วันเวลาปัจจุบัน 08 ต.ค. 2025, 16:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2014, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5388


 ข้อมูลส่วนตัว


ความที่ธรรมเป็นไปในส่วนแห่งความเสื่อม ย่าม
มีโดยประเภทที่ว่างจากสมาธิอย่างหนึ่ง ๆ, ฉะนั้น พระสารีบุตรจึงได้
ชี้แจงหานภาคิยจตุกะโดยเป็นอันเดียวกัน.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภึ คือ ของ
พระโยคาวจรผู้ได้ปฐมฌาน. บทว่า ลาภึ เป็นทุติยาวิภัตติลงใน
อรรถฉัฏฐีวิภัตติ. ลาโภ ท่านกล่าวเป็น ลาภี เพราะอรรถว่า มีการ
ทำให้แจ้ง.
ศัพท์ว่า สหคต ในบทว่า กามสหคตา นี้ท่านประสงค์เอา
ความว่า อารมณ์, อธิบายว่า มีวัตถุกามและกิเลสกามเป็นอารมณ์.
บทว่า สญฺญามนสิการา - สัญญาและมนสิการ ได้แก่ ชวน-
สัญญา และมนสิการด้วยความคำนึงถึงสัญญานั้น. มนสิการสัมปยุตด้วย
ญาณก็ควร. บทว่า สมุทาจรนฺติ ย่อมปรากฏ คือ ย่อมเป็นไป.
บทว่า ธมฺโม ได้แก่ ธรรม คือ ปฐมฌาน. พระโยคาวจร
เมื่อเสื่อมจากฌาน ชื่อว่า เสื่อมด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ ด้วยกิเลส
กำเริบ ๑ ด้วยอสัปปายกิริยา ๑ ด้วยการไม่ประกอบความเพียร ๑.
เมื่อเสื่อมด้วยกิเลสกำเริบ ชื่อว่า เสื่อมเร็ว. เมื่อเสื่อมด้วยอสัปปายกิริยา
(๑. อยู่ในข้อ ๗๘.)
ด้วยอำนาจการประกอบความเป็นผู้ยินดีในการงาน ความเป็นผู้ยินดีใน
การพูดเหลวไหล ความเป็นผู้ยินดีในการนอน ความเป็นผู้ยินดีในการ
คลุกคลี ชื่อว่า เสื่อมช้า, เมื่อไม่เข้าถึงเนือง ๆ ด้วย ปลิโพธ - ความ
กังวล มีความเจ็บไข้และความวิบัติด้วยปัจจัยเป็นต้น แม้เมื่อเสื่อมด้วย
การไม่ประกอบความเพียร ก็ชื่อว่า เสื่อมช้า. แต่ในนิทเทสนี้ พระ-
สารีบุตรเมื่อจะแสดงเหตุอันมีกำลังเท่านั้น จึงกล่าวถึงกิเลสกำเริบอย่าง
เดียว.
ก็เมื่อพระโยคาวจรเสื่อมจากทุติยฌานเป็นต้น ชื่อว่า เสื่อม
แม้ด้วยความพอใจในฌานชั้นต่ำ ๆ กำเริบ. ถามว่า เป็นอันเสื่อมด้วย
เหตุประมาณเท่าไร ? ตอบว่า เป็นอันเสื่อมด้วยเหตุเท่าที่ไม่สามารถจะ
เข้าถึงได้.
บทว่า ตทนุธมฺมตา - ความพอใจอันเป็นธรรมสมควรแก่ปฐม-
ฌานนั้น คือ ธรรมอันเป็นไปสมควร ชื่อว่า อนุธมฺโม. บทนี้เป็น
ชื่อของธรรม คือ ความพอใจอันเป็นไปเพราะทำฌานให้ยิ่ง. ธรรมอัน
สมควรนั่นแล ชื่อว่า อนุธมฺมตา. ความเป็นธรรมสมควรแก่ฌานนั้น
ชื่อว่า ตทนุธมฺมุตา.
บทว่า สติ คือ พอใจ. บทว่า สนฺติฏฺฐติ คือ ตั้งอยู่. ท่าน
อธิบายว่า ความพอใจอันเป็นไปตามปฐมฌานนั้น ยังเป็นไปอยู่.
บทว่า อวิตกฺกสหคตา - ไม่สหรคตด้วยวิตก ได้แก่ มีทุติย-
ฌานเป็นอารมณ์. บทนั้นท่านกล่าวว่า อวิตกฺกํ เพราะในทุติยฌานนี้
ไม่มีวิตก.
บทว่า นิพฺพิทาสหคตา - สหรคตด้วยนิพพิทา ได้แก่ มีวิปัสสนา
เป็นอารมณ์. วิปัสสนานั้นท่านกล่าวว่า นิพฺพิทา เพราะเบื่อหน่ายใน
สังขารทั้งหลาย, สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า นิพฺพินฺทํ
วิรชฺชติ๑ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด.
บทว่า วิราคูปสญฺหิตา ประกอบด้วย วิราคะ ได้แก่ วิปัสสนา
ประกอบด้วยอริยมรรค. วิปัสสนานั้นถึงยอดแล้ว ให้บรรลุความตั้งขึ้น
ของมรรค. เพราะฉะนั้น สัญญาและมนสิการมีวิปัสสนาเป็นอารมณ์
ท่านจึงกล่าวว่า วิราคูปสญฺหิตา - ประกอบด้วยวิราคะ, สมดังที่พระผู้-
มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า วิราคา วิมุจฺจติ๒ เพราะคลายความกำหนัด
จิตย่อมหลุดพ้น.
บทว่า วิตกฺกสหคตา - สหรคตด้วยวิตก ได้แก่ มีปฐมฌาน
เป็นอารมณ์ ด้วยอำนาจวิตก.
บทว่า อุเปกฺขาสุขสหคตา - สหรคตด้วยอุเบกขาและสุข ได้
แก่ มีตติยฌานเป็นอารมณ์ ด้วยอำนาจอุเบกขา คือ เป็นกลางในฌาน
(๑. วิ. มหา. ๔/๒๓. ๒. สํ. ขนฺธ. ๑๗/๑๐๙.)
นั้นและด้วยสุขเวทนา.
บทว่า ปีติสุขสหคตา - สหรคตด้วยปีติและสุข ได้แก่ มีทุติย-
ฌานเป็นอารมณ์ ด้วยอำนาจปีติและสุขเวทนา.
บทว่า อทุกฺขมสุขสหคตา - สหรคตด้วยอทุกขมสุข ได้แก่
มีจตุตถฌานเป็นอารมณ์ ด้วยอำนาจอุเบกขาเวทนา. เวทนานั้นไม่มี
ทุกข์ ไม่มีสุข เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า อทุกฺขมสุขเวทนา. ม
อักษรในบทนี้ท่านกล่าวด้วยบทสนธิ.
บทว่า รูปสหคตา - สหรคตด้วยรูป ได้แก่ แม้เมื่อมีธรรม
เป็นไปในส่วนแห่งความเสื่อม ธรรมเป็นไปในส่วนแห่งความตั้งอยู่
และธรรมเป็นไปในส่วนแห่งการชำแรกกิเลสของพระโยคาวจรผู้ตั้งอยู่
ในเนวสัญญานาสัญญายตนะ เพราะมีรูปฌานเป็นอารมณ์ ท่านก็มิได้
ชี้แจงถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ เพราะไม่มีธรรมเป็นไปในส่วนแห่ง
ความวิเศษ. ท่านกล่าวว่า สมาธิอันเป็นโลกิยะนี้แม้ทั้งหมดเป็นไปใน
ส่วนแห่งความเสื่อมแก่พระโยคีผู้มีอินทรีย์อย่างอ่อน มีปกติอยู่ด้วยความ
ประมาท, เป็นไปในส่วนแห่งความตั้งอยู่แก่พระโยคีผู้มีอินทรีย์อย่าง
อ่อน มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท. เป็นไปในส่วนแห่งความพิเศษ
แก่พระโยคีผู้มีอินทรีย์แก่กล้าอันมีตัณหาเป็นจริต, เป็นไปในส่วนแห่ง
การชำแรกกิเลสแก่พระโยคีผู้มีอินทรีย์แก่กล้ามีทิฏฐิเป็นจริต.


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร