วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 19:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2015, 22:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คือคุนน้องลองคิดเล่นๆว่า..ถ้ามนุษย์เราไม่มีราคะในจิต..โลกแห่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น.. s006
คือคุนน้องเคยนึกนะว่า..สรรพสัตว์เกิดมาจากไหน
ทั้งที่พระพุทธเจ้าก็อุบัติขึ้นในโลกนี้ไม่รู้กี่พระองค์ขนสรรพสัตว์ไปฝั่งพระนิพพานก็ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
นับไม่ได้..แต่สรรพสัตว์ก็ยังไม่เคยหมดไปจากโลก
จริงๆแล้วคุนน้องก็ลองนึกนะ..ถ้ามนุษย์ปราศจากราคะ..ความรักในแบบชู้ส่าวย่อมไม่มี..การสืบเผ่าพันธ์ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้..เพราะปราศจากราคะย่อมไม่มีการเสพกามเกิดขึ้นแน่นอน..มนุษย์คงสูญพันธ์ :b14: คุนน้องเลยคิดว่า..เป็นไปได้มั้ยที่เราเข้านิพพานแล้ว..แต่เราก็สามารถออกมาจากนิพพานได้อีก..เพราะอวิชาครอบงำจิตอีก..
นึกเล่นๆอ่ะค่ะ.. s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2015, 22:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจะให้กลับไปเป็นเด็กอีก.....

ผมคนหนึ่งละ....ไม่เอาแน่นอน

ทำงานหาเงินเองก็ไม่ได้....
ไม่มีเงิน..ก็ทำอะไรที่อยากทำไม่ได้...จะกินอะไรที่อยากกินก็ไม่ได้
มีเมียก็ไม่ได้...

ตอนนี้...ผมทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ...จะให้กลับไปเป็นอย่างเดิมๆตอนเด็ก.ๆ...ยังคิดไม่ออกเลยว่า...จะเป็นไปได้ยังงัย

:b32: :b32: :b32:

ผมคิดว่า...คนรวย...ไม่มีคนไหนอยากกลับไปที่จุดเริ่มต้นตอนก่อร่างสร้างตัวใหม่ๆ..แน่นอนครับ

นิพพาน..ก็คงจะเหมือนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2015, 07:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:

คนเรามันเกิดในกามภูมิมันก็ต้องเสพกามอยู่ตลอดเวลา
เวลาเราเห็นแล้วชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้าง นี่ก็เป็นการเสพกามแล้ว
เวลาได้ยินแล้วชอบใจบ้างไม่ชอบใจบ้าง นี่ก็เป็นการเสพกามแล้ว
กลิ่น รส สัมผัสก็เหมือนกัน เป็นกามทั้งนั้น นี่คอยแต่จะคิดแต่ไอ้ตรงนั้นแหละ
ว่าเป็นการเสพกาม


นี้..ถ้าไม่มีคุณธรรมมา..นะ....กระผมก็คิดเป็นธรรมดา...ไม่ได้คิดเลยว่า...หมายถึงไอ้ตรงนั้น

คุณธรรมมา..คิดได้งั้ย??

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2015, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องก็คิดเหมือนท่านกบนะ..คนที่เคยลำบากเคยจนเคยผ่านอุปสรรคมามากมาย..พอขึ้นไปอยู่ที่สูงๆร่ำรวยมีเงินทอง..ใครจะอยากกลับไปจนไปลำบากอีก..นิพพานก็คงจะเหมือนกัน...
คุนน้องแค่ลองจินตนาการเล่นๆน่ะค่ะ..
สมมุติเราไม่ใช่มนุษย์เราคือ god เราไม่เกิดไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตาย..เราเป็นอมตะ....เราเหมือนเด็กบริสุทธิ์..เราไม่รู้จักความรัก เราไม่รู้ความโลภ โกรธ หลง คืออะไร..จนกว่าเราจะได้สัมผัสมัน..
แต่เพราะเราใสซื่อเกินไป..เราเลยโดนอวิชาครอบงำโดยไม่รู้..เราเลยถือปฏิสนธิจิตในครรภ์..
อาจจะเป็นไปได้ เราไม่เคยเรียนรู้ เราถึงคิดว่ามันคือสิ่งทีน่ายินดี..เราถึงคิดว่ากามให้ความสุข..

เป็นไปได้มั้ยว่าการเกิดขึ้นของสรรพสัตว์..คือการเกิดขึ้นจากธรรมชาติ..เหมือนคล้ายๆการระเบิดตัวของบิ๊กแบง..และมันก็จะเป็นเช่นนั้น
คุนน้องคิดว่าพระพุทธองค์ตรัสเป็นความจริง..
เราตกอยู่ภายใต้กฎอิทิปปัจยตา..และการเกิดขึ้นของอวิชา..สายปฏิจสมุปปบาท..ไม่ใช่แค่มนุษย์..แต่จักวาลก็ตกอยู่ภายใต้ อิทิปปัจจยตา..เช่นกัน..
ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะค่ะ..เรื่องนี้ก็เป็นอจินไตยพูดเยอะมากไม่ได้.. :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2015, 01:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดดี ครับ ...ถ้าเป็นเช่นนั้น การเกิดคงจะไม่มี..เพราะไม่มีปัจจัย ไม่มีเหตุ.เพราะสิ้นกามราคะ คือหลุดจากกาม ราคะ ความกำหนัด มนุษย์ ก็อาจจะสูญพันธ์.และจะค่อยๆ จบ สิ้นสลายลงไป.แต่ถ้าสูญสลายไปแบบ เข้า ถึง พระนิพพาน คงจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้วหล่ะ :b12:
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2015, 07:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8571


 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
คิดดี ครับ ...ถ้าเป็นเช่นนั้น การเกิดคงจะไม่มี..เพราะไม่มีปัจจัย ไม่มีเหตุ.เพราะสิ้นกามราคะ คือหลุดจากกาม ราคะ ความกำหนัด มนุษย์ ก็อาจจะสูญพันธ์.และจะค่อยๆ จบ สิ้นสลายลงไป.แต่ถ้าสูญสลายไปแบบ เข้า ถึง พระนิพพาน คงจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้วหล่ะ :b12:
เจริญในธรรม :b8:


เมื่อตัณหายังมี การเกิดขึ้นของมนุษย์ก็ยังมี
ในสมัยต้นๆกัปป์มนุษย์ไม่ได้เกิดจากครรภ์มารดาก็มี
เช่นเกิดในไข่ เกิดจากเถ้าไคล เกิดดอกบัว เกิดจากโลหิต เกิดจากกระบอกไม้ไผ่
เกิดจากต้นมะขาม ผุดเกิดขึ้นเลยโดยไม่ต้องอาศัยครรภ์มารดา

มนุษย์ในไข่
ในช่วงหลังพุทธกาล พราหมณ์คนหนึ่งในเมืองปาตลีบุตรเข้าไปในป่า ได้พบกินรีนางหนึ่งมีรูปเป็นสตรีสวยงามมาก พราหมณ์หลงรักนางกินรีจึงอยู่ร่วมสังวาสกับนางจนมีครรภ์ เมื่อครบกำหนดนางกินรีได้คลอดไข่ออกมาสองฟอง นางกินรีฟักไข่จนแตกออกมาเป็นทารกชายสองคน คนพี่ชื่อดิสสกุมาร คนน้องชื่อมิตรกุมาร เมื่อสองกุมารโตขึ้น พิจารณาว่าพวกเราสองพี่น้องมีกำเนิดไม่เหมือนกุมารอื่น เพราะมีบิดาเป็นมนุษย์ แต่มารดาเป็นกินรี การเกิดในสงสารนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลย คิดแล้วสองพี่น้องจึงชวนกันไปบวช และสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งสององค์

มนุษย์ในเถ้าไคล
มนุษย์เกิดในเถ้าไคล มีปรากฏในประวัติของพระอุบลวรรณาเถรี ในอดีตชาติครั้งที่พระเถรีเกิดเป็นพระนางปทุมวดีนั้น มีบุตรที่เกิดจากเถ้าไคลถึง ๔๙๙ องค์ ในอดีตชาติหนึ่งพระอุบลวรรณาเถรีเกิดเป็นธิดาคนยากจน วันหนึ่งนางเก็บข้าวสาลีมาคั่วข้าวตอกได้ ๕๐๐ ดอก นำไปถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า พร้อมกับถวายดอกบัวที่เก็บมาจากสระ แล้วตั้งความปรารถนาว่าขอให้มีบุตร ๕๐๐ คนตามจำนวนข้าวตอกนี้ ด้วยอานิสงส์นี้ทำให้นางไปอุบัติเป็นเทพธิดาในสวรรค์ จุติแล้วมาเกิดแบบโอปปาติกกำเนิดเป็นทาริกาในดอกบัว มีพระฤๅษีเก็บไปเลี้ยงจนเติบใหญ่ ได้เป็นเทวีพระเจ้าพาราณสีนามว่า พระนางปทุมวดี

พระนางปทุมวดีมีโอรส ๕๐๐ องค์ ตามความปรารถนาที่ตั้งไว้ แต่มีองค์เดียวที่ประสูติจากพระครรภ์ ที่เหลือ ๔๙๙ องค์ ล้วนมีกำเนิดแบบสังเสทชะคือเกิดจากโลหิต พระโอรสทั้งหมดนั้นเป็นผู้มีบุญมาก ภายหลังได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด

นางจิญจมานวิกา เกิดจากต้นมะขาม, นางเวฬุวดี เกิดจากต้นไผ่
จะแสดงไว้ในหมวดพระอภิธรรม

https://www.google.co.th/search?q=%E0%B ... 0%B8%A1%2C

นางปทุมวดี เกิดจากดอกบัว,
โอรสของนางปทุมวดีรวม ๔๙๙ องค์ เกิดจากโลหิต

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=150&p=3

นางอัมพปาลี ผู้ผุดเกิดขึ้นเลยบนกิ่งมะม่วง
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=467

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2015, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คือคุนน้องลองคิดเล่นๆว่า..ถ้ามนุษย์เราไม่มีราคะในจิต..โลกแห่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น.. s006
คือคุนน้องเคยนึกนะว่า..สรรพสัตว์เกิดมาจากไหน
ทั้งที่พระพุทธเจ้าก็อุบัติขึ้นในโลกนี้ไม่รู้กี่พระองค์ขนสรรพสัตว์ไปฝั่งพระนิพพานก็ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
นับไม่ได้..แต่สรรพสัตว์ก็ยังไม่เคยหมดไปจากโลก
จริงๆแล้วคุนน้องก็ลองนึกนะ..ถ้ามนุษย์ปราศจากราคะ..ความรักในแบบชู้ส่าวย่อมไม่มี..การสืบเผ่าพันธ์ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้..เพราะปราศจากราคะย่อมไม่มีการเสพกามเกิดขึ้นแน่นอน..มนุษย์คงสูญพันธ์ :b14: คุนน้องเลยคิดว่า..เป็นไปได้มั้ยที่เราเข้านิพพานแล้ว..แต่เราก็สามารถออกมาจากนิพพานได้อีก..เพราะอวิชาครอบงำจิตอีก..
นึกเล่นๆอ่ะค่ะ.. s006

rolleyes
...การเกิดแต่ละครั้งถ้าไม่มีการเกิดด้วยปัญญา...
...แปลว่าเกิดมาเพื่อตายเสียเวลาไปฟรีตายเปล่า...
...เพราะจะต้องเกิดมาซ้ำๆเดิมๆด้วยความไม่รู้อยู่ร่ำไป...
:b44: :b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2015, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คือคุนน้องลองคิดเล่นๆว่า..ถ้ามนุษย์เราไม่มีราคะในจิต..โลกแห่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น.. s006
คือคุนน้องเคยนึกนะว่า..สรรพสัตว์เกิดมาจากไหน
ทั้งที่พระพุทธเจ้าก็อุบัติขึ้นในโลกนี้ไม่รู้กี่พระองค์ขนสรรพสัตว์ไปฝั่งพระนิพพานก็ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
นับไม่ได้..แต่สรรพสัตว์ก็ยังไม่เคยหมดไปจากโลก
จริงๆแล้วคุนน้องก็ลองนึกนะ..ถ้ามนุษย์ปราศจากราคะ..ความรักในแบบชู้ส่าวย่อมไม่มี..การสืบเผ่าพันธ์ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้..เพราะปราศจากราคะย่อมไม่มีการเสพกามเกิดขึ้นแน่นอน..มนุษย์คงสูญพันธ์ :b14: คุนน้องเลยคิดว่า..เป็นไปได้มั้ยที่เราเข้านิพพานแล้ว..แต่เราก็สามารถออกมาจากนิพพานได้อีก..เพราะอวิชาครอบงำจิตอีก..
นึกเล่นๆอ่ะค่ะ.. s006

เหมือน
นึกเล่นๆ ว่า
ถ้า แสงแดด ต้องกายไม่เกิด เงา จะได้ไหม
1. ได้ ก็ถูกต้อง
2. ไม่ ก็ถูกต้อง

มนุษย์เรามีราคะจริต โลกนี้ก็ยังคงมีมนุษย์
มนุษย์เราถ้าไม่มีราคะจริต โลกนี้ก็ยังคงมีมนุษย์

เหตุปัจจัยดำเนินไปอย่างไร
สิ่งที่เกิดสืบจากเหตุปัจจัยย่อมเป็นเช่นนั้น

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร