วันเวลาปัจจุบัน 14 ต.ค. 2025, 02:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 15:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม
แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 15:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5393


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าไปสนใจกับนิมิตที่ปรากฏข้างต้นให้ รีบเอาจิตไปกำหนดฐานสมาธิของตนเอง
เช่นถ้ากำหนดพุทโธก็เอาสติไปกำหนดที่พุทโธ ถ้า พอง-ยุบ ก็เอาสติไปกำหนดที่พองยุบ แล้ว รูปนิมิตต่างๆ ทั้งที่จิตเราปรุงแต่งเองหรือไม่ได้ปรุงแต่ง ก็จะหายไปเอง ให้ดูความเกิดดับของรูปนาม

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 19:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกทีที่ผมทำสมาธิจะไม่มีง่วงเหงาหาวนอนจะมีสติตอนทำสมาธิ เรื่องปรุงแต่งก็ไม่ได้ปรุงแต่ง
ทุกทีที่ทำสมาธิไม่ค่อยมีอารมณ์ง่วงครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของการปฏิบัติธรรม คนที่ปฏิบัติธรรมได้ โดยไม่มีสิ่งรบกวน ทำจิตให้เป็นสมาธิได้ง่ายและเร็ว บุคคลนั้นก็โชคดีสามารถปฏิบัติธรรมได้สะดวก ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรเข้ามาขัดขวางในการปฏิบัติ

ส่วนบุคคลที่มีกรรมมามาก บางคนก็ไม่สามารถปฏิบัติธรรม ให้จิตสงบเป็นสมาธิได้ พอเริ่มปฏิบัติไปก็เริ่มมีสิ่งรบกวน ขัดขวาง ไม่ให้จิตสงบเป็นสมาธิ

บางคนก่อนปฏิบัติธรรมก็ไม่เคยสำรวจตัวเอง ในเรื่องของอารมณ์ที่ใช้ไปในแต่ละวัน ที่เผลอสติไม่ได้สำรวมอินทรีย์ เช่นเผลอไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ อารมณ์ที่เป้นลักษณะหักล้างเหล่านี้ มันเป็นของร้อน

เมือ่เราปฏิบัติธรรมจนเป็นนิสัยได้ รักษาความสงบของจิตได้ ในขณะที่ใช้กายเคลื่อนไหววิญญาณเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันได้ หากมีการเผลอไปใช้อารมณ์ไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ เราก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิต อาจจะทำจิตร้อนกายร้อนเหมือนอยู่ไม่เป็นสุข มึนหัวเวียนหัว พอจะมาปฏิบัติธรรมทำสมาธิประจำวัน อารมณ์เหล่านี้ก็ยังค้างคาใจอยู่่ เมื่อเรารีบร้อนทำสมาธิอารมณ์เหล่านี้ก็ออกมารบกวน ขัดขวาง เหมือนเป็นของหนัก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็มีผลให้การปฏิบัติธรรมทำสมาธิของฆราวาสประสบอุุปสรรค ส่วนบุคคลที่ชีวิตประจำวันเรียบง่ายไม่กระทบกับใครมาก สะสมการปฏิบัติธรรมมามาก เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจิตก็เป็นสมาธิได้เร็ว

ส่วนในเรื่องของกรรม บางคนพอจะเริ่มปฏิบัติธรรมก็เหมือนมีกรรมคอยรบกวน คอยขัดขวางเหมือนพยายามดีงไว้ กดไว้ ให้ต้องทุกข์ต่อไป ไม่อาจไปเดินอยู่ในเส้นทางการปฏิบัติธรรมให้อยู่ในเส้นทางนำไปสู่การพ้นทุกข์ได้ เหมือนทางนี้เป็นทางแก้ว พอขึ้นมาเดินก็ลื่นหกล้ม ตีลังกา บาดเจ็บ หรือไม่ก็ลื่นไหลเดินออกนอกเส้นทางไหลออกไปทางอื่น ไม่อาจมาเดินอยู่ในทางแก้วนี้ได้ เมือ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมก็ลองเทียบเคียงดู จะได้คอยเตือนตัวเองไม่ให้ประมาทหลงเดินออกนอกแนวทาง หากเผลอเดินออกนอกแนวทางนี้ก็กลับมาเดินในเส้นทางนี้ เพราะพระอริยะทุกพระองค์ก็ปฏิบัติอยู่ในทางเส้นนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 21:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ..


:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ธ.ค. 2014, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม
แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร

เรียกว่าจิตตั้งอยู่ที่หัว
(ถึงได้รู้ว่ามีพลังงาน)
ถ้าลองจิตตั้งอยู่ที่ลมหายใจ
คุณก็มีเรื่องมาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง
จิตอยู่ที่ขา คุณก็มาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง

คุณจึงศึกษาเรื่องพลังงานมากกว่าจะศึกษาเรื่องจิตหรืออารมษ์
ความหมายคือ อารมณ์จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้ได้พบเห็นพลังงานเป็นใช้ได้
ผมพูดถูกไหมครับ?

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 05:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม
แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร


เวลาจิตเรานิ่งเป็นสมาธิแล้วมีสีดำเข้ามารบกวนนั้น สีดำเป็นเรื่องของกรรม บางครั้งสีงเหล่านี้ก็มารบกวน เราก็ควรทำจิตแผ่เมตตา เรืองของโลกวิญญาณ มันก็มีทั้งวิญญาณร้ายวิญญาณดีเหมือนคนเรา เรื่องของคำว่าวิญญาณนี้เป็นเรื่องที่หลงง่าย (เรื่องทวารทั้งหก เรื่องของอารมณ์ที่เปรียบเหมือนโจรเข้ามาในบ้าน) เหมือนจิตเรามีกรรมอยู่มาก เวลาปฏิบัติธรรมเราก็จะเห็นเป็นสีดำ

ช่วงที่เป็นสีดำก็ลองสังเกตดูเวทนาที่เกิดพร้อมกับสีดำ หากจิตเรายังไม่ตั้งมั่น หรือไม่ละเอีอดพอ มีสิ่งเหล่านี้รบกวน เราก็คงสังเกตไม่ทัน เรียกว่าจิตเราไหวไปแล้ว เสียสมาธิแล้ว หลังออกจากการปฏิบัติธรรมตัองทบทวนหาข้อบกพร่องของตัวเอง พิจารณาหาเหตุผล เพื่อแก้ไขการปฏิบัติธรรมของตัวเอง

หากมีสิ่งพวกนี้รบกวนมากๆ ก็ควรเปลียนกิริยาใหม่ เพราะการปฏิบัติธรรมมีกิริยาให้เราเลือกได้ ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน ด้วยจิตมีสติตั้งมั่นไม่ไหวไปมา ปฏิเสธอารมณ์นึกคิด อารมณ์ที่เกาะความอยากรู้อยากเห็น ลังเลสงสัยออกไปก่อน ทำไปให้ครอบกำหนดเวลาที่ตั้งใจ อะไรจะเกิดก็ไม่ต้องไปใส่ในเมื่อเราเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยงไม่ใช่ของเรา จะปวดจะเมื่อยแค่ไหนก็ทน หากมันจะตายก็ให้มันตายไปถ้ายังไม่ถึงกำหนดเวลาออกจากการปฏิบัติธรรมตามที่ตั้งใจ ให้รักษาไว้เพียงแค่จิตของเราดวงเดียวพอแล้ว ไม่ไปเกาะเกียวกับสิ่งใด ไม่มีอยากได้อยากเป็นอะไรทั้งหมด เหมือนตัดภพตัดชาติไปชั่วขณะ

ในภาวะของฌานนั้น มีแรงกดแรงดันแรงดีงแรงดูด บางครั้งก็เข้าไปนิ่งเฉยไม่รับอะไรเลย บางครั้งหนักจนทนไม่ไหว คนที่ผ่านฌานมาย่อมเข้าใจ ว่ามันเป็นเหมือนพลังงานอย่างหนึ่ง เมื่อเราผ่านเรื่องฌานไปได้ระดับหนึ่ง เราจะค่อยๆ เข้าใจในสิ่งที่ละเอียดมากขึ้น ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ละเอียดตามไปด้วย เหมือนสิ่งที่มีตัวมีตน แต่ไม่ได้สัมผัสด้วยตา เป็นญานทัสนะในการศึกษาเรื่องบุญเรื่องกรรมที่ละเอียดขึ้นไปอีก เหมือนที่พระท่านสวด กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพยากะตาธัมมา

ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 15:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น


ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 15:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น


ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง


ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2014, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


toy1 เขียน:
yoottapong เขียน:
ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น


ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง


ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง

เรื่องแบบนี้เขาเอามาเล่าเฉพาะวงในค่ะ เหมือนเต่าเล่าเรื่อง นก กับ เต่าด้วยกัน เต่าสองตัวจะเข้าใจตรงกัน แต่ลองให้เต่าไปเล่าให้ปลาฟังดิ อิอิมีเถียงกันบ้านแตก :b32: เกิดเป็นปลาน่าสงสารนะค่ะ คนจับปลาไปกิน ในขณะที่คนจับเต่าเอาไปปล่อย เพราะส่วนใหญ่ คนไม่กินเต่า แสดงว่าเกิดเป็นเต่าก็น่าจะมีบุญอยู่ ไม่โดนจับไปกิน :b12:อุปมา เหมือนคนมีสัมผัสพิเศษ สามารถรู้เห็นวิญญานในภพภูมิอื่นได้ เขาคนนั้นจะเกรงกลัวบาปและไม่ประมาท ตั้งตนอยู่ในทาน ศีล ภาวนา แต่คนที่ไม่เคยรู้ไม่เห็นและไม่เชื่อ เขาก็ใช้ชีวิตหลงระเริงในโลกมนุษย์ด้วยความประมาท เพราะฉะนั่นจงภูมิใจ เราได้เห็นเขาเพราะเรามีบุญ :b9:
ปล.มีใครเคยกินเนื้อเต่าไหมค่ะ แต่ปลาน่าจะเคยกินกันทุกคน :b14:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2014, 01:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


yoottapong เขียน:
ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น


ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง


อย่าว่าแต่คุณเลยนะครับ

รีล จิตสำผัส และคนอื่นๆ เรายังไม่เชื่อเลยครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2014, 01:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าคุณคิดจะใช้คำว่าปัจจัตตัง เพื่อบ่งบอกว่าตนเองมีความพิเศษกว่าคนอื่นนั้น

ผมยอมรับครับว่า คุณเก่ง

และผมกำลังพูดว่า

นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างคุณกับเรา

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2014, 20:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 23:47
โพสต์: 298


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนั่งสมาธิเห็นอดีตชาติตนเองเห็นภาพค่อนข้างชัดเป็นภาพสีด้วยเคยเป็น เศรษฐี

รูปร่างอ้วนขาวหัวไม่ล้านผมปรกหน่อยๆมีหนวดหน่อยๆนั่งอยู่ที่ริมทะเล

ด้วยท่านั่งยืนชันเข่า มองไปที่ทะเล

และนิมิตเห็นอดีตกำเนิดเป็นลูกสุนัข กำลังพัฒนาร่างกายในครรภ์แม่สุนัข

ในนิมิตบอกด้วยว่าเป็นตัวผู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2014, 07:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าไม่ขมวด..วกเข้ามาเป็นพระธรรม..นะ...สิ่งที่รู้ที่เห็นก็ไม่มีคุณค่าอะไร
เพราะอะไรนะรี?

ก็เพราะสิ่งที่เห็น...มันไม่มีอยู่จริง...ก็ถ้ามันมีอยู่จริง..มันก็ต้องไม่เปลี่ยนแปลง...ไหนละ..ความเป็นคนรวย..ความเป็นคนมีอำนาจ...แล้วตอนนี้เป็นอะไร...ความรวยความมีอำนาจหลงเหลือมาช่วยอะไรในปัจจุบันนี้..ได้มั้ย?

แต่พระธรรมมีอยู่จริง....เป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่จริง

ถ้าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งรู้ที่ไม่มีอยู่จริง....มาเป็นพระธรรมที่มีอยู่จริง...จึงจะได้ชื่อว่ามีกำไร...การไปรู้นั้นจึงจะมีคุณค่า


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron