ตามหัวข้อกระทู้นั่นแหละครับ คนซื้อรู้ครับว่าของนั่นไม่ใช่ของคนที่เอามาขาย ไปเอามาโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม ไม่แน่ใจว่ามันยังเป็นอะไรที่ถกเถียงกันอยู่หรือมีข้อสรุปเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้ว

มันเป็นการกระทำทุจริตร่วมกัน
เพราะโจรเขารู้ว่าของมีค่าขโมยมาก็ย่อมขายได้
โจรเขาไม่ได้คิดอยากได้สิ่งของ แต่เขาอยากได้ตังส์จึงนำมาขาย
คนชื้อจึงยอมเสียตังส์เพราะอยากได้ของจึงซื้อไว้

ขอยกตัวอย่างนะครับเพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
เพื่อจะได้ให้เห็นว่าเป็นการทำทุจิตร่วมกัน เช่นว่า
มีคนมายืม แห เบ็ด หรือ อวน ไปหาปลา
คนผู้เป็นเจ้าของเครื่องมือจับสัตว์ก็ต้องย่อมบาปตามไปด้วย

หากตามนี้.....บาปครับ

ไม่แน่มั๊งครับ เคยได้ยินเรื่องนี้ไหม?
พระโสดาบันท่านหนึ่งเป็นผู้หญิง ท่านมีสามีเป็นนายพราน ท่านหยิบอาวุธใช้ล่าสัตว์ให้สามี มีคนนำความข้อนี้ไปถามพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านทำไปตามหน้าที่ภรรยาเท่านั้นมิได้มีเจตนาในการส่งอาวุธเพื่อไปฆ่าจึงไม่บาป

ภริยาของนายพรานกุกกุฏมิตรบรรลุโสดาปัตติผลในกาลที่ยังเป็นเด็กหญิง
แล้วไปเป็นภรรยาของนายพราน มีบุตร ๗ คน. สามีก็สั่งนางหล่อนจงนำธนูมา
นำลูกศรมา นำหอกมา นำหลาวมา นำข่ายมา นางได้ยื่นอุปกรณ์การล่าสัตว์ให้นายพราน
นายพรานนั้นก็ถือเอาเครื่องประหารที่นางให้ไปล่าสัตว์

ภิกษุทั้งหลายสงสัย สนทนากัน "แม้พระโสดาบันทั้งหลายยังทำปาณาติบาตอยู่หรือหนอ"
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ?"
เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ด้วยเรื่องชื่อนี้."

พระศาสดาตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พระโสดาบันย่อมไม่ทำปาณาติบาต.
แต่นางได้ทำอย่างนั้น ด้วยคิดว่า เราจักทำตามคำสามีจิตของนางไม่มีเลยว่า
สามีนั้นจงถือเอาเครื่องประหารนี้ไปทำปาณาติบาต จริงอยู่เมื่อแผลในฝ่ามือไม่มี
ยาพิษนั้นก็ไม่อาจจะให้โทษแก่ผู้ถือยาพิษได้ฉันใด.
ชื่อว่าบาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำบาป แม้นำเครื่องประหารทั้งหลาย
มีธนูเป็นต้นออกให้เพราะไม่มีอกุศลเจตนา ฉันนั้นเหมือนกัน

ดังนี้แล้วเมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า

"ถ้าแผลไม่พึงมีในฝ่ามือไซร้,
บุคคลพึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้ เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมเข้าสู่ฝ่ามือที่ไม่มีแผล ฉันใด,
บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ฉันนั้น."

เรื่องนี้จะเห็นได้ว่าจิตของท่านผู้ได้พระโสดาบันเป็นผู้ที่พ้นแล้วจากปาณาติบาตจึงไม่บาป
ส่วนที่ลุงหมานพูดนั้น พูดจิตของปุถุชนผู้ที่ยังข้ามไม่พ้นจากปาณาติบาต ยังมีการยินดี
พอใจในการออกไปทำปาณาติบาตของผู้เป็นสามี

อย่างนี้คุณลุงหมาน ก็คงเห็นด้วยว่าการกินเนื้อสัตว์อย่างฆราวาสที่ต้องซื้อเนื้อสัตว์ไปกิน ก็เป็นบาป

แล้วกินผักที่เขาฉีดยาฆ่าแมลงมา...นี้ก็ต้องบาปด้วยซิคุณ wakeup??....ว่ามัยครับ

อิอิ

พอทีนี้..มาอ้างสายกลาง....

พวกที่ชอบว่ากินเนื้อบาป....เป้นกันอย่างนี้เยอะเลย...พอกำลังจะมีเหตุมีผลที่ทำร้ายความยึดของตน....ก้เฉไปนอกเรื่อง

ไม่กินเนื้อได้....นั่นมันดีมากเลยนะครับ....
1.หากมีจิตคิดเพื่อลดการเบียดเบียน..นี้ใจเรามีเมตตา..เป็นหนึ่งในพรหมวิหาร....แต่ต้องทำให้ครบ4 นะครับ..คือหากใครพได้เราก็ยินดีกับเขาด้วยเรียกว่ามีมุติตา...และใครที่ยังทำไม่ได้..
เราก็อุเบกขา..วางเฉย....ไม่ใช่ไปกล่าวโทษเขาด้วยความอันไม่เป็นประโยชน์..ปุถุชนให้เขารักษาศีล5..ไป...เพียงศีล5 ก็เป็นฐานเข้าโสดาบันได้แล้ว...
2. ทานเพื่อรักษาสุขภาพไปในตัวด้วย...แต่ต้องปลอดสารพิษนะครับ....และต้องเป้นผักที่ปลูกแบบไม่เางรัดใก้เตไวไวอย่างพวก..ไฮโดรโฟนิค..เปิดไฟใก้สัง้รตาะห์แสง24 ชม. ไม่ได้พักผ่อนกันเลย...

คิด..และ..ทำ..อย่างนี้..ถึงจะดี..ทั่งต่อตัวเอง..และ..ผู้อื่น....ไม่ใช่อะไรๆก็ว่าเขาบาปไปหมด...

และเท่าที่สังเกตดู......พอจะให้เหตุผลซะหน่อย...คุณwakeup ก็ไม่ค่อยพิจารณาด้วยดี...ยึดติดกับธงของตัวไม่ยอมปล่อย...ขาดโอกาสพัฒนาไป.....นี้ก็เท่ากับเบียดเบียนตัวเองไปแล้วนะครับ..

คุณนี่ก็โอ้โหเลย เป็นเอามาก แย้งด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ก็ลบที่ผมpostพยายามชี้แจงไปซะงั้น ต้องรู้จักเปิดใจฟังเหตุผลคนอื่นเขาด้วย มันจะไม่พัฒนา มันจะไม่ใช่กบนอกกะลาแต่จะเป็นกบในกะลาเอานะ ไอ้ที่ว่าผมนี่ เอาไปพิจารณากับตัวคุณเองเยอะๆเลย คุณเป็นคนลบความเห็นของผมเองแล้วมาว่าผมซะอีก
ไอ้ที่สอนผมพรหมวิหาร ควรจะสอนคุณเองซะมากกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ปิดกั้นความเห็นของคนอื่นที่เห็นต่าง

แล้วทางสายกลางพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนหรือไง ไม่ให้ผมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอ้าง นี้มันเป็นหนักเลยนะคุณ พระพุทธเจ้าสอนเยอะมากกกก....ก็ต้องรู้จักเลือกใช้ให้ถูกให้ควร
เจอคนแบบนี้ไม่อยากเขียนเยอะเลย แย้งไม่ได้เดี๋ยวก็ลบอีก ง่ายดีเนอะ
เคารพในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเยอะๆครับ

ใส่ร้ายป้ายสี....คนอื่น..แม้ว่าตนจะเข้าใจผิด....แต่ก็อดใจแสดงออกมาไม่ได้..นี้
..คุณwakeup ผิดศีลข้อ4 แระ...

ผม...ลบ..ความคิดเห็นใครได้ด้วยหรอกครับ??...อิอิ....

แล้วอย่าลืมไปชี้แจงในกระทู้เก่าเรื่องกินเนื้อบาป...ด้วยนะว่า..แค่ไหนเรียกว่าเบียดเบียน...

อ้าว!งงเลย ก็ผมตอบอันนี้ไป แล้วหายไปไหน และคุณก็ยังอ้างทางสายกลางที่ผมมีเขียนในpost ที่หายไปนั่นเลย

แล้วคิดได้งัย..ว่าผมเป็นคนลบ....

ก็เนี๊ยระหว่าง2postนี้หายไปไหน งั้นก็คงเป็นคนอื่น งั้นก็ขอย้ายไปติคนที่ลบแทนแล้วกัน

คุยกับคุณกบนอกกะลาอยู่ดีๆ แล้วคนอื่นมายุ่งอะไรอะ งง
คุณกบนอกกะลาก็ไม่ได้มีปัญหาซะหน่อยกับที่ผมpost