วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 17:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2016, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อนเก่าผมคนหนึ่งในพันทิบ เขาตั้งกระทู้ถาม

จริงแล้วผมคงคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเพียงฝ่ายเดียว แต่สำหรับเขาคิดว่าผมเป็นศัตรู
แต่ก็ช่างมันเถอะพูดไปก็ป่วยการมันไม่ใช่สาระ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมว่านายคนนี้คงไม่ตั้งใจตามเอาความรู้หรอกครับ
มันก็แค่ดูคนอื่นโต้แย้งความเห็น เกิดไม่พอใจก็เลยอวดเก่งถือดีหาเรื่องลองภูมิเขา

กระทู้ก็ประมาณนี้......

รูปภาพ

ปล. ใครจะสร้างเรื่องดร่าม่ากล่าวหาว่าผม ไร้มรรยาทเอากระทู้คนอื่นมาลงโดยพละการณ์
ผมขี้เกียจอธิบายครับ เอาเป็นว่าผมแนะนำให้ไปฟ้องเพื่อนผมคนนี้ แล้วฝากบอกไปด้วยว่า.....
ถ้าไม่พอใจให้มาคุยกันที่เว็บลานธรรมจักร ที่นี้เขาแฟร์ๆไม่มีพรรคมีพวก
มีบางครั้งอาจรวมหัวกันชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อรุมกินโต๊ะคนที่ตัวไม่ชอบหน้า :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2016, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศาสดาโฮฮับ นำมาห้อยๆไว้ที่นี่ ตัวเองจะเอายังไง ก็ว่ามา นี่แขวนโชว์ไว้เฉยๆ ผู้ดูแลลบออกเถอะขอรับ หรือจะจับโยนใส่ห้องดับจิต (ถังขยะ) ก็เอา กรัชกายเชียเต็มที่ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2016, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศาสดาโฮฮับ นำมาห้อยๆไว้ที่นี่ ตัวเองจะเอายังไง ก็ว่ามา นี่แขวนโชว์ไว้เฉยๆ ผู้ดูแลลบออกเถอะขอรับ หรือจะจับโยนใส่ห้องดับจิต (ถังขยะ) ก็เอา กรัชกายเชียเต็มที่ :b32:


คนอื่นเขามีงานมีงานทำ ไม่เหมือนเสื้อแดงกรัชกายนี่
พักนี้คสช.ห้ามก่อม็อบ เสื้อแดงกรัชกายว่างงาน ไม่มีใครมาจ้าง
เลยมีเวลาอยู่หน้าจอทั้งวันทั้งคืน :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2016, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศาสดาโฮฮับ นำมาห้อยๆไว้ที่นี่ ตัวเองจะเอายังไง ก็ว่ามา นี่แขวนโชว์ไว้เฉยๆ ผู้ดูแลลบออกเถอะขอรับ หรือจะจับโยนใส่ห้องดับจิต (ถังขยะ) ก็เอา กรัชกายเชียเต็มที่ :b32:


คนอื่นเขามีงานมีงานทำ ไม่เหมือนเสื้อแดงกรัชกายนี่
พักนี้คสช.ห้ามก่อม็อบ เสื้อแดงกรัชกายว่างงาน ไม่มีใครมาจ้าง
เลยมีเวลาอยู่หน้าจอทั้งวันทั้งคืน :b32:



@ มิน ลบเถอะครับ รกบอร์ด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2016, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศาสดาโฮฮับ นำมาห้อยๆไว้ที่นี่ ตัวเองจะเอายังไง ก็ว่ามา นี่แขวนโชว์ไว้เฉยๆ ผู้ดูแลลบออกเถอะขอรับ หรือจะจับโยนใส่ห้องดับจิต (ถังขยะ) ก็เอา กรัชกายเชียเต็มที่ :b32:


ไม่ได้เอามาแขวนโชว์ แต่จะดูซิว่านกแก้วจะบินมาเกาะขอนไม้แล้วส่งเสียงน่ารำคาญในกระทู้หรือเปล่า
กรัชกายจะก๊อปปี้อะไรมาโพส ก็รีบเข้าพี่โฮเปิดโอกาสให้ พรุ่งนี้พี่โฮถึงจะมาแสดงความเห็นเพิ่ม :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


ที่ว่านี่น่ะ ไปเอามาแต่ไหน :b32: หรือมโนสาเหร่เอาเอง จับแพะชนแกะ รถชนกับเรือ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


ที่ว่านี่น่ะ ไปเอามาแต่ไหน :b32: หรือมโนสาเหร่เอาเอง จับแพะชนแกะ รถชนกับเรือ :b32:


มันผิดตรงไหนอย่างไรก็ว่าไป เชิญเลยครับคุณมรรคทายกกรัชกาย
เอาตำราเณรมาอ้างก็ได้ แต่อย่าเอาติดกันเป็นพรืด ถ้าโพสแล้วไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เดี๋ยวสพี่โฮช่วยอธิบายให้ว่ามันใช่ไม่ใช่ หรือมันคืออะไร :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


ที่ว่านี่น่ะ ไปเอามาแต่ไหน :b32: หรือมโนสาเหร่เอาเอง จับแพะชนแกะ รถชนกับเรือ :b32:


มันผิดตรงไหนอย่างไรก็ว่าไป เชิญเลยครับคุณมรรคทายกกรัชกาย
เอาตำราเณรมาอ้างก็ได้ แต่อย่าเอาติดกันเป็นพรืด ถ้าโพสแล้วไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เดี๋ยวสพี่โฮช่วยอธิบายให้ว่ามันใช่ไม่ใช่ หรือมันคืออะไร :b32:


เอานะ ไปเอามาแต่ไหน

อ้างคำพูด:
มหาภูติรูป



อ้างคำพูด:
กายกับรูปไม่เหมือนกัน

กายเป็นธาตุ๔ ( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์



อะไรของมัน พันกันยุ่งไปหมด

เอางี้ก่อน กาย กับ ร่างกาย เหมือนกันหรือต่างกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


ที่ว่านี่น่ะ ไปเอามาแต่ไหน :b32: หรือมโนสาเหร่เอาเอง จับแพะชนแกะ รถชนกับเรือ :b32:


มันผิดตรงไหนอย่างไรก็ว่าไป เชิญเลยครับคุณมรรคทายกกรัชกาย
เอาตำราเณรมาอ้างก็ได้ แต่อย่าเอาติดกันเป็นพรืด ถ้าโพสแล้วไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เดี๋ยวสพี่โฮช่วยอธิบายให้ว่ามันใช่ไม่ใช่ หรือมันคืออะไร :b32:


เอานะ ไปเอามาแต่ไหน

อ้างคำพูด:
มหาภูติรูป



อ้างคำพูด:
กายกับรูปไม่เหมือนกัน

กายเป็นธาตุ๔ ( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์



อะไรของมัน พันกันยุ่งไปหมด

เอางี้ก่อน กาย กับ ร่างกาย เหมือนกันหรือต่างกัน


ไปอ่านพระอภิธรรมมาร้อยรอบ แล้วกลับมาถามใหม่
อย่างกรัชกายพี่โฮว่า เอาแค่เปรียญธรรม๑ประโยค ก็เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลแล้ว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า....กายสังขารคือรูปกายและนามกาย

คำพูดเช่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของผู้พูด คำว่า กายสังขาร
มัไม่ใช่คำๆเดียวกัน สังขารเป็น ปฏิจจสมุปบาท
กายก็คือธาตุสี่ ในมหาภูติรูป

ถ้าครั้งใดมี่การเอาคำว่า กายและสังขารมาพูดประกอบกัน ให้เข้าใจว่า...
ในปัจจุบันธรรมนั้นคือกาย กรรมทุกอย่าง เช่นเดิน วิ่ง ขยับแขนขา...ล้วนเกิดจาก สังขารทั้งสิ้น

แต่ถ้ามีการบังคับกายให้มีการเดินเร็วช้า หรือมีการบังคับให้ขยับแขนขาไปตามทิศทาง...นี่ไม่ใช่สังขาร
แต่เรียกว่า .....การปรุงแต่งของมโนทวาร

รูปกาย.....นี่คือ มหาภูติรูป
กายกับรูปไม่เหมือนกัน
กายเป็นธาตุ๔( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์

สรุปถ้าเราเห็นคำว่า"รูปกาย"เมื่อไร ก็ให้เข้าใจว่า ท่านกำลังสื่อว่า....รูปของกาย
มันไม่ใช่ว่ารูปกาย แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมหาภูติรูป


"นามกาย" มีธรรมมาปรุงแต่งกายจนเกิดเป็นนามธรรมขึ้น
เรียกว่า "อุปาทายรูป" เช่น จักขุ ชิวหา อิตถี ปุริสฯลฯ นี้ล้วนเป็นนามกายทั้งสิ้น


ที่ว่านี่น่ะ ไปเอามาแต่ไหน :b32: หรือมโนสาเหร่เอาเอง จับแพะชนแกะ รถชนกับเรือ :b32:


มันผิดตรงไหนอย่างไรก็ว่าไป เชิญเลยครับคุณมรรคทายกกรัชกาย
เอาตำราเณรมาอ้างก็ได้ แต่อย่าเอาติดกันเป็นพรืด ถ้าโพสแล้วไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เดี๋ยวสพี่โฮช่วยอธิบายให้ว่ามันใช่ไม่ใช่ หรือมันคืออะไร :b32:


เอานะ ไปเอามาแต่ไหน

อ้างคำพูด:
มหาภูติรูป



อ้างคำพูด:
กายกับรูปไม่เหมือนกัน

กายเป็นธาตุ๔ ( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์



อะไรของมัน พันกันยุ่งไปหมด

เอางี้ก่อน กาย กับ ร่างกาย เหมือนกันหรือต่างกัน


ไปอ่านพระอภิธรรมมาร้อยรอบ แล้วกลับมาถามใหม่
อย่างกรัชกายพี่โฮว่า เอาแค่เปรียญธรรม๑ประโยค ก็เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลแล้ว :b32:



รูปภาพ

โฮฮับเอ้ย เอ็งมันมั่ว :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:

โฮฮับ

กายกับรูปไม่เหมือนกัน

กายเป็นธาตุ ๔ ( ดิน น้ำ ลม ไฟ).......นี่คือรูปธรรม เป็นสมมติ
มหาภูติรูป......นี้ก็คือรูป เป็นนามธรรม ปรมัตถ์


มั่วเห็นๆ

ก็บอกแล้วว่ามวยวัด มวยไม่มีครู หลับหูหลับตาเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวา ถูกมั่งผิดมั่งดันทุรังกันไป พี่เลี้ยงก็ยุส่ง คิกๆๆ :b9:

“มหาภูติ” (ไม่มีสระอิ ที่ติ ภูต ไม่ใช่ ภูติ) นี่แสดงว่า ฟังไม่สับจับไปกะแดะ มีแต่มหาภูตรูป แปลว่า รูปใหญ่ รูปเดิม (ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ เรียกง่ายๆว่า ธาตุ ๔)

ทั้งรูป ทั้งรูปธรรม ก็อันเดียวกัน “รูป” เรียกสั้นๆ เหมือนเรียก ศีล สมาธิ ปัญญา สั้นๆง่ายๆ (เรียกเต็มก็อธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา) รูป เมื่อจัดเข้าหมวดธรรม ก็เรียก"รูปธรรม" (รูปธรรม นามธรรม = รูปนาม) เป็นกาย ร่างกาย สรีรยนต์

จะเรียกสั้น เรียกเต็ม ก็เป็นฝ่ายรูปธรรม ไม่ใช่นามธรรมอย่างศาสดาโฮปั่นมโนโมเมไป และต่างก็จัดเป็นปรมัตถ์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูหลัก


คำบาลี – คนไทยรู้จักได้ยินได้ฟัง

จักขุ - ตา
โสต – หู
ฆาน – จมูก
ชิวหา- ลิ้น
กาย- กาย

นี่ฝ่ายรูป -รูปธรรม

มโน-ใจ

ฝ่ายนาม – นามธรรม

นี่แหละชีวิตคนๆหนึ่งๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสกหนังควายเข้าท้องเถียรถีย์โฮฮับอีกหน่อย :b32:

กายสังขาร ๑. ปัจจัยปรุงแต่งกาย ได้แก่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ๒. สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางกาย ได้แก่ กายสัญเจตนา หรือความจงใจทางกาย ซึ่งทำให้เกิดกายกรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2016, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ดูหลัก

คำบาลี – คนไทยรู้จักได้ยินได้ฟัง

จักขุ - ตา
โสต – หู
ฆาน – จมูก
ชิวหา- ลิ้น
กาย- กาย

นี่ฝ่ายรูป -รูปธรรม

มโน-ใจ

ฝ่ายนาม – นามธรรม

นี่แหละชีวิตคนๆหนึ่งๆ


ไอ้คำว่าจักขุแล้วคนไทยบอกว่าตานะใช่ แต่พระพุทธองค์บอกว่า....ไม่ใช่!
,จักขุ ,โสต,ฯลฯ ล้วนเป็นอุปาทายรูป เกิดจากการปรุงแต่งของอวิชชา

แท้จริงแล้ว กายของบุคคลเป็นเพียงธาตุ๔ที่มาประกอบกัน

กายคือ...รูปธรรม
สิ่งที่เกิดจากกายเช่น มหาภูติรูปและอุปาทายรูปล้วนเป็นนามธรรม :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 64 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร