วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 07:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2014, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


พูดมากไม่ทำ กับ พูดน้อยทำ

คนที่พูดถ้อยคำมีประโยขน์ แม้มาก
แต่เป็นผู้ประมาท ไม่ทำตามถ้อยคำนั้น
ผู้นั้นย่อมไม่ได้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ
เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคให้ผู้อื่น แต่ไม่มีส่วนแห่งน้ำนมโคนั้น
คนที่พูดถ้อยคำมีประโยชน์ แม้น้อย แต่ประพฤติตามธรรม
ละราคะ โทสะ และโมหะ ได้รู้อยู่โดยชอบ มีจิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี ไม่ถือมั่นในโลกนี้
ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ

......ธรรมบท ๒๕/๑๗

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2014, 20:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สำคัญ...ตรงรู้ชอบนี้แหละ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 06:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเป็นผู้ปฏิบัติ ควรต้องเป็นผู้ที่ "รู้รอบ" เพื่อยังผลให้เกิดขึ้น
เมื่อผลเกิดขึ้นแล้ว จะยังตนให้เป็นผู้ "รอบรู้"

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 07:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อพระองค์ตรัสว่า..." รู้โดยชอบ " ก็แสดงว่า...มี...รู้โดยไม่ชอบ...อีกด้วย

หากไม่รู้ว่าการ "รู้โดยชอบ"...นั้นเป็นอย่างไร ( ซึ่งก็น่าจะไม่รู้กันทั้งหมด....เพราะรู้แล้วก็คงหมดทุกข์กันไปแล้ว)...ก็ควรจะรู้ว่า...รู้โดยไม่ชอบ...นั้นเป็นอย่างไร..(.ซึ่งก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า..เพราะกำลังเป็นกันอยู่ทุกคน)

รู้โดยไม่ชอบ.....นั้นเป็นอย่างไร?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า "รู้รอบ" นั้นหมายถึง รู้รอบ ตามทวารต่างๆ ที่เป็นปัจจุบัน
เช่น อารมณ์ใดมากระทบกับทวารใด ก็รู้ตามทวารนั้นๆ ไม่ไปรู้ถึง อดีต อนาคต

คำว่า "รอบรู้" นั้นหมายถึง รู้ทั่วถึงที่เป็นไปได้ทั้ง ๓ กาล ที่ป็น ปัจจุบัน อดีต อนาคต
อันมีพระพุทธเจ้า เป็นต้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 11:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้โดยชอบ .....ผมเอามาจากที่ลุงหมานโพสต์...นะครับ

ลุงหมาน เขียน:
พูดมากไม่ทำ กับ พูดน้อยทำ

คนที่พูดถ้อยคำมีประโยขน์ แม้มาก
แต่เป็นผู้ประมาท ไม่ทำตามถ้อยคำนั้น
ผู้นั้นย่อมไม่ได้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ
เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคให้ผู้อื่น แต่ไม่มีส่วนแห่งน้ำนมโคนั้น
คนที่พูดถ้อยคำมีประโยชน์ แม้น้อย แต่ประพฤติตามธรรม
ละราคะ โทสะ และโมหะ ได้... .รู้อยู่โดยชอบ มีจิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี ไม่ถือมั่นในโลกนี้
ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ

......ธรรมบท ๒๕/๑๗


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 19:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




buddha2.gif
buddha2.gif [ 140.37 KiB | เปิดดู 3676 ครั้ง ]
:b8:
ทำได้ด้วย พูดมากด้วย มีคุณอนันต์ต่อชาวโลก
tongue tongue tongue
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 20:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้รู้.....จะรู้กาล...รู้เทศะ...ฯลฯ...เพื่อประโยชน์....ไม่ไร้แระโยชน์

ผู้หลงเข้าข้างตัว....ก็หลงทำไปเรื่อย..คิดว่าเป็นประโยชน์...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 21:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16:
โลกย์ ย่อมพยายามไปตั้งกฏเกณฑ์ให้กับธรรม ว่าต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ อันนี้ใช่ อันนั้นไม่ใช่
แต่ในที่สุดก็จะเข้าถึงความจริงว่า ไม่มีกฏเกณฑ์อะไรที่แน่นอนถ้ากำหนดโดยโลกย์

แต่กฏเกณฑ์ของธรรม หรือธรรมชาตินั้น ตายตัวจริงๆ ที่เขาเรียกว่า "สัจจะ" อันมีความหมายว่าไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอื่น อาจจะอยู่เหนือกฏของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาด้วยซ้ำไป

เพราะฉนั้นคำพูดเปรยๆของคน ดูเหมือนใช่ แต่ก็อาจจะ ...."มันไม่แน่"......อย่างที่หลวงปู่ชาท่านเคยสอนเรื่อง "มันไม่แน่" ใครเคยอ่าน พบที่ไหน
ก้อปมาแปะให้อ่านกันอีกทีจะมีบุญนะครับ
:b12: :b12: :b12:
ขออภัยลุงหมานนะครับที่เอาสีสันมาป้ายกระทู้ของท่าน (ความเหล่านี้ตอบคุณกบครับ)
:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2014, 22:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ...ถ้ารอบคอบ..และรอบรู้สักหน่อย....จะรู้ได้ว่าผมหมายถึงอะไร..แม้ผมจะเขียนไม่หมดก็ตาม..

อ่านเอานะ....เต็มๆ...แปลความเอาเองละกัน

อ้างคำพูด:
สัปปุริสธรรม 7 ประกอบด้วย
ธัมมัญญุตา เป็นผู้รู้จักเหตุ
อัตถัญญุตา เป็นผู้รู้จักผล
อัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักตน
มัตตัญญุตา เป็นผู้รู้จักประมาณ
กาลัญญุตา เป็นผู้รู้จักกาล
ปริสัญญุตา เป็นผู้รู้จักบริษัท
ปุคคลัญญุตา หรือ ปุคคลปโรปรัญญุตา เป็นผู้รู้จักบุคคล
........
ภิกษุผู้ประกอบด้วยสัปปุริสธรรม 7 ข้อนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยสังฆคุณเป็นผู้ควรแก่ของคำนับ คือ เป็นผู้ควรรับของที่เขานำมาถวาย

ทีนี้......แน่นอนมั้ย..อโศกะ...ธรรมะพระพุทธเจ้าแน่นอนมั้ย?

ธรรมะ..ความจริง....ก็จริงอยู่...แต่จะเป็นประโยชน์(แก่.......)...ไม่เป็นโทษ....ก่อนจะพูดก็ต้องดูตาม้าตาเรือ...ให้ครบทั้ง 7 ประการ...นี้....

หาไม่แล้ว....มันก็เป็นความอยากพูด...เป็นกิเลสของผู้พูดอยู่นั้นเอง...ผู้มีพฤติกรรมเช่นว่านี้....ไม่ใช่พฤติกรรมของอริยะ....เป้นพฤติกรรมของปุถุชนชาวบ้าน...

ความข้อนี้...อโศกะจะเข้าใจมั้ยหนอ!!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2014, 21:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
กบสำคัญว่า คนพูดมากแต่ปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่ ไม่มี อย่างนั้นหรือครับ
:b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2014, 22:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เห็นมีใครบอกว่า..พูดมากแสดงว่าทำไม่ได้...เลยนะอโศกะ

ดูให้ดี.....ที่ลุงหมานยกมา...
ลุงหมาน เขียน:
พูดมากไม่ทำ กับ พูดน้อยทำ

คนที่พูดถ้อยคำมีประโยขน์ แม้มาก
แต่เป็นผู้ประมาท ไม่ทำตามถ้อยคำนั้น
ผู้นั้นย่อมไม่ได้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ
เหมือนคนเลี้ยงโค นับโคให้ผู้อื่น แต่ไม่มีส่วนแห่งน้ำนมโคนั้น
คนที่พูดถ้อยคำมีประโยชน์ แม้น้อย แต่ประพฤติตามธรรม
ละราคะ โทสะ และโมหะ ได้รู้อยู่โดยชอบ มีจิตหลุดพ้นแล้วด้วยดี ไม่ถือมั่นในโลกนี้
ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งคุณธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ

......ธรรมบท ๒๕/๑๗


ผู้ประมาท.....คือผู้ที่ยังมีคติไม่แน่นอน...(ยังไม่ถึงความเป็นอริยะบุคคล)

ทีนี้...ผู้ถึงความเป้นอริยะบุคคล...ก็จะมีสัปปุริสธรรม7ไปในตัว(ปุถุชนก็มีได้)...ดังนั้นการจะแสดงอะไรของท่านผู้ไม่ประมาท...จะคำนึงถึงประโยชน์เป็นสำคัญ..(พูดเพ้อเจ้อผิดศีลข้อ4 ท่านทำไม่ได้..เป็นธรรมชาติของอริยะ)

อาการพูดไม่เลือกที่...เลือกเวลา...เลือกบุคคล....จึงเป็นนิสัยของปุถุชนคนประมาท...100 % ก็ด้วยประการละฉะนี้แล..อโศกะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2014, 08:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




buddha2.gif
buddha2.gif [ 140.37 KiB | เปิดดู 3567 ครั้ง ]
:b12: :b12: :b12:

อ้างคำพูด:
ทำได้ด้วย พูดมากด้วย มีคุณอนันต์ต่อชาวโลก

:b11:
กบลองย้อนกลับมาพิจารณาดูให้ดีๆ

คำพูดข้างต้นนี้ มีอะไรที่ขัดกับสัปปุริสธรรม 7


s006
เป็นกบเสียเองหรือเปล่าที่ทะลุกลางปล้องขึ้นมา ด้วยอกุศลจิต ที่คิดว่าเป็นกุศล
:b34:
ผมลิ้งค์ภาพของท่านผู้ตรัสมากเพราะทำได้ด้วยมาประกอบยังไม่ฉุกคิดอีกหรือ กบ
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2014, 15:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มันผิด...ตรง...พูดมาก..มีคุณอนันต์..นี้แหละ...
อโศกะ....เป็นอรหันต์แล้ว...พูดอย่าหยุดนะ....จะได้มีคุณอนันต์..

:b32: :b32:

เขาให้พูด...ให้มีประโยบช์...จะพูดมาก...พูดน้อย...จะใช้การกระทำแทนคำพูดก็ได้....ต้องดูกาละ..เทศะ...หรือมีสัปปุริสธรรม7 นั้นเอง....จึงจะเกิดประโยชน์....ไม่มีโทษ...

อิอิ.. :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2014, 17:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
มันผิด...ตรง...พูดมาก..มีคุณอนันต์..นี้แหละ...
อโศกะ....เป็นอรหันต์แล้ว...พูดอย่าหยุดนะ....จะได้มีคุณอนันต์..

:b32: :b32:

เขาให้พูด...ให้มีประโยบช์...จะพูดมาก...พูดน้อย...จะใช้การกระทำแทนคำพูดก็ได้....ต้องดูกาละ..เทศะ...หรือมีสัปปุริสธรรม7 นั้นเอง....จึงจะเกิดประโยชน์....ไม่มีโทษ...

อิอิ.. :b9: :b9:

:b16: :b16:
กบติดยึดในสัปปุริสธํรรม 7 นี่เองจึงขัดใจ

พูดมาก พูดน้อย ก็เป็นได้ทั้งผิดและถูก มันขึ้นแล้วอยู่กับสถานการณ์ ไม่มีกฏเกณฑ์ที่แน่นอนอะไรมาบังคับ
ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ จึงจะเรียกว่าเป็นไปตามธรรม
:b38:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร