วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 09:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2016, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้ยินได้ฟังบ่อยๆ พุทธศาสนาเจริญ / พุทธศาสนาเสื่อม

ด้านไหนเจริญ ด้านไหนเสื่อม ด้านไหนไม่เจริญไม่เสื่อม แล้วทั้งสองด้านสัมพันธ์อิงอาศัยกันอย่างไร

ศึกษาแยกแยะจากหัวข้อนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2016, 18:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่อยๆอ่านแล้วพิจารณาดู

..........

พระพุทธศาสนาเท่าที่คนไทยเราเกี่ยวข้อง อาจแยกได้เป็น ๒ ด้าน คือ ด้านที่เป็นพระธรรมวินัย โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่า พุทธธรรมอย่างหนึ่ง และด้านที่เป็นวัฒนธรรม อีกอย่างหนึ่ง

อย่างแรก คือ พระธรรมวินัย หมายถึงหลักการเดิมแท้ๆ ล้วนๆของพระพุทธศาสนา หรือตัวแท้ตัวจริงของพระพุทธศาสนานั้น ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน หรือทรงแสดงและทรงบัญญัติไว้ ซึ่งปรากฎอยู่ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา และรักษาสืบทอดต่อกันมาด้วยการจารึกจดจำและอ้างอิงพระคัมภีร์เหล่านั้น

อย่างหลัง คือ วัฒนธรรม หมายถึง พระพุทธศาสนาอย่างที่คนไทยรู้เข้าใจ และประพฤติปฏิบัติสะสมสืบต่อกันมา จนซึมแทรกเข้าไปในชีวิตจิตใจ กลายเป็นส่วนหนึ่งแห่งลักษณะนิสัย และความเป็นอยู่ ซึ่งปรากฏออกมาทางวิถีชีวิตของหมู่ชน และอาศัยหมู่ชนที่ดำเนินตามวิถีชีวิตนั้นนั่นแหละเป็นเครื่องรักษาสืบทอดตัว มันเอง


พระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมวินัย และพระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรมนั้น ต่างก็สัมพันธ์ อิงอาศัยซึ่งกันและกัน กล่าวคือ การที่พระพุทธศาสนาจะกลายเป็นพระพุทธศาสนาของไทย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไทย หรือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความเป็นไทยได้ ก็เพราะได้สะสมสืบทอด ซึมแทรกเข้าไปในชีวิตจิตใจของคนไทยทั่วไปจนกลายเป็นวัฒนธรรมของไทย แต่ในเวลาเดียวกัน พระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมวินัย ก็เป็นหลักกลางหรือเป็นมาตรฐานสำหรับทบทวนตรวจสอบว่า พระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรม เข้าใกล้หรือถอยห่างออกไปจากหลักการที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา และเป็นแหล่ง ซึ่งอำนวยเนื้อหาสาระสำหรับปรับหรือช่วยดึงพระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรมให้เข้าสู่ หรือใกล้เข้ามาสู่หลักการที่แท้จริงของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นๆ


พูดง่ายๆว่า ถ้าไม่กลายเป็นพระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรม พระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมวินัย ก็ไม่อาจเข้าสู่ความเป็นไทย และถ้าไม่ได้ศึกษาตรวจสอบ และคอยเพิ่มสาระจากพระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมวินัย พระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรม ก็จะถอยห่าง หรือเคลื่อนคลาดจากหลักการที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาออกไปเรื่อยๆ


พระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมวินัย โดยเฉพาะพุทธธรรม ไม่มีการเสื่อม ไม่มีการเจริญ เพราะเป็นความจริงที่ดำรงอยู่ตามธรรมดาของมัน และเป็นหลักการที่เป็นกลางๆ สุดแต่ใครจะศึกษา และนำไปใช้ให้ได้ผลดีเหมาะกับกาลเทศะอย่างไร คำที่พูดว่า พระพุทธศาสนาเจริญหรือเสื่อมนั้น หมายถึง พระพุทธศาสนาฝ่ายวัฒนธรรม หรือพระพุทธศาสนาที่เชื่อถือและปฏิบัติกันอยู่ในวิถีชีวิตของหมู่ชนนั้นๆ


คำว่า พระพุทธศาสนาเสื่อม หมายความว่า พระพุทธศาสนาที่ หมู่ชนนั้นเชื่อถือ และปฏิบัติอยู่ในเวลานั้น เลือนลางหรือห่างเหินจากหลักการที่แท้จริง คือจากพระธรรมวินัยไกลออกไปมากขึ้น ความรู้ความเข้าใจและการปฏิบัติตามพระธรรมวินัยจางคลาย และลดน้อยลงไปจากวิถีชีวิตของหมู่ชนนั้น


คำว่า พระพุทธศาสนาเจริญ หมายความว่า พระพุทธศาสนาที่หมู่ชนนั้นเชื่อถือ และปฏิบัติอยู่ในเวลานั้น หนักแน่น หรือใกล้เคียงมากขึ้นในทางที่เป็นไปตามหลักการที่แท้จริง คือ พระธรรมวินัย ความรู้ความเข้าใจและการปฏิบัติตามพระธรรมวินัยเฟื่องฟู และซึมแทรกเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของหมู่ชนนั้นมากขึ้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2016, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัมพันธ์กับหัวข้อนี้

viewtopic.php?f=1&t=52032

ซึ่งเป็นฝ่ายวัฒนธรรม ประเพณีด้วย

http://g-picture2.wunjun.com/5/full/dc1 ... ?s=640x960

ฝ่ายวัฒนธรรมนี้ ยังเชื่อมโยงถึงสัมมาทิฏฐิเป็นต้นอีกด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2016, 23:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว


..ดูที่ใจตัวเอง..คือความเจริญของพระพุทธศาสนา ดูประเพณีการปฏิบัติคือความเสื่อมของพระธรรม ฝึกตนได้ดีแล้ว จึงฝึกผู้อื่น พระอริยสาวกทั้งหลายล้วนมีประเพณีปฏิบัติกันมาอย่างนี้ ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

Kiss
...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...
https://www.youtube.com/watch?v=6RmW22R392A
:b4: :b4:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

Kiss
...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...
https://www.youtube.com/watch?v=6RmW22R392A
:b4: :b4:
onion onion onion


อ้างคำพูด:
ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย.


ปีนี้ พ.ศ. 2559 + 45 ปี = 2604 แล้ว ที่พระพุทธเจ้าล่วงลับไป ทุกวันนี้เราจะฟังคำสอนจากใครล่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 11:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

Kiss
...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...
https://www.youtube.com/watch?v=6RmW22R392A
:b4: :b4:
onion onion onion


อ้างคำพูด:
ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย.


ปีนี้ พ.ศ. 2559 + 45 ปี = 2604 แล้ว ที่พระพุทธเจ้าล่วงลับไป ทุกวันนี้เราจะฟังคำสอนจากใครล่ะ

Kiss
การเจริญปัญญาจากการฟังเป็นอย่างแรกที่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
:b12:
...ไม่มีเรา...ไม่มีเขา...ไม่มีใคร...เข้าใจไหมว่า...มีแต่เสียงที่เมื่อคิดทำให้เข้าใจความจริง...
...ถ้าเป็นกรัชกายฟัง...อ.สุจินต์พูด...ก็มีแต่ทิฐิมานะว่าไม่ใช่คำจริง...อย่างนั้นหรือ...
https://www.youtube.com/watch?v=6bZAIPppTqQ
:b16: :b17:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

Kiss
...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...
https://www.youtube.com/watch?v=6RmW22R392A
:b4: :b4:
onion onion onion


อ้างคำพูด:
ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย.


ปีนี้ พ.ศ. 2559 + 45 ปี = 2604 แล้ว ที่พระพุทธเจ้าล่วงลับไป ทุกวันนี้เราจะฟังคำสอนจากใครล่ะ

Kiss
การเจริญปัญญาจากการฟังเป็นอย่างแรกที่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
:b12:
...ไม่มีเรา...ไม่มีเขา...ไม่มีใคร...เข้าใจไหมว่า...มีแต่เสียงที่เมื่อคิดทำให้เข้าใจความจริง...
...ถ้าเป็นกรัชกายฟัง...อ.สุจินต์พูด...ก็มีแต่ทิฐิมานะว่าไม่ใช่คำจริง...อย่างนั้นหรือ...



อ้อ ฟัง อ.สุจินต์ เป็นธรรมะ มีแต่เสียง ฟังเสียงแล้วคิด คิดแล้วจะเข้าใจ อืมม

แล้ว รูป (เสียง) กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ทำไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...
https://www.youtube.com/watch?v=St61nxINoiU
:b1: :b16: :b12:
onion onion onion


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร

Kiss
...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...
https://www.youtube.com/watch?v=6RmW22R392A
:b4: :b4:
onion onion onion


อ้างคำพูด:
ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย.


ปีนี้ พ.ศ. 2559 + 45 ปี = 2604 แล้ว ที่พระพุทธเจ้าล่วงลับไป ทุกวันนี้เราจะฟังคำสอนจากใครล่ะ

Kiss
การเจริญปัญญาจากการฟังเป็นอย่างแรกที่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
:b12:
...ไม่มีเรา...ไม่มีเขา...ไม่มีใคร...เข้าใจไหมว่า...มีแต่เสียงที่เมื่อคิดทำให้เข้าใจความจริง...
...ถ้าเป็นกรัชกายฟัง...อ.สุจินต์พูด...ก็มีแต่ทิฐิมานะว่าไม่ใช่คำจริง...อย่างนั้นหรือ...



อ้อ ฟัง อ.สุจินต์ เป็นธรรมะ มีแต่เสียง ฟังเสียงแล้วคิด คิดแล้วจะเข้าใจ อืมม

แล้ว รูป (เสียง) กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ทำไง

tongue
...กำลังอ่านนี่มีจริงไหม...แล้วสติรู้ทั่วตัวไหมว่าแข็งตรงไหน...เย็นตรงไหน...
...ทั้ง6ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ...กะพริบตาดับแล้วทั้งหมด...รู้ตรงๆ ณ ที่ตั้ง...
...ทีละทางทีละลักษณะรู้ได้จริงๆตามคำสอน7ลักษณะในขณะที่จิตเกิดดับ1ขณะ...
...เห็นเป็นเห็น...สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็เพียงปรากฏให้เห็นได้...แต่คิดเป็นคนวัตถุจริงไหม...
https://www.youtube.com/watch?v=6bZAIPppTqQ
:b12: :b16:
:b44: :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
การทำความเห็นให้ตรงตามคำสอนเป็น1ในบุญกิริยาวัตถุ10
https://www.youtube.com/watch?v=SrelPVs6xl8
:b39: :b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เฉลยคำถามข้างต้น เพื่อให้เห็นแง่มุมคำว่า ธรรมะ

พุทธศาสนา คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า

ศาสนา แปลว่า คำสอน

พุทธะ คือ พระพุทธเจ้าผู้เป็นของศาสนา

พุทธศาสนา ก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้า

ขอนำคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า "ธรรมะ" ระดับพื้นๆให้ดูเป็นตัวอย่างสักข้อหนึ่ง

เช่น

ครั้งหนึ่ง อุชชัยพราหมณ์ได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า และกราบทูลว่า ตนจะไปอยู่ต่างถิ่น จะขอให้พระพุทธองค์แสดงธรรม ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขปัจจุบัน และธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขภายหน้า

พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า

“ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขปัจจุบัน กล่าวคือ อุฏฐานสัมปทา อารักขสัมปทา กัลยาณมิตตตา สมชีวิตา

๑) อุฏฐานสัมปทา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรหาเลี้ยงชีพด้วยความขยันในการงาน ไม่ว่าจะเป็นกสิกรรม ก็ดี พาณิชยกรรม ก็ดี โครักขกรรม ก็ดี ราชการทหาร ก็ดี ราชการพลเรือน ก็ดี ศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ดี เธอเป็นผู้ขยัน ชำนิชำนาญ ไม่เกียจคร้าน ในงานนั้น ประกอบด้วยปัญญาเครื่องสอบสวนตรวจตรา รู้จักวิธีปฏิบัติในเรื่องนั้นๆ สามารถทำ สามารถจัดการ นี้เรียกว่า อุฏฐานสัมปทา

๒) อารักขสัมปทา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรมีโภคทรัพย์ ที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร เก็บรวบรวมขึ้นด้วยกำลังแขน อย่างอาบเหงื่อต่างน้ำ เป็นของชอบธรรม ได้มาโดยธรรม เธอจัดการรักษาคุ้มครองทรัพย์เหล่านั้น โดยพิจารณาว่า ทำอย่างไร ราชาทั้งหลายจะไม่พึงริบโภคะเหล่านี้ของเราเสีย พวกโจรไม่พึงลักไปเสีย ไฟไม่พึงไหม้เสีย น้ำไม่พึงพาไปเสีย ทายาทอัปรีย์ก็จะไม่พึงเอาไปเสีย นี้เรียกว่า อารักขสัมปทา

๓) กัลยาณมิตตตา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรเข้าอยู่อาศัยในคามหรือนิคมใดก็ตาม เธอเข้าสนิทสนมสนทนาปราศรัย ถกถ้อยปรึกษา กับท่านที่เป็นคหบดีบ้าง บุตรคหบดีบ้าง พวกคนหนุ่มที่มีความประพฤติเป็นผู้ใหญ่บ้าง คนสูงอายุที่มีความประพฤติเป็นผู้ใหญ่บ้าง ผู้ประกอบด้วยศรัทธา ประกอบด้วยศีล ประกอบด้วยจาคะ ประกอบด้วยปัญญา เธอศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยศรัทธา ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยศรัทธา ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยศีล ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยศีล ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยจาคะ ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยจาคะ ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยปัญญา ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยปัญญา นี้เรียกว่า กัลยาณมิตตตา

๔) สมชีวิตา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรเลี้ยงชีวิพอเหมาะ ไม่ให้ฟุ่มเฟือยเกินไป ไม่ให้ฝืดเคืองเกินไป โดยรู้เข้าใจทางเพิ่มพูนและทางลดถอยแห่งโภคทรัพย์ ว่าทำอย่างนี้ รายได้ของเราจึงจะเหนือรายจ่าย และรายจ่ายของเราจึงจักไม่เหนือรายได้ เปรียบเหมือนคนชั่งตาชั่งหรือลูกมือคนชั่งยกตาชั่งขึ้นแล้ว ย่อมรู้ว่าหย่อนไปเท่านั้น หรือเกินไปเท่านี้

“ถ้าหากกุลบุตร นี้ รายได้น้อย แต่เลี้ยงชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อ ก็จะมีผู้กล่าวว่าเอาได้ว่า กุลบุตรผู้นี้ ...กินใช้ทรัพย์สมบัติเหมือนคนกินมะเดื่อ ถ้ากุลบุตรนี้มีรายได้มาก แต่เลี้ยงชีวิตอย่างฝืดเคือง ก็จะมีผู้กล่าวว่าเอาได้ว่า กุลบุตรผู้นี้ คงจะตายอย่างคนอนาถา แต่เพราะกุลบุตรนี้เลี้ยงชีวิตพอเหมาะ...นี้เรียกว่า สมชีวิตา

"ดูกรพราหมณ์ โภคะที่เกิดขึ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมี อบายมุข (ช่องทางเสื่อม) ๔ ประการ คือ เป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา เป็นนักเลงการพนัน มีมิตรชั่วสหายชั่ว ฝักใฝ่ในคนชั่ว เปรียบเหมือนอ่างเก็บน้ำแหล่งใหญ่ มีทางไหลเข้า ๔ ทาง มีทางไหลออก ๔ ทาง หากคนปิดทางน้ำเข้าเสีย เปิดแต่ทางน้ำออก อีกทั้งฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อเป็นเช่นนี้ อ่างเก็บน้ำใหญ่นั้น เป็นอันหวังได้แต่ความลดน้อยลงอย่างเดียว ไม่มีความเพิ่มขึ้นได้เลย...

“ดูกรพราหมณ์ โภคะที่เกิดขึ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมี อายมุข (ช่องทางเพิ่มขึ้น) ๔ ประการ คือ ไม่เป็นนักเลงหญิง ไม่เป็นนักเลงสุรา ไม่เป็นนักเลงการพนัน มีมิตรดี มีสหายดี ใฝ่ใจในกัลยาณชน เปรียบเหมือนอ่างเก็บน้ำใหญ่ ใหญ่ มีทางไหลเข้า ๔ ทาง มีทางไหลออก ๔ ทาง หากคนเปิดทางน้ำเข้า ปิดทางน้ำออก และฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อเป็นเช่นนี้ อ่างเก็บน้ำใหญ่นั้น เป็นอันหวังได้แต่ความเพิ่มพูนอย่างเดียว ไม่มีความลดน้อยลงเลย...

“ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการ เหล่านี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขปัจจุบัน แก่กุลบุตร”

จากนั้น ตรัสแสดงธรรม ๔ ประการ ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเบื้องหน้า หรือประโยชน์ล้ำเลยตาเห็น (สัมปรายิกัตถะ) คือ สัทธาสัมปทา ศีลสัมปทา จาคสัมปทา และปัญญาสัมปทา

(องฺ.อฏฺฐก.23/145/294)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ความเจริญในจิตใจโดยการฟังเพื่อเข้าใจคำสอนเป็นปัญญาตามพระธรรมคำสอนในจิตใจบ่อยๆเนืองๆ...
...ความเสื่อมของปัญญาที่เข้าใจความจริงตามหลักพระธรรมคำสอนมิได้และสั่งสมอวิชชาพอกพูนกิเลส...
...ดังนั้นพระพุทธศาสนาเจริญได้ที่จิตใจและเสื่อมได้ที่จิตใจ...เจริญและเสื่อมทางจิตวิญญาณไม่ใช่วัตถุ...


ขออนุญาตถามคุณโรส "พุทธศาสนา" คุณว่า หมายถึง อะไร


...ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย...
:b16:
...ถามว่ามีใครสนใจฟังไหมเพราะทรงแสดงปัญญาแรกคือ...
...ฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำจริง...สุตมยปัญญา...คือปริยัติ...
...ก็ถ้าไม่มีเวลาฟังก็จะไม่รู้จักและไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า...


อ้างคำพูด:
ตอบแบบไม่ต้องกางตำราตอบ...เป็นความเข้าใจความจริงของชีวิต...
...ที่ไม่มีบุคคลใดรู้ความจริง...นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ที่ทรงเป็นผู้เลิศและประเสริฐที่สุดในโลกทั้งสามโลกแต่ผู้เดียวด้วย...
...ที่มีพระมหากรุณาแสดงโอวาทเป็นพระพุทธพจน์ตรัสคำจริง...
...เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในคำของพระองค์ฟัง...
...ในครั้งยังทรงพระชนม์ตรัสทุกคำจริง 45 พรรษา...
...เพื่อไม่ให้ต้องไปคิดหรือดัดแปลงคำใดๆอีกเลย.


ปีนี้ พ.ศ. 2559 + 45 ปี = 2604 แล้ว ที่พระพุทธเจ้าล่วงลับไป ทุกวันนี้เราจะฟังคำสอนจากใครล่ะ


การเจริญปัญญาจากการฟังเป็นอย่างแรกที่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
:b12:
...ไม่มีเรา...ไม่มีเขา...ไม่มีใคร...เข้าใจไหมว่า...มีแต่เสียงที่เมื่อคิดทำให้เข้าใจความจริง...
...ถ้าเป็นกรัชกายฟัง...อ.สุจินต์พูด...ก็มีแต่ทิฐิมานะว่าไม่ใช่คำจริง...อย่างนั้นหรือ...



อ้อ ฟัง อ.สุจินต์ เป็นธรรมะ มีแต่เสียง ฟังเสียงแล้วคิด คิดแล้วจะเข้าใจ อืมม

แล้ว รูป (เสียง) กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ ทำไง



...กำลังอ่านนี่มีจริงไหม...แล้วสติรู้ทั่วตัวไหมว่าแข็งตรงไหน...เย็นตรงไหน...
...ทั้ง6ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ...กะพริบตาดับแล้วทั้งหมด...รู้ตรงๆ ณ ที่ตั้ง...
...ทีละทางทีละลักษณะรู้ได้จริงๆตามคำสอน7ลักษณะในขณะที่จิตเกิดดับ1ขณะ...
...เห็นเป็นเห็น...สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็เพียงปรากฏให้เห็นได้...แต่คิดเป็นคนวัตถุจริงไหม...


กำลังอ่านนี่มีจริงไหม...แล้วสติรู้ทั่วตัวไหมว่าแข็งตรงไหน...เย็นตรงไหน.


กำลังอ่านนี่อะไรแข็ง อะไรเย็นขอรับ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2016, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
อ้างคำพูด:
กำลังอ่านนี่อะไรแข็ง อะไรเย็นขอรับ

:b1:
เข้าใจคำสอนอย่างไรบ้าง
จิตแต่ละดวงท่องเที่ยวดวงเดียว
เป็นจิตเกิด-ดับที่ละ1ขณะทีละ1ทาง
อยู่ในโลกของความคิดคนเดียวตั้งแต่เกิด
จนตายไปที่ทำอยู่แค่2อย่างคือคิดดีกับคิดไม่ดี
:b12:
...กำลังอ่านคือจิตคิดนึก...รู้ตรงที่แข็งหรือเย็นกระทบสัมผัสที่กายกำลังมีสั้นมาก...
...รู้ธัมมะได้1คำ1ขณะเร็วกว่ากระพริบตามีทั้ง6ทางที่จิตรู้ผ่านอายตนะ6สติรู้ทั่ว...
...เป็นจิตเห็นจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้รสจิตกระทบสัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว...
...ดับทีละทางไม่ซ้ำกันที่ดับไปแล้วไม่กลับมาอีกจะรู้ต้องตามดูจิตปัจจุบันขณะ1คำ...
:b17:
:b43: :b43: :b43:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 20 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร