วันเวลาปัจจุบัน 12 ต.ค. 2025, 12:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2014, 18:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2014, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8601


 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:

สถานที่ปฏิบัติธรรมของเราทุกคน
ก็ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่แหละครับ
ใกล้มาก มีสติเมื่อไหร่ถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย
ไปมาสะดวก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2014, 19:52 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2972


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแนะนำสำนักที่เคยไปบ่อยนะคะ :b16:

- สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต สาขาหินกอง
บนเขาเทพพนมยงค์ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี
ของพระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=9&t=18463

สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต สาขาปากช่อง
บ้านหนองตาแก้ว ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

เห็นกระทู้นี้เข้าท่าดีคะ
มีวัดไหนสงบๆ อนุญาตให้เข้าพักถือศีล 8 ช่วงปีใหม่บ้างครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=35969


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2014, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:

ถ้ายังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ลองดูศูนย์ปฏิบัติธรรมที่วัดมเหยงคณ์ ที่อยุธยา เห็นว่าค้างคืนได้เจ้าค่ะ ได้ยินชื่อเสียงเกียติศัพท์มา น้าคุยน้องกับเพื่อนๆไฮโซก็ไปปฏิบัติธรรมที้นั่นกันค่ะ สถานที่สงบไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย
http://m.pantip.com/topic/31968467
ปล.ขออนุญาตแนบลิ้งค์ไว้เพราะเห็นว่ามีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับทางวัด :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2014, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
deecup เขียน:
ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:

สถานที่ปฏิบัติธรรมของเราทุกคน
ก็ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่แหละครับ
ใกล้มาก มีสติเมื่อไหร่ถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย
ไปมาสะดวก

ลุงควรใช้สติสัมปชัญญะในการตอบคำถามและให้ธรรมทานผู้อื่นให้รอบคอบกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นโทษ สถานที่สับปายะมีส่วนช่วยให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าและเห็นผลเร็ว คุนน้องไม่เคยมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรม เพราะไม่มีเวลา แต่คนที่เขามีโอกาสมีเวลาเอื้ออำนวยนั้นแสดงว่า เป็นวาสนาของเขา ในเมื่อ จขกท ถามเช่นไรก็ต้องให้คำตอบไปเช่นนั้น เพราะเขาถามอย่างดันบอกอีกอย่าง โดยลักษณะลุง เขาเรียกว่า ขวางกรรมผู้อื่น(และ จขกท.กำลังจะทำกรรมดีเพื่อพอกพูนบารมีติดตัว)
อโหสิให้คุนน้องด้วยถ้าคำพูดนี้ขัดเคืองทำให้ลุงไม่พอใจ คุนน้องเจตนาดีเจ้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2014, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8601


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
deecup เขียน:
ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:

สถานที่ปฏิบัติธรรมของเราทุกคน
ก็ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่แหละครับ
ใกล้มาก มีสติเมื่อไหร่ถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย
ไปมาสะดวก

ลุงควรใช้สติสัมปชัญญะในการตอบคำถามและให้ธรรมทานผู้อื่นให้รอบคอบกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นโทษ สถานที่สับปายะมีส่วนช่วยให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าและเห็นผลเร็ว คุนน้องไม่เคยมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรม เพราะไม่มีเวลา แต่คนที่เขามีโอกาสมีเวลาเอื้ออำนวยนั้นแสดงว่า เป็นวาสนาของเขา ในเมื่อ จขกท ถามเช่นไรก็ต้องให้คำตอบไปเช่นนั้น เพราะเขาถามอย่างดันบอกอีกอย่าง โดยลักษณะลุง เขาเรียกว่า ขวางกรรมผู้อื่น(และ จขกท.กำลังจะทำกรรมดีเพื่อพอกพูนบารมีติดตัว)
อโหสิให้คุนน้องด้วยถ้าคำพูดนี้ขัดเคืองทำให้ลุงไม่พอใจ คุนน้องเจตนาดีเจ้าค่ะ


อโหสิให้จ้าคุนน้อง...สภาวะจริงคุนน้องคงเข้าไม่ถึง

จขกท. ถามหาสถานที่ปฏิบัติก็บอกไปแล้วว่าสถานที่ปฏิบัติจริงก็อยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
แล้วมันจะไปขวางทางธรรมตรงไหน ? ถ้ายึดเอาสถานที่ สำนักเหล่านั้นเป็นที่ปฏิบัติธรรมจริง
ปีหนึ่งๆไปกันกี่ครั้ง เวลาที่เหลือจะเอาไปใช้อะไร ถ้างั้นการปฏิบัติธรรมที่บ้านคงมิต้องใช้ไม่ได้
ด้วยจริงไหม ? หรือการปฏิบัติธรรมในขณะประกอบกิจการงานขณะปัจจุบันก็คงทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน

องค์แห่งการเจริญวิปัสสนา ได้แก่ "รูปกับนาม" เท่านั้น การที่จะไปรู้ รูปกับนาม ได้นั้นจะ
พ้นไปจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจได้ไหมล่ะ การที่จะไปกล่าวหาคนอื่น ขาดสติสัมปะชัญญะ
ลองสำรวจดูที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ว่าเรารู้ตัวทั่วพร้อมแล้วหรือยัง?

เมื่อร่างกายจิตใจยังสกปรกอยู่ ก็อย่าคิดไปทำความสะอาดให้ร่างกายผู้อื่นสะอาดเลย
เมื่อผ้าที่ไม่สะอาดนำไปเช็ดสิ่งอื่น สิ่งนั้นก็จะมัวหมองเพราะผ้าที่ไม่สะอาดนั้นด้วย

อย่าทำตัวเหมือนปลารักน้ำอยู่เลย เมื่อเขานำมาไว้บนบกเพื่อให้เห็นแสงสว่าง กับเป็นรับไม่ได้
ก็พยายามจะดิ้นลงน้ำเหมือนเดิม คุนน้องคงต้องไปอ่านนิทานเรื่อเต่ากับปลาดูนะ อาจจะพอมี
ความคิดอะไรได้บ้าง

อย่าว่าลุงสอนนะ เพียงเตือนสตินิดหน่อยเอง
อย่ามองต่ำจะเสียโอกาสเห็นในที่สูง ถ้ามองสูงก็จะเสียโอกาสเห็นในที่ต่ำ
มองตรงเกินไป ก็จะเสียโอกาสมองเห็นข้าง มองข้างหลังก็จะทำให้ตกเหวตาย

(ที่ตอบช้าเพราะต้องขึ้นต้นใหม่อีก...เขียนตอบไปเยอะแล้วเกิดไฟดับ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2014, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังไงลุงก็ไม่ทางเข้าใจในสิ่งที่คุนน้องจะสื่อ
อุปมาเหมือนนักรบใหม่เดินมาถามสำนักที่มีครูบาอาจารย์สอนวิชาดาบ ลุงกลับบอกให้นายทหารผู้นั้นหยิบดาบขึ้นละบอกนั่นไงศรัตรูอยู่นอกเมือง อยากเก่งก็ออกไปเจอของจริงเลย..
ทั้งที่ชายผู้นั้นไม่ได้มีพื้นฐานการต่อสู้ ออกไปก็โดนเล่นงานเลือดตกยางออกไม่เป็นท่า..
กิเลศมันเอาออกยาก ยิ่งถ้าต้องอยู่กับสิ่งเร้าภายนอก ลุงไม่รู้หรอค่ะกรุงเทพสิ่งยั่วยุมันเยอะ
ถ้า จขกท ลองออกมาหาที่สงบๆแล้วค่อยกลับไปเจริญสติออกมาตั้งหลักก่อน..
คุนน้องรู้แต่ว่ายิ่งตนปฏิบัติ คุนน้องยิ่งเจอทุกข์และโดนวิบากกรรมรุมเร้า(คุนน้องเจอทุกข์มาทุกรูปแบบข่มจิตข่มใจกับราคะโทสะนุสัยคุนน้องยังไม่ไหวต้องถอยมาอยู่สงบๆ) จิตใจคนไม่ได้ถูกฝึกมาให้แข็งแกร่งเท่ากัน การจะนิพพานมันไม่ได้อย่างนั้นหรอก ถ้านิพพานง่ายขนาดนั้น พระท่านจะบวชเพื่ออะไร ท่านทำไมต้องไปอยู่ที่สงบๆ เจริญพระกรรมฐานวิปัสนา ถือสันโดษ ถ้าเป็นฆราวาสมันบรรลุอรหันต์ได้จริง ยิ่งคนบรรลุเป็นพระอริยะบุคคล จะโดนวิบากกรรมบีบให้ตนอยากบวช..แต่ก็บวชไม่ได้เพราะมีกรรมอีกนั่นหละ..(จนกว่าจะหมดเหตุปัจจัย รู้ว่ากิจที่ทำสำเร็จแล้ว)
คุนน้องเคยอ่านเรื่องปลากับเต่าค่ะ ..
คุนน้องรู้ว่า คุนน้องตกอยู่ในสถานะเต่ามากกว่า
คุนน้องรู้อะไรในสิ่งที่ปุถุชนยังไม่รู้อีกเยอะแยะ แต้พวกเขาชอบทำตัวเหมือนปลาเลยไม่อยากเล่าไรให้ฟัง คุนน้องรู้เรื่องกรรมของตนด้วยค่ะ แต่บางคนกับไม่รู้กรรมและวิบากกรรมของตน ..
ปล. ให้ จขกท ตัดสินใจเองละกันว่า พร้อมจะเจริญสติปัฏฐานพิจารณา รูปนามโดยมีสิ่งกระทบหูตาจมูกลิ้นกายใจ หรือจะถอยไปตั้งหลัก เจริญสติพิจารณารูปนาม ในสถานที่สงบเสียก่อน กำลังใจย่อมมีความสำคัญกับการปฏิบัติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2014, 15:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
deecup เขียน:
ในกรุงเทพฯและไกล้กรุงเทพฯ มีที่ใหนบ้าง ขอแบบค้างคืน
ขอบคุณล่วงหน้าครับ อนุโมทนาสาธุ :b8: :b8: :b8:

สถานที่ปฏิบัติธรรมของเราทุกคน
ก็ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่แหละครับ
ใกล้มาก มีสติเมื่อไหร่ถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย
ไปมาสะดวก


Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8601


 ข้อมูลส่วนตัว


โดยทั่วไปการกระทำงานใดๆ ก็ต้องมีสถานที่ที่ทำงาน
หรือ การจะเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารใดๆ นั้น ก็ต้องมีพื้นที่เพาะปลูก
เช่น การปลูกข้าวก็ต้องมีพื้นที่นา ปลูกข้าวโพด, มัน ก็ต้องมีพื้นที่ไร่ เป็นต้น

ฉันใดก็ดี การเจริญวิปัสสนาก็ต้องมีที่ทำงาน หรือมีที่เพาะปลูกเหมือนกัน
ภูมิพื้นที่เพาะปลูกให้ วิปัสสนาเจริญขึ้นนั้นเรียกว่า วิปัสสนาภูมิ ๖

ฉะนั้น วิปัสสนาภูมิ ก็หมายถึง พื้นที่กระทำวิปัสสนา หรือกรรมฐานของวิปัสสนา
หรือ อารมณ์ของวิปัสสนา หมายความว่า การเจริญวิปัสสนานั้นต้องกำหนดรู้อยู่ที่วิปัสสนาภูมิ

วิปัสสนาภูมิ ๖ คืออะไร
ขันธ์ ๕. อายตนะ ๑๒. ธาตุ ๑๘. อินทรีย์ ๒๒. สัจจะ ๔. ปฏิจจสมุปบาท.
วิปัสสนาภูมิ ๖ และเมื่อย่อลงก็ได้แก่ "รูปกับนาม" สถานที่ปฏิบัติจริงก็อยู่ที่ กายใจ หรือ ทวาร ๖

เพียงยกสถานที่ทำงานเพื่อปฏิบัติธรรมสักอย่าง เอาแค่"ทวารตา"อย่างเดียวเท่านั้น
๑.ขันธ์ ๒.อายตนะ ๓.ธาตุ ๔.อินทรีย์ ๕. สัจจะ ๖ ปฏิจสมุปบาท ก็มีที่นี่พร้อมอยู่แล้วในที่นี้

ชี้ให้เห็นความจริงกันก็ไม่เข้าใจ ชอบคำสอนแต่ที่อ้อมไปอ้อมมา กี่ภพก็ชาติแล้วที่เป็นอย่างนี้
ที่สอนอ้อมไปอ้อมมาก็เพื่อเอาใจกิเลส เมื่อกิเลสเขาชอบสัทธาก็หลั่งไหล ผู้ปฎิบัติก็เฟื่องฟู

คงจะพอเข้าใจได้บ้างหรือยังว่าสถานที่ปฏิบัติแท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน?
ไม่ว่าคุณจะไปในสำนักใดก็หนีไม่พ้นสำนักทวารทั้ง ๖
จะแสวงหาที่สัปปายะหรือ ? ไม่ว่าคุณจะอยู่ในถ้ำ? ในเมื่อจิตใจมันฟุ้งซ่านก็หาสัปปายะไม่ได้
สัปปายะมันก็ต้องอยู่ที่จิตใจ อย่าไปเพ่งโทษสถานที่ สถานที่ก็คือสถานที่ มันไม่มีจิตวิญญาณ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
คงจะพอเข้าใจได้บ้างหรือยังว่าสถานที่ปฏิบัติแท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน?
ไม่ว่าคุณจะไปในสำนักใดก็หนีไม่พ้นสำนักทวารทั้ง ๖
จะแสวงหาที่สัปปายะหรือ ? ไม่ว่าคุณจะอยู่ในถ้ำ? ในเมื่อจิตใจมันฟุ้งซ่านก็หาสัปปายะไม่ได้
สัปปายะมันก็ต้องอยู่ที่จิตใจ อย่าไปเพ่งโทษสถานที่ สถานที่ก็คือสถานที่ มันไม่มีจิตวิญญาณ

ท่าน คุณลุงหมาน กำลังจะอธิบาย คำตอบแบบ ทางปัญญา ครับ ซึ่งเป็นทาง เจริญ วิปัสนา เป็นธรรมขั้นสูง ที่จะมุ่งไปสู่ ที่สุดแห่งทุกข์ ซึ่งจะต้องฝึกหัด ระลึกรู้ อยู่ บ่อยๆ เนืองๆ ในการดำเนินชีวิตประจำ ก็ กระทำได้ ไม่เลือก สถานที่ ไม่เลือก เวลา คือ ฝึก สติ อยู่ตลอด ใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กำหนดรู้ สภาวะรูป นาม ปัจจุบัน ซึ่งจะได้ปัญญาจริง มุ่งไปสู่ทาง วิมุติ หลุด พ้น และสามารถประหารกิเลสได้จริง ส่วนสถานที่ ก็เป็นสัปปายะ เป็นเรื่อง ต้องใช้ สมาธิ ความเงียบ สิ่งแวดล้อม อันนี้ก็จำเป็น สำหรับผู้ฝึกใหม่ เป็นเรื่องของ สมถะได้ความสงบเหมือนกัน...เป็นเรื่องดี เป็นกุศล แต่ที่สุดแล้ว ก็ต้องยกขึ้นสู่ วิปัสสนา ถ้าต้องการไปสู่ความดับทุกข์ เพราะ สมาธิ ตอนอยู่ในสถานปฏิบัติ 3 วัน 7 วัน มันก็ได้ความสงบ แต่พอ ออกมาใช้ชีวิตประจำ กิเลสมันก็กลับเข้าได้ใหม่... บางท่านไม่มีเวลา เพราะทำงานทั้งปี แต่ก็ตั้งใจมาปฏิบัติ มาบวช 7 วัน ตอนพักร้อนบ้าง แต่มันคงยาก เพราะอีกตั้ง 358 วัน มันก็อยู่กับ กิเลส มันสงบยาก ซึ่งสู้ กับการ เจริญสติ ทุกวัน หรือปฏิบัติ ในชีวิตประจำจะเห็นผลได้ดีกว่า เพราะต่อเนื่อง เช่น เดินจงกลม ใน บ้าน ในสวน นั่งสมาธิในห้องนอน ฯลฯ และมาระลึกรู้ อยู่กับกายใจ อายตนะ ที่มากระทบ ระลึกอยู่กะตนเองที่มันมีเครื่องรับอยู่ 6 ที่
ครับ คำตอบของท่านลุงหมาน เป็นสถานที่ๆ เดียว ที่จะมุ่งออกจากทุกข์ได้ คือประหารกิเลสได้จริง
ขออนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆคุนน้องเห็นด้วยกับลุงหมานนะค่ะ ถ้า จขกท ถามว่าสถานที่ปฏิบัติที่ดีที้สุดอยู่ไหน..
คุนน้องจำได้เคยเเสดงความเห็น เห็นด้วยกับคำถามลักษณะเช่นนี้ของลุง (เรามาระลึกสัญญาเก่ากันดูไหมว่าใครสมาธิดีกว่ากัน)
แต่ทำไมยิ่งคุนน้องปฏิบัติธรรม ทิฐฐิคุนน้องกลับเปลี่ยนไป คุนน้องมองโดยรวมหลายๆด้านและมองที่ตัวบุคคลผู้นั้น ต่อให้อธิบายอย่างไรใครจะเข้าใจ.. แต่สำหรับคุนน้องนี่ปฏิบัติที่ไหนก็ได้(คุนน้องกล้าสาบานว่าไม่เคยปฏิบัติธรรมที่วัด) เพราะคุนน้องมีปัญญาบารมีเป็นทุนเดิมมาหลายชาติแล้วทั้งความเพียรเนื่องด้วยอิทธิบาท4 จะอยู่ที่ไหนก็เอื้อแก่การบรรลุธรรม
เชื่อเถอะค่ะว่าคนเราไม่ได้สร้างเหตุมาเหมือนกัน
สับปายะรวมทั้งกัลยามิตรก็มีความจำเป็นต่อการบรรลุธรรม
น่าจะลองพิสูจน์ดูก่อนนะค่ะ ปกติเวลาเราอยู่บ้านเนี้ย กิเลศมันมักจะชวนเราทำในสิ่งที่เราชอบ คนที่ไม่เคร่งจริงๆย่อมตามใจความชอบของตน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างบางคนตื่นมาที่จะขาดไม่ได้เลย ต้องกินกาแฟ(ก็ลองหยุดกินวันนึงมันจะทรมานไหมร่างกายเวลาเสพจนติดพอหยุดมักจะรู้สึกหงุดหงิด)อย่างตกเย็นมาเราอาจจะมีรายการโปรดที่เราจะต้องดูพลาดไม่ได้(พวกติดละคร)ชอบนอนที่นอนเตียงนุ่มๆ ถ้าต้องนอนเสื่อจะรู้สึกหงุดหงิดไม่สบายไหม แถมที่วัดเลือกกินไม้ได้ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ มันชอบทำเนียนค่ะ เพราะมันก็ทำตามคำบัญชาของขันธ์5 :b32: ไปปฏิบัติที่วัดนี้ มันตัดความสะดวกสบายทางโลก ไอ่หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ มันจะดิ้นกระแด่วๆอยากกลับบ้านขึ้นมาก็เปนได้ค่ะ เพราะใจไม่ปกติ เลยเห็นว่า ปฏิบัติที่วัดมันทรมาน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ตนเองเหลือเกิน :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เพราะคุนน้องมีปัญญาบารมีเป็นทุนเดิมมาหลายชาติแล้วทั้งความเพียรเนื่องด้วยอิทธิบาท4 จะอยู่ที่ไหนก็เอื้อแก่การบรรลุธรรม

บุญ บารมี ของเดิมแต่ละคน มาไม่เหมือนกัน ตัวนี้กระมัง ที่บางคน บรรลุ เร็ว บางคนปฏิบัติยังไงก็ไม่เห็น
ขออนุโมทนา :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 16:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
nongkong เขียน:
เพราะคุนน้องมีปัญญาบารมีเป็นทุนเดิมมาหลายชาติแล้วทั้งความเพียรเนื่องด้วยอิทธิบาท4 จะอยู่ที่ไหนก็เอื้อแก่การบรรลุธรรม

บุญ บารมี ของเดิมแต่ละคน มาไม่เหมือนกัน ตัวนี้กระมัง ที่บางคน บรรลุ เร็ว บางคนปฏิบัติยังไงก็ไม่เห็น
ขออนุโมทนา :b8:

คุนน้องเกิดญานรู้ ชาติก่อนเน้นแต่รักษาศีล เจริญภาวนา ไม่เน้นทำบุญทำทาน ก็ทำบ้างแต่ติดทิฏฐิ..ไม่มีกัลยามิตรเป็นครูบาอาจารย์อบรม เป็นคนมีมานะสังโยชน์ คือคิดว่าตนเก่งมีปัญญาอยู่ไหนก็ปฏิบัติได้ เราปฏิบัติเองเรารู้เองใครที่ไหนจะมารู้เท่าเรา(แต่ความจริงเราไม่ได้รู้เท่าทันกิเลศทุกขณะจิตเวลาเราสวมบทบาทเป็นมารเราก็ไม่รู้ตัว ชาตินี้เลยซวย ได้แต่ปัญญาบารมีจากการเจริญภาวนา เกิดมาเป็นมนุษย์ครบ32ไม่พิการเพราะรักษาศีล ..อัตภาพเป็นอยู่เลยลำบาก ความสะดวกสบายทางโลกแทบจะไม่มี ทรัพย์ก็หาเองด้วยความลำบาก แต่ก็มีคนอุปถัมป์ในด้านปัจจัยสี่ โชคดีกว่าคนอื่นเพราะได้รู้จักพุทธศาสนาตอนอายุยังน้อย(ทั้งที่คนอายุเท่าเราส่วนใหญ่ยังเพลิดเพลินหาความสุขทางโลก แต่คุนน้องเตรียมขนสเบียงไปภพหน้าเต็มทีแบบนี้เรียกว่ามีบารมีเก่าเปนปัจจัยให้สร้างสมบารมีใหม่) แต่ไม่เคยคิดว่าสามารถบรรลุอรหันต์ได้ชาตินี้ แค่ปิดอบายภูมิให้มันได้ชาตินี้ก็ตายตาหลับละ เหอๆ คนจะบรรลุอรหันต์ต้องหมดภาระทางโลกและบวชในพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะพระอรหันต์ ท่านไม่มีกิจทางโลก มีแต่กิจทางพุทธศาสนา อุทิศตนให้พุทธศาสนา และท่านครองเพศพรมจรรย์ ถือสันโดษ ..
นี่คือเหตุผลนึงที่คุนน้องรู้ว่าชาตินี้ยังไงๆก็มีแค่กิจทางโลกที่ต้องบำเพ็ญ :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron