วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 15:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้ภิกษุ จับชายสังฆาฏิแล้วพึงเป็นผู้ติดตาม

ไปข้างหลัง ๆ เดินไปตามรอยเท้าของเราอยู่ไซร้ แต่ภิกษุนั้นเป็นผู้มีอภิชฌาเป็น

ปกติ มีความกำหนัดแรงกล้าในกามทั้งหลาย มีจิตพยาบาท มีความดำริ

แห่งใจชั่วร้าย มีสติหลงลืม ไม่รู้สึกตัว มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตหมุนไปผิด

ไม่สำรวมอินทรีย์ โดยที่แท้ ภิกษุนั้นอยู่ห่างไกลเราทีเดียว และเราก็อยู่ห่างไกล

ภิกษุนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะภิกษุนั้นย่อมไม่เห็นธรรม เมื่อไม่เห็นธรรม

ย่อมเชื่อว่าไม่เห็นเรา ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้ภิกษุนั้นพึงอยู่ในที่ประมาณ ๑๐๐

โยชน์ไซร้ แต่ภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่มีอภิชฌา ไม่มีความกำหนัดอันแรงกล้าใน

กามทั้งหลาย ไม่มีจิตพยาบาท ไม่มีความดำริแห่งใจชั่วร้าย มีสติมั่น รู้สึกตัว

มีจิตตั้งมั่น มีจิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว สำรวมอินทรีย์โดยที่แท้ ภิกษุนั้นอยู่

ใกล้ชิดเราทีเดียว และเราก็อยู่ใกล้ชิดภิกษุนั้น ข้อนั้น เพราะเหตุไร ?

เพราะภิกษุนั้น ย่อมเห็นธรรม เมื่อเห็นธรรมย่อมชื่อว่าเห็นเรา.
บุคคลผู้มักมาก มีความคับแค้น ยังเป็นไปตามตัณหา
ดับความเร่าร้อนไม่ได้ แม้หากว่าพึงเป็นผู้ติดตามพระสัมมาสัม-
พุทธเจ้าผู้หาความหวั่นไหวมิได้ ผู้ดับความเร่าร้อนได้แล้วไซร้
บุคคลนั้น ผู้กำหนัดยินดี ชื่อว่าพึงเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ปราศจากความกำหนัดยินดี เพียงในที่ไกลเท่านั้น
ส่วนบุคคลใด เป็นบัณฑิต รู้ธรรมด้วยปัญญา เป็นเครื่องรู้
ธรรมอันยิ่ง เป็นผู้หาความหวั่นไหวมิได้ สงบระงับ
เปรียบเหมือนห้วงน้ำที่ไม่มีลม ฉะนั้น บุคคลนั้น ผู้หาความหวั่น
ไหวมิได้ ทั้งดับความเร่าร้อนได้แล้ว ผู้ไม่กำหนัดยินดี
ชื่อว่าพึงเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้หาความหวั่นไหวมิได้
ทั้งดับความเร่าร้อนได้แล้ว ปราศจากความกำหนัดยินดี ในที่ใกล้แท้.



บทว่า สงฺฆาฏิกณฺเณ ได้แก่ ที่ชายจีวร. บทว่า คเหตฺวา ความว่าเกาะ.

บทว่า อนุพนฺโธ อสฺส ความว่า พึงติดตามไป. มีพุทธาธิบายว่า ดูกร ภิกษุ

ทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ เป็นเสมือนใช้มือของตนเกาะชายสุคต

มหาจีวร ที่เราตถาคตห่มแล้ว ติดตามเราตถาคตไป คือ เป็นผู้อยู่ใกล้ชิดเรา

ตถาคตอย่างนี้.
บทว่า ปาเท ปาทํ นิกฺขิปนฺโต ความว่า ทอดเท้าของตนลงที่รอย

เท้าของเราตถาคต ผู้กำลังเดินไป คือในที่ ๆ เราตถาคตวางเท้าลง ถัดจากการ

ยกเท้าขึ้นแล้ว. ด้วยคำทั้ง ๒ นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ผิว่า เธอจะ

ไม่ละทิ้ง (ไม่ห่างเหิน) ที่ยืน ที่เดิน (ของเราตถาคต) อยู่ใกล้เราตถาคตตลอด

ทุกเวลาไซร้.
บทว่า โส อารกาว มยฺหํ อหญฺจ ตสฺส ความว่า ภิกษุนั้น เมื่อไม่บำเพ็ญ

ปฏิปทาที่เราตถาคตกล่าวแล้วให้บริบูรณ์ ก็ชื่อว่า เป็นผู้อยู่ไกลเราตถาคตทีเดียว

เราตถาคต ก็ชื่อว่า อยู่ไกลเธอเหมือนกัน. ด้วยคำนี้ พระองค์ทรงแสดงว่า

การเห็นพระตถาคตเจ้า ด้วยมังสจักษุก็ดี การอยู่รวมกันทางรูปกาย ก็ดี

ไม่ใช่เหตุ (ของการอยู่ใกล้) แต่การเห็นด้วยญาณจักษุเท่านั้น และการรวมกัน

ด้วยธรรมกายต่างหาก เป็นประมาณ (ในเรื่องนี้). ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า

จึงได้ตรัสไว้ว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เพราะว่าภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม เมื่อไม่เห็นธรรม

ก็ไม่เห็นเราตถาคต. ในคำว่า ธมฺมํ นปสฺสติ นั้น มีอธิบายว่า โลกุตรธรรม ๙

อย่าง ชื่อว่า ธรรม ก็เธอไม่อาจจะเห็นโลกุตรธรรมนั้นได้ ด้วยจิตที่ถูกอภิชฌาเป็นต้น

ประทุษร้าย เพราะไม่เห็นธรรมนั้น เธอจึงชื่อว่า ไม่เห็นธรรมกาย สมจริงตามที่พระผู้

มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนวักกลิ เธอจะมีประโยชน์อะไร ด้วยกายอันเปื่อย

เน่านี้ที่เธอได้เห็นแล้ว ดูกร วักกลิ ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้น ก็เห็นเราตถาคต

ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้น ก็เห็นธรรม ดังนี้ และว่า เราตถาคตเป็นพระธรรม เรา

ตถาคตเป็นพระพรหมดังนี้ และว่า เป็นธรรมกายบ้าง เป็นพรหมกายบ้าง ดังนี้

เป็นต้น.
บทว่า โยชนสเต ความว่า ในพื้นที่มีประมาณร้อยโยชน์ อธิบายว่า

ในที่มีร้อยโยชน์เป็นที่สุด. คำที่เหลือ พึงทราบ โดยบรรยายที่ตรงกันข้ามจาก

ที่กล่าวมาแล้ว. และพึงทราบความที่ท่านเป็นผู้ไม่มีการเพ็งเล็งเป็นปกติ

ด้วยสามารถแห่งการบรรลุอริยมรรค.
พึงทราบวินิจฉัยคาถาทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ บทว่า มหิจฺโฉ ความว่า

ชื่อว่า ผู้มีความมักมาก เพราะมีความกำหนัดแรงกล้าในกามทั้งหลาย. บทว่า

วิฆาตวา ความว่า ชื่อว่าผู้มีความคับแค้น เพราะมีความดำริด้วยใจ ที่ถูกความ

อยากประทุษร้ายแล้ว เพราะเป็นผู้มีความมักมาก ด้วยอำนาจแห่งการอาฆาต

ในสัตว์ทั้งหลาย และเพราะไม่ได้ตามที่ต้องการ. บทว่า เอชานุโค ความว่า

เมื่อติดตามตัณหานั้นไป เหมือนเป็นทาสของตัณหา กล่าวคือความหวั่นไหว

ยังไม่ดับ เพราะถูกความกระวนกระวายเกิดแต่กิเลส มีราคะเป็นต้นครอบงำแล้ว

คือติดอยู่แล้ว ด้วยความจำนงอารมณ์มีรูปเป็นต้น. บทว่า ปสฺสยาวญฺจ อารกา

มีอธิบายว่า ผู้มีความมักมาก ถึงอยู่ แม้ใกล้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ไม่หวั่นไหว

ผู้ดับ (ทุกข์) ได้แล้ว ผู้ปราศจากความกำหนัดแล้วตามอำนาจแห่งโอกาส

แต่ยังเป็นผู้คับแค้น ติดตามกิเลสชื่อตัณหาไป ยังดับทุกข์ไม่ได้ ยังกำหนัดคือ

ยังเป็นพาลปุถุชนตามสภาวธรรม ชื่อว่า เห็นพระองค์ได้ตลอดเวลาที่ประทับ

อยู่ในที่ไกล แม้การจะกราบทูล ก็ไม่ใช่ทำได้ง่าย. สมจริงตามที่ตรัสไว้ว่า
นักปราชญ์กล่าวว่า ท้องฟ้ากับแผ่นดินอยู่ไกลกัน ฝั่งมหาสมุทร

ก็อยู่ไกลกัน เหมือนกัน แต่ท่านกล่าวว่า ธรรมของสัตบุรุษกับธรรมของ

อสัตบุรุษไกลกัน ยิ่งกว่านั้น.
บทว่า ธมฺมมภิญฺญาย ความว่า เพราะรู้ยิ่ง คือเข้าใจได้แก่ทราบ

สัจจธรรมทั้งสี่ในตอนต้น ด้วยญาตปริญญา และตีรณปริญญาตามสมควร.

บทว่า ธมฺมมญฺญาย ความว่า รู้ธรรมนั้นนั่นแหละ ในตอนต่อมาด้วยมรรคญาณ

ตามขอบเขต ด้วยอำนาจปริญญาเป็นต้น. บทว่า ปณฺฑิโต ได้แก่ผู้เป็นบัณฑิต

เพราะเป็นพหูสูตในทางปฏิเวธ. บทว่า รหโทว นิวาเต จ ความว่า เป็นผู้

ไม่หวั่นไหว คือเว้น จากการหวั่นไหว เพราะกิเลสเงียบสงบอยู่เหมือนห้วงน้ำในที่

สงัดลมฉะนั้น. (อธิบายว่า) ห้วงน้ำนั้นในที่สงัดลม ไม่ถูก ลมพัด จะเรียบราบอยู่

(ไม่มีคลื่น) ฉันใด แม้ภิกษุนี้ผู้มีกิเลสสงบแล้วเว้นจากความหวั่นไหว เพราะ

กิเลสจะสงบอยู่ด้วยสมาธิที่สัมปยุตด้วยอรหัตผลในที่ทุกแห่ง คือ จะเป็นผู้มีสภาพ

สงบทีเดียวตลอดกาลทุกเมื่อ. บทว่า อเนโช ความว่า ภิกษุนั้นเป็นพระอรหันต์

มีสภาพไม่หวั่นไหวเป็นต้น โดยโอกาสถึงจะอยู่ไกลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีสภาพ

ไม่หวั่นไหว ก็เหมือนกับอยู่ไม่ไกลคือในที่ใกล้นั่งเอง ตามสภาวธรรม ดังนี้.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อนุโทนาครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร