วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 08:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 99 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


ถามสั้นๆ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรว่า
พระพุทธเจ้าองค์ปฐมมีจริงไหม? เพราะเห็นมีหลายๆที่พูดเรื่ององค์พระปฐม
สร้างขึ้นมาแล้วก็มีมากมาย และที่กำลังจะก่อสร้างก็มีมากมาย และก็กำลังจะมีต่อไปอีกก็มากมาย
และที่สร้างขึ้นมานั้นจะวิเศษกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันยังไง?
เว็ปไหนๆก็พูดกันทั้งนั้นมีแต่พูดคลุมเครือ ไม่พูดให้กระจ่างให้เข้าใจได้เลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 08:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นนิมิตของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
เหมือนเรื่อง นิพพาน เป็นเมืองแก้ว ก็มาจากนิมิตเรื่องนี้แหละ
เรื่องนี้มีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมี

ที่มาของนิพพานเป็นเมืองแก้ว
http://buddhasattha.com/2010/04/%E0%B8% ... %E0%B8%A2/

ลุงหมานน่าจะเข้าใจในคำว่า "นิมิต" นะ
เหมือนกรณีเดียวกับหลวงปู่มั่น นิมิตเห็นพระพุทธเจ้า

ที่ลุงหมานถามว่า พระพุทธเจ้าองค์ปฐมมีจริงไหม?
ต้องตรวจดูกับพระสูตร

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0


และที่สร้างขึ้นมานั้นจะวิเศษกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันยังไง?
วิเศษหรือไม่วิเศษหรอก เป็นความปกติของความศรัทธาของแต่ละคน ตามเหตุและปัจจัย



สำหรับข้อคิดเห็นของวลัยพรเกี่ยวกับเรื่อง นิมิตของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนี่
เป็นเพียงความปกติของสภาพธรรม ที่เรียกว่า ผัสสะ ที่มีเกิดขึ้น ขณะจิตเป็นสมาธิ
จึงมองแค่ว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ไม่ต่างกับอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติของพระ ที่มีเกี่ยวกับการปฏิบัติ

ลองอ่านดูนะ เกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าอาวาส พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท วัดป่าเจริญราช
ชื่อเรื่องเล่าจากพระป่า พระวัดป่าเจริญราช
http://www.watpacharoenrat.org/phapa1.html


เวลาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับปฏิบัติของพระที่ออกธุดงค์นี่
ทำให้รู้สึกว่า มันช่างยากลำบากเหลือเกินนะ

พอเริ่มมาศึกษาพระธรรมคำสอน อย่างจริงจัง
จึงได้รู้ว่า แหล่งที่เรียนรู้จริงๆแล้ว ต้องรู้ชัดอยู่ภายในกายและจิตนี่เอง

การที่ไปโน่น ไปนี่ ท่องเที่ยวนอกตัว
ล้วนเกิดจาก เหตุและปัจจัยของแต่ละคน


แม้กระทั่งนิมิตต่างๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ว่า ไม่ว่าจะมีสภาพธรรมใดเกิดขึ้น ให้โยนิโสมนสิการ


หัวใจของการปฏิบัติคือ โยนิโสมนสิการ
ดูตามความเป็นจริง รู้ตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น
ซึ่งเป็นที่มาของ สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าดู สักแต่ว่าเห็น

ส่วนใครจะทำตามได้มากหรือน้อยแค่ไหน
นั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยของแต่ละคนด้วย


หัวใจคำสอน คือ อริยสัจ 4
หัวใจของการปฏิบัติ เพื่อดับเหตุแห่งทุกข์
คือ โยนิโสมนสิการ ที่มาจากพระธรรมคำสอนเท่านั้น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เฉพาะองค์ปฐมที่เกิดความลังเลสงสัย
แม้พระพุทธเจ้าโคดม ยังเกิดลัทธิแบ่งแยกแตกนิกายขนาดนี้
ก็คงต้องบอกว่าไม่รู้และยังไม่เชื่อครับว่าองค์ปฐมมีจริง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ลังเล และไม่สงสัย..เพราะมันเป็นธรรมดา..ถ้าใจกว้าง..วางอุเบกขา..ไม่ไปเพ่งเล็งผู้อื่น..ก็เห็นสัจธรรม..ธรรมด้า..ธรรมดา..ที่เห็นกันอยู่เกลื่อกลาด..ความศรัทราความเชื่อของเขา..มิใช่ของเรา
เรามีหน้าที่อะไร..ก็ทำไป..ตราบใดที่เขามิได้ทำให้ผู้ใดเดือดร้อนหรือเบียดเบียนใคร..มันก็สิทของเขา..อย่าไปว่าเขา..มันไม่ดี..ทุกอย่างมันก็เกิดจากเหตุทั้งนั้น..วัดวาสมัยนี้..ยังมีพระพิฆเนศ มีเจ้าแม่กวนอิม มีพระราหู มีพระยานาค มีพระอินทร์.มีพระศรีอริยเมตรไตย.ให้คนกราบไหว้บูชา ถ้าพุทธบริษัทเขาอยากจะสร้าง องค์พระปฐมเพื่อกราบไหว้บูชา..มันก็ปัจจัยของเขา..มิใช่ของเรา..เรามิได้เดือดร้อน..เขาไม่ได้มาเบียดเบียนเรา..คิดแบบนี้ชีวิตจะเจริญ สว่างสไว..เข้าถึงธรรม
ไม่มีอะไรในโลกนี้..ที่ไม่เกิดจากเหตุ..เหตุมี..ผลย่อมมี..ส่วนตัวคุนน้องสำหรับความเชื่อว่า..พระพุทธเจ้าองค์ปฐมมีจริงไหม..คุนน้องขอตอบ มีจริง..เพราะพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นยังโลกแห่งนี้..มีมาหลายพระองค์แล้ว..เรื่องธรรมด้า..ธรรมดา
:b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 11:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ถามสั้นๆ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรว่า
พระพุทธเจ้าองค์ปฐมมีจริงไหม? เพราะเห็นมีหลายๆที่พูดเรื่ององค์พระปฐม
สร้างขึ้นมาแล้วก็มีมากมาย และที่กำลังจะก่อสร้างก็มีมากมาย และก็กำลังจะมีต่อไปอีกก็มากมาย
และที่สร้างขึ้นมานั้นจะวิเศษกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันยังไง?
เว็ปไหนๆก็พูดกันทั้งนั้นมีแต่พูดคลุมเครือ ไม่พูดให้กระจ่างให้เข้าใจได้เลย
องค์ปฐมหมายถึงองค์แรก ย่อมมี

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 12:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

คุนน้องรู้ค่ะ..ว่าพระพุทธองค์พูดถึงปฏิจสมุปบาท..และคุนน้องไม่ได้กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีกายละเอียด..ใครอยากจะตีความหมายไปในทางใดก็ช่างเขาค่ะ..คุนน้องมีหน้าที่ทำให้ชาวพุทธเข้าใจความจริงว่า..พระพุทธเจ้ากายแตกแต่มิได้ขาดสูญ..คุนน้องเชื่อหลวงปู่หลวงตาครูบาอาจารย์ดีกว่า..ทำไมคุนน้องต้องเชื่อคนที่ยังไม่บรรลุธรรม..หรือฆราวาสที่มีความเห็นผิด..ขนาดเรื่ององค์พระปฐมยังมาถกเถียงกัน..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเห็นผมเองที่แปลว่าแม้เทวดาและมนุษย์จักเห็นกายตถาคตเมื่อดำรงอยู่คือ

เห็นความเป็นสมมุติ คือเทวดากับมนุษย์ผู้ไม่เห็นสัจธรรมก็คือ ยังความเป็นอัตตาปรากฎอยู่ เพราะไม่รู้เหตุ

ถ้าเป็นเรื่องขันธ์5 ก็สามารถอธิบายถึงความเป็นอนัตตาอย่างชัดเจนว่า

กายคือการประชุมกันของธาตุ4 คือดิน น้ำ ลม ไฟ

แต่ท่านตรัสเรื่องตัญหา คือ เมื่อสิ้นตัญหา ก็สิ้นภพ เป็นปฎิจจสมุปบาทสายดับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
student เขียน:
nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

คุนน้องรู้ค่ะ..ว่าพระพุทธองค์พูดถึงปฏิจสมุปบาท..และคุนน้องไม่ได้กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีกายละเอียด..ใครอยากจะตีความหมายไปในทางใดก็ช่างเขาค่ะ..คุนน้องมีหน้าที่ทำให้ชาวพุทธเข้าใจความจริงว่า..พระพุทธเจ้ากายแตกแต่มิได้ขาดสูญ..คุนน้องเชื่อหลวงปู่หลวงตาครูบาอาจารย์ดีกว่า..ทำไมคุนน้องต้องเชื่อคนที่ยังไม่บรรลุธรรม..หรือฆราวาสที่มีความเห็นผิด..ขนาดเรื่ององค์พระปฐมยังมาถกเถียงกัน..


หลวงตาท่านมีนิมิตรคือเห็นนิมิตร การที่หลวงตาเอามาเล่าก็คือปรากฎการทางจิตที่เกิดขึ้นได้กับผู้ปฎิบัติ หรือความระลึกถึง จึงเป็นเรื่องของกุศลธรรม

เราจะเชื่อไม่เชื่อ ท่านก็ไม่ได้มาห้าม ท่านก็ไม่เคยเอ่ยว่าเชื่อเราเถอะ ท่านเพียงแต่บอกว่ากุศลธรรมควรทำให้มาก อกุศลธรรมควรละ เพราะนอกจากนิมิตรที่เห็นพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีนิมิตรที่เห็นนรก

คือเป็นเรื่องของการรักษาศีล ส่วนเรื่องของการเข้าถึงธรรมนั้นต้องมีพระรัตนตรัยให้ครับองค์คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
student เขียน:
nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

คุนน้องรู้ค่ะ..ว่าพระพุทธองค์พูดถึงปฏิจสมุปบาท..และคุนน้องไม่ได้กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีกายละเอียด..ใครอยากจะตีความหมายไปในทางใดก็ช่างเขาค่ะ..คุนน้องมีหน้าที่ทำให้ชาวพุทธเข้าใจความจริงว่า..พระพุทธเจ้ากายแตกแต่มิได้ขาดสูญ..คุนน้องเชื่อหลวงปู่หลวงตาครูบาอาจารย์ดีกว่า..ทำไมคุนน้องต้องเชื่อคนที่ยังไม่บรรลุธรรม..หรือฆราวาสที่มีความเห็นผิด..ขนาดเรื่ององค์พระปฐมยังมาถกเถียงกัน..
สงสัยพระพุทธเจ้าไม่ขาดสูญแล้วอยู่ที่ไหนครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 14:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: การที่จะรู้ว่าองค์ท่านมีจริงหรือไม่มีจริงสุชาวดีคิดว่าต้องทำจิตของเราให้รู้แจ้งเห็นเองค่ะ :b1:
(สำหรับท่านที่อยากรู้) ในเมื่อจิตยังไม่รู้แจ้ง ไม่กล้าฟันธงค่ะว่าองค์ท่านมีจริงรึไม่มี :b48: แต่จะพิจจารณาคำสอนถ้าเป็นสัจจะ จะน้อมมาพิจจารณา :b43:
เคยได้ฟังหลวงปู่ดุลท่านเทศ มีโยมพูดว่า "ไม่ต้องมาปฏิบัติให้เสียเวลา เพียงแต่ท่องบท....(จำไม่ได้) แล้วจะได้ไปเกิดในยุคพระศรีอารยเมตไตย " หลวงปู่ดุลท่านเลยตอบว่า อย่าไปนึกถึงเรื่องที่ยังไม่มา ตอนนี้ ในยุคของพระสมณโคดม ยังทำไม่รู้แจ้งเลย :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


แสดงว่าคุนน้องเข้าถึงธรรมแล้วนะสิ ถ้าคุนstudent กล่าวถูกต้อง..เพราะคุนน้องไม่ลังเลสงสัยใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์..คุนน้องนอบน้อมในพระรัตนตรัย..ไม่เคยกล่าวว่า พระพุทธมีเพียง พระพุทธเจ้าพระสมณโคดมพระองค์เดียวแล้วไปเพ่งเล็งพระพุทธเจ้าองค์อื่น..แต่คุนน้องนอบน้อมพระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ พระสังฆคุน.. :b8:
เพราะเหตุนี้เทวดาฟ้าดินถึงเข้าข้างช่วยเหลือคุนน้องเสมอ..ยามตกอับหรือลำบาก :b4: ขนาดตกงาน ยังมีคนโอนตังค์ให้ใช้ทุกเดือนแถมมีเงินเหลือเก็บ..(ไม่ดีจริงทำแบบนี้ไม่ได้นะเนียะ :b32: )
ปล.ขอประธานอภัยถ้าโรคภูมิใจในตนเอง..มันออกสื่อ..แค่อยากบอกว่า ความดีมีจริง..คนดีไม่เคยตกยาก :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
student เขียน:
nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

คุนน้องรู้ค่ะ..ว่าพระพุทธองค์พูดถึงปฏิจสมุปบาท..และคุนน้องไม่ได้กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีกายละเอียด..ใครอยากจะตีความหมายไปในทางใดก็ช่างเขาค่ะ..คุนน้องมีหน้าที่ทำให้ชาวพุทธเข้าใจความจริงว่า..พระพุทธเจ้ากายแตกแต่มิได้ขาดสูญ..คุนน้องเชื่อหลวงปู่หลวงตาครูบาอาจารย์ดีกว่า..ทำไมคุนน้องต้องเชื่อคนที่ยังไม่บรรลุธรรม..หรือฆราวาสที่มีความเห็นผิด..ขนาดเรื่ององค์พระปฐมยังมาถกเถียงกัน..
สงสัยพระพุทธเจ้าไม่ขาดสูญแล้วอยู่ที่ไหนครับ

อยู่ที่จิต รู้ได้ด้วยจิต ยามมืดบอด คุนน้องจะเห็นพระพุทธเจ้าปรากฏขึ้นที่จิต..ตรัสสอนธรรมคุนน้องในจิต.ความมืดบอดในจิตก็ปรากฏความสว่างสไสว.เพราะเหตุนีคุนน้องถึงนอบน้อมในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ..ใครจะจาบจ้วง พระรัตนตรัยต่อหน้าคุนน้อง มิได้..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2015, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
student เขียน:
nongkong เขียน:
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดา
และมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่


เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต

เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้ว
ผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลา ที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่

เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต."
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... agebreak=0
พระพุทธองค์กล่าวไว้ชัดเจน..เด่วจะถอดออกมาเป็นคำพูดธรรมดาๆให้เข้าใจ..พระพุทธองค์ กล่าวถึงขันธ์5 กายที่มีตัณหานำไปสู่ภพ..ขาดแล้ว..คือพระองค์ตรัสว่า..ภพชาติพระองค์สิ้นแล้ว..เมื่อกายแตก มนุษย์เทวดาจะไม่เห็นกาย ตถาคต

ปล.แล้วใครบอกว่า หลวงปู่หลวงตาเห็นกาย ตถาคต..มีชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากว่า..พระพุทธองค์กายแตกแล้วจะไม่มีผู้ใดเห็นพระองค์..ทั้งทีพระองค์ก็บอกอยู่ว่า กายอันมีตัณหานำไปสู่ภพ..นั่นคือกายหยาบที่เป็นขันธ์5..แล้วใครจะไปสามารถเห็นตถาคตที่มีกายหยาบได้..

พอมีพระอริยะสงฆ์เห็นพระพุทธเจ้าในนิมิตก็พากันวิพากวิจารณ์กัน..


พระพุทธองค์ทรงตรัสเรื่องปฎิจจสมุปบาท คือ เหตุของภพคือตัญหา ท่านไม่ได้หมายถึง กายหยาบแตกสิ้นชีพแล้ว ยังมีกายละเอียดครับ ท่านชี้ให้เห็นถึงความแตกดับ และภพที่ขาดแล้วเพราะตัญหาสิ้น ท่านไม่ได้พูดเป็นนัยให้เข้าใจว่า กายละเอียดท่านยังปรากฎอยู่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ตัณหาไม่สิ้น ก็ยังมีภพอีกต่อๆไป เป็นเรื่องของปฎิจจสมุปบาทครับ ไม่ใช่เรื่องของการเห็นท่าน

คุนน้องรู้ค่ะ..ว่าพระพุทธองค์พูดถึงปฏิจสมุปบาท..และคุนน้องไม่ได้กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีกายละเอียด..ใครอยากจะตีความหมายไปในทางใดก็ช่างเขาค่ะ..คุนน้องมีหน้าที่ทำให้ชาวพุทธเข้าใจความจริงว่า..พระพุทธเจ้ากายแตกแต่มิได้ขาดสูญ..คุนน้องเชื่อหลวงปู่หลวงตาครูบาอาจารย์ดีกว่า..ทำไมคุนน้องต้องเชื่อคนที่ยังไม่บรรลุธรรม..หรือฆราวาสที่มีความเห็นผิด..ขนาดเรื่ององค์พระปฐมยังมาถกเถียงกัน..
สงสัยพระพุทธเจ้าไม่ขาดสูญแล้วอยู่ที่ไหนครับ

อยู่ที่จิต รู้ได้ด้วยจิต ยามมืดบอด คุนน้องจะเห็นพระพุทธเจ้าปรากฏขึ้นที่จิต..ตรัสสอนธรรมคุนน้องในจิต.ความมืดบอดในจิตก็ปรากฏความสว่างสไสว.เพราะเหตุนีคุนน้องถึงนอบน้อมในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ..ใครจะจาบจ้วง พระรัตนตรัยต่อหน้าคุนน้อง มิได้..
อ้อ!เกิดที่จิต. แล้วพระพทธองค์ปรากฎเป็นอย่างไร. พอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยครับ. ท่านงดงามมั้ยครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 99 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร