วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 04:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2015, 05:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ


จิตปรุงกิเลส คือ การที่จิตบังคับให้กาย วาจา ใจ กระทําสิ่งภายนอก ให้มี ให้เป็น ให้เลว ให้เกิดวิบากได้ แล้วยึดติดอยู่ว่า นั่นเป็นตัว นั่นเป็นตน ของเรา ของเขา, กิเลสปรุงจิต คือการที่สิ่งภายนอกเข้ามาทําให้จิตเป็นไปตามอํานาจของมัน แล้วยึดว่ามีตัว มีตนอยู่ สําคัญผิดจากความเป็นจริงอยู่รํ่าไป...

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล



มันไม่เที่ยง เท่านี้ละ

หลวงพ่อชา " การทำความเพียรของเราก็เหมือนกัน ต้องพยายามอยู่อย่างนั้น
เราจะต้องมีสติติดต่อกันอยู่อย่างนั้นเสมอ
มีความรู้ติดต่อกันอยู่เสมอเป็นวงกลม
จะไปถอนหญ้าก็ได้ จะนั่งอยู่ก็ได้ จะทานอาหารก็ได้ จะกวาดบ้านอยู่ก็ได้
ต้องไม่ลืม มีความรู้ติดต่ออยู่เสมอ
ตัวนี้มันรู้ธรรมะ มันจะพูดอยู่เรื่อยๆ
ใจข้างในมันจะพูดอยู่เรื่อยๆ เป็นอยู่อย่างนั้น
มีความรู้อยู่ มีความตื่นอยู่ มีความเบิกบานอยู่สม่ำเสมออย่างนั้น
นั้นเรียกว่าเป็นประโยชน์มาก ไม่ต้องสงสัยอะไรเลย


อะไรมันเกิดขึ้นมา เราก็เห็นว่าอันนี้มันไม่แน่นอน มันไม่เที่ยง
อันนั้นก็ดี แต่ว่ามันไม่แน่นอน มันไม่เที่ยง เท่านี้ละ

เราก็รู้ของเราไปเรื่อยๆ
เท่านั้นแหละการปฏิบัติของเรา "

การปล่อยวาง
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี


สมาธิเป็นเครื่องสงบใจ ส่วนเรื่องการปล่อยวาง เป็นเรื่องของปัญญา ละกามราคะได้ เป็นพระอนาคามี ละอวิชชาได้ เป็นพระอรหันต์

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน



"มีอยู่คนหนึ่ง... เป็นชาวมาเลเซีย ปวดขามา ๗ ปีแล้ว ทรมานเหลือเกิน มานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ กำหนดปวดหนออย่างเดียว ปวดจนน้ำตาร่วง ปวดหนัก ตั้งสติไว้ ปวดหนอนี่อุปาทานยึด การศึกษาเรียกว่า สมถวิธี เป็นการศึกษาให้รู้แจ้งเห็นจริง พอเห็นจริงแล้ว เกิดขึ้น - ตั้งอยู่ - ดับไป วูบเลย... เวทนาหายไปเลย จิตก็เป็นกุศลเกิดปัญญา นั่งงอขาพับเพียบได้ทันที เดิมงอขาไม่ได้ ภาวนาก็ผุดขึ้นมาทันที บอกเหตุการณ์กฎแห่งกรรม เอามีดไปขว้างขาหมูจนเป็นแผลหนอนกิน แล้วจับขายให้เขาฆ่าตาย ตัวเองต้องปวดขามาจนบัดนี้ ก็เลยแผ่เมตตาให้หมู"


"กรรมที่แท้จริง" จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ ๒ ประการ

๑. ผู้ทำมีเจตนา คือเจตนาก่อนทำ ขณะกำลังทำ และเมื่อทำไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ถือว่าเป็นกรรมทั้งสิ้น

๒. การกระทำนั้นจะต้องให้ผลเป็นบุญหรือเป็นบาป (พระอรหันต์เป็นผู้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ไม่มีความยึดถือในตัวตน การกระทำเรียกว่า อัพยากฤต ไม่นับว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว บุญและบาปก็ไม่มี การกระทำของพระอรหันต์จึงไม่เรียกว่ากรรม แต่เรียกว่า กิริยา)

# พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2015, 07:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รสมน เขียน:
จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ


จิตปรุงกิเลส คือ การที่จิตบังคับให้กาย วาจา ใจ กระทําสิ่งภายนอก ให้มี ให้เป็น ให้เลว ให้เกิดวิบากได้ แล้วยึดติดอยู่ว่า นั่นเป็นตัว นั่นเป็นตน ของเรา ของเขา, กิเลสปรุงจิต คือการที่สิ่งภายนอกเข้ามาทําให้จิตเป็นไปตามอํานาจของมัน แล้วยึดว่ามีตัว มีตนอยู่ สําคัญผิดจากความเป็นจริงอยู่รํ่าไป...

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

:b8: :b8: :b8:
อ่านแล้วรู้หมด..
แต่ก็ไม่รู้อะไรเลย


อ้างคำพูด:
มันไม่เที่ยง เท่านี้ละ

หลวงพ่อชา " การทำความเพียรของเราก็เหมือนกัน ต้องพยายามอยู่อย่างนั้น
เราจะต้องมีสติติดต่อกันอยู่อย่างนั้นเสมอ
มีความรู้ติดต่อกันอยู่เสมอเป็นวงกลม
จะไปถอนหญ้าก็ได้ จะนั่งอยู่ก็ได้ จะทานอาหารก็ได้ จะกวาดบ้านอยู่ก็ได้
ต้องไม่ลืม มีความรู้ติดต่ออยู่เสมอ
ตัวนี้มันรู้ธรรมะ มันจะพูดอยู่เรื่อยๆ
ใจข้างในมันจะพูดอยู่เรื่อยๆ เป็นอยู่อย่างนั้น
มีความรู้อยู่ มีความตื่นอยู่ มีความเบิกบานอยู่สม่ำเสมออย่างนั้น
นั้นเรียกว่าเป็นประโยชน์มาก ไม่ต้องสงสัยอะไรเลย


อะไรมันเกิดขึ้นมา เราก็เห็นว่าอันนี้มันไม่แน่นอน มันไม่เที่ยง
อันนั้นก็ดี แต่ว่ามันไม่แน่นอน มันไม่เที่ยง เท่านี้ละ
เราก็รู้ของเราไปเรื่อยๆ
เท่านั้นแหละการปฏิบัติของเรา "

การปล่อยวาง
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี


:b8: :b8: :b8:
ใช่ครับ....
เวลาที่มีความสุข...สมหวัง..อะไรอะไรก็แฮปปี่...ก็รู้สึกว่า..เดียวความสุขเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนไป...หายไป....ไม่เที่ยง..หรอก...

เวลาทุกข์ใจ....อะไรอะไรก็ไม่แฮปปี่....ก็รู้สึกว่า..เดียวมันก็จะเปลี่ยนไปแล้วละ...มันไม่ยืนยงอะไรนักหรอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2015, 17:42 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2949


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร