วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2015, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


เวลาฉันอาหาร(องค์หลวงปู่ศรี) ท่านสอนให้พิจารณา ถ้ามองเห็นเนื้อเห็นอะไรต้องพิจารณาลงไป ให้เห็นตอนที่มันสดๆ ด้วย ให้เพ่งลงไป เพ่งลงไป จนบางทีมันก็กลืนไม่ลง เพราะพอพิจารณาก็จะค่อย ๆ เห็นเป็นตัวขึ้นมา เกิดกลิ่นเหม็นคาวขึ้นมา พวกไก่ ปู ปลา พวกนี้ เราเอาเขาไปต้มกินน้ำกุย (เหม็นสาบ) น้ำคาวของเขา ถ้าไม่พิจารณามันก็อร่อย ท่านให้พิจารณาทวนกระแสตามหลักปฏิสังขาโย อย่าไปพิจารณาให้มันอร่อย เคี้ยว ๆ กลืนๆ ผสมกับน้ำลาย ให้พอกลืนลง
บางทีพิจารณาข้าวจนกลายเป็นตัวหนอนขึ้นมาไต่ยึบ ๆ ยับ ๆ ฉันไม่ลงก็ถอยออกพิจารณาอะไรมันเป็นธรรมไปหมด
ประวัติหลวงปู่ศรี มหาวีโร


ถ้าเราทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ในทุกวันอยู่แล้ว.. ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งอื่น เครื่องลาง ของขลัง ดูดวง ดูหมอ แต่งเคราะห์ แก้กรรม ฤกษ์ยามต่างๆ.. ฯลฯ เพราะ ดีชั่ว.. ที่ประสบเพราะ กรรม คือ การกระทำของเรา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต .. เป็นตัวกำหนด..



" การรักษาจิตนั้น
จะรักษาไปทำไม
คือ รักษาไม่ให้มันยุ่ง
มันไปยุ่งเกี่ยวกับอารมณ์
ส่วนไหน ก็ใช้สติ และ
สัมปชัญญะคอยแก้ไข
ให้มันละ มันวางอารมณ์
สิ่งเหล่านั้นเสียได้
นั่นเรียกว่าเป็นผู้มีปัญญา "
โอวาทธรรม
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2015, 05:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
เวลาฉันอาหาร(องค์หลวงปู่ศรี) ท่านสอนให้พิจารณา ถ้ามองเห็นเนื้อเห็นอะไรต้องพิจารณาลงไป ให้เห็นตอนที่มันสดๆ ด้วย ให้เพ่งลงไป เพ่งลงไป จนบางทีมันก็กลืนไม่ลง เพราะพอพิจารณาก็จะค่อย ๆ เห็นเป็นตัวขึ้นมา เกิดกลิ่นเหม็นคาวขึ้นมา พวกไก่ ปู ปลา พวกนี้ เราเอาเขาไปต้มกินน้ำกุย (เหม็นสาบ) น้ำคาวของเขา ถ้าไม่พิจารณามันก็อร่อย ท่านให้พิจารณาทวนกระแสตามหลักปฏิสังขาโย อย่าไปพิจารณาให้มันอร่อย เคี้ยว ๆ กลืนๆ ผสมกับน้ำลาย ให้พอกลืนลง
บางทีพิจารณาข้าวจนกลายเป็นตัวหนอนขึ้นมาไต่ยึบ ๆ ยับ ๆ ฉันไม่ลงก็ถอยออกพิจารณาอะไรมันเป็นธรรมไปหมด
ประวัติหลวงปู่ศรี มหาวีโร


ถ้าเราทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ในทุกวันอยู่แล้ว.. ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งอื่น เครื่องลาง ของขลัง ดูดวง ดูหมอ แต่งเคราะห์ แก้กรรม ฤกษ์ยามต่างๆ.. ฯลฯ เพราะ ดีชั่ว.. ที่ประสบเพราะ กรรม คือ การกระทำของเรา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต .. เป็นตัวกำหนด..



" การรักษาจิตนั้น
จะรักษาไปทำไม
คือ รักษาไม่ให้มันยุ่ง
มันไปยุ่งเกี่ยวกับอารมณ์
ส่วนไหน ก็ใช้สติ และ
สัมปชัญญะคอยแก้ไข
ให้มันละ มันวางอารมณ์
สิ่งเหล่านั้นเสียได้
นั่นเรียกว่าเป็นผู้มีปัญญา "
โอวาทธรรม
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป


:b8: :b8: :b8:

พึงมีสติปัญญารักษาใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร