การสวดมนต์เป็นการสาธยายการท่องจำในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการจดบันทึก
ในการสวดมนต์อยู่ในขั้นของการภาวนาให้จิตเกิดสมาธิได้ค่ะ
การสวดมนต์ควรจะสวดเพื่อน้อมใจไปบูชาและระลึกในคุณพระรัตนตรัย
คือเป็นการพรรณาคุณของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
หากมีการสวดแปลด้วยแล้ว ใจเราจะเข้าใจเนื้อหาสาระ และน้อมใจไประลึก
ทำให้ใจเราสงบ กุศลเกิดแก่เรา จิตใจก็ไม่พล่าน
แต่หากสวดมนต์นานเกินไป จิตอาจจะพล่านได้ จึงควรสวดแต่พอประมาณ
หากใจพล่านเมื่อไหร่ ควรหยุดสวด เพราะอกุศลจะแทรกเสียเปล่าๆ ค่ะ

การสวดมนต์ข้ามปี เพื่อขอให้ปีหน้าร่ำรวย มีความสุขความเจริญนั้น
จิตเกิดโลภะในการไปทำกุศล เป็นการทำกุศลที่เป็นกุศลเพียงน้อยนิด
หากจะทำกุศลจริงๆ ควรไปสวดเพื่อบูชาพระรัตนตรัย ตั้งจิตเพื่อไปทำกุศล
ไม่ใช่ไปขอให้เกิดความร่ำรวย ความสุข
เพราะการทำกุศล ไม่ต้องไปขอ ยังงัยก็ต้องได้อานิสงส์อยู่แล้ว
ทำเหตุไว้ ผลก็ต้องตามมาเสมอ สู้ทำเหตุให้ตรงทำกุศลก็ทำกุศลอย่าเอาโลภะ
ซึ่งเป็นอกุศลไปแทรก ไปเพื่อสวดเพื่อบูชาพระรัตนตรัย เพื่อสาธยายคุณ ระลึกคุณพระรัตนตรัย

อย่าเคืองกันนะคะ แค่หวังให้ปีใหม่นี้ เพื่อนๆ ได้ตั้งจิตในการทำกุศลได้อย่างถูกต้อง
การทำกุศลด้วยการสวดมนต์ข้ามปีในครั้งนี้ เป็นกุศลจริงๆ เป็นการปฏิบัติเพื่อพุทธบูชา
เพื่อบูชาพระรัตนตรัยโดยแท้จริงค่ะ

นำกระทู้เรื่องการทำกุศลมาฝากค่ะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=42423

ใช่เลย....เราอย่าเคืองกันนะ เราควรพูดกันที่มันถูกทางไม่งั้นคุณรุ่นหลังอาจไขว่เขว
การสวดมนต์นั้นเราน้อมระลึกนึกถึงคุณของพระรัตนตรัยเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่ใช่สวดเพื่อเอาเวลาให้มากๆ และการสวดมนต์ข้ามปีจะกลายเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง
การสวดมนต์ข้ามปีนั้นจะได้บุญตรงไหนกัน เพราะผู้สวดเจตนาผิดตั้งแต่ต้นแล้ว
เมื่อเริ่มต้นผิด ผลที่จะได้มันก็ผิดเช่นกัน การสวดมนต์นั้นดี แต่เจตนามันผิดครับ
ดังมีวัดหลายๆ วัดจัดทำขึ้น และก็ต่อไปนี้คงจะประเพณีใหม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ

โอ้..โห้...ขุดกระทู้ครึ่งทศวรรษ..เลยนะนี้

เมื่อ: 18 ธ.ค. 2012, 17:04

ขออนุโมทนาสาธุนะครับ

สาธุ อนุโมทนา บุญในการคิดดี พูดดี ทำดีกัน
ทั้งครอบครัวด้วยครับ

ก็ต่อไปนี้คงจะประเพณีใหม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ ผมว่าก็ดีนะครับ
ประเพณีชักนำมวลชนให้รู้จักการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็ยังดีกว่าประเพณี
นั่งสังสรรค์ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ เฮฮ่าปาร์ตี้ และการไปท่องเที่ยวดูโน้นดูนี้ สู้
มานั่งดูใจตัวเองตอนสวนมนต์ไม่ได้เลย ถึงจะเข้าถึงบุญได้ไม่ตรงนักก็ยัง
ดีกว่าไม่เข้าเลย เรามิควรห้ามปรามผู้คิดจะทำความดีนะครับ ถึงจะเป็นความ
ดีเล็กน้อย หรือปานกลาง ควรจะค่อยแนะนำให้บุญที่สูงๆ ขึ้นไปจะดีกว่า

คนเราสะสมบารมีมาไม่เท่ากันไม่เหมือนกัน แต่เราอยากจะให้ได้เหมือนกัน
เท่ากันนั้นก็เป็นทุกข์เปล่าๆ ครับ ยึดทางดีไว้ก่อนก็ยังดีกว่าไม่ยึดอะไรเลย อุปมา
เหมือนเด็กเกิดใหม่ ผู้ใหญ่จะไปพยายามสอนยังไงให้เด็กเค้าเดินเค้าก็เดินไม่ได้
จนกว่าจะถึงวัยอันควรนั้นเอง

หากคนทั่วโลกหันมาฉลองการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ด้วยการสวดมนต์ข้ามปีเช่นนี้ ทรัพย์สินที่จะต้องหมดไปอย่าง
มหาศาลคงไม่ต้องเสียหายไปไหน อีกทั้งสัตว์หลายพันหลาย
แสน หลายล้านตัวไม่ต้องมาตายลงเพราะถูกฆ่าเพื่อใช้ในการ
กินดื่มเฮฮ่าแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นแน่

หากท่านมีลูก ๒ คน ท่านรู้ว่า

+คนแรกจะไปฉลองด้วยการสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิข้ามปี

+คนที่สองจะไปฉลองด้วยการดื่มกินเที่ยวเฮ่ฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง

ท่านจะมีความยินในลูกคนไหนมากกว่ากัน?

ไม่ทราบว่าในงานสวดมนต์ข้ามไปนี้ ได้นิมนต์พระ
ดีๆมาเทสนาด้วยไหมครับ หากมีก็คงดี เพราะบางคน
นานๆถึงได้มีโอกาสเข้าวัด ดังนั้นน่าจะเอาโอกาสดีๆ
เช่นนี้ให้เค้าเหล่านั้นได้ฟังธรรมบ้างก็น่าจะเป็นบุญเป็น
กุศลอย่างยิ่งครับ

เป็นคำถามที่ตอบฟันธงยากนะ

ถ้าเป็นเอกอน ถ้าเอกอนมีลูก
เอกอนก็น่าจะรู้สึกยินดีกับลูกที่ทำให้เอกอนวางใจได้
เชื่อเขาได้ว่าไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน สถานการณ์อย่างไร
เขาจะดูแลตัวเองได้

เพราะ ปาร์ตี้ ก็คือ การมีสังคม
การที่ผู้คนจะมีช่วงเวลาที่สร้างความสัมพันธ์
เอกอนชอบตีแบด เอกอนก็มีสังคมก๊วน เขาก็มีปาร์ตี้
เอกอนมีเพื่อนที่ทำงาน เขาก็มีปาร์ตี้
เอกอนมีเพื่อนที่โตมาด้วยกัน เขาก็มีปาร์ตี้
เอกอนก็ไปทุกตี้เลย...
เอกอนไม่กินเหล้า ... แต่เอกอนกินกับ...^^

ปาร์ตี้ทำให้เกิดการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ระหว่างกันและกัน

ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ
เอกอนอยู่ที่ปาร์ตี้ เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่จะต้องทำให้ทุกคนมีความสุขในการจับรางวัล

พ่อ แม่เอกอนไม่เคยเป็นห่วงกับเรื่องไปปาร์ตี้


ซึ่งสวดมนต์ข้ามปี เอกอนก็เคยไปนะ แต่ไม่ค่อยได้ไปหรอก
เพราะบางทีวัดไหนดัง ๆ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างก็มุ่งเข้าไป

ถ้าทำอยู่บ้านได้จะเป็นการดี พ่อ แม่ ลูก จัดห้องพระ
สวดมนต์ข้ามปีร่วมกัน...

ว่าแล้ว ปีใหม่ปีนี้ เอกอนถือโอกาสจัดห้องพระใหม่ดีก่า

อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ

หากลูกมีศีล ธรรม ประจำใจแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
แล้วครับ ทั้งเราก็ถ่ายทอดสิ่งดีๆให้กับเค้าตอนยังเล็กแล้ว
เมื่อเติบโตแล้วก็แล้วแต่พวกเค้าเหล่านั้นจะเลือกเดินทาง
กันเอง