วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 17:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2016, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องให้เทียบ

เลิกบูชายัญ เพียงเป็นฐาน สู่ความงอกงามในธรรม


การเลิกบูชายัญ เป็นหลักการปกครองบ้านเมืองได้อย่างไร

เมื่อการบูชายัญเป็นหลักการยิ่งใหญ่ยอดสำคัญของสังคมพราหมณ์ ทางพระพุทธศาสนาก็จึงยกการเลิกบูชายัญ หรือไม่บูชายัญขึ้นมาเป็นหลักการสำคัญของสังคมแทน โดยมีความหมายที่จะต้องทำความเข้าใจตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้


ในโอกาสบำเพ็ญพุทธกิจ มีหลายครั้งหลายคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปพบกับพราหมณ์ที่กำลังเตรียมการบูชายัญบ้าง กำลังประกอบบูชายัญบ้าง และมีทั้งพิธีบูชายัญขนาดย่อมส่วนบุคคล และพิธีระดับผู้ปกครองบ้านเมือง


ถ้าเป็นพิธีใหญ่ จะมีการฆ่าสัตว์บูชายัญจำนวนมาก และทาสกรรมการทั้งหลายมักเดือดร้อนมาก เมื่อพระพุทธเจ้าไปพบและสนทนากับเจ้าพิธี ในที่สุดเรื่องก็จะจบลงโดยที่เขาเองให้ปล่อยสัตว์ล้มเลิกพิธีพร้อมทั้งรับหลักการ และวิธีปฏิบัติอย่างใหม่ที่พระองค์สอนไปดำเนินการ

สาระสำคัญของหลักการที่พระพุทธเจ้าสอน โดยทั่วไปจะให้ประกอบยัญกรรมในความหมายใหม่ (หรือเป็นการฟื้นความหมายดั้งเดิมก่อนที่พวกพราหมณ์จะทำให้เพี้ยนไป) ซึ่งเน้นที่ทาน และต้องไม่มีการเบียดเบียนชีวิต


ถ้าเป็นยัญพิธีใหญ่มากของผู้ปกครองบ้านเมือง คำสอนในเรื่องยัญของพระพุทธเจ้า จะรวมถึงการจัดการบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย และให้ราษฎรเป็นอยู่ผาสุกก่อน แล้วจึงทำยัญพิธี และบำเพ็ญทาน

ดังเช่น ในกูฏทันตสูตร (ที.สี.9/199/238) ที่ตรัสกับกูฏทันตพราหมณ์ ผู้ปกครองพราหมณคาม ชื่อว่าขานุมัตต์ ซึ่งได้ให้เอาโคผู้ ๗๐๐ ลูกโคผู้ ๗๐๐ ลูกโคเมีย ๗๐๐ แพะ ๗๐๐ แกะ ๗๐๐ ผูกไว้ที่หลัก เตรียมพร้อมที่จะบูชามหายัญ พราหมณ์นั้น ได้สนทนาสอบถามพระพุทธเจ้าถึงวิธีบูชายัญใหญ่ให้ได้ผลมาก พระพุทธเจ้ายกเรื่องตัวอย่างในอดีตมาให้เป็นแบบ

สาระสำคัญ คือ ให้จัดการบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย และให้ราษฎรเป็นอยู่ผาสุก ถ้าบ้านเมืองยังมีโจรผู้ร้าย เป็นต้น ไม่ให้เอาแต่ใช้วิธีปราบปรามรุนแรง แต่ให้ราษฎรที่ประกอบเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และข้าราชการ ผู้ตั้งใจหมั่นขยัน พึงได้รับการส่งเสริมให้ตรงจุด จนบ้านเมืองมั่งคั่ง ราษฎรชื่นชมยินดี อยู่ปลอดภัยบ้านเรือนไม่ต้องลงกลอน ให้ลูกฟ้อนบนอก” *

เมื่อบ้านเมืองดีแล้ว ผู้ปกครองนั้น ก็เรียกพบปรึกษาคนทุกหมู่เหล่าในแผ่นดิน ทั้งอำมาตย์จนถึงชาวนิคมชนบท ขอความร่วมมือในการที่จะบูชายัญ ซึ่งไม่มีการฆ่าสัตว์ และไม่ทำให้คนใดๆ เดือดร้อน มีแต่การมอบให้ของง่ายๆเล็กๆน้อยๆ และราษฎรก็พากันร่วมทำตามด้วย แล้วต่อจากนั้น ก็มีการบำเพ็ญทานแก่บรรพชิตผู้มีศีล การสร้างสรรค์ประโยชน์ และพัฒนาชีวิตสูงขึ้นไปจนลุจุดหมายแห่งชีวิตที่ดี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


* ตรงอ้างอิงข้างบน

* หลักการนี้ คือธรรมชุดที่ในคัมภีร์บางแห่งเรียกว่า ราชสังคหวัตถุ ๔ ได้แก่

๑. สัสสเมธะ - ฉลาดบำรุงธัญญาหาร

๒. ปริสเมธะ - ฉลาดบำรุงข้าราชการ

๓. สัมมาปาสะ - ผสานใจประชาด้วยอาชีพ

๔. วาจาเปยยะ - มีวาจาดูดดื่มใจ

(๕) เกิดผล คือ นิรัคคฬะ (เกษมสุข) บ้านเมืองไม่ต้องลงกลอน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

รูปภาพ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater


โยงให้มั่วไปหมด อะไรคือศีล อะไรคือธรรม ที่สำคัญอะไรคือจริยธรรม
โลกจะวิบัติหรือสัตว์จะพินาศมันไม่เกี่ยวกับศีลธรรม

ความเป็นระเบียบของสังคมและความเป็นปกติสุขของสังคมโลก จะต้องอาศัยความเป็นจริยธรรม
และผู้สามารถสั่งสอนธรรมจริยาได้ก็คือบุพการี

ส่วนเรื่องของศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้รู้ มันไม่ใช่นึกจะสอนหรือเอาใครมาสอนก้ได้

ทั้งหมดทั้งมวลผลสัมฤทธิ์ของศีลธรรมและจริยธรรมมันเป็นเรื่องของใจ
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน .......ขอร้องครับเจ๊อย่ามาดร่าม่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 14:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

โยงให้มั่วไปหมด อะไรคือศีล อะไรคือธรรม ที่สำคัญอะไรคือจริยธรรม
โลกจะวิบัติหรือสัตว์จะพินาศมันไม่เกี่ยวกับศีลธรรม

ความเป็นระเบียบของสังคมและความเป็นปกติสุขของสังคมโลก จะต้องอาศัยความเป็นจริยธรรม
และผู้สามารถสั่งสอนธรรมจริยาได้ก็คือบุพการี

ส่วนเรื่องของศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้รู้ มันไม่ใช่นึกจะสอนหรือเอาใครมาสอนก้ได้

[b]ทั้งหมดทั้งมวลผลสัมฤทธิ์ของศีลธรรมและจริยธรรมมันเป็นเรื่องของใจ
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน .......ขอร้องครับเจ๊อย่ามาดร่าม่า


อ้างคำพูด:
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน



โฮฮับเปิดดูก่อน

https://4.bp.blogspot.com/-XxR1PKy7j3A/ ... 1692_n.jpg

จริงหรือที่ว่าไม่ใช่หลักสูตรการศึกษา

http://www.mindfulnews.net/2016/05/blog-post_57.html


ประเด็นอื่นค่อยๆว่าไปทีละเปลาะๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

โยงให้มั่วไปหมด อะไรคือศีล อะไรคือธรรม ที่สำคัญอะไรคือจริยธรรม
โลกจะวิบัติหรือสัตว์จะพินาศมันไม่เกี่ยวกับศีลธรรม

ความเป็นระเบียบของสังคมและความเป็นปกติสุขของสังคมโลก จะต้องอาศัยความเป็นจริยธรรม
และผู้สามารถสั่งสอนธรรมจริยาได้ก็คือบุพการี

ส่วนเรื่องของศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้รู้ มันไม่ใช่นึกจะสอนหรือเอาใครมาสอนก้ได้

[b]ทั้งหมดทั้งมวลผลสัมฤทธิ์ของศีลธรรมและจริยธรรมมันเป็นเรื่องของใจ
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน .......ขอร้องครับเจ๊อย่ามาดร่าม่า


อ้างคำพูด:
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน



โฮฮับเปิดดูก่อน

https://4.bp.blogspot.com/-XxR1PKy7j3A/ ... 1692_n.jpg

จริงหรือที่ว่าไม่ใช่หลักสูตรการศึกษา

http://www.mindfulnews.net/2016/05/blog-post_57.html


ประเด็นอื่นค่อยๆว่าไปทีละเปราะๆๆ


ถึงได้บอกไงว่า...โยงให้มั่วไปหมด
ที่เจ๊เขาพูดเขาหมายถึงวิชาศีลธรรมที่เป็นเรื่องของศาสนาพุทธ ดันทลึ่งไปโยงเรื่องของอิสลาม

เมื่อก่อนการศึกษาไทยก็มีการสอนเรื่องหน้าที่ศีลธรรม ....แต่ศีลธรรมที่ว่า มันไม่ใช่หลักการปฏิบัติของ
ศาสนาพุทธ เนื้อหามันก็เรื่องของการอุปโหลกเอาตัวบุคคลมาโปปะกันดา....ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นการมอมเมา
ให้ประชาชนหลงวงมงาย....สวนทางกับคำสอนของศาสนาพุทธ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

โยงให้มั่วไปหมด อะไรคือศีล อะไรคือธรรม ที่สำคัญอะไรคือจริยธรรม
โลกจะวิบัติหรือสัตว์จะพินาศมันไม่เกี่ยวกับศีลธรรม

ความเป็นระเบียบของสังคมและความเป็นปกติสุขของสังคมโลก จะต้องอาศัยความเป็นจริยธรรม
และผู้สามารถสั่งสอนธรรมจริยาได้ก็คือบุพการี

ส่วนเรื่องของศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้รู้ มันไม่ใช่นึกจะสอนหรือเอาใครมาสอนก้ได้

[b]ทั้งหมดทั้งมวลผลสัมฤทธิ์ของศีลธรรมและจริยธรรมมันเป็นเรื่องของใจ
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน .......ขอร้องครับเจ๊อย่ามาดร่าม่า


อ้างคำพูด:
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน



โฮฮับเปิดดูก่อน

https://4.bp.blogspot.com/-XxR1PKy7j3A/ ... 1692_n.jpg

จริงหรือที่ว่าไม่ใช่หลักสูตรการศึกษา

http://www.mindfulnews.net/2016/05/blog-post_57.html


ประเด็นอื่นค่อยๆว่าไปทีละเปราะๆๆ


ถึงได้บอกไงว่า...โยงให้มั่วไปหมด
ที่เจ๊เขาพูดเขาหมายถึงวิชาศีลธรรมที่เป็นเรื่องของศาสนาพุทธ ดันทลึ่งไปโยงเรื่องของอิสลาม

เมื่อก่อนการศึกษาไทยก็มีการสอนเรื่องหน้าที่ศีลธรรม ....แต่ศีลธรรมที่ว่า มันไม่ใช่หลักการปฏิบัติของ
ศาสนาพุทธ เนื้อหามันก็เรื่องของการอุปโหลกเอาตัวบุคคลมาโปปะกันดา....ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นการมอมเมา
ให้ประชาชนหลงวงมงาย....สวนทางกับคำสอนของศาสนาพุทธ



อ้างคำพูด:
เมื่อก่อนการศึกษาไทยก็มีการสอนเรื่องหน้าที่ศีลธรรม ....แต่ศีลธรรมที่ว่า มันไม่ใช่หลักการปฏิบัติของศาสนาพุทธ


ถ้ายังงั้น แล้วมันเป็นหลักการปฏิบัติของศาสนาอะไรล่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เริ่มจาก พ.ศ. 2521 ไป

1. ในปี พ.ศ. 2521 ดร.บุญสม มาร์ติน รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตัดวิชาพระพุทธศาสนา และ วิชาศีลธรรมกับหน้าที่พลเมือง ออกไปจากหลักสูตรการศึกษาของประเทศไทย

ที่เหลือดูที่นี่

http://xn--42cgc3ea8bp3ae4hf1as4z.blogs ... st_65.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 15:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ศีล ธรรม ไม่กลับมาโลกคือหมู่สัตว์จะพินาศ

โยงให้มั่วไปหมด อะไรคือศีล อะไรคือธรรม ที่สำคัญอะไรคือจริยธรรม
โลกจะวิบัติหรือสัตว์จะพินาศมันไม่เกี่ยวกับศีลธรรม

ความเป็นระเบียบของสังคมและความเป็นปกติสุขของสังคมโลก จะต้องอาศัยความเป็นจริยธรรม
และผู้สามารถสั่งสอนธรรมจริยาได้ก็คือบุพการี

ส่วนเรื่องของศีลธรรมเป็นเรื่องของผู้รู้ มันไม่ใช่นึกจะสอนหรือเอาใครมาสอนก้ได้

[b]ทั้งหมดทั้งมวลผลสัมฤทธิ์ของศีลธรรมและจริยธรรมมันเป็นเรื่องของใจ
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน .......ขอร้องครับเจ๊อย่ามาดร่าม่า


อ้างคำพูด:
มันไม่ใช่หลักสูตรการศึกษาถึงจะได้เอามาเป็นวิชาเรียน



โฮฮับเปิดดูก่อน

https://4.bp.blogspot.com/-XxR1PKy7j3A/ ... 1692_n.jpg

จริงหรือที่ว่าไม่ใช่หลักสูตรการศึกษา

http://www.mindfulnews.net/2016/05/blog-post_57.html


ประเด็นอื่นค่อยๆว่าไปทีละเปราะๆๆ


ถึงได้บอกไงว่า...โยงให้มั่วไปหมด
ที่เจ๊เขาพูดเขาหมายถึงวิชาศีลธรรมที่เป็นเรื่องของศาสนาพุทธ ดันทลึ่งไปโยงเรื่องของอิสลาม

เมื่อก่อนการศึกษาไทยก็มีการสอนเรื่องหน้าที่ศีลธรรม ....แต่ศีลธรรมที่ว่า มันไม่ใช่หลักการปฏิบัติของ
ศาสนาพุทธ เนื้อหามันก็เรื่องของการอุปโหลกเอาตัวบุคคลมาโปปะกันดา....ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นการมอมเมา
ให้ประชาชนหลงวงมงาย....สวนทางกับคำสอนของศาสนาพุทธ



อ้างคำพูด:
เมื่อก่อนการศึกษาไทยก็มีการสอนเรื่องหน้าที่ศีลธรรม ....แต่ศีลธรรมที่ว่า มันไม่ใช่หลักการปฏิบัติของศาสนาพุทธ


ถ้ายังงั้น แล้วมันเป็นหลักการปฏิบัติของศาสนาอะไรล่ะ



โฮฮับ ว่างัย คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ มาอีกแล้ว นี่ก็ศีล (คิหิวินัย) :b32:


ปกแผ่ทิศทั้ง ๖

- ทิศ ๖ ปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่สัมพันธ์กับตนให้ถูกต้องตามฐานะทั้ง ๖ คือ

๑. ก. บุตรธิดา บำรุงมารดาบิดาผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหน้า โดย

๑) ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒) ช่วยทำกิจธุระการงานของท่าน
๓) ดำรงวงศ์สกุล
๔) ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
๕) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน

ข. มารดาบิดา อนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้

๑) ห้ามกันจากความชั่ว
๒) ฝึกอบรมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓) ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔) เป็นธุระในการมีคู่ครองที่สมควร
๕) มอบทรัพย์สมบัติให้เมื่อถึงโอกาส

๒. ก. ศิษย์ บำรุงครูอาจารย์ ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องขวา โดย

๑) ลุกรับ แสดงความเคารพ
๒) เข้าไปหา (เช่น ช่วยรับใช้ ปรึกษาซักถาม รับคำแนะนำ)
๓) ตั้งใจฟังและรู้จักฟัง
๔) ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
๕) เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ เอาจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ

ข. ครูอาจารย์ อนุเคราะห์ศิษย์ ดังนี้

๑) แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี
๒) สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๓) สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
๔) ยกย่องให้ปรากฏในหมู่พวก
๕) สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ (สอนให้เอาไปใช้งานเลี้ยงชีพได้จริง)

๓. ก. สามี บำรุงภรรยา ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องหลัง โดย

๑) ยกย่องให้เกียรติสมฐานะภรรยา
๒) ไม่ดูหมิ่น
๓) ไม่นอกใจ
๔) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้าน
๕) หาเครื่องแต่งตัวมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส


ข. ภรรยา อนุเคราะห์สามี ดังนี้

๑) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓) ไม่นอกใจ
๔) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
๕) ขยันช่างจัดช่างทำเอางานทุกอย่าง

๔. ก. บำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องซ้าย โดย

๑) เผื่อแผ่แบ่งปัน
๒) พูดอย่างรักกัน
๓) ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
๔) มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน
๕) ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน

ข. มิตรสหาย อนุเคราะห์ตอบ ดังนี้

๑) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
๒) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
๓) ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
๔) ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
๕) นับถือตลอดวงศ์ญาติของมิตร

๕. ก. นาย บำรุงคนรับใช้และคนงาน ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องล่าง โดย

๑) จัดงานให้ทำตามความเหมาะสมกับกำลังเพศวัยและความสามารถ
๒) ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่
๓) จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ เป็นต้น
๔) มีอะไรได้พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
๕) ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส

ข. คนรับใช้และคนงาน อนุเคราะห์นาย ดังนี้

๑) เริ่มทำงานก่อน
๒) เลิกงานทีหลัง
๓) เอาแต่ของที่นายให้
๔) ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
๕) นำความดีของนายงานและกิจการไปเผยแพร่

๖. ก. คฤหัสถ์ บำรุงพระสงฆ์ ผู้เป็นเหมือนทิศเบื้องบน โดย

๑) จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา
๒) จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
๓) คิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
๔) ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
๕) อุปถัมภ์ ด้วยปัจจัย ๔

ข. พระสงฆ์ ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ ดังนี้

๑) ห้ามปรามสอนให้เว้นจากความชั่ว
๒) แนะนำสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในความดี
๓) อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจงาม
๔) ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ไม่เคยฟัง
๕) ชี้แจงอธิบายสิ่งที่เคยฟังแล้วให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๖) บอกทางสวรรค์ให้ (สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุข)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ กับ ท่านอโศก พอๆกัน คือ ไม่มีหลักมีเกณฑ์ นึกอะไรได้ก็ว่าว่าไป เหมือนคนละเมอ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความหมายของศีลคือ........วิเวก
วิเวกประกอบด้วยองค์สามคือ.....สัมมาอาชีวะ๑ สัมมากัมมันตะ๑ สัมมาวาจา๑

ไอ้ที่กรัชกายก๊อปป๊้มาโพส
........มันมั่วเอาเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ความหมายของศีลคือ........วิเวก
วิเวกประกอบด้วยองค์สามคือ.....สัมมาอาชีวะ๑ สัมมากัมมันตะ๑ สัมมาวาจา๑

ไอ้ที่กรัชกายก๊อปป๊้มาโพส
........มันมั่วเอาเอง



ศีล วิเวกยังไงอ่ะ

ความหมาย องค์สามดังกล่าว ยังไงอ่ะ จึงวิเวก


ต้องได้ ถ้าไม่ได้ "เราอยู่ไม่ได้อ่ะ"

https://www.facebook.com/karanee072/vid ... =2&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงโฮ หายไปไหน

มีของมาฝาก :b13:

https://scontent.fbkk5-2.fna.fbcdn.net/ ... e=57C2CAA5

นี่คือวิธีปลูกฝัง ปชช.เบื้องต้น และนี่ก็คือปรโตโฆสะ

ปรโตโฆสะ เป็นคำกลางๆไม่ดีไม่ชั่ว ถ้าดีก็เป็นปรโตโฆสะที่ดี

ถ้าไม่ดีก็เป็นปรโตโฆสะที่ไม่ดี

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2016, 16:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พิจารณาดู จริงไม่จริง


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ อำนาจและความทะนงตนทั้งหมดนี้ ทำให้บุคคลมีนัยน์ตาฝ้าฟาง มองไม่เห็นความงามแห่งพระสัทธรรม ความเมาในอำนาจเป็นแรงผลักดันที่มีพลังมาก พอให้คนทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มีอำนาจยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น พร้อมๆกันนั้น มันทำให้เขา ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่แยแสต่อเสียงเรียกร้องของศีลธรรมหรือมโนธรรมใดๆ มันค่อยๆระบายจิตใจของเขาให้ดำมืดไปทีละน้อยๆ จนเป็นสีหมึก ไม่อาจมองเห็นอะไรๆ ได้อีกเลย หัวใจที่เร่าร้อนอยู่แล้วของเขา ถูกเร่งเร้าให้เร่าร้อนมากขึ้นด้วยความทะยานอยากอันไม่มีขอบเขต ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน วัตถุวิจิตรตระการตานั้น ช่วยเป็นเชื้อให้ความทะยานอยากโหมแรง กลายเป็นว่ายิ่งมีมาก ยิ่งอยากใหญ่ แม้จะมีเสียงเตือน และเรียกร้องอยู่ตลอดเวลาว่า ศีลธรรมเป็นเครื่องค้ำจุนสังคม และคุ้มครองโลก แต่บุคคลผู้รับรู้ และพยายามประคับประคองศีลธรรมมีน้อยเกินไป สังคมมนุษย์จึงวุ่นวาย และกรอบเกรียมอย่างน่าวิตก"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 148 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร