วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 11:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2013, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ

ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล เด็กมากด้วยกันเอาท่อน

ไม้ตีงู อยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีและพระวิหารเชตวัน ครั้งนั้น เป็นเวลาเช้า

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาต

ยังพระนครสาวัตถี ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็กเหล่านั้น เอาท่อนไม้ตีงูอยู่ในระหว่าง

พระนครสาวัตถีและพระวิหารเชตวัน.

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่ง

อุทานนี้ในเวลานั้นว่า

"ผู้ใดแสวงหาความสุขเพื่อตน แต่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุข

ด้วยท่อนไม้ ผู้นั้น ย่อม ไม่ได้ความสุขในโลกหน้า ผู้ใด แสวงหาความสุข

เพื่อตน ย่อมไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุขด้วยท่อนไม้ ผู้นั้น

ย่อมได้ความสุขในโลกหน้า".
บทว่า อหึ ทณฺเฑน หนนฺติ ความว่า พวกเด็กติดตามงูเห่าซึ่งได้รับความ

หิวกำลังเลื้อยออกจากโพรงไม้ไปหากิน ใช้ไม้ตี.

ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า กำลังเสด็จบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี เห็นเด็ก

เหล่านั้นในระหว่างทางเอาไม้ตีงู จึงตรัสถามว่า เด็ก ๆ ทั้งหลาย เพราะเหตุไร จึง

เอาไม้ตีงูนี้ และเมื่อเด็กกราบทูลว่า เพราะกลัวมันกัด พระเจ้าข้า จึงเกิดธรรมสังเวช

ขึ้นว่า พวกเด็กเหล่านี้ คิดจะทำความสุขให้ตน จึงตีงูนี้ จักเสวยทุกข์ในที่ที่ตน

เกิด โอ! ฉลาดในการโกง เพราะความโง่ ก็เพราะเหตุนั้นนั่นแล จึงทรงเปล่ง

อุทานด้วยธรรมสังเวช.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เอตมตฺถ วิทิตฺวา ความว่า อาจารย์พวกหนึ่ง

พรรณนาไว้อย่างนี้ว่า พระองค์ทรงทราบเนื้อความนี้ ว่า พวกเด็กเหล่านี้ ทำความ

ทุกข์ให้แก่ผู้อื่น เพื่อความสุขของตน ตนเองจักไม่ได้รับความสุขในโลกหน้า.

การที่ชนเหล่าอื่นผู้ปฏิบัติชั่วแสวงหาความสุข ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์ในอนาคต

สำหรับผู้ปฏิบัติดี ย่อมเป็นไปเพื่อความสุขโดยส่วนเดียว เพราะฉะนั้น อาจารย์

ทั้งหลายจึงกล่าวว่า พระศาสดาทรงเปล่งอุทานแม้นี้ โดยทรงโสมนัสว่า ผู้ที่พ้น

จากการเบียดเบียนผู้อื่น เป็นผู้มีส่วนแห่งความสุขโดยแท้จริงทีเดียว ชื่อว่าเป็น

การสนองโอวาทของเรา. ฝ่ายอาจารย์อีกพวกหนึ่งกล่าวว่า พระองค์ทรงทราบการ

เบียดเบียนผู้อื่นที่พวกเด็กเหล่านั้นให้เป็นไปอย่างนี้ โดยมีโทษด้วยประการทั้งปวง

จึงทรงเปล่งพระอุทานนี้ อันประกาศโทษของการเบียดเบียนผู้อื่น และอานิสงส์แห่ง

การอนุเคราะห์ผู้อื่น ตามลำดับ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุขกามานิ ได้แก่ ผู้ติดอยู่ในความสุข

เพราะปรารถนาสุขเพื่อตน โดยส่วนเดียวเท่านั้น. บทว่า ภูตานิ แปลว่าสัตว์ผู้มี

ปราณทั้งหลาย. บทว่า ทณฺเฑน ในคำว่า โย ทณฺเฑน วิหึสติ นี้ เป็นเพียง

เทศนา อธิบายว่า ด้วยท่อนไม้หรือด้วยเครื่องประหารต่าง ๆเช่น ก้อนดิน ศาสตรา

และการประหารด้วยมือเป็นต้น. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า ทณฺเฑน ได้แก่ ด้วยการลงโทษ.

ท่านกล่าวคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า บุคคลใด เบียดเบียนสัตว์ทั้งปวง ผู้ใคร่ความสุข ทำ

ให้ลำบาก ให้ได้รับความทุกข์ด้วยอาญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดาอาญาเหล่านี้

คือ อาญาทางวาจาเช่นด่า กระทบชาติเป็นต้น อาญาทางร่างกาย เช่นโบย ตี

ตัด เป็นต้น ด้วยมือค้อนและศาสตราเป็นต้น หรืออาญาทางทรัพย์เช่นปรับไหม

ร้อยหนึ่งพันหนึ่ง.

บทว่า อตฺตโน สุขเมสาโน เปจฺจ โส น ลภเต สุข ความว่า บุคคลนั้นเมื่อ

แสวงหา ค้นคว้า ปรารถนาสุขเพื่อตน ละโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่ได้รับความ สุขทั้ง ๓

ประการ คือ มนุษยสุข ทิพยสุข นิพพานสุข ในโลกหน้า โดยที่แท้ ย่อมได้รับ

แต่ความทุกข์ด้วยอาญานั้น.

บทว่า เปจฺจ โส ลภเต สุข ความว่า บุคคลใด เพียบพร้อมด้วย

ขันติ เมตตา และความเอ็นดู คิดว่า เราปรารถนาสุข เกลียดทุกข์ ฉันใด แม้

สัตว์ ทั้งปวง ก็ฉันนั้น จึงตั้งอยู่ในสัมปัตติวิรัติเป็นต้น ไม่เบียดเบียน ไม่ทำสัตว์

ทั้งปวงให้ลำบาก ด้วยอาญาอย่างใดอย่างหนึ่งตามนัยที่กล่าวแล้ว บุคคลนั้น

เป็นมนุษย์ในปรโลก ย่อมได้รับสุขของมนุษย์ เป็นเทวดาย่อมได้รับทิพยสุข เมื่อ

ผ่านสุขทั้งสองนั้นไป ย่อมได้รับความสุขในพระนิพพาน. ก็ในที่นี้ เพื่อจะแสดงว่า

เพราะบุคคลเช่นนั้นได้อบรมไว้อย่างแน่นอน ความสุขนั้นเป็นประหนึ่งเกิดขึ้นเฉพาะ

หน้า (เป็นปัจจุบัน) ท่านจึงกล่าวว่า ลภเต (ย่อมได้) ดังนี้. แม้ในคาถาต้นก็นัยนี้

เหมือนกัน.

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน

อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล เด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับ

ปลาอยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีกับพระวิหารเชตวัน ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า พระ

ผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาต

ยังพระนครสาวัตถี ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับปลาอยู่ในหว่าง

พระนครสาวัตถีกับพระวิหารเชตวัน ครั้นแล้วเสด็จเข้าไปหาเด็กรุ่นหนุ่มเหล่านั้น

แล้วได้ตรัสถามว่า พ่อหนูทั้งหลาย เธอทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์ ความทุกข์ ไม่

เป็นที่รักของเธอทั้งหลาย มิใช่หรือ? เด็กเหล่านั้นกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า

ข้าพระองค์ทั้งหลาย กลัวต่อความทุกข์ ความทุกข์ ไม่เป็นที่รัก ของข้าพระองค์

ทั้งหลาย.

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่งพระ

อุทานนี้ในเวลานั้นว่า

"ถ้าท่านทั้งหลายกลัวความทุกข์ ถ้าความทุกข์ ไม่เป็นที่รักของท่าน

ทั้งหลายไซร้ ท่านทั้งหลายอย่าได้ทำบาปกรรม ทั้งในที่แจ้ง และ ในที่ลับเลย

ถ้าท่านทั้งหลายจักทำหรือทำอยู่ซึ่งบาปกรรมไซร้ ท่านทั้งหลายแม้จะเหาะหนี

ไป ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความทุกข์เลย"





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

ขอเชิญร่วมบูรณะพระอุโบสถ วัดศักดิ์คุณาราม
ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
http://www.facebook.com/wadsakkunaram



ร่วมเป็นเจ้าภาพปิดแผ่นทองจังโก พระธาตุเจดีย์ศรีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์
________________________________________
โทร. 082-2532867



เชิญร่วมสร้างกำแพง เป็นมหาทานบารมี ปกป้องคุ้มครองภัย ถวาย ณ สำนักสงฆ์บ้านริมขาน หมู่8 ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
โทร.0895573530




ขอเชิญร่วมทำบุญซื้อโต๊ะหมู่บูชา,หลอดไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์สายไฟ 39 ชุด,อาสนะสงฆ์ 10 ชุด
088-9168-182


ขอเชิญร่วมบริจาคชนวนโลหะเพื่อสร้างพระหลวงพ่อทวดที่จังหวัดชายแดนใต้
087-6320232


ปิดทองฉัตรยอดธาตุและหุ้มทองจังโก้พระเจดีย์ วัดพระธาตุดอยติ จ.ลำพูน
081-980-9388



ขอเชิญร่วมทำบุญ สร้างพระประธานหน้าตัก 59 นิ้ว ณ.วัดโบสถ์ฆ้องคำ จังหวัดลำปาง
089-6345932


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างศาลานาคราช วัดป่าพระพุทธบาท จ.อุบลราชธานี
086-0405643


ขอเชิญร่วมบุญสร้างไชยมงคลเจดีย์ศรีหริภุญชัย วัดวังมุยลำพูน
๐๘-๐๔๑-๔๔๕๖


ร่วมบุญช่วยเหลือวัดในถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลน 2 วัด ในจ.ชัยภูมิ
082-1360960


ร่วมสร้างพระพุทธ(หน้าตักกว้าง ๑๘ เมตร สูง ๒๔ เมตร เนื้อสำริด)
โทร.๐๓๕-๔๔๑๐๑๙


ขอเชิญร่วมบุญและเป็นเจ้าภาพสร้าง ลานปฏิบัติธรรม และสังเวชนียสถาน 4 ตำบล
087-418 2072


ต้องการเจ้าภาพสร้างห้องน้ำ
ที่0870556982


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพปั้นปูนสดหอระฆังวัดน้ำไคร้ จ.น่าน
๐๘๓ ๗๖๐๗๒๗๔


เชิญร่วมทำบุญ สร้างหอพระไตรปิฎก วัดสระบัว จ. อุบลราชธานี
089-510-0380


ยอดฉัตรเก้าชั้นศีลปะพม่า
http://www.facebook.com/events/254353721337720/


เชิญผู้มีศรัทธาในครูบาเจ้าศรีวิชัยร่วมทำบุญสร้างรูปปั้นครูบาเจ้าสูงที่สุดในโลก
0898355136



ขอเชิญสาธุชนทั้งหลายร่วมขยายงานพระพุทธศาสนาสมทบทุนสร้างวิหารกลางน้ำและต่อเติมศาลาปฏิบัติธรรม ณ ลานอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ บ้านหนองหญ้าขาว อ.คง จ.นครราชสีมา



หล่อหลวงปู่โตหนักตัก 129 นิ้วและพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ หน้าตัก 29 นิ้ว รวม 29 องค์

081-8208577



ขอเชิญร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดสร้างองค์พระสิวลี เนื้อทองเหลือง รมดำ สูง ๑๗๕ เซนติเมตร
โทร 082-2255904


ขอเชิญร่วมสมทบเงิน เพื่อซื้อเก้าอี้นั่งสุขภาพน้อมถวายแด่ หลวงตาม้า
________________________________________
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างสมเด็จองค์ปฐม(พระวิสุทธิเทพ)รูปเหมือนหลวงปู่ทวดสมเด็จโต
๐๘๑-๘๙๖๗๖๘๓


ขอเชิญสืบทอดอายุพระศาสนา ด้วยการเป็นเจ้าภาพบรรพชาและอุปสมบทภาคฤดูร้อน
โทร. ๐๕๔-๕๔๕-๓๑๙


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างกุฏิและแท้งค์น้ำบน "หลุบเหลา" วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว
0871845218


เชิญร่วมทำบุญสร้างพระธาตุเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
โทร. 082 014 4903


ขอเชิญร่วมทำบุญ หล่อพระพุทธรูปทองคำ บรรจุยอดเจดีย์พระธาตุดอยกวางคำ จ.ลำพูน
________________________________________
ณ วัดพระธาตุดอยกวางคำ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ที่ได้มีการบูรณะใหม่



ขอเชิญทุกๆท่านร่วมสร้างกุฏิพระสงฆ์
082 119 6716


ขอเชิญสร้างพระนอนองค์ใหญ่ ขนาด 148 เมตร (สูงประมาณตึก 14ชั้น) วัดป่าสว่างบุญ สระบุรี
089-825-7679


หล่อพระสิวลี ๑๒ ศอก 9-10 ก.พ. และพิธีพุทธาภิเษกพระใหญ่ชัยมงคล๑๔ ศอก พร้อมบรรจุพระ> 84,000 องค์
ใครจะส่งแผ่นทอง ของมีค่า พระธาตุ พระผงจักรพรรดิ์ มาร่วมบรรจุส่งมาได้ที่
ภก.คมกริช เจริญชัย ร.พ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ๑๐๐ ปี 222 ม.1 ต.เมืองยาง อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา 30270


ฝากประชาสัมพันธ์ งานวัดหลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม ชลบุรี 9-11 กพ.


วัดหน้าวัว(เก่า)อำเภอมหาราช อยุธยา ขอบริจาคจากผู้ใจบุญ
วัดหน้าวัว(เก่า)เดิมร้าง ต่อมามีพระมาจำพรรษาแล้วก็ร้างอีก
ทุกวันนี้มีพระ ๑ รูป ชื่อพระสมชาย
อยากบูรณะบริเวณแค่พออยู่แบบสมถะ
๑๖ ก.พ. ๕๖ นี้ทอดผ้าป่า
ไปช่วยๆกันหน่อยครับ
กรุณาบริจาคทำบุญโดยตรงที่พระสมชาย อยู่ที่วัด



เรียนเชิญร่วมงาน วันระลึกบูชาคุณบูรพาจารย์ 92 ปี ชาตกาล หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
http://www.thaniyo.com/


ขอเชิญผู้มีจิตศ้ทธาร่วมเป็นเจ้าภาพศาลาการเปรียญและกุฏิสงฆ์ ณ วัดหนองหว้า
โทร ๐๘๙-๕๔๑๖๒๗๙



เชิญร่วมบุญเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีสร้างกำแพงวัดป่าเทพพิทักษ์ จ.อุดรธานี


ขอเชิญร่วมบุญ ผ้าป่าสามัคคี แด่ผู้ปฏิบัติธรรม วัดป่าดอนหายโศก จ.อุดรธานี 19 ม.ค56

ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างวัดป่าอรัญญธรรมาราม USA. โดย พระอาจารย์ดิ๊ก (วัดป่าบ้านตาด)



วัดพระธาตุแสงรุ้ง บ้านแม่เมืองน้อย ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
ขอเชิญชวนร่วมทำบุญในเทศกาลวันตรุษจีนวันจันทร์ที่๑๑กุมภาพันธ์๒๕๕๖ เพื่อสมทบทุนทำบุญสร้างวิหารทาน


เชิญเป็นเจ้าภาพผ้าป่าปฐมฤกษ์ เพื่อสร้างพระธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
โทร. 082 014 4903


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดมหาเจรีย์วันที่ 22-27 ก.พ 56 ณ วัดมหาเจรีย์ (ไกลกังวล) ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี


เชิญร่วมสร้างหนังสือ พระไตรปิฏกฉบับประชาชน 99 เล่มศูนย์เยาวชนอาสา กลุ่มบ้านธรรมะ จ.ตราด

มูลนิธิสุวรรณโคมคำสอนกสิณอย่างเป็นระบบ โดยคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์ทางสมาธิไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี ทั้งพระภิกษุและฆราวาส"เรียนครบทุกกสิณ ที่นี่" และศาสตร์โบราณอื่น ๆ (เรียนฟรี !)
เปิดไหว้ครูเร็ววันนี้ 7 ก.พ และ 3 มี.ค. นี้


วัดป่าภูผักขา ขอรับบริจาคหนังสือและสื่อธรรมะต่างๆ
0804123168


ขอรับบริจาคหนังสือธรรมะเพื่อถวายแด่พระสงฆ์-ชีบวชใหม่300 รูป ณ วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรีท่านใดที่สนใจร่วมบุญด้วยกัน ก็สามารถส่งหนังสือธรรมะของท่านมาได้ที่
คุณสุภา ทองเงิน
72/739 ม.6 หมู่บ้านไดมอนด์วิลล์ ถ.ฟ้าคราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130



ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญจัดสร้างหนังสือพระไตรปิฎก
0849456184


เชิญสาธุชนร่วมพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่เจี๊ยะและวารสารสัจธรรมเผยแพร่เป็นธรรมทานhttp://www.saccadham.com/webboard2/view.php?No=443


** สร้างหนังสือพระไตรปิฎก และหนังสือสวดมนต์ ปี56 (ครั้งที่ 2) **
0807761240


กำหนดการประชุมปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะ ถือธุดงควัตรประจำปี พ.ศ.๒๕๕๖
ณ วัด มโนธรรมาราม (นางโน) ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่๒๒กุมภาพันธ์ ถึง วันจันทร์ที่๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๖


ด่วนที่สุด ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ ๑๓ มกราคม ๕๖ จำนวน ๑ รูป เวลา ๑๔.๐๐ น.
08-5037-0370


ถวายผ้าห่ม แก่พระภิกษุสามเณร
๐๘๒ ๓๕๘๕๖๐๙


ขอเชิญร่วมต่อยอดมหาชนทูลเกล้า
ในโครงการมหาชนทูลเกล้า ๘๕ พรรษา
เพื่อทูลเกล้าโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

โอนเข้าบัญชี: โครงการมหาชนทูลเกล้า ๘๕ พรรษา
ธ.ไทยพาณิชย์ 667-281641-9 สาขา มช.

ทูลเกล้าในนาม มหาชน
(ณ วันที่ ๕ มค. ๕๖ มียอดทูลเกล้าถวาย จำนวน ๗๕๐,๐๐๐ บาท)



20 ม.ค. 56 เดินทางไปฟังธรรมหลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
085-045-9509


วัดราษฏร์บูรณะ ร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ วันที่ 26 ม.ค.-10 ก.พ.56 ประจำปีที่ 2
087-917-1150


เรียนเชิญร่วมทำบุญอายุครบ 85 ปี หลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก
08 1817 2990

12-14 มค.56 เชิญร่วมงาน พระราชทานเพลิง องค์หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม


ขอเชิญร่วมกิจกรรมครูอาสาเพื่อน้องและชนบทห่างไกลความเจริญ
0892017436

ขอเชิญร่วมบุญออกร้านโรงทานมังสวิรัติ @วันมาฆบูชา ณ วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี 25 ก.พ.56


ด่วน.ขอเชิญร่วมบุญกับอาตมภาพ ตอบแทนคุณในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนฯ
08-6260-2702

ร่วมสร้างห้องน้ำโรงเรียน ที่สนใจร่วมสมทบทุนสร้างห้องน้ำให้เด็กน้อย
โรงเรียนวัดหนองอ้อ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก (โดนน้ำท่วมเสียหายเมื่อปีกลาย)



ขอเชิญร่วมช่วยเหลือแม่ลูกสองเจ้าชายนิทรา
โอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เลขที่บัญชี 5014106377 นางพัชฎาภรณ์ อินต๊ะ


“กองธรรมพระศรีอารย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง”
ประชาสัมพันธ์ งานไถ่ชีวิต วัว – ควาย ประจำปี ๒๕๕๖ ปีที่ ๒๒
ณ วัดฉลองราษฎร์ศรัทธาธรรม หมู่ ๘ ต.สบปาด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างสมเด็จองค์ปฐมปางจักพรรดิ์หน้าตัก 26 นิ้่ว ปิดทองประดับเพชร
089-4193030


ขอเชิญร่วมพิธีหล่อ "พระสัมปัจเจกพุทธเจ้า" หน้าตัก ๓๐ นิ้ว ณ สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ
081-1901125



เชิญร่วมบุญสร้าง "พระมหาเจดีย์มณีชัยมงคล" วัดป่าชัยมงคล จ.ระนอง
ผู้มีจิตศรัทธาประสงค์ร่วมบุญ สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์
ชื่อบัญชี วัดป่าชัยมงคล เพื่อสร้างพระมหาเจดีย์มณีชัยมงคล

ธ.ออมสิน สาขาระนอง เลขที่บัญชี 0200-6824-8432
แฟ็กซ์ใบโอนเงินพร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ เพื่อขอรับใบอนุโมทนาบัตร
มาที่แฟ็กซ์ 077-824626



บวชพระ สืบรากแก้ว ๖ รูป
โทรสอบถามได้ที่ 0847020194


ขอเชิญมหาชนร่วมเป็นเจ้าภาพ
โรงทานเสบียงบุญมหาชน
เปิดโรงทานครั้งที่ ๑ ในงานบรรยายธรรมะเปลี่ยนชีวิตครั้งที่ ๘
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๖.๐๐ น.
ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
081-5682612



ขอบอกบุญให้ญาติโยมช่วยบูรณะห้องน้ำพระให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
โทร. 080-428-0246


บุญสำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่หาอาหารเองไม่ได้
อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 080-428-0246



ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี " โครงการดวงตาธรรม " ตลอดทั้งปีพระอาจารย์ปลัดวิชาญ ปวโร เจ้าอาวาสวัดสระแก้วศรีสรรเพชญ์ จังหวัดสุพรรณบุรี
ขอเชิญร่วมบุญได้ที่บัญชีด้านล่างนี้ครับ

ธ. กสิกรไทย สาขาถนนมาลัยแมน จ. สุพรรณบุรี
ประเภทบัญชีออมทรัพย์
เลขบัญชี 390-2-13000-3
ชื่อบัญชี พระปลัดวิชาญ ปวโร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2013, 14:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 6611 ครั้ง ]
.. :b8:


อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2013, 15:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2013, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


อาหาร โดยศัพท์ หมายถึง นำมา คือ เป็นปัจจัย หรือ นำมาซึ่งผล เพราะฉะนั้น

สภาพธรรมอะไรก็ตาม ซึ่งนำมาซึ่งผล หมายถึง อาหาร อาหารจึงไม่ได้ หมายถึง

อาหารที่เราบริโภคกันเท่านั้น แต่ อาหารมีความละอียด หลากหลายนัยดังนี้
อาหาร มี 4 ประเภท ดังนี้

1.กพฬิงการาหาร หมายถึง รูปอาหารที่เป็นคำ ๆ ที่เราบริโภคเข้าไปส่วนที่จะเป็น

ประโยชน์หล่อเลี้ยงร่างกาย อาหารที่เป็นคำๆ นำมาซึ่ง โอชารูป

2.ผัสสาหาร หมายถึง ผัสสเจตสิก ซึ่งเป็นปัจจัยให้สัมปยุตธรรมเกิดขึ้น นำมาซึ่ง

เวทนา

3..มโนสัญเจตนาหาร หมายถึง กรรม ทั้งกุศลกรรม และอกุศลกรรม ย่อมนำมา

ซึ่งปฏิสนธิวิญญาณ(การเกิด)

4.วิญญาณาหาร หมายถึง ปฏิสนธิวิญญาณ ย่อมนำมาซึ่งนามรูป และอีกนัยหนึ่ง

จิตอื่นๆที่นำมาซึ่งผล คือ นาม รูป หรือว่า นาม หรือ รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่พ้น

จากอาหารปัจจัยที่เป็นวิญญาณอาหารด้วย

ในชีวิตประจำวันของคฤหัสถ์ จำเป็นต้องประกอบอาชีพการงาน เพื่อให้

ได้มาซึ่งทรัพย์สินอันเป็นเครื่องประคับประคองให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่าง

ไม่ลำบาก แต่ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าอาชีพที่ตนเองทำนั้นเป็นอาชีพที่ควรทำ

หรือไม่ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนสัตว์อื่นให้เดือดร้อนหรือไม่

บทว่า วิสวณิชฺชา ได้แก่ให้เขาทำพิษแล้วก็ขายยาพิษนั้น. การทำด้วยตนเอง

การชักชวนคนอื่นให้ทำการค้านี้ทั้งหมด ก็ไม่ควรด้วยประการฉะนี้.

ดังนั้น ปัญญาเท่านั้นที่ทำหน้าที่หลีกเลี่ยง ที่จะงดเว้นจากการค้าขาย ที่เป็นยาฆ่า

แมลง ยาปราบศัตรูพืช อันเป็นการค้ายาพิษ ซึ่งถ้าเราปรารถนาสุขเพื่อตนเอง ก็ไม่

พึงทำการเบียดเบียนสัตว์อื่น ดังพระสูตรที่กล่าวไว้ว่า

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไป

บิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับปลา

อยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีกับพระวิหารเชตวัน ครั้นแล้วเสด็จเข้าไปหาเด็กรุ่น

หนุ่มเหล่านั้น แล้วได้ตรัสถามว่า พ่อหนูทั้งหลาย เธอทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์

ความทุกข์ ไม่เป็นที่รักของเธอทั้งหลาย มิใช่หรือ? เด็กเหล่านั้นกราบทูลว่า อย่างนั้น

พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ทั้งหลาย กลัวต่อความทุกข์ ความทุกข์ ไม่เป็นที่รักของ

ข้าพระองค์ทั้งหลาย.

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่งพระ

อุทานนี้ในเวลานั้นว่า

"ถ้าท่านทั้งหลายกลัวความทุกข์ ถ้าความทุกข์ ไม่เป็นที่รักของท่าน

ทั้งหลายไซร้ ท่านทั้งหลายอย่าได้ทำบาปกรรม ทั้งในที่แจ้ง และ ในที่ลับเลย

ถ้าท่านทั้งหลายจักทำหรือทำอยู่ซึ่งบาปกรรมไซร้ ท่านทั้งหลายแม้จะเหาะหนี

ไป ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความทุกข์เลย"




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ขอเชิญร่วมสร้างพระพุทธเมตตาใหญ่ที่สุดในจ.นครพนม สูง 19 ม. กว้าง 3 ม. ณ.วัดเทพโสตถิการาม
________________________________________
087-954-2313



ร่วมบุญสร้างหอฉันและห้องสุขา
โทร.081-9981552


ขอเชิญสร้าง..สมเด็จองค์ปฐม ทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ สูง ๘ ศอก ณ ศูนย์พุทธศรัทธา
สำหรับท่านที่ไม่สามารถมาร่วมงานด้วยตนเอง มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ

● ส่งธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.บ้านหมอ ในนาม “ศูนย์พุทธศรัทธา”
๗๗ หมู่ ๗ ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ๑๘๑๓๐

● หรือโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาพระพุทธบาท
ชื่อบัญชี นายชนะ สิริไพโรจน์
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 211-2-32879-6



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระทันใจ..พระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 28 พระองค์
โทร 086-636-2059



ขอเชิญร่วมสร้างถวายกระเบื้องมุงหลังคามหาวิหารสมเด็จองค์ปฐมบรมครู
โทร.085-4151633


ร่วมบูชาวัตถุมงคลเพื่อซื้อระฆังกับหม้อน้ำมนต์
087 342 7383


ขอเชิญร่วมอนุโมทนามหากุศลเป็นเจ้าภาพมหากฐิน เพื่อทอดถวาย ณ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
โทร. 089-8449495


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าถวายหลวงปู่เกลี้ยง เตชะธัมโม
โทร 081-6004941


ขอรับบริจาคพัดลมและกระติกน้ำร้อน ถวายพระบวชใหม่ด้วยกัน
สำหรับการร่วมบุญโดยจัดส่งกระติกน้ำร้อน / พัดลม ทางไปรษณีย์ ส่งไปได้ที่

พระอาจารย์จาตุรงค์ รักขิตตธัมโม
ไปรษณีย์รอจ่าย อำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ 36130

และหากต้องการร่วมบุญโดยการโอนเงินบริจาค สามารถถวายได้ที่
บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาบางบัวทอง
ชื่อบัญชี พระจาตุรงค์ รักขิตตธัมโม
เลขที่ 527-208-3411



ขอเชิญร่วมงาน"ทอดผ้าป่ามหากุศลแพทยศาสตร์สงเคราะห์โลก”ณ ศาลา25ปี ม.ขอนแก่น13ม.ค.2556
________________________________________
ณ บริเวณศาลา 25 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556 เวลา 06.30-12.00 น.



หล่อพระพุทธชินราช วัดจากแดง 20 มกราคม พ.ศ. 2556
วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.00น.

ณ วัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

เวลา 09.00 น. เจริญพระพุทธมนต์

10.00 น. ฟังธรรมบรรยาย

11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล

13.00 น. สวดคัมภีร์มหาปัฎฐาน

15.00 น. ประธานฝ่ายสงฆ์ทำพิธีเททอง


ขอเชิญร่วมบุญซื้อโลงเย็น ลายเรียบ เพื่อใช้ภายในวัดสองเปย
0847020194


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2013, 14:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J.bmp
B J.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 6577 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 18:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


จะขออธิบาย วิมุตติโดยนัยต่างๆดังนี้

1.วิกขัมภนวิมุตติ คือ ความหลุดพ้นจากกิเลส นิวรณ์ ด้วยการข่มไว้ ด้วยกำลังของฌาน

คือ สมถภาวนา

2.ตทังควิมุตติ คือ หลุดพ้นจาก ธรรมที่เป็นข้าศึกในขณะนั้น เช่น การได้วิปัสสนาญาณ

บางวิปัสสนา สามารถละ หลุดพ้นจากความสำคัญว่าเที่ยง เป็นต้น

3.สมุจเฉทวิมุตติ คือ หลุดพ้นจากกิเลสที่ตัดขาดแล้ว อันหมายถึง ขณะที่เป็นมรรคจิต

4.ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ คือ หลุดพ้นแล้วสงบ ด้วยอำนาจที่กิเลสสงบแล้ว หลังจากการละ

กิเลส คือ ขณะที่เป็นสามัญญผล 4 เช่น โสดาปัตติผล เป็นต้น

5.นิสสรณวิมุตติ หมายถึง พระนิพพาน หลุดพ้นคือเพราะปราศจากคือ เพราะตั้งอยู่ไกล

จากกิเลสทั้งปวง

นรชน พึงมีปกติอย่างไร มีความประพฤติอย่างไร พึงพอกพูน

กรรมเป็นไฉน จึงจะเป็นผู้ดำรงอยู่โดยชอบและ พึงบรรลุถึงประโยชน์อัน

สูงสุดได้ พระเจ้าข้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า

นรชน พึงเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อบุคคลผู้เจริญ ไม่ริษยา และเมื่อ

ไปหาครูพึงรู้จักกาละ พึงรู้จักขณะ ฟังธรรมกถาที่ครูกล่าวแล้ว พึงฟัง

สุภาษิตโดยเคารพ

พึงไปหาครู ผู้นั่งอยู่ในเสนาสนะของตนตามกาล ทำมานะดุจเสาให้

พินาศ พึงประพฤติอ่อนน้อม พึงระลึกถึงเนื้อความแห่งภาษิต ธรรมคือบาลี

ศีล พรหมจรรย์และพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อด้วยดี

นรชน มีธรรมเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในธรรม ตั้งอยู่ในธรรม รู้จัก

วินิจฉัยธรรม ไม่พึงประพฤติถ้อยคำที่ประทุษร้าย ธรรมเลย พึงให้กาลสิ้นไป

ด้วยภาษิตที่แท้.

นรชน ละความรื่นเริง การพูดกระซิบ ความร่ำไร ความประทุษร้าย

ความหลอกลวงที่ทำด้วยมารยา ความยินดี ความถือตัว ความแข่งดี ความ

หยาบคาย และความหมกมุ่นด้วยกิเลสดุจน้ำฝาด พึงเป็นผู้ปราศจากความ

มัวเมา ดำรงตนมั่น เที่ยวไป

นรชนเช่นนี้ รู้แจ้งสุภาษิต ที่เป็นสาระ รู้แจ้งสูตรและสมาธิที่เป็นสาระ

ปัญญาและสุตะ ย่อมไม่เจริญแก่นรชนผู้เป็นคนผลุนผลัน เป็นคนประมาท

ส่วน นรชนเหล่าใด ยินดีแล้วในธรรมที่พระอริยเจ้าประกาศแล้ว นรชน

เหล่านั้น เป็นผู้ประเสริฐกว่าสัตว์ที่เหลือด้วยวาจา ด้วยใจ และการงาน นรชน

เหล่านั้น ดำรงอยู่ด้วยดีแล้วในสันติ โสรัจจะ และสมาธิ ได้บรรลุถึงธรรมอัน

เป็นสาระแห่งสติและปัญญา.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2013, 22:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J 2.bmp
B J 2.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 6538 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


เตโชกสิณ กสิณไฟ

กสิณไฟ เป็นกรรมฐานโดยใช้รูปเป็นอารมณ์ อันได้แก่ไฟเป็นอารมณ์ในการฝึก คนทั่วไปมักชอบที่เลือกที่จะเริ่มต้นด้วยกสิณไฟเป็นอันดับแรก ๆ อาจเป็นเพราะได้ยินกิตตศัพท์ของกสิณไฟมากกว่ากสิณอื่น ๆ และความมีอานุภาพของกสิณไฟนั่นเอง ไฟเป็นธาตุหนึ่งในธาตุสี่ (มหาภูตรูปสี่) ที่มีความเป็นธาตุเหมือนธาตุดินน้ำลมแต่ไฟเป็นพลังงานด้วย เมื่อเพ่งกสิณไฟแล้ว สิ่งที่ได้ จะที่ได้จะปรากฏชัดทั้งหลับตาและลืมตา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเริ่มต้นได้ดีด้วยกสิณกองนี้เหมือนกันทุกคน บางคนอยากฝึกกสิณไฟมาก พอได้ฝึกจริง ๆ แล้ว กลับขอไปฝึกกสิณดินเหมือนเดิม

ทั้งนี้ เพราะกสิณไฟเป็นกองกสิณที่ทำให้เกิดทิพยจักษุด้วยกระทั้ง จึงเป็นเหมือนเสน่ห์ของกสิณไฟที่ทำให้ประชาชนชอบที่จะเข้ามาฝึกกสิณกองนี้ก่อน ซึ่งจากการปฏิบัติแล้ว กสิณหลายกองก็นำไปเกิดทิพยจักษุได้เช่นกัน

เริ่มต้น ก่อนที่ท่านจะฝึกกสิณไฟหรือไม่ ท่านควรทราบก่อนว่า ท่านเหมาะสมกับกสิณกองนี้หรือไม่ ท่านอาจจะเช็คจริตที่ท่านเป็นจากศิษย์สุวรรณโคมคำก่อน พร้อมทั้งคำแนะนำว่า หากท่านต้องการจะฝึกกสิณไฟจริง ๆ แล้ว ท่านต้องกระทำการแก้ไขบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในการฝึกกสิณให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ทั้งนี้ อาศัยดวงชาตาของท่านทำให้ได้ทราบชัดว่าท่านมีจริตเช่นไร และนำให้ท่านได้ทราบกรรมฐานที่เหมาะสมกับตนเองได้ดียิ่งขึ้น

การเพ่งกสิณไฟอาจจะใช้กองไฟเลยก็ได้ แต่เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การเพ่งจากกองไฟจึงยากที่จะเป็นไปได้ ท่านอาจเริ่มต้นโดยใช้เทียนไขจุดไว้ตั้งห่างจากตัวพอประมาณ ทั้งนี้ เทียนไขก็อย่าให้เล็กเกินไป และอย่าเลือกเทียนไขที่มีกลิ่นหอม ในช่วงเวลาที่ฝึก อาจต้องปิดพัดลม เพื่อให้มองเห็นเปลวไฟได้ชัดเจน เพื่อให้ตาจับภาพของเปลวไฟที่ต้องการได้เหมาะกว่า
กสิณโทษ การมองเห็นไส้เทียนสีดำ ๆ เป็นกสิณโทษ หรือการได้นิมิตกสิณไฟเป็นสีแดง เขียว หรือดำนั้นเป็นกสิณโทษทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากผู้ฝึกกสิณได้ภาพนิมิต ที่เป็นกสิณโทษ ควรละสายตาออกแล้วเพ่งเทียนใหม่
นิมิตของกสิณไฟจะเป็นเปลวไฟ อาจเริ่มเป็นดวงขนาดเล็ก ๆ เป็นวงรี ภาพจะอยู่นานหน่อยสำหรับบางท่าน อาจเคยผ่านการฝึกฝนมาจากครั้งอดีตกาล ทำให้มารื้อฟื้นได้เร็ว บางท่านก็จะไม่เห็นดวงกสิณเลย เป็นสีดำมืดไปหมด

ให้ท่านทำการฝึกเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งคราวที่ท่านว่างจากกิจธุระ ให้จิตจดจ่ออยู่ที่ดวงเตโชกสิณไม่ว่าจะทำอะไร ทำให้เกิดอารมณ์ที่แน่วแน่มากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้ อย่าได้หวังว่าจะสำเร็จเร็วนัก เพราะความอยากทำให้การปฏิบัติกรรมฐานช้าออกไปอีก ทางที่ดี ก็คือ ค่อยเป็นค่อยไป ได้ทำกรรมฐานก็ถือเป็นเรื่องดีสุดแล้ว



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2013, 13:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 6523 ครั้ง ]
่.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2013, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


1.อกุศลกรรม (กรรมที่เป็นอกุศล, กรรมชั่ว, การกระทำที่ไม่ดี ไม่ฉลาด ไม่เกิดจากปัญญา ทำให้เสื่อมเสียคุณภาพชีวิต หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ - Akusala-kamma: unwholesome action; evil deed; bad deed)
2.กุศลกรรม (กรรมที่เป็นกุศล, กรรมดี, การกระทำที่ดี ฉลาด เกิดจากปัญญา ส่งเสริมคุณภาพของชีวิตจิตใจ หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คืออโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ -Kusala-kamma: wholesome action; good deed)

กรรมดี หรือ กรรมชั่วก็ตาม กระทำทางกาย วาจา หรือทางใจก็ตาม สามารถจำแนกอีก เป็นประเภทต่าง ๆ ได้หลายแบบ ดังนี้

กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) 4 อย่าง
กรรมจำแนกตามหน้าที่ของกรรม (กิจจตุกะ) 4 อย่าง
กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยายจตุกะ) 4 อย่าง
กรรมจำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม (ปากฐานจตุกะ) 4 อย่าง

การกระทำทางกาย วาจา ใจ ทั้งที่เป็นฝ่ายดีหรือไม่ดีก็ตาม ย่อมตอบสนองแก่ผู้กระทำ ไม่เร็วก็ช้า เวลาใดเวลาหนึ่ง กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) แสดงกำหนดเวลา แห่งการให้ผลของกรรม มี 4 อย่าง คือ

1.ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน คือในภพนี้
2.อุปปัชชเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
3.อปราปริเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป
4.อโหสิกรรม หมายถึง กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก

กรรมจำแนกตามหน้าที่การงานของกรรม (กิจจตุกะ) กรรมมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำสี่อย่าง คือ

1.ชนกกรรม หมายถึง กรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด กรรมแต่งให้เกิด
2.อุปัตถัมภกกรรม หมายถึง กรรมสนับสนุน กรรมที่ช่วยสนับสนุนหรือซ้ำเติม ต่อจากชนกกรรม
3.อุปปีฬิกกรรม หมายถึง กรรมบีบคั้น กรรมที่มาให้ผล บีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้น ให้แปรเปลี่ยนทุเลาลงไป บั่นทอนวิบากมิให้เป็นไปได้นาน
4.อุปฆาตกกรรม หมายถึง กรรมตัดรอน กรรมที่แรงฝ่ายตรงข้ามกับชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมทั้งสองอย่างนั้น ให้ขาดไปเสียทีเดียว

กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยายจตุกะ) จำแนกตามความยักเยื้อง หรือ ลำดับความแรงในการให้ผล 4 อย่าง

1.ครุกกรรม (หนังสือพุทธธรรมสะกดครุกกรรม หนังสือกรรมทีปนีสะกดครุกรรม) หมายถึง กรรมหนัก ให้ผลก่อน เช่น ฌานสมาบัติ 8 หรือ อนันตริยกรรม
2.พหุลกรรม หรือ อาจิณกรรม หมายถึง กรรมที่ทำมาก หรือ ทำจนเคยชิน ให้ผลรองจากครุกรรม
3.อาสันนกรรม หมายถึง กรรมจวนเจียน หรือ กรรมใกล้ตาย คือกรรมที่ทำเมื่อจวนจะตาย จับใจอยู่ใหม่ๆ ถ้าไม่มีสองข้อก่อน ก็จะให้ผลก่อนอื่น
4.กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม หมายถึง กรรมอื่นที่เคยทำไว้แล้ว นอกจากกรรม 3 อย่างข้างต้น, ฏีกากล่าวว่า กรรมนี้ให้ผลในชาติที่ 3 เป็นต้นไป (กตตฺตา-สิ่งที่เคยทำไว้, วา ปน-ก็หรือว่า, กมฺม-กรรม) กตัตตากรรมนี้ ในตำราทางพุทธศาสนาหลายแห่ง (เช่น หนังสือกรรรมทีปนี พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลธรรม และหนังสือพุทธธรรมฉบับขยายความ) ได้บรรยายไว้ว่า หมายถึง กรรมสักแต่ว่าทำ กรรมที่ทำไว้ด้วยเจตนาอันอ่อน หรือมิใช่เจตนาอย่างนั้นโดยตรง ต่อเมื่อไม่มีกรรมอันอื่นให้ผลแล้ว กรรมนี้จึงจะให้ผล


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2013, 21:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J 3 sp.bmp
B J 3 sp.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 6495 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2013, 11:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์ 5 และ พละ 5 ประกอบด้วย ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา เหมือนกัน

อินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่

พละ คือ ความไม่หวั่นไหว

อินทรีย์ 5

ศรัทธา คือ สัทธินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ ในสภาพธัมมะของตนคือ น้อมใจเชื่อ

วิริยะ คือ วิริยินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ ในการประคองไว้

สติ คือ สตินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการระลึก

สมาธิ คือ สมาธินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ ในการไม่ฟุ้งซ่าน

ปัญญา คือ ปัญญินทรีย์ มีความเป็นใหญ่ในการเห็นตามความเป็นจริง

-------------------------------------------------------------------------------

พละ 5

สัทธาพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่มีศรัทธา

วิริยะพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่เกียจคร้าน

สติพละ มีความไม่หวั่นไหว ในความไม่ประมาท

สมาธิพละ มีความไม่หวั่นไหวไป เพราะความฟุ้งซ่าน

ปัญญาพละ มีความไม่หวั่นไหวไป ในความไม่รู้

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 113

ว่าด้วยพละ ๕


[๑๐๙๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พละ ๕ประการนี้. ๕ ประการเป็นไฉน

คือ สัทธาพละ ๑ วิริยพละ ๑ สติพละ ๑ สมาธิพละ ๑ ปัญญาพละ ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พละ ๕ ประการนี้แล.

[๑๑๐๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศปราจีน หลั่ง

ไปสู่ทิศปราจีน บ่าไปสู่ทิศปราจีน แม้ฉันใด ภิกษุเจริญพละ ๕ กระทำให้

มากซึ่งพละ ๕ ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่

นิพพาน ฉันนั้นเหมือนกัน.

[๑๑๐๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเจริญพละ ๕ กระทำให้มากซึ่ง

พละ ๕ อย่างไรเล่า ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไป

สู่นิพพาน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัทธาพละ อันอาศัยวิเวก อาศัย

วิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ย่อมเจริญวิริยพละ... สติพละ...

สมาธิพละ... ปัญญาพละ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อม

ไปในการสละ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเจริญพละ ๕ กระทำให้มากซึ่งพละ

๕ อย่างนี้แล ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน.


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ -หน้าที่ 44


๑. สุทธิกสูตร ว่าด้วยอินทรีย์ ๕

[๘๔๓] สาวัตถีนิทาน. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระ-

พุทธพจน์นี้ ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน

คือ สัทธินทรีย์ ๑ วิริยินทรีย์ ๑ สตินทรีย์ ๑ สมาธินทรีย์ ๑ ปัญญินทรีย์ ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ ๕ ประการนี้แล.

จบสุทธิกสูตรที่ ๑


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2013, 13:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J.bmp
B J.bmp [ 360.99 KiB | เปิดดู 6478 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ ..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2013, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


สมัยหนึ่ง ท่านพระมหากัสสปะ ออกจากนิโรธสมาบัติ ประสงค์จะสงเคราะห์

คนเข็ญใจ จึงเที่ยวบิณฑบาต เพราะ หากใครทำบุญ กับ พระภิกษุผู้มีคุณธรรมสูง

และ ออกจานิโรธสมาบัติ ผลบุญย่อมมีมากมาย สมัยนั้น ก็มี นางเทพธิดา มาใน

รูปร่างเทพธิดา ตั้งใจนำอาหารทิพย์มาถวายท่านพระมหากัสปปะ แต่เมื่อท่านเห็นว่า

เป็นเทวดา ท่านพระมหากัสสปะ ปฏิเสธ เพราะ ต้องการอนุเคราะห์คนเข็ญใจ

ท้าวสักกะ ทราบเรื่องนี้ จึงแปลงเป็นคนยากจนมาก เป็นคนแก่ ทอผ้าอยู่ เนรมิต

ทางเดิน และ บ้านเก่าๆ ระหว่างทางที่ท่านพระมหากัสสปะมา

พระมหากัสสปะ ไม่ได้เข้าฌานในขณะที่บิณฑบาต จึงไม่ทราบว่า เป็นท้าวสักกะ

ปลอมตัวมา จึงสำคัญว่าเป็นคนจนเข็ญใจอย่างยิ่ง ท่านพระมหากัสสปะ จึงมอบบาตร

ให้กับ ท้าวสักกะที่ปลอมมาเป็นคนจน ท้าวสักกะ ใส่อาหารทิพย์ กลิ่นหอมไปทั่ว

พระนครราชคฤห์ ท่านพระมหากัสสปะ คิดว่า คนจนนี้ ใส่อาหารประณีตมาก ดังเช่น

อาหารของเทวดา จึงเข้าฌาน และ รู้ว่าเป้นท้าวสักกะ ปลอมตัวมา จึงกล่าวว่ากับ

ท้าวสักกะว่า ท่านทำกรรมไม่สมควร เป็นโจรปล้นชาวบ้าน คนจนเข็ญใจ หากได้

ใส่บาตรอาตมา ย่อมได้เป็นเศรษฐีในวันนี้ ท้าวสักกะ กล่าวว่า แม้กระผมก็เป็น

คนจนเข็ญใจเช่นกัน และได้เล่าว่า เทพบุตร 3 องค์ ได้ทำบุญกับพระพุทธศาสนา

และ เมื่อมาเกิดเป็นเทวดา มี รัศมี กลบกระผม กระผมต้องหลบเข้าไปในที่อยู่

เพราะ รัศมีของเทพบุตรทั้ง 3 เกินกระผม กระผมเป็นคนยากจนเข็ญใจเพราะเหตุนี้

ท้าวสักกะ ถามต่อว่ากระผมจะได้บุญ หรือไม่ ท่านพระมหากัสสปะกล่าวว่า พระองค์

ทำกุศลย่อมได้บุญ ท้าวสักกะเกิดปิติ กล่าวขึ้นว่า โอ ทานนี้เป้นทานอันยอดเยี่ยมที่

เราถวายกับท่านพระมหากัสสปะ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 344

ท้าวสักกะกล่าวว่า ใครที่เข็ญใจกว่าข้าพเจ้ามีอยู่หรือ พระคุณเจ้า. พระเถระกล่าว

ว่า พระองค์เสวยสิริราชสมบัติในเทวโลก จะเป็นคนเข็ญใจได้อย่างไร. ท้าวสักกะ

กล่าวว่า ข้อนั้นชื่อว่าเป็นอย่างนั้นนะ พระคุณเจ้า ก็ข้าพเจ้าได้กระทำกรรมอันงาม

ไว้เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่อุบัติขึ้น แต่เมื่อพุทธุปบาทกาลเป็นไปอยู่ เทวบุตร ๓ องค์

นี้ คือ จูฬรถเทวบุตร มหารถเทวบุตรอเนกวัณณเทวบุตร กระทำบุญกรรมแล้ว

เกิดในที่ใกล้กับข้าพเจ้า มีเดชมากกว่าข้าพเจ้า เมื่อเทวบุตรเหล่านั้นคิดจะเล่นงาน

นักขัตฤกษ์ จึงพานางบำเรอลงสู่ระหว่างถนน ข้าพเจ้าจึงหนีเข้าเรือน เพราะเดช

จากสรีระของเทพบุตรเหล่านั้น กลบร่างของข้าพเจ้า เดชจากร่างของข้าพเจ้า หา

ได้กลบร่างของเทพบุตรเหล่านั้นไม่ ใครจะเป็นผู้เข็ญใจกว่าข้าพเจ้าล่ะ พระคุณเจ้า.

พระเถระกล่าวว่า แม้เมื่อเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่นี้ไป พระองค์อย่าลวงอย่างนี้ แล้ว

ถวายทานแก่อาตมา.


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ หน้าที่๑๔๓

ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะผู้จอมเทพ ได้ทรงลูบคลำแผ่นดินด้วยฝ่าพระหัตถ์ (เพื่อเป็น

พยาน) แล้ว ได้ทรงอุทาน ๓ ครั้งว่า

นะโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

นะโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

นะโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[๒๗๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไวยากรณ์นี้จบลง ธรรมจักษุ(ดวงตาเห็นธรรม)

อันปราศจากธุลี ไม่มีมลทิน ได้เกิดขึ้นแล้วแก่ท้าวสักกะผู้จอมเทพว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีอัน

เกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมด มีอันดับไปเป็นธรรมดา อนึ่ง ธรรมจักษุเช่นนั้น ได้

เกิดขึ้นแก่เทพดาเหล่าอื่นแปดหมื่นองค์ด้วย.
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 144

อรรถกถาสักกปัญหสูตร

บทว่า อุสฺสุกฺก อุทปาทิ คือ เกิดความอุตสาหะที่ประกอบด้วย

ธรรมขึ้น ถามว่า ก็แลท้าวสักกะนั้น ก็ทรงเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ามาบ่อย

แล้วมิใช่หรือ มีประชุมเทวดากันที่ไหนนั้น ก็ไม่ใช่ว่าท้าวสักกะนี้ไม่เคยเสด็จ

มาขึ้นชื่อว่าเทวบุตรขนาดท้าวสักกะอยู่อย่างประมาทก็ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนั้น

ทำไม ท้าวสักกะนั้นจึงทรงเกิดความอุตสาหะเหมือนผู้ไม่เคยมาเฝ้าพระพุทธเจ้า

เล่า ตอบว่า เพราะถูกความกลัวตายคุกคามเอา.

นัยว่า สมัยนั้น พระชนมายุของท้าวเธอหมดแล้ว. ท้าวเธอได้ทรงเห็น

บุพนิมิตรห้าประการ ทรงทราบว่า บัดนี้เราหมดอายุแล้ว ก็เครื่องหมาย

ความตายปรากฏแก่เทวบุตรเหล่าใด ในเทวบุตรเหล่านั้น พวกใดเกิดใน

เทวโลกด้วยบุญกรรมเล็กน้อย พวกนั้นก็ย่อมถึงความหวาดสะดุ้งเพราะ

ความกลัวว่า คราวนี้เราจักเกิดที่ไหนหนอ พวกใด ได้เตรียมป้องกันภัย

ที่น่าสะพึงกลัวไว้ทำบุญไว้มากเกิดแล้ว พวกนั้นคิดว่า เราอาศัยทานที่ตน

ได้ให้ ศีลที่รักษาไว้และภาวนาที่ได้อบรมไว้แล้ว จักเสวยสมบัติในเทวโลก

ชั้นสูง ย่อมไม่กลัว. ส่วนท้าวสักกเทวราชเมื่อได้ทรงเห็นบุพนิมิตร ก็ทรง

มองดูสมบัติทั้งหมดอย่างนี้ว่า เทพนครหมื่นโยชน์ ประสาทไพชยันต์สูงพัน

โยชน์ สุธรรมาเทวสภาสามร้อยโยชน์ ต้นมหาปาริฉัตรสูงร้อยโยชน์ หินปัณฑุ-

กัมพลหกสิบโยชน์ นางฟ้อนยี่สิบห้าโกฎิ เทพบริษัทในสองเทวโลก สวน

นันทน์ สวนจิตรลดา สวนมิสสกะ สวนปารุสก์ แล้วก็ทรงถูกความกลัว

ครอบงำว่า ท่านเอ๋ย สมบัติของเรานี้จักฉิบหายหนอ ต่อไปก็ทรงมองดูว่า

มีใครบ้างไหมหนอ ไม่ว่าเป็นสมณะ เป็นพราหมณ์ หรือมหาพรหมผู้เป็น

พระบิดาของโลก ที่พึงถอนลูกศรคือความโศกที่อาศัยหัวใจเราแล้วทำให้สมบัติ

นี้มั่นคงได้ เมื่อทรงมองใคร ๆ ก็ไม่เห็น ก็ทรงเห็นอีกว่า มีแต่พระสัมมา-

สัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงสามารถถอนความโศกศัลย์ที่เกิดแก่เทพทั้งหลายเช่นเรา

แม้ตั้งแสนได้. ต่อมาโดยสมัยนั้นแล ความขวนขวายเพื่อจะเฝ้าพระผู้มี

พระภาคเจ้าก็ได้เกิดขึ้นแก่ท้าวสักกะจอมทวยเทพผู้ทรงพระดำริอยู่อย่างนี้.




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2013, 13:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2012, 02:09
โพสต์: 456


 ข้อมูลส่วนตัว




B J phodi.bmp
B J phodi.bmp [ 195.49 KiB | เปิดดู 6441 ครั้ง ]
.. :b8:

อนุโมทนาแล้วๆๆ..
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร