วันเวลาปัจจุบัน 06 มิ.ย. 2025, 03:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2013, 08:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราทำฌานก็เพื่อให้ได้อภิญญา
แล้วประโยชน์ของอภิญญาล่ะเราเอาไปทำอะไรครับ? :b10: :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2013, 09:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


หากเป็นญาณที่เกิดจากวิปัสสนาภาวนา ก็จะรู้ทันธรรมที่เกิดดับจากอายตนะทั้ง12 คือมีอารมณ์ที่แน่วแน่ที่ใดที่หนึ่งตามที่ใจต้องการ และมีปัญญา และความเห็นที่ถูกต้อง ลดความยึดถือสภาวะธรรม ว่าเป็นตัวเราตัวเขา มีพรหมวิหาร 4 เป็นเครื่องแห่งความสุข เอาไปพัฒนาเพื่อความหลุดพ้น

หากเป็นญาณที่เกิดจากสมาธิ ก็เกิดความสงบสุข ไม่ฟุ่งซ่าน มีความใจเย็น เอาไปพัฒนาเพื่อวิปัสสนาภาวนา หรือ ทำการงานอย่างมีประสิทธิภาพทางโลก

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ธรรมมา เขียน:
เราทำฌานก็เพื่อให้ได้อภิญญา

ฌาน หรือสมาธิภาวนา มี ๔ อย่าง

๑.เพื่อสุขในปัจจุบัน (เข้าฌาน​ ๑​ - ๔ ที่เป็นพื้นฐานของอภิญญา เป็น -
(สมาธิและเป็นปัญญาในโลกียะมีีผล ทำให้ได้ข้อ ๒)

๒.เพื่อญาณทัสสนะ (เป็นอภิญญา ๕ ที่เป็นโลกียะปัญญา(เพราะมีผลมาจากสมาธิ))
๓.เพื่อสติสัมปชัญญะ (สมาธิและปัญญาในโลกุตระ ที่พัฒนาถึงยอดแล้ว ทำให้ได้ข้อ ๔)
๔.เพื่อสิ้นอาสวะ (อภิญญา ที่ ๖)

ถ้าไม่ทำข้อ ๒ ก็เลือกทำข้อ ๑ เอาสุขในปัจจุบันที่เข้าสมาธิเข้าฌาน
อยากได้ไม่อยากได้ ในข้อ ๒ ก็เป็นเพียงผลของสัมมาสมาธิ หรือ

ข้ามไปพัฒนาข้อ ๓ เพื่ออบรมปัญญา เน้นปัญญาก็เพื่อทำให้สิ้นอาสวะฯลฯ


ธรรมมา เขียน:
แล้วประโยชน์ของอภิญญาล่ะเราเอาไปทำอะไรครับ? :b10: :b10: :b10:

เพื่อขจัดกิเลสตัณหาครับ เอาอภิญญาความรู้ยิ่งใน สมาธิในปัญญา
ไปขจัดกิเลส เช่นเมื่อเรามีจิตตั่งมั่น เป็นพื้นฐานของอภิญญาจิต

พอเราทำสมาธิ ทำฌานให้เกิด ในข้อที่ ๑ ได้แล้วมีฌานเป็นบาทแล้ว
เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน
ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ...

วิชชา ๘ เหล่านี้ครับ อภิญญา ๖ รวมอยู่ในนี้
http://www.84000.org/tipitaka/read/?9/131-138/101-112

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
เราทำฌานก็เพื่อให้ได้อภิญญา
แล้วประโยชน์ของอภิญญาล่ะเราเอาไปทำอะไรครับ? :b10: :b10: :b10:

เราทำกุศลฌานฌานกันเพื่อ สกัดกั้นนิวรณ์ เพื่อให้จิตมีพลัง น้อมเข้าสู่สติปัฏฐาน อันเป็นโลกุตตระฌาน ประโยชน์ของอภิญญา นั้น มีมากมาย นักประมาณไม่ได้ เรายังเป็นปุถุชนขี้เหม็นตดเหม็นอย่าไปประเมิน ดีที่สุด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อีกอันครับ ข้างต้นเป็นพระสูตรขยายเอาไว้ อันนี้เป็นหัวข้อ

[297] วิชชา 8 (ความรู้แจ้ง, ความรู้วิเศษ — supernormal knowledge)
1. วิปัสสนาญาณ (ญาณในวิปัสสนา, ญาณที่เป็นวิปัสสนา คือปัญญาที่พิจารณาเห็นสังขารคือนามรูปโดยไตรลักษณ์ มีต่างกันออกไปเป็นชั้นๆ ต่อเนื่องกัน — insight-knowledge)
2. มโนมยิทธิ (ฤทธิ์สำเร็จด้วยใจ, ฤทธิ์ทางใจ คือ นิรมิตกายอื่นออกจากกายนี้ ดุจชักไส้จากหญ้าปล้อง ชักดาบจากฝัก หรือชักงูออกจากคราบ — mind-made magical power)
3. อิทธิวิธา หรือ อิทธิวิธิ (แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ — supernormal powers)
4. ทิพพโสต (หูทิพย์ — divine ear)
5. เจโตปริยญาณ (ความรู้ที่กำหนดใจผู้อื่นได้ — penetration of the minds of others)
6. ปุพเพนิวาสานุสสติ (ระลึกชาติได้ — remembrance of former existences)
7. ทิพพจักษุ (ตาทิพย์ — divine eye)
8. อาสวักขยญาณ (ความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะ — knowledge of the exhaustion of mental intoxicants)
-------------------------------------------------------
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=297

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร