วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 22:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 14:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บางคน....ได้สมยวิมุต..จิตสว่างโผล้ง...เกิดญาณรู้แปลกๆ....รู้ใจคนอื่นบ้างละ...รู้อดีตชาติของตนและคนอื่นบ้างละ....รู้เห็นเทวดาอินทร์พรหม์....(ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่รู้...มันจริงหรือไม่จริง..นะครับ...ในชั้นนี้เพียงต้องการบอกว่า...องค์ธรรมด้านอื่นๆโดยเฉพาะพรหมวิหาร..มีความจำเป็นที่จะได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน)

ก็อดไม่ได้ที่จะเล่าบอกคนอื่น.....หรือ..อดไม่ได้ที่จะแสดงความสามารถแปลกๆนี้ให้ผู้อื่นได้รู้....บางคนเลยเถิดไปเป็นคว่มฟุ้งซ่าน..บางคนกลายเป็นว่าต้องเข้าโรงพยาบาล...ไป

ทั้งนี้...เพราะ..มุทิตาไม่มา..อุเบกขาไม่เกิด

ทำอย่างไร....เราถึงจะมี..หรือ..สร้างพรหมวิหารให้เกิดกับจิตใจเราได้?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
บางคน....ได้สมยวิมุต..จิตสว่างโผล้ง...เกิดญาณรู้แปลกๆ....รู้ใจคนอื่นบ้างละ...รู้อดีตชาติของตนและคนอื่นบ้างละ....รู้เห็นเทวดาอินทร์พรหม์....(ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่รู้...มันจริงหรือไม่จริง..นะครับ...ในชั้นนี้เพียงต้องการบอกว่า...องค์ธรรมด้านอื่นๆโดยเฉพาะพรหมวิหาร..มีความจำเป็นที่จะได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน)

ก็อดไม่ได้ที่จะเล่าบอกคนอื่น.....หรือ..อดไม่ได้ที่จะแสดงความสามารถแปลกๆนี้ให้ผู้อื่นได้รู้....บางคนเลยเถิดไปเป็นคว่มฟุ้งซ่าน..บางคนกลายเป็นว่าต้องเข้าโรงพยาบาล...ไป

ทั้งนี้...เพราะ..มุทิตาไม่มา..อุเบกขาไม่เกิด

ทำอย่างไร....เราถึงจะมี..หรือ..สร้างพรหมวิหารให้เกิดกับจิตใจเราได้?

มีบุคคล อยู่สองคน
คือ คนเล่า และคนฟัง

อืมม์ คุณกบ คนเล่า ก็เล่าไป
แต่ถ้า คนฟัง มุฒิตาไม่มี อุเบกขาไม่เกิด คนฟังก็ต้องฝึก
-ให้รู้จักความพลอยยินดีกับความสำเร็จ ความดีใจด้วย เมื่อคนอื่นได้ดี
-ให้รู้จักการวางใจในกรรม ว่าสิ่งๆ นั้นล้วนเป็นกรรมของเขา เราจะไปแปรเปลี่ยนอะไรเขาได้ถ้าเขาไม่ทำเอาเอง

อย่าเก็บเอาสิ่งที่เขาเล่า มา มโนใส่ว่าเป็นตัวเรา ถ้ามโนใส่ว่าเรามีส่วนในนั้นล่ะก็ งานเข้าแน่

แล้วถ้าสมมุติว่า
ผู้เล่า เล่าเพื่อขอความเห็นจากผู้ฟัง นี่ก็เป็นเหตุการณ์อีกกรณีหนึ่ง

ซึ่งผมอนุมานเอาว่า
สิ่งที่คุณกบยกมา คือเป็นการเล่าเฉยๆ ไว้ก่อนครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2d0bee1325dffbe41415a3f55fdbf5f2.jpg
2d0bee1325dffbe41415a3f55fdbf5f2.jpg [ 17.8 KiB | เปิดดู 3758 ครั้ง ]
เมื่อพูดถึงพรหมวิหาร

ควรรู้ภูมิหลังว่า ในศาสนาพราหมณ์เดิมถือว่า พระพรหมเป็นผู้สร้างโลก และสร้างสังคมมนุษย์ แล้วก็ทำให้โลกและสังคมมนุษย์นี้ดำรงอยู่ได้ แต่พระพุทธศาสนาปฏิเสธลัทธินั้น ท่านไม่สอนให้นับถือเรื่องพระพรหมสร้างโลก แต่บอกว่ามนุษย์ทุกคนนี่แหละ มีหน้าที่สร้างโลก ช่วยกันผดุงโลก อภิบาลโลก


ถ้ามนุษย์ประพฤติดี คือมีธรรมชุดนี้ ได้แก่มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้ว เราก็เป็นพรหมกันทุกคน แล้วเราก็เป็นผู้สร้างสรรค์โลก บำรุงรักษาอภิบาลโลกให้อยู่ดีได้ โดยไม่ต้องไปรอพระพรหม


แต่ในทางตรงข้าม ถ้าเรามัวรอพระพรหมอยู่ และทำอะไรๆโดยไม่รับผิดชอบ เราก็ทำลายโลก และทำลายสังคมนี้ แล้วก็ได้แต่รอพระพรหมมาสร้างโลกให้ใหม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ไหว โลกแย่แน่


พระพุทธเจ้าไม่ให้เรารอพระพรหม แต่ให้มนุษย์ทุกคนเป็นพรหมเอง ด้วยการมีพรหมวิหาร เพราะฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่จะต้องมีพรหมวิหาร คือ มีธรรมที่จะทำให้มีจิตใจของพระพรหม หรือมีจิตใจกว้างขวาง มีคุณธรรมดียิ่งใหญ่ดุจพระพรหมนั่นเอง


(อธิบายไว้ในหนังสือ ผู้พิพากษาตั้งตุลาให้สังคมสมในดุล แต่ยาว เซิฟๆแค่นี้ก่อน)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 22:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องราวในอินเดียยุคนั้น เกี่ยวกับเทพ เกี่ยวกับพรหม เกี่ยวกับพระเวท
ไม่ใช่เรื่องที่คนทุกชนชั้นในประเทศนั้นจะเข้าใจตรงกันทั้งหมด
พระเวทเป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง และเรียนสอนกันเฉพาะวรรณะที่จัดว่าเป็นคนชั้นสูง
เป็นวิชาชั้นสูง สำหรับผู้คนในยุคนั้น
และก็ยังจัดว่าเป็นวิชาชั้นสูง สำหรับผู้ในยุคนี้
ที่แม้แต่เรา ๆ ก็อาจจะมีปัญญาไม่สูงพอสำหรับการเข้าใจนัยยะแห่งพระเวทก็ได้

เช่นเดียวกับการเข้าใจหลักพุทธศาสนาในทุกวันนี้ ก็มีความรู้ ความเข้าใจที่แตกต่าง
เหลือมล้ำกันไป
แต่ในความที่คละกันนั้น
ก็ยังมีเพชรเม็ดงามส่องประกายโดดเด่นให้ได้เห็นจำนวนมาก :b1:

การทำความเข้าใจความเป็นไปแห่งศาสนา
ด้วยการพิจารณาจากผู้คนที่นับถือศาสนานั้น ๆ
ไม่ใช่ภาพสะท้อนของหลักธรรมแห่งศาสนานั้น ๆ ได้อย่างแท้จริง

เพราะ แม้แต่ดินแดนชาวพุทธที่ขึ้นชื่อว่านับถือศาสนาพุทธ
ก็แทบจะไม่ได้สะท้อนภาพหลักธรรมแห่งศาสนาที่นับถือได้ดีพอ/เพียงพอ

พระเวท อาจจะเป็นคัมภีร์ ให้แสดงความเป็นไปบางอย่าง
ที่สะท้อนความจริงบางอย่างที่งดงาม ภายใต้สภาพแวดล้อมความเป็นไปในกาลนั้น
เพราะยังไง พรหม หนึ่งในสิ่งที่ถูกกล่าวถึง
ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงจิตใจอันสูงส่ง งดงาม ปราณีต อย่างหนึ่ง ... :b1:

พระพุทธองค์ ก็เคยกล่าวถึง พรหม นั่นยืนยันถึงความมีอยู่ของ พรหม
แต่...พระพุทธองค์เห็นอะไรในความเป็นไปเช่นนั้นของ พรหม
พระองค์จึงได้สอนผู้คนจำนวนมาก ให้สามารถก้าวข้ามทัศนะเหล่านั้นไปได้ ... :b1:

ทุกศาสนาที่บังเกิดขึ้นในโลกใบนี้
มีการดำเนินมาอย่างมีต้นสายปลายเหตุ
ล้วนแต่บังเกิดขึ้นภายใต้จิตวิญญาณแห่งความเป็น มนุษย์

สิ่งที่ทำให้พุทธศาสนาเคยรุ่งเรืองในประเทศอินเดีย
...
น่าจะเป็นความเด่นในด้าน "ปัญญา"

ความงดงามในด้าน "ปัญญา"


...:b1: :b1: :b1: ...



กบนอกกะลา เขียน:
บางคน....ได้สมยวิมุต..จิตสว่างโผล้ง...เกิดญาณรู้แปลกๆ....รู้ใจคนอื่นบ้างละ...รู้อดีตชาติของตนและคนอื่นบ้างละ....รู้เห็นเทวดาอินทร์พรหม์....(ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่รู้...มันจริงหรือไม่จริง..นะครับ...ในชั้นนี้เพียงต้องการบอกว่า...องค์ธรรมด้านอื่นๆโดยเฉพาะพรหมวิหาร..มีความจำเป็นที่จะได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน)

ก็อดไม่ได้ที่จะเล่าบอกคนอื่น.....หรือ..อดไม่ได้ที่จะแสดงความสามารถแปลกๆนี้ให้ผู้อื่นได้รู้....บางคนเลยเถิดไปเป็นคว่มฟุ้งซ่าน..บางคนกลายเป็นว่าต้องเข้าโรงพยาบาล...ไป

ทั้งนี้...เพราะ..มุทิตาไม่มา..อุเบกขาไม่เกิด

ทำอย่างไร....เราถึงจะมี..หรือ..สร้างพรหมวิหารให้เกิดกับจิตใจเราได้?


ก็ขอให้พวกเขาได้เจอผู้ทรง "ปัญญา" ในทางแห่งพุทธ
เชื่อว่า ผู้ทรงปัญญาอันเที่ยงแท้ต่อธรรม ย่อมชี้ทางเจริญต่อไปให้ได้


:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 07 มิ.ย. 2014, 23:50, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2014, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
บางคน....ได้สมยวิมุต..จิตสว่างโผล้ง...เกิดญาณรู้แปลกๆ....รู้ใจคนอื่นบ้างละ...รู้อดีตชาติของตนและคนอื่นบ้างละ....รู้เห็นเทวดาอินทร์พรหม์....(ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่รู้...มันจริงหรือไม่จริง..นะครับ...ในชั้นนี้เพียงต้องการบอกว่า...องค์ธรรมด้านอื่นๆโดยเฉพาะพรหมวิหาร..มีความจำเป็นที่จะได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน)

ก็อดไม่ได้ที่จะเล่าบอกคนอื่น.....หรือ..อดไม่ได้ที่จะแสดงความสามารถแปลกๆนี้ให้ผู้อื่นได้รู้....บางคนเลยเถิดไปเป็นคว่มฟุ้งซ่าน..บางคนกลายเป็นว่าต้องเข้าโรงพยาบาล...ไป

ทั้งนี้...เพราะ..มุทิตาไม่มา..อุเบกขาไม่เกิด

ทำอย่างไร....เราถึงจะมี..หรือ..สร้างพรหมวิหารให้เกิดกับจิตใจเราได้?


ต้องเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ จึงจะดำรงตนอยู่ในพรหมวิหารได้ เมื่อรู้ธรรม ก็คือรู้ประโยชน์ ได้ประโยชน์ และเห็นว่าประโยชน์นี้ไม่เฉพาะส่งผลดีกับตนเอง แต่ผู้อื่นก็ได้รับประโยชน์ด้วย เป็นปัญญา เป็นสัมมาสังกัปปะ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 08:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:

ต้องเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ จึงจะดำรงตนอยู่ในพรหมวิหารได้
เมื่อรู้ธรรม ก็คือรู้ประโยชน์ ได้ประโยชน์ และเห็นว่าประโยชน์นี้ไม่เฉพาะส่งผลดีกับตนเอง แต่ผู้อื่นก็ได้รับประโยชน์ด้วย เป็นปัญญา เป็นสัมมาสังกัปปะ


เห็นด้วยครับ....ว่า...การสร้างพรหมวิหาร4ให้เกิดกับเรา....ไม่ใช่การที่ต้องไปทำเมตตา..กรุณา..มุทิตา..หรือ..ทำอุเบกขา...แต่อย่างใด...แต่การเห็นประโยชน์ของธรรมอย่างแท้จริง..ต่างหาก....จึงทำให้ดำรงตนในพรหมวิหารได้...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ธรรม" ตามที่ student กับ กบ คิดค้นหากันเนี่ย เออๆๆนี่แหละ "ธรรม" พบแล้วธรรมๆแน่ๆ ใช่เลยๆ ไม่มีอย่างอื่นนอกจากนี้อีกแล้ว พอบอกได้ไหมมันน่าจะเป็นยังไง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
"ธรรม" ตามที่ student กับ กบ คิดค้นหากันเนี่ย เออๆๆนี่แหละ "ธรรม" พบแล้วธรรมๆแน่ๆ ใช่เลยๆ ไม่มีอย่างอื่นนอกจากนี้อีกแล้ว พอบอกได้ไหมมันน่าจะเป็นยังไง :b1:


กรัชกาย
ไม่รู้จะถามอะไร ก็อยู่เฉยๆ ไม่มีใครว่ากรัชกาย หรอกนะว่า "โง่" น่ะ
หมดมุก ถามแล้วรึ กรัชโก๊ะ :b17:


.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
"ธรรม" ตามที่ student กับ กบ คิดค้นหากันเนี่ย เออๆๆนี่แหละ "ธรรม" พบแล้วธรรมๆแน่ๆ ใช่เลยๆ ไม่มีอย่างอื่นนอกจากนี้อีกแล้ว พอบอกได้ไหมมันน่าจะเป็นยังไง :b1:


กรัชกาย
ไม่รู้จะถามอะไร ก็อยู่เฉยๆ ไม่มีใครว่ากรัชกาย หรอกนะว่า "โง่" น่ะ
หมดมุก ถามแล้วรึ กรัชโก๊ะ :b17:






ถามเช่นนั้นด้วยเลย เอาที่ตามๆหาพูดๆถึงกันอยู่นี่แหละ "ธรรม" ธรรม เช่นนั้นว่าเป็นยังไงหรอ ธรรม เอ้า :b1: พูดมานานแล้ว เห็นหลังธรรมหรือยัง :b32:

เชื่อเถอะได้วลีเด็ดๆอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามเช่นนั้นด้วยเลย เอาที่ตามๆหาพูดๆถึงกันอยู่นี่แหละ "ธรรม" ธรรม เช่นนั้นว่าเป็นยังไงหรอ ธรรม เอ้า :b1: พูดมานานแล้ว เห็นหลังธรรมหรือยัง :b32:

เชื่อเถอะได้วลีเด็ดๆอีก

กรัชโก๊ะ
ที่ถามมานี่ คงโง่ ซ้ำโง่ซากนะ
เด๋วจะทบทวนให้
กรัชกาย เขียน:
กรรมฐาน (กรรม+ฐาน) กรรม เป็นสันสกฤต ความหมายนั้นใช้ได้หลากหลาย ต้องดูบริบทด้วย


ลักษณะคำถาม ที่ตั้งไว้ไม่ดี ก็เหมือนกรัชโก๊ะถาม
กรัชโก๊ะ
ธรรมะเป็น บัญญัติคำที่แสดง "................" 5555
ดังนั้น กรัชโก๊ะ จะถามในบริบทไหน......

ถ้าถามแบบ กรัชโก๊ะ ถาม
ใครตอบอะไร ก็ถูกหมด

แต่ไม่ถูกใจ กรัชโก๊ะ เข้าใจไหม
มีถั่วไหม ........ :b32: :b32: :b32:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
"ธรรม" ตามที่ student กับ กบ คิดค้นหากันเนี่ย เออๆๆนี่แหละ "ธรรม" พบแล้วธรรมๆแน่ๆ ใช่เลยๆ ไม่มีอย่างอื่นนอกจากนี้อีกแล้ว พอบอกได้ไหมมันน่าจะเป็นยังไง :b1:


ต้องอุปมาแล้วครับ ผมก็แค่เริ่มต้น รู้เห็นธรรมในขั้นต้น เมื่อเทียบกับนักปฎิบัติขั้นสูงทางปัญญา เป็นความจากการพิจารณาด้วย รู้เท่าใดถึงไหนผมก็ไม่เคยปิดบังครับผม เอามาลงในกระทู้ผลการปฎิบัติอยู่เสมอ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถามเช่นนั้นด้วยเลย เอาที่ตามๆหาพูดๆถึงกันอยู่นี่แหละ "ธรรม" ธรรม เช่นนั้นว่าเป็นยังไงหรอ ธรรม เอ้า :b1: พูดมานานแล้ว เห็นหลังธรรมหรือยัง :b32:

เชื่อเถอะได้วลีเด็ดๆอีก

กรัชโก๊ะ
ที่ถามมานี่ คงโง่ ซ้ำโง่ซากนะ
เด๋วจะทบทวนให้
กรัชกาย เขียน:
กรรมฐาน (กรรม+ฐาน) กรรม เป็นสันสกฤต ความหมายนั้นใช้ได้หลากหลาย ต้องดูบริบทด้วย


ลักษณะคำถาม ที่ตั้งไว้ไม่ดี ก็เหมือนกรัชโก๊ะถาม
กรัชโก๊ะ
ธรรมะเป็น บัญญัติคำที่แสดง "................" 5555
ดังนั้น กรัชโก๊ะ จะถามในบริบทไหน......

ถ้าถามแบบ กรัชโก๊ะ ถาม
ใครตอบอะไร ก็ถูกหมด

แต่ไม่ถูกใจ กรัชโก๊ะ เข้าใจไหม
มีถั่วไหม


ภาพเช่นนั้น ตอนนั้น กับ ตอนนี้ เหมือนเป็นคนละคนเลย คิกๆๆ ก่อนเป็นไง เมื่อก่อนดูนิ่มนวล ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี เศรษฐีใจกว้าง ค่อยๆ เลี้อยเหมือนงูพิษ มีเหตุผล พูดไปๆๆ ลงท้ายเสมอจนชินตา

เจริญธรรม :b8:


อ้าวตอนนี้เป็นไงล่ะ ตอนนี้อาลวาด จนบอร์ดเสทือนไปถึงดวงดาว เหตุผงเหตุผลอะไรไม่เอาแล้ว เจริญธง เจริญธรรมพระสงพระสูตรทิ้งหมด :b32: เหมือนคนไฟธาตุแตก ตีอกชกตัว ร้องงงงงลั่นได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน เป็นที่เวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก :b9: บอกแล้วว่าให้อ่านพระสูตร อย่าศึกษาอย่าง่เดียว อ่านมั่งซี่ :b1:

ธรรมเจริญ ซาธุ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 17:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้าวตอนนี้เป็นไงล่ะ ตอนนี้อาลวาด จนบอร์ดเสทือนไปถึงดวงดาว เหตุผงเหตุผลอะไรไม่เอาแล้ว เจริญธง เจริญธรรมพระสงพระสูตรทิ้งหมด :b32: เหมือนคนไฟธาตุแตก ตีอกชกตัว ร้องงงงงลั่นได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน เป็นที่เวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก :b9: บอกแล้วว่าให้อ่านพระสูตร อย่าศึกษาอย่าง่เดียว อ่านมั่งซี่ :b1:

ธรรมเจริญ ซาธุ :b32:

อย่างนี้ล่ะเหมาะกับกรัชโก๊ะ
ผู้ไม่เคารพในพระสูตร คนอวดดี :b17:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้าวตอนนี้เป็นไงล่ะ ตอนนี้อาลวาด จนบอร์ดเสทือนไปถึงดวงดาว เหตุผงเหตุผลอะไรไม่เอาแล้ว เจริญธง เจริญธรรมพระสงพระสูตรทิ้งหมด :b32: เหมือนคนไฟธาตุแตก ตีอกชกตัว ร้องงงงงลั่นได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน เป็นที่เวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก :b9: บอกแล้วว่าให้อ่านพระสูตร อย่าศึกษาอย่าง่เดียว อ่านมั่งซี่ :b1:

ธรรมเจริญ ซาธุ :b32:

อย่างนี้ล่ะเหมาะกับกรัชโก๊ะ
ผู้ไม่เคารพในพระสูตร คนอวดดี :b17:


หมดต้นทุน :b1: ไม่มีสารธรรมเลย

จาก => เน่า => โง่ => เวิ้นเว้อ => บ้าๆบอๆ => เกินเยียวยา => กรัชโก๊ะ =>? => ? คิกๆๆ

เจริญธรรม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2014, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จาก => เน่า => โง่ => เวิ้นเว้อ => บ้าๆบอๆ => เกินเยียวยา => กรัชโก๊ะ =>? => ? คิกๆๆ

เจริญธรรม :b1:
huh

เรียงใหม่
กรัชกาย
เน่า =>เวิ่นเว้อ=>โง่=>บ้าๆบ้อ=>เกินเยียวยา=>กรัชโก๊ะ =>...
เรียงแบบนี้ครับ


เน่าคือ กรัชกาย นำเอาสิ่งดีๆ มาอธิบายให้เน่า
เวิ่นเว้อ คือ กรัชกาย แสดงอะไรไม่อยู่กับร่องกับรอย แสดงไปเรื่อยๆ แตกหัวข้อในกระทู้ตัวเองไปเรื่อยๆ
โง่ คือ กรัชกาย อวดดี แบกสิ่งที่ผิดๆไว้ถือไว้ไม่ปล่อย บอกให้พิจารณาจากสิ่งที่ถูกต้องก็ตะแบง
บ้าๆบ้อ คือกรัชกายเที่ยวแนะนำ ให้ผู้ทุกข์ เจริญความฟุ้งดูความฟุ้งว่าสาระ อาจจะทำให้บ้าก็ได้
เกินเยียวยา คือ กรัชกายมีธงตั้งไว้ ใครมาลดธงไม่ได้ ก็จะแสดงอาการกวน ไม่รับฟังพิจารณาความเห็นผู้ใด
กรัชโก๊ะ คือ กรัชกายพอไปไม่เป็น ก็จะถามคำถามลอยๆ ไม่มีบริบท ถามเซ๊าซี้อยู่นั่นล่ะ

:b19:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร