วันเวลาปัจจุบัน 08 ต.ค. 2025, 17:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 19:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หนูอยากรู้ว่า ถ้าเกิดเราไปขออะไรต่างๆโดยไม่ได้ตั้งใจเเบบคล้ายๆโรคย้ำคิดย้ำทำอะค่ะ แบบกลัวแล้งไปขออะไรไม่ดีกับตัวเองหรือตัวผู้อื่น ทั้งๆที่ตัวหนูเองไม่ได้ต้องการเลย หรือบางทีก้คิดลบหลู่ ด่าว่าต่างๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ พวก เปรต อสูรกาย สัตว์นรก ในภพภูมิต่างๆเขาจะรู้ไหมค่ะ ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจลบหลู่หรือไม่ได้ต้องการสิ่งที่ขอออกไปโดยไม่ได้ต้องการเลยอะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 20:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ล้วนมีสัญชาตญาณรักชีวิตของตน ไม่อยากให้ใครมาทำร้ายหรือเบียดเบียนให้เดือดร้อน เราเองก็รักชีวิตของเราเหมือนกัน ควรเห็นตัวเองเป็นที่พึ่ง พึ่งด้วยการกระทำดี คิดดี เพราะสิ่งที่เราคิดดีทำดี หรือเรื่องไม่ดีก็ล้วนแล้วถูกบันทึกไว้เหมือนว่าความลับไม่มีในโลก มีผู้บอกให้ว่าเหมือนเครื่องบันทึกวีดิโอถ่ายการกระทำของเราตั้งแต่เกิดจนตาย(เหมือนคำว่าสัญญาจำ) เมื่อต้องตายไปสิ่งที่บันทึกไว้ก็เป็นเหมือนบัญชีกรรมของเรา เราต้องถูกจำแนกไปตามกรรม ที่มีเรื่องภพภูมิที่รองรับเช่น เปรต อสูรกาย สัตว์นรก หรือตกไปอยู่ในภูมิของสัตว์ที่เราพบเห็น เราก็ควรมีสติสอนใจเรา ให้คิดดีแล้วทำดี ไม่ใช่แค่คิดดีแต่เวลาทำกลับทำไม่่ดี คือต้องควบคุมการกระทำของกายวาจาใจเราให้ดี เพราะเราไม่ทำให้ทั้งตัวเองเดือดร้อนผู้อื่นเดือดร้อนเพราะการกระทำของเรา ด้วยเราเดินไปตามทางเยี่ยงอย่างของคนดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


น้องควรจะฝึกให้มีสติอยู่เสมอ ๆนะ เพราะสิ่งที่น้องเป็นนั้นมันเป็นความหลงเพลิน
ไม่รู้ตัว(ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้ว่าทำอะไรแต่หมายถึงทำไปทำไม เพื่ออะไร)
ทางแก้ก็คือพยายามคิดพิจารณาสิ่งที่กำลังจะทำว่าเรากำลังจะทำอะไร ทำแล้วมันจะ
มีผลอย่างไร และทำไปเพื่ออะไร คือควรจะตรึกตรองก่อนทุกครั้งที่จะทำอะไรลงไปน่ะครับ
:b16: :b16: :b16:

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 05:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้หนูไม่ได้คิดลบหลู่ หรือไปขออะไรโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว แต่หนูกังวลว่าสิ่งที่หนูเคยทำมันจะมีผลไรไหม เค้าจะรู้ไหมค้ะว่าหนูไม่ได้ตั้งใจไม่ได้ต้องการสิ่งที่ขอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 07:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดหรือการกระทำของเราล้วนหยั่งลงไปเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก เมื่อเราอยู่เฉยๆ อารมณ์ที่เก็บไว้ทั้งดีและไม่ดีที่จิตใต้สำนึกก็ไหลออกมา หากเป็นอารมณ์ที่ไม่ดีไหลออกมา ก็ทำร้ายเราเกิดอารมณ์วิตกกังวล เหมือนไปยึดเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา อาจมีอาการเหมือนมึนงงศีรษะ หรือคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม เหมือนตัวเองถูกขัง หากมีอาการแบบนี้ก็ควรเปลี่ยนอริยาบท ไปนึกถึงเรืองที่ดี เช่นนึกถึงพระ นึกถึงพระคุณพ่อแม่ แล้วอย่าลืมสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญทำทาน เพื่ออุุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ ผู้ที่เคยอุปถัมภ์ หรือผู้ที่เคยคล้องเวรกรรมกันมาเหมือนเราเดินไปเหยียบมดแมลงทำให้เขาตายโดยไม่ตั้งใจหรือตั้งใจ การทำในสิ่งที่เป็นกุศลก็ให้สังเกตจิตใจของตัวเองเป็นสุขเบาสบายขึ้น หากเราทำบ่อยๆ สะสมเรื่องดีๆ กรรมต่างๆ ก็ค่อยบรรเทาลง แล้วยิ่งเราฝึกปฏิบัติธรรมให้จิตมีสมาธิ ด้วยการเดินจงกรม เรื่องอารมณ์ฟุ้งซ่าน อารมณ์วิตกกังวล อารมณ์ที่เป็นสีดำคืออารมณ์ร้ายก็จะค่อยๆ หลุดออกไปจากใจเรา ซึ่งจะทำให้สภาพจิตใจเราดีขึ้น เหมือนเอาน้ำดีไปไล่น้ำเสีย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 08:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2014, 07:47
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากๆค่ะตอนนี้หนูพยายามนั่งสมาธิอยุ่ แต่หนูยังสงสัยอยุ่ว่ามันจะไปเป็นอะไรไหม หนูเลยลองหาในเหน็ดก้เจอบทความนี้ที่เปนอาการเดียวกับหนูค่ะ " ลูกกลัวเหลือเกินว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะโกรธลูกค่ะ พอครั้นจะกดข่มไม่ให้ ความคิดเกิดก็ทรมานในใจ กดไว้ไม่อยู่ดีนัก" แล้วอาตมาก้ตอบมาว่าอย่าไปห่วงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะโกรธเคือง หรือคิดว่านี่เป็นการจาบจ้วงท่าน ท่านย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า นี่เป็นฝีมือของมาร ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของคุณ ขอให้คุณสบายใจ และทำตามที่อาตมาแนะนำ ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หนูสงสัยว่าถ้าไม่ใช่สิ่งศักสิทธิ์ล่ะค้ะ พวกผีเปรต อสูรกาย สัตว์นรก ในภพภูมิต่างๆเขาจะมีญาณหยั่งรู้ไหม รบกวนช่วยให้คำตอบหนูด้วยนะค้ะ ขอบคุณมากมากค่ะ Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 10:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


pang99 เขียน:
ขอบคุณมากๆค่ะตอนนี้หนูพยายามนั่งสมาธิอยุ่ แต่หนูยังสงสัยอยุ่ว่ามันจะไปเป็นอะไรไหม หนูเลยลองหาในเหน็ดก้เจอบทความนี้ที่เปนอาการเดียวกับหนูค่ะ " ลูกกลัวเหลือเกินว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะโกรธลูกค่ะ พอครั้นจะกดข่มไม่ให้ ความคิดเกิดก็ทรมานในใจ กดไว้ไม่อยู่ดีนัก" แล้วอาตมาก้ตอบมาว่าอย่าไปห่วงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะโกรธเคือง หรือคิดว่านี่เป็นการจาบจ้วงท่าน ท่านย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า นี่เป็นฝีมือของมาร ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของคุณ ขอให้คุณสบายใจ และทำตามที่อาตมาแนะนำ ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หนูสงสัยว่าถ้าไม่ใช่สิ่งศักสิทธิ์ล่ะค้ะ พวกผีเปรต อสูรกาย สัตว์นรก ในภพภูมิต่างๆเขาจะมีญาณหยั่งรู้ไหม รบกวนช่วยให้คำตอบหนูด้วยนะค้ะ ขอบคุณมากมากค่ะ Kiss


ความกลัวก็เป็นอารมณ์อย่างหนี่ง มันทำให้หลอกหลอนจิตใจของเรา เหมือนตัวเราหลอกตัวเราเอง หากจิตใจเราอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ควรนั่งหลับตาทำสมาธิ ควรเดินจงกรม หรือนั่งลืมตา อธิฐานนำกายของพ่อแม่ที่เราอาศัยมาปฏิบัติธรรม กราบพระด้วยมือที่พ่อแม่ให้มาเพื่อสร้างความดี นอบน้อมจิตกราบพระพุทธที่ให้ความรู้ พระธรรมที่ให้เหตุผล พระสงฆ์ที่ให้แนวทาง ขอบารมีท่านคุ้มครองดวงจิตของเราในขณะปฏิบัติธรรม การปฏิบัติธรรมเหมือนพิณสามสาย กายหนึ่ง วาจาหนึ่ง ใจเราอีกหนึ่ง กายนิ่ง วาจาไม่ใช้ไปเบียดเบียนหรือคล้องเกี่ยวกับใคร ก็เหลือแต่ใจเรา ที่ต้องชำระให้สะอาดสงบ เมื่อเรายังทำใจไม่ได้ ใจไม่สงบ อารมณ์รบกวนจิตใจมาก จิตเรายังไม่แข็งพอที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ จึงควรปฏิบัติธรรมด้วยการเดินจงกรม เพื่อให้เกิดสติสัมปชัญญะรู้สึกตัว ส่วนพวกผีเปรต อสูรกาย สัตว์นรก เขาไม่ได้มีญาณหยั่งรู้อะไร เป็นเหมือนของสัตว์ทั้งหลายที่เราพบเห็น มีสัญชาตญาณใช้ชีวิตเหมือนจิตที่ตกไปอาศัยในรูปสัตว์ที่เราเห็น ไปอยู่ในรูปเสือก็ต้องใช้ชีวิตสัญชาตญาณแบบเสือหากินหานอนแบบเสือ ไปเป็นปลาก็ต้องหากินอยู่ในน้ำแบบปลา แล้วพวกผีเปรต อสูรกาย สัตว์นรก ชีวิตเขาเหมือนขาดบุญ ไม่ได้สะสมบุญไว้ ก็อดอยากหิวโหยทุกข์ทรมานหิวกระหายตลอดเวลา เหมือนเราไปอยู่กลางทะเลทรายขาดเสบียงอาหาร ที่พักหลบแดดร้อน

ผู้ที่อยู่สูงจิตท่านเป็นพรหมวิหาร ท่านไม่มีอารมณ์โลภ โกรธ หลง ท่านพ้นไปแล้ว มีแต่เมตตาแนะนำแนวทางให้เราปฏิบัติให้หลุดจากเรื่องราวของทุกข์ บรรเทาทุกข์ด้วยตัวเอง ทุกข์เกิดที่ใจเราก็ไม่ใช่ผู้อื่นทำให้เราหมดทุกข์ไปได้ เราต้องทำใจเราให้หมดทุกข์เอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร