วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 03:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2015, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


การสิ้นราคะ สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ ทำให้พระอรหันต์เกิดขึ้น ใช่พระนิพพานหรือ ?

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2015, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ภิกษุนั้นใด เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ เสร็จกิจแล้ว ปลงภาระแล้ว บรรลุถึงประโยชน์ตนแล้ว
สิ้นกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพแล้ว พ้นด้วยปัญญาอันชอบแล้ว

แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน
ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว
ย่อมไม่สำคัญธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญในธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญธาตุดินว่าของเรา
ย่อมไม่ยินดีธาตุดิน

ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เรากล่าวว่า
เพราะปราศจากราคะ เหตุราคะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโทสะ เหตุโทสะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโมหะ เหตุโมหะสิ้นไป......

ย่อมรู้พระนิพพาน โดยความเป็นพระนิพพาน
ครั้นรู้พระนิพพาน โดยความเป็นพระนิพพานแล้ว
ย่อมไม่สำคัญพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญในพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญพระนิพพานว่าของเรา ย่อมไม่ยินดีพระนิพพาน

ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร
เพราะปราศจากราคะ เหตุราคะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโทสะ เหตุโทสะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโมหะ เหตุโมหะสิ้นไป......”


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2015, 06:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาทิฏฐิ เขียน:
“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ภิกษุนั้นใด เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ เสร็จกิจแล้ว ปลงภาระแล้ว บรรลุถึงประโยชน์ตนแล้ว
สิ้นกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพแล้ว พ้นด้วยปัญญาอันชอบแล้ว

แม้ภิกษุนั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดิน
ครั้นรู้ธาตุดินโดยความเป็นธาตุดินแล้ว
ย่อมไม่สำคัญธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญในธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นธาตุดิน
ย่อมไม่สำคัญธาตุดินว่าของเรา
ย่อมไม่ยินดีธาตุดิน

ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เรากล่าวว่า
เพราะปราศจากราคะ เหตุราคะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโทสะ เหตุโทสะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโมหะ เหตุโมหะสิ้นไป......

ย่อมรู้พระนิพพาน โดยความเป็นพระนิพพาน
ครั้นรู้พระนิพพาน โดยความเป็นพระนิพพานแล้ว
ย่อมไม่สำคัญพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญในพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญโดยความเป็นพระนิพพาน
ย่อมไม่สำคัญพระนิพพานว่าของเรา ย่อมไม่ยินดีพระนิพพาน

ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร
เพราะปราศจากราคะ เหตุราคะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโทสะ เหตุโทสะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโมหะ เหตุโมหะสิ้นไป......”


:b8: :b8: :b8: ชัดเจน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2015, 06:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร
เพราะปราศจากราคะ เหตุราคะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโทสะ เหตุโทสะสิ้นไป......
เพราะปราศจากโมหะ เหตุโมหะสิ้นไป......”


การสิ้นไปแห่งราคะ สิ้นไปแห่งโทสะ สิ้นไปแห่งโมหะ เป็นเหตุให้เกิดพระอรหันต์
การสิ้นไปแห่งราคะ สิ้นไปแห่งโทสะ สิ้นไปแห่งโมหะ ไม่เป็นเหตุให้เกิดพระนิพพาน
การสิ้นไปแห่งราคะ สิ้นไปแห่งโทสะ สิ้นไปแห่งโมหะ เป็นผลของมรรคจิต

พระนิพพานเป็นอสังขตธรรม ไม่ใช่สังขตธรรมจึงเกิดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยเหตุ
ส่วนโลกุตตรธรรมก็ยังถูกปัจจัยปรุงแต่งยังภายใต้กฎของไตรลักษณ์
พระอรหันต์ก็เช่นเดียวกันยังตกอยู่ภายใต้ของกฏไตรลักณ์ พระอรหันต์จึงไม่ใช่พระนิพพาน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2015, 23:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ใช่พระนิพพานเพราะจิตพระอรหันต์ดับกิเลสตัณหาได้หมดสิ้น
http://www.youtube.com/watch?v=0v_FTmgLEVE
onion onion onion
:b4: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2015, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


พระอรหันต์เกิดขึ้น ก็คือรอดับขันธ์นิพพาน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2015, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ใช่พระนิพพานเพราะจิตพระอรหันต์ดับกิเลสตัณหาได้หมดสิ้น
http://www.youtube.com/watch?v=0v_FTmgLEVE
onion onion onion
:b4: :b20:


ต้องเข้าใจตรงนี้นะ จิตก็คือจิต จิตที่ถูกดับกิเลสตัณหาหมดแล้วก็คือจิตที่ปราศจากกิเลสตัณหา
จะถามว่าถ้าจิตยังไม่ได้ดับกิเลสตัณหา แล้วนิพพานมีไหม ? ก็ต้องตอบว่ามี ที่นิพพานมีก็เพราะ
พระนิพพานนั้นมีอยู่แล้ว เพราะนิพพานเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรปรุงแต่งไม่มีการเกิดการดับ
แล้วจะรู้ได้อย่างไร? จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อผู้นั้นดับกิเลสตัณหาให้หมดสิ้นก็ได้แก่พระอรหันต์
ว่าพระนิพพานมีอยู่แล้ว

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2015, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
พระอรหันต์เกิดขึ้น ก็คือรอดับขันธ์นิพพาน


นิพพานที่เป็นบรมสุขคือการดับกิเลสการดับขันธ์ ๕ ที่ใดภพใดภูมิที่ยังมีขันธ์ ๕ อยู่ที่นั้นไม่ใช่บรมสุข

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2015, 06:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว




cats.jpg
cats.jpg [ 44.78 KiB | เปิดดู 4161 ครั้ง ]
จิตของพระอรหันต์ โดยรวมมี ๔๔ ดวง แต่ถ้าจะให้กล่าวโดยละเอียดขึ้น
ในมหาวิบากจะให้ได้เพียง ๑ ดวงเท่านั้นไปตลอดชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ฉะนนั้นจึงกล่าวได้ว่ามีแค่ ๓๗ ดวง จิต ๓๗ ดวงนี้เป็นจิตของพระอรหันต์
ซึ่งยังมีการเกิดดับอยู่ตลอดเวลาซึ่งอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์

ส่วนพระอรหันต์ก็ยังมีขันธ์ ๕ ก็ยังเกิดดับอยู่ตลอดเวลาและอยู่ภายใต้กฏไตรษณ์
ฉะนั้น จิต ๓๗ ดวงจึงไม่ชื่อว่าพระนิพพาน แต่จิต ๓๗ ดวงนี้มีอารมณ์ พระนิพพาน

ส่วนพระนิพพานนั้นมีอยู่จริงไม่เกิดไม่ดับ ไม่ได้อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง ซึ่งมีอยู่อย่างนั้น
ตั้งอยู่นอกเหนือกฎไตรลักษณ์ โดยความเป็นอนัตตา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2015, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


พระนิพพานมีจริงโดยแท้ เพราะพระผู้มีพระภาคตรัสเรียก นิสสรณะ, วิมุตติ,(สภาพหลุดพ้น)
ความจริงคำว่า นิสสรณะ, วิมุตติ, เป็นซื่อของพระนิพพาน สมจริงดังพระพุทธวจนะว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้แทงตลอดได้ยาก ๓ อย่างนั้นคือ
ปฐมฌาน ที่หลุดพ้นจากกามคุณ (ชั่วขณะ)
อากาสานัญจายตนะฌาน ที่หลุดพ้นจากรูป (ชั่วขณะ)
และพระนิพพาน ที่หลุดพ้นจากขันธ์ทั้งปวง (ตลอดไป)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2015, 06:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมดาว่าความสิ้นไปแห่งกิเลสมีราคะเป็นต้น สัตบุรุษทั้งหลายย่อมทำให้มีขึ้น
ตามสมควรแก่วิสุทธิ ๗ แต่พระนิพพานไม่ถูกกระทำ ทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยปัจจัย
อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น พระนิพพานจึงชื่ออมตะ (ไม่ตาย) อสังขตะ (ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง)
พระอริยะสาวกย่อมรู้พระนิพพานว่าพระนิพพานไม่ถูกปัจจัยกระทำ หมดการเวียนว่ายเกิด
หมดโอกาสที่จะเกิดใหม่ และหมดกิเลสที่ทำให้หวัง บุคคลนั้นเรียกว่าผู้ประเสริฐ

อุปมาเหมือนต้นไม้ที่เคยออกดอกและออกผล แต่มาครั้งนี้ออกแต่ดอกแต่ไม่มีผล
เหมือนกิริยาจิตที่ประกอบด้วยเหตุ ๓ เหตุ มี อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ
แต่ผลของเหตุเหล่านี้หามีไม่

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2015, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเข้าใจแล้วว่า นิพพานไม่ใช่จิต จิตเป็นได้เพียงกิริยาจิต
แต่อารมณ์ของจิตได้แก่พระนิพพาน
มีปัญหาอยู่ทำไงเราถึงจะเอานิพพานมาเป็นอารมณ์ได้
มีคำสอนเป็นการชี้ทางไว้ให้แล้วในพระศาสนานี้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2018, 02:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8586


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss Kiss Kiss

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร