมื่อคุณปวดขี้คุณยังไปขี้ เวลาคุณปวดเยี้ยวคุณก้ไปเยี้ยว ปวดฟันคุณก็ถอนฟัน ปวดขาอยากให้มันหายคุณก็ต้องตัดขาออกสิ (ว่าแล้วท่านก็หัวเราะ) คุณเอ้ย ตราบใดที่คุณยังมีขา คุณก็ต้องปวดขา
คุณเอ้ยปวดขาเวลานั่งภาวนาหน่ะมันดี ดีกว่านั่งเล่นโบกเล่นไพ่ เล่นไฮโลแล้วลืมปวดลืมเมื่อย ปวดขาทำดีดีกว่าปวดขาทำชั่ว ขณะที่คุณปวดขา ปวดขามันสอนธรรมนะ สอนะรรม อนิจจัง สอนธรรมทุกขัง สอนธรรมอนัตตา ปวดขาปวดถึงที่สุดมันก็หาย หายถึงที่สุดมันก็ปวด ที่เราไม่รู้ว่ามันปวดเพราะเราขยับ นั้นไงอนิจจัง การขยับ การเปลี่ยนอริยาบทอาการนั้นหล่ะมันปิดทุกข์ปวดแล้วมันหายหายแล้วมันปวด นี้แหละอนัตตาธรรม ธรรมมีอยู่ทุกอริยาบท มีอยู่ทุกลมหายใจ แล้วแต่ใครจะรู้จักเลือกเอา รู้จักคัดเอา น้อมให้เป็นธรรมนะ เอาไว้สอนตัวสอนตน มันเจอปวดมากๆนั้นแหละมันดี ปวดมันสอนเราว่ามันทุกข์ มันเจ็บ เรามีขา ขามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ของชีวิต ของโลก ที่เรายังหลงติดอยู่ในโลก เพราะมันตามใจ มันสุขมันสบาย สุขกับโลก สบายกับโลกก็ติดกับโลก ให้เห็นทุกข์ให้เห็นธรรม มันจะได้หน่ายโลก เบื่อโลก ทิ้งโลก รักภาวนา อย่ากลัวเจ็บ กลัวปวด เพราะเจ็บเพราะปวดนั้นแหละ สอนธรรม สอนวิธีหนีโลก ทิ้งโลกเข้าใจนะ

หลวงปู่หา สุภโร





เทวดารักษา

“...เทวดาในโลกมนุษย์เรียกว่า เทวธรรม และธรรมของเทวดาเหล่านี้ ได้แก่ หิริ คือความละอายต่อบาป และโอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อบาป อันนี้เป็นเทวธรรม คือ เป็นธรรมของเทวดา ซึ่งเราเป็นเทวดากันอยู่ทุกวันนี้ เพราะธรรม 2 ประการนี้
....เมื่อจิตเรามีความสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ เทวดาจะมาอนุโมทนา เมื่อเขามา เราจะเห็นเขามาลักษณะไหน แต่งตัวสวยงาม ผิดแปลกแตกต่าง สวยงามกว่าโลกมนุษย์ เขามาปรากฏทางจิต ให้เห็นทางจิต เห็นได้ด้วยใจ เมื่อเราเห็น เราก็จะเกิดปีติคือความพอใจ เขามาให้เห็นเพื่อมารักษาเรา เราก็จะต้องทำความดีต่อไป ทำให้เราได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดีทั้งนอก ดีทั้งใน นี้เรียกว่าเทวดารักษา
....จุดประสงค์ของพวกเรานักปฏิบัติก็เพื่ออยากพ้นทุกข์ เราเห็นทุกข์มามากแล้ว ความทุกข์ยากลำบากในการทำมาหากิน ในการครองเรือน ในการเป็นอยู่ของหมู่คณะ มีแต่เรื่องลำบาก มีแต่เรื่องยุ่ง มันน่าเบื่อ จึงอยากหนีแต่ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน หนีไปก็ไปเจออีก
...พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าการหนีจากทุกข์ คือหนีด้วยทางจิต ต้องเอาจิตหนีจากความเกิด นิโรธะ คือความดับ ดับความเกิด ดับอวิชชา ตัณหา มานะ ทิฏฐิ เรียกว่าดับทุกข์ ถ้าดับตัวนี้ได้ก็หมดปัญหา แต่เรากักขังตัวเองมาเป็นเวลาหลายกัปหลายกัลป์ โดยไม่รู้ตัว ก็ขังในทุกข์ ขังไว้ในวัฎฎะ สังวัฏฏกัป วิวัฎฎกัป ในสังสารวัฎ วนกันไปเวียนกันมา เกิดแล้วก็ตายไป ตายไปแล้วก็มาเกิดอีก ก็มาเอาร่างของเก่าที่เป็นร่างมนุษย์ จะเป็นชาติฝรั่ง ชาติอังกฤษ ชาติจีน ชาติไทย ชาติลาว ชาติเขมร ก็เนื้อหนังอันเดียวกัน มาเอาร่างอันนี้ ถ้ามาเกิดก็มาทุกข์ในร่างอันนี้อีก ไม่รู้จะไปสิ้นสุดกันตรงไหน คงจะวนกันอยู่อย่างนี้ วนไปวนมา ตายไปแล้วก็ย้อนกลับมา ย้อนกลับมาแล้วก็มาตายไปอีก ตายไปก็ย้อนกลับมาอีก ไปสวรรค์ก็ยังลงมา ไปพรหมโลกก็ยังลงมา
...ถ้าจิตของเราเข้าถึงความหลุดไปด้วยอำนาจแห่งคุณธรรมภายใน ที่เรียกว่าวิสุทธิเทพ คือเทพบริสุทธิ์ ไม่มีทุกข์อีกไม่มีความลำบากอีก...หรือให้ถึงซึ่งความเป็นอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเหมือนเช่นที่พระพุทธองค์ได้เสวยพระชาติมาก็นับหลายกัปหลายกัลป์ขอให้เราค่อย ๆ ทำไปเช่นเดียวกับพระองค์....”

พระธรรมเทศนาแสดงโดย หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก ที่วัดอโศการาม เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2530


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2016, 10:26 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2949


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร