วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 04:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 02:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
จิต เป็นธรรมชาติ รู้ อารมณ์ ...ไม่มีปัญญา ก็รู้อารมณ์ได้

จิตไม่มีปัญญาก็ไม่รู้ เขาเรียกจิตที่ไม่มีปัญญาว่า.....หลงอารมณ์
"เช่นนั้น" แยกแยะให้มันถูกระหว่าง"รู้"กับ"รู้สึก"
"รู้" หมายถึง รู้ความเป็นมา รู้ความเป็นไป มันเป็น..วิชชา
ส่วน"รู้สึก" หมายถึง อาการเมื่อเกิดการกระทบแล้วเข้าไปยึด
และปรุงแต่งต่อ เขาเรียก...อวิชา


ขันธ์ห้าเป็นสังขารการปรุงแต่ง การหลงของปุถุชนและอริยชนจะหลงไปกับขันธ์
ขึ้นอยู่กับระดับการภาวนาเช่น...ปุถุชนพระโสดาบันยังหลงในสังขารขันธ์
แต่มีปัญญารู้กายรู้วาจา พระสกิทาคายังหลงในสัญญา แต่มีปัญญารู้สังขารขันธ์
พระอนาคายังหลงเวทนา แต่มีปัญญารู้สัญญา พระอรหันต์มีปัญญาวิมุตติ ไม่หลงแล้ว
เช่นนั้น เขียน:
สติ เป็นสังขารขันธ์
สัญญา เป็นสัญญาขันธ์
การระลึก จึงต้องอาศัย สังขารขันธ์ อื่นๆ ด้วยกัน จึงเกิดขึ้นได้ และจึงระลึกต่อสัญญา
การรู้ด้วยปัญญา หรือเห็นแจ้ง เป็นการรู้ตามจิตอย่างหนึ่ง ที่สำเร็จด้วยการภาวนา ด้วยการอบรม
การรู้ทันจิต คือความกำหนดได้ เมื่อเวทนา และสัญญาปรากฏพร้อมกันกับ สติ
เพราะความปรากฏ พร้อมกัน จึงรู้ทัน

ทั้งสติและสัญญาล้วนแล้วแต่เป็นสังขาร หรือเป็นอาการของจิต
อาการของจิตไม่สามารถเกิดพร้อมกันได้ อาการแต่ละอาการของจิตเกิดและดับ
ไปพร้อมกับจิต สัญญาจะเกิดได้จะต้องให้อาการเวทนาดับไปก่อน และสติจะเกิดได้
สัญญาต้องดับไปก่อน (ตามหลักสันตติ)
เช่นนั้น เขียน:
สติเป็น อาการของจิต ในสังขารขันธ์ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพื่อไม่ให้เกิดกายสังขาร หรือ วจีสังขาร
ถ้าเป็นดั่งที่ โฮฮับ อธิบายจริง ขณะมีสติ ก็คงกลายเป็นก้อนหินไปแล้ว :p

สงสัยฟังไม่ได้ศัพท์ อ่านที่มาไม่ละเอียด ที่บอกว่า มีสติเพื่อไม่ให้เกิดกายและวจีสังขาร
ต้องดูที่มา สติเป็นอาการของจิตที่เป็นกุศล มันตรงข้ามกับจิตที่มีอาการเป็นอกุศล

การมีสติเพื่อไม่ให้เกิดกายสังขารและวจีสังขาร หมายถึง ในขณะที่จิตมีอกุศล
ต้องระลึกถึงธรรมที่เป็นกุศลเพื่อไม่ให้กายและวาจา ไปกระทำตามจิตที่เป็นอกุศล

เมื่อมีสติจะเกิดจิตที่เป็นกุศล กายและวาจาก็จะเกิดการกระทำที่เป็นกุศลตามจิต
อย่างเช่น มีใครมาพูดจากระทบกระเทียบจนเกิดความโกรธ ในขณะที่โกรธต้องรู้ทัน
ให้เกิดสติ สติจะไปยับยั้งไม่ให้เกิดการกระทำในการตอบโต้ แต่จะไปกระทำในสิ่งที่ตรงข้าม
เพราะจิตได้เปลี่ยนจากอกุศลเป็นกุศลแล้ว

อย่าลืมว่า สติเป็นอาการของจิตที่เป็นกุศล มันตรงข้ามกับอาการของจิตที่เป็นอกุศล
เมื่อจิตเปลี่นเป็นกุศลย่อมไม่เกิดการกระทำที่เป็นอกุศล แต่จะเกิดการกระทำที่เป็นกุศลแทน
การที่"เช่นนั้น" แย้งความเห็นผมว่า จะกลายเป็นก้อนหิน แสดงว่าไม่ได้รู้ในลายละเอียดของจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 03:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คนละเรื่องเลย "เช่นนั้น" การรู้ทันมันต้องอาศัยสติ และการจะมีสติได้
มันต้องมีการกำหนดไว้ก่อนหน้า เช่นการรู้ว่าจิตที่เป็นกุศลเป็นอย่างไร
จิตที่เป็นอกุศลเป็นอย่างไร เมื่อรู้แล้วเก็บไว้เป็นสัญญา สติจะเกิดต่อเมื่อ
จิตนั้นขณะนั้นเป็นอกุศล จิตจะไประลึกรู้ธรรมหรือสัญญาที่เป็นกุศล
เพื่อมาดับความเป็นอกุศลนั้น แบบนี้เรียกว่า...
รู้ทันจิต ความหมายก็คือรู้ทันอกุศลจิตนั้นเอง

จิตที่เป็นอกุศล ถ้ามีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็ต้องเกิด เพราะจิตปุถุชนย่อมมีกิเลส
แต่เมื่อเกิดแล้วสามารถดับมันได้ด้วยสติ
สติไม่ใช่การไม่ให้อกุศลจิตเกิด แต่เป็นการรู้ทันอกุศลจิต
นั้นคือเมื่อเกิดอกุศลจิต จึงเกิดสติเพื่อมาดับอกุศลจิตนั้น
ไม่ให้เกิดการปรุงแต่งกายและวาจา

โฮฮับ...
ขณะที่พิมพ์ แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
โฮฮับ มีสติ หรือไม่
จิตขณะดังกล่าวนี้ เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล
แล้ว นิ้วของโฮฮับ ยังสามารถเคาะแป้นพิมพ์ ได้หรือไม่

พิจารณาให้ดีน่ะ"เช่นนั้น" การอ่านความเห็นของคนอื่นต้องเอาที่มาและที่ไป
ของความเห็นมาพิจารณาด้วย ถ้าขืนดูความเห็นเป็นท่อนๆแบบ"เช่นนั้น"มันก็คงไม่รู้เรื่อง
เขาเรียกการกระทำนี้ว่า ไม่มีสมาธิในการอ่าน ไม่มีสุตตะมยปัญญา

ถ้าจิตผมเป็นอกุศลอยู่ แล้วเคาะแป้นพิมพ์ เขาเรียกการกระทำนั้นว่า..
กายกรรมที่เป็นอกุศล แบบนี้เขาเรียกว่า ไม่มีสติ
แต่ถ้าผมมีสติมีมโนสุจริต การเคาะแป้นพิมพ์ของผมเป็น กายกรรมที่เป็นกุศล

การมีสติไม่ได้หมายถึงการหยุดนิ่งเป็นหินแบบคุณว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 03:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คนละเรื่องเลย "เช่นนั้น" การรู้ทันมันต้องอาศัยสติ และการจะมีสติได้
มันต้องมีการกำหนดไว้ก่อนหน้า เช่นการรู้ว่าจิตที่เป็นกุศลเป็นอย่างไร
จิตที่เป็นอกุศลเป็นอย่างไร เมื่อรู้แล้วเก็บไว้เป็นสัญญา สติจะเกิดต่อเมื่อ
จิตนั้นขณะนั้นเป็นอกุศล จิตจะไประลึกรู้ธรรมหรือสัญญาที่เป็นกุศล
เพื่อมาดับความเป็นอกุศลนั้น แบบนี้เรียกว่า...
รู้ทันจิต ความหมายก็คือรู้ทันอกุศลจิตนั้นเอง

จิตที่เป็นอกุศล ถ้ามีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็ต้องเกิด เพราะจิตปุถุชนย่อมมีกิเลส
แต่เมื่อเกิดแล้วสามารถดับมันได้ด้วยสติ
สติไม่ใช่การไม่ให้อกุศลจิตเกิด แต่เป็นการรู้ทันอกุศลจิต
นั้นคือเมื่อเกิดอกุศลจิต จึงเกิดสติเพื่อมาดับอกุศลจิตนั้น
ไม่ให้เกิดการปรุงแต่งกายและวาจา

โฮฮับ...
ขณะที่พิมพ์ แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
โฮฮับ มีสติ หรือไม่
จิตขณะดังกล่าวนี้ เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล
แล้ว นิ้วของโฮฮับ ยังสามารถเคาะแป้นพิมพ์ ได้หรือไม่

มีสติแต่ไม่เป็นกุศลเจ้าค่่ะ เพราะไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว แล้วพี่โฮก็ไม่มีสัมมาทิฏฐิเพราะพี่โฮคิดว่าธรรมของท่านเช่นนั้นมั่วเละ การแสดงความเห็นของพี่โฮไม่มีการสำรวมในทิฏงิของตน

เขามีแต่ความรักทำให้คนตาบอด แต่น้องคิงคอง "ความรักทำให้เพ้อเจ้อ"
ไอ้ที่บอกว่า.....มีสติแต่ไม่เป็นกุศลน่ะ พี่โฮว่าน้องคิงคองก็มั่วเหมือนกันนั้นแหล่ะ
ถ้าจะให้พี่โฮบ่นเป็นภาษาชาววัง ก็ต้อง "อุแหม่! พอกันเลย แม่เจ้าปะคุณ พ่อเจ้าปะคุณ"

พี่โฮว่า น้องคิงคองเลิกพูดศัพท์แสงธรรมะได้แล้ว และก็อยากแนะนำน้องคิงคองว่า
อย่ามาพูดคุยในลักษณะว่าตัวเองรู้ธรรม เพราะเรื่องขี้ปะติ้วยังตัดไม่ได้
ตอนแรกคุยโม่คุยโต้ซะดิบดี ตัวเองบรรลุแล้ว ตัดแล้ว
พุทโธ่! พอเจอผู้ชายเข้าหน่อย ทำมาดีดดิ้นเป็นปลาช่อนถูกทุบหัว

พี่โฮว่าน่ะ ห้องสนทนาที่เหมาะกับน้องคิงคองก็คือห้อง "ความรักและพลัดพราก"
ห้องสนทนาธรรมห้องนี้ไม่เหมาะกับน้องหรอก

ปล. ผู้ใหญ่เขาคุยธรรมกัน สอดน่ะสอดได้ แต่ต้องมีความรู้ในสิ่งที่สอด
ไม่ใช่มาชักใบให้เรือเสีย เข้าใจมั้ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 04:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
มีใครเคยเป็นแบบคุนน้องมั้ย เวลาเกิดผัสสะแบบได้ยินคนพูดถึงเราในทางไม่ดีแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด เอาละเว้ยนางพญากิเลศมารกำเริบ จิตอกุศลมาละคืออยากจะตอกกลับไปให้หน้าหงายแต่กำหนดทันมันก็จะดับไปเองอารมณ์นั้น จิตคุนน้องมันก็ผุดขึ้นมาว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูดพวกเค้านั่นแหละที่จะบาป

ไอ้ที่บอกว่า.."ถ้าเราไม่เป็นอย่างที่เขาพูดเขานั้นแหล่ะที่จะบาป"
อาการแบบนี้ ยมบาลท่านจดใส่บ้ญชีหนังสุนัขไว้แล้วว่า คนที่คิดแบบนี้
กำลังมีความแค้นเกิดขึ้นที่ใจ มันเป็นบาปทางใจ ตายต้องตกนรก :b32:
nongkong เขียน:
เพราะมันเป็นวจีกรรมให้ร้ายผู้อื่นที่เค้าบริสุทธิ์พวกนี้จิตคิดแต่อกุศลกับผู้อื่น แต่ถ้ากำหนดทันจิตอีกตัวก็จะผุดขึ้นมาสกัดกั้นว่า

มันเป็นน้องคิงคองกำลังให้ร้ายผู้อื่น โดยคิดไปเองว่า ตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี
ไม่ยอมรับความจริง บางครั้งจิตที่มีกิเลสทำให้ วาจาที่เป็นจริงกลับกลายเป็นให้ร้าย

ถ้าสมมุติพี่โฮเป็นคนกลาง พี่จะเชื่อคนอื่นว่าเขาพูดความจริง
น้องคิงคองพูดเท็จใส่ร้ายคนอื่น ทำไมพี่โฮถีงคิดแบบนี้ก็เพราะ
พี่โฮพิจารณาจาก คำพูดในอดีตกับปัจจุบันมันส่วนทางกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อนทำเป็นผู้รู้ที่ไหนได้ ยังหลงมัวเมากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
:b6:
nongkong เขียน:
อย่าไปเอาอะไรเลยกับปากคน อยากจะพูดไรก็ให้เค้าพูดไป เราไม่ได้เป็นแบบนั้นเราอย่าไปโกรธไปแค้นเค้าเลย มันจะเป็นการจองเวรจองกรรมกันป่าวๆ ให้อภัยเค้า จิตเราจะได้ไม่สร้างวิบากกรรมเพิ่ม

ที่ว่าให้อภัยเขาน่ะจริงหรือเปล่า ปากก็พูดว่า "จะเอาอะไรกับปากคน" แต่ไม่ดูตัวเอง
ที่กำลังพูดจ้อยๆเนี้ยเขาเรียกว่า "กำลังระบายอารมณ์นินทาชาวบ้าน"
ตัวเองกำลังทุกข์เป็นวิบากยังไม่รู้ตัวอีกแน่ะ :b14:
nongkong เขียน:
จะได้เป็นการยุติอโหสิกรรมกันชาตินี้ คือตอนนี้คุนน้องกำลังต่อสู้กับกรรมใหม่ ที่มันอาศัยทวารทั้ง6มาเล่นงานเราอยู่ ถ้าเราพลาดเราก็จะสร้างกรรมใหม่เพิ่ม คุนน้องเลยต้องมีสติ มีสมาธิให้มากๆ บางทีเจอผัสสะรุนแรงแบบทิ่มเราลงไปในก้นบึ้งทิ่มลงไปให้เรารู้สึกปรี๊ดแตก เราก็เกิดสังขารจิตปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ สุดท้ายก็เกิดทุกข์ตามมา เฮ้ออะไรกันนี่ชาวโลก แต่คุนน้องจะไม่ยอมให้กรรมมาเล่นงานคุนน้องแบบนี้ เราต้องสู้กับมันสักตั้ง onion

เอาธรรมมามั่วเป็น ลครเจ้ากรรมนายเวร แล้วเมื่อไรจะรู้เรื่อง
ที่พูดมาไม่ได้พูดธรรมเลย มันแค่มาระบายความคับแค้นใจ
สร้างทุกข์เองแล้วโทษชาวบ้าน แบบนี้เมื่อไรจะสงบได้ :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 14:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คนละเรื่องเลย "เช่นนั้น" การรู้ทันมันต้องอาศัยสติ และการจะมีสติได้
มันต้องมีการกำหนดไว้ก่อนหน้า เช่นการรู้ว่าจิตที่เป็นกุศลเป็นอย่างไร
จิตที่เป็นอกุศลเป็นอย่างไร เมื่อรู้แล้วเก็บไว้เป็นสัญญา สติจะเกิดต่อเมื่อ
จิตนั้นขณะนั้นเป็นอกุศล จิตจะไประลึกรู้ธรรมหรือสัญญาที่เป็นกุศล
เพื่อมาดับความเป็นอกุศลนั้น แบบนี้เรียกว่า...
รู้ทันจิต ความหมายก็คือรู้ทันอกุศลจิตนั้นเอง

จิตที่เป็นอกุศล ถ้ามีเหตุปัจจัยให้เกิดมันก็ต้องเกิด เพราะจิตปุถุชนย่อมมีกิเลส
แต่เมื่อเกิดแล้วสามารถดับมันได้ด้วยสติ
สติไม่ใช่การไม่ให้อกุศลจิตเกิด แต่เป็นการรู้ทันอกุศลจิต
นั้นคือเมื่อเกิดอกุศลจิต จึงเกิดสติเพื่อมาดับอกุศลจิตนั้น
ไม่ให้เกิดการปรุงแต่งกายและวาจา

โฮฮับ...
ขณะที่พิมพ์ แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้
โฮฮับ มีสติ หรือไม่
จิตขณะดังกล่าวนี้ เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล
แล้ว นิ้วของโฮฮับ ยังสามารถเคาะแป้นพิมพ์ ได้หรือไม่

มีสติแต่ไม่เป็นกุศลเจ้าค่่ะ เพราะไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว แล้วพี่โฮก็ไม่มีสัมมาทิฏฐิเพราะพี่โฮคิดว่าธรรมของท่านเช่นนั้นมั่วเละ การแสดงความเห็นของพี่โฮไม่มีการสำรวมในทิฏงิของตน

เขามีแต่ความรักทำให้คนตาบอด แต่น้องคิงคอง "ความรักทำให้เพ้อเจ้อ"
ไอ้ที่บอกว่า.....มีสติแต่ไม่เป็นกุศลน่ะ พี่โฮว่าน้องคิงคองก็มั่วเหมือนกันนั้นแหล่ะ
ถ้าจะให้พี่โฮบ่นเป็นภาษาชาววัง ก็ต้อง "อุแหม่! พอกันเลย แม่เจ้าปะคุณ พ่อเจ้าปะคุณ"

พี่โฮว่า น้องคิงคองเลิกพูดศัพท์แสงธรรมะได้แล้ว และก็อยากแนะนำน้องคิงคองว่า
อย่ามาพูดคุยในลักษณะว่าตัวเองรู้ธรรม เพราะเรื่องขี้ปะติ้วยังตัดไม่ได้
ตอนแรกคุยโม่คุยโต้ซะดิบดี ตัวเองบรรลุแล้ว ตัดแล้ว
พุทโธ่! พอเจอผู้ชายเข้าหน่อย ทำมาดีดดิ้นเป็นปลาช่อนถูกทุบหัว

พี่โฮว่าน่ะ ห้องสนทนาที่เหมาะกับน้องคิงคองก็คือห้อง "ความรักและพลัดพราก"
ห้องสนทนาธรรมห้องนี้ไม่เหมาะกับน้องหรอก

ปล. ผู้ใหญ่เขาคุยธรรมกัน สอดน่ะสอดได้ แต่ต้องมีความรู้ในสิ่งที่สอด
ไม่ใช่มาชักใบให้เรือเสีย เข้าใจมั้ย
คุยกับพี่โฮนี่คุนน้องมีอารมณ์ขันดี นั่งหัวเราะอารมณ์ดีนะนี่ จะบอกให้ :b13: ว่าแต่มันก้จริงอย่างที่พี่บอกนะแหละ พอมีความรักเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัว :b32: ว่าแต่อยากเจอตัวจริงพี่โฮจังอุตส่าแอบปลื้มมาเลี้ยงข้าวคุนน้องคุยกันตัวๆหน่อยสิ rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 15:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b14: :b5: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 16:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: ..อิอิ ..อย่างที่ข้าน้อยว่าแหละ ..
รู้ทัน คือ คิดปั๊บรู้ปุ๊บ ไม่ถูกหลอก ไม่ถูกตุ๋น เรียกว่ารู้เท่าทันกัน
รู้ตาม คือ รู้ที่หลัง เนี้ยะ ถูกหลอก ถูกตุ๋น ส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้เลยแหละ ..

เหมือนคนเราเปี๊ยบเลย ..
มาไม้ไหนฉันก็รู้ เพราะคิดทัน อย่ามาพูดมาหลอกซะให้ยาก .. รู้เท่าทัน
มาไม้ไหนฉันก็เชื่อ เพราะคิดไม่ออก คิดไม่ทัน ถูกหลอกแล้วหลอกเล่า
ฉันก็ไม่เข็ด .. เรียกว่ารู้ตาม รู้ที่หลัง

สำหรับข้าน้อย รู้ตามตลอด ไม่ทันใครหรอกขอรับ
รู้เขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก อย่างนี้แล ..อิอิ

:b32: :b32: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ต.ค. 2012, 22:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จะรู้ทัน...หรือรู้ตาม...มันก็คำพูด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2012, 09:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
จะรู้ทัน...หรือรู้ตาม...มันก็คำพูด

cool
แต่ ! ความหมายในความจริงมันต่างกันนะครับ
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2012, 19:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มันก็ต่างกันแค่ความหมายบนกระดาษ...จะเขียนให้พิศดารแค่ไหนก็ย่อมทำได้

แต่ถ้าสติยังมาช้า....ต่อให้รู้ว่ามหาสติมีอาการยังงัย....ก็ไม่ได้ทำให้สติของผู้นั้นมาเร็วกว่าเดิม....มีแต่หมั่นฝึกหัดปฏิบัติทบทวน...ไม่ต้องไปรู้หรอกว่ามหาสติมันมีอาการเป็นยังงัย...ทำได้แล้วมันก็รู้เองแหละ...อริยะสัจมีหนึ่งเดียว....

ท่องจำธรรมดักหน้า..ดีไม่ดีมีโทษมากกว่าประโยชน์...สร้างอุปาทานในจิตแล้วก็หลงในอุปาทานที่จิตสร้างมาเอง...เพราะจิตมันมีความโลภอยากได้อยู่ในสันดานของมันอยู่แล้ว...

ระวังนะ..อิอิ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2012, 06:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
อ้างคำพูด:
คุยกับพี่โฮนี่คุนน้องมีอารมณ์ขันดี นั่งหัวเราะอารมณ์ดีนะนี่ จะบอกให้ ว่าแต่มันก้จริงอย่างที่พี่บอกนะแหละ พอมีความรักเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัว ว่าแต่อยากเจอตัวจริงพี่โฮจังอุตส่าแอบปลื้มมาเลี้ยงข้าวคุนน้องคุยกันตัวๆหน่อยสิ

Onion_L
นี่ ๆ Nongkong......

คิดอ่านจะเล่นกับไฟหรือนี่?

ระวังกาย ใจ ให้ดีนะจ๊ะ!.........
:b5:

สำหรับคุณกบนะครับ
:b18:
ก็คุณกบก็เขียนมาอย่างวิจิตรพิสดารบนกระดาษ(อีเลคโทรนิกส์) เหมียนกัลส์ บ้อแมนบ้อ?
สิเว้าเฮ็ดหยัง มันก่อคื้อกั่น นั่นแล้วตั้ว.......ฮู้โต๋บ่เจ้า.....

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2012, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
cool
อ้างคำพูด:
คุยกับพี่โฮนี่คุนน้องมีอารมณ์ขันดี นั่งหัวเราะอารมณ์ดีนะนี่ จะบอกให้ ว่าแต่มันก้จริงอย่างที่พี่บอกนะแหละ พอมีความรักเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัว ว่าแต่อยากเจอตัวจริงพี่โฮจังอุตส่าแอบปลื้มมาเลี้ยงข้าวคุนน้องคุยกันตัวๆหน่อยสิ

Onion_L
นี่ ๆ Nongkong......

คิดอ่านจะเล่นกับไฟหรือนี่?

ระวังกาย ใจ ให้ดีนะจ๊ะ!.........
ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ เคยดูแมททริคป่ะที่นีโอมันหลบกระสุน ถ้าเจตสิกที่เป็นอกุศลเกิดเหมือนลูกกระสุนที่ยิงเข้ามา คุนน้องก็วิปัสนาจนสามารถจับกระสุนนั้นวางลงได้ทุกดอกเลยนะเจ้าค่ะ ยิงไม่โดนคุนน้องหรอกเจ้าค่ะ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2012, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
มีใครเคยเป็นแบบคุนน้องมั้ย เวลาเกิดผัสสะแบบได้ยินคนพูดถึงเราในทางไม่ดีแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด เอาละเว้ยนางพญากิเลศมารกำเริบ จิตอกุศลมาละคืออยากจะตอกกลับไปให้หน้าหงายแต่กำหนดทันมันก็จะดับไปเองอารมณ์นั้น จิตคุนน้องมันก็ผุดขึ้นมาว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูดพวกเค้านั่นแหละที่จะบาป

ไอ้ที่บอกว่า.."ถ้าเราไม่เป็นอย่างที่เขาพูดเขานั้นแหล่ะที่จะบาป"
อาการแบบนี้ ยมบาลท่านจดใส่บ้ญชีหนังสุนัขไว้แล้วว่า คนที่คิดแบบนี้
กำลังมีความแค้นเกิดขึ้นที่ใจ มันเป็นบาปทางใจ ตายต้องตกนรก :b32:
nongkong เขียน:
เพราะมันเป็นวจีกรรมให้ร้ายผู้อื่นที่เค้าบริสุทธิ์พวกนี้จิตคิดแต่อกุศลกับผู้อื่น แต่ถ้ากำหนดทันจิตอีกตัวก็จะผุดขึ้นมาสกัดกั้นว่า

มันเป็นน้องคิงคองกำลังให้ร้ายผู้อื่น โดยคิดไปเองว่า ตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี
ไม่ยอมรับความจริง บางครั้งจิตที่มีกิเลสทำให้ วาจาที่เป็นจริงกลับกลายเป็นให้ร้าย

ถ้าสมมุติพี่โฮเป็นคนกลาง พี่จะเชื่อคนอื่นว่าเขาพูดความจริง
น้องคิงคองพูดเท็จใส่ร้ายคนอื่น ทำไมพี่โฮถีงคิดแบบนี้ก็เพราะ
พี่โฮพิจารณาจาก คำพูดในอดีตกับปัจจุบันมันส่วนทางกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อนทำเป็นผู้รู้ที่ไหนได้ ยังหลงมัวเมากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
:b6:
nongkong เขียน:
อย่าไปเอาอะไรเลยกับปากคน อยากจะพูดไรก็ให้เค้าพูดไป เราไม่ได้เป็นแบบนั้นเราอย่าไปโกรธไปแค้นเค้าเลย มันจะเป็นการจองเวรจองกรรมกันป่าวๆ ให้อภัยเค้า จิตเราจะได้ไม่สร้างวิบากกรรมเพิ่ม

ที่ว่าให้อภัยเขาน่ะจริงหรือเปล่า ปากก็พูดว่า "จะเอาอะไรกับปากคน" แต่ไม่ดูตัวเอง
ที่กำลังพูดจ้อยๆเนี้ยเขาเรียกว่า "กำลังระบายอารมณ์นินทาชาวบ้าน"
ตัวเองกำลังทุกข์เป็นวิบากยังไม่รู้ตัวอีกแน่ะ :b14:
nongkong เขียน:
จะได้เป็นการยุติอโหสิกรรมกันชาตินี้ คือตอนนี้คุนน้องกำลังต่อสู้กับกรรมใหม่ ที่มันอาศัยทวารทั้ง6มาเล่นงานเราอยู่ ถ้าเราพลาดเราก็จะสร้างกรรมใหม่เพิ่ม คุนน้องเลยต้องมีสติ มีสมาธิให้มากๆ บางทีเจอผัสสะรุนแรงแบบทิ่มเราลงไปในก้นบึ้งทิ่มลงไปให้เรารู้สึกปรี๊ดแตก เราก็เกิดสังขารจิตปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ สุดท้ายก็เกิดทุกข์ตามมา เฮ้ออะไรกันนี่ชาวโลก แต่คุนน้องจะไม่ยอมให้กรรมมาเล่นงานคุนน้องแบบนี้ เราต้องสู้กับมันสักตั้ง onion

เอาธรรมมามั่วเป็น ลครเจ้ากรรมนายเวร แล้วเมื่อไรจะรู้เรื่อง
ที่พูดมาไม่ได้พูดธรรมเลย มันแค่มาระบายความคับแค้นใจ
สร้างทุกข์เองแล้วโทษชาวบ้าน แบบนี้เมื่อไรจะสงบได้ :b6:

กิเลสของพี่โฮนี่ก็ไม่ธรรมดานะ ที่พี่เจื้อยแจ้วเจรจาพิมพ์มาทั้งหมดนี่มันก็เป็นกิเลสของพี่โฮเหมือนกันไม่ใช่หรอ เมื่อไหร่ปัญญาจะเกิดถ้าไม่มองจุดบกพร่องของตนบ้างหละพี่ พี่โฮคิดว่าตัวเองรู้อภิธรรม และเก่งกว่านักปฏิบัติคนอื่นหรือ ถึงคุนน้องจะไม่รู้อภิธรรมเท่าพี่แต่ในทางรูปธรรมและนามธรรมคุนน้องปฏิบัติได้ดีกว่าพี่โฮอยู่แล้ว เชื่อป่ะ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2012, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กิเลสของพี่โฮนี่ก็ไม่ธรรมดานะ ที่พี่เจื้อยแจ้วเจรจาพิมพ์มาทั้งหมดนี่มันก็เป็นกิเลสของพี่โฮเหมือนกันไม่ใช่หรอ เมื่อไหร่ปัญญาจะเกิดถ้าไม่มองจุดบกพร่องของตนบ้างหละพี่ พี่โฮคิดว่าตัวเองรู้อภิธรรม และเก่งกว่านักปฏิบัติคนอื่นหรือ ถึงคุนน้องจะไม่รู้อภิธรรมเท่าพี่แต่ในทางรูปธรรมและนามธรรมคุนน้องปฏิบัติได้ดีกว่าพี่โฮอยู่แล้ว เชื่อป่ะ :b9:

จะให้พี่โฮมองจุดบกพร่องอะไรล่ะ พี่ไม่รู้หรอก เพราะก่อนที่พี่จะเจื่อยแจ้วพี่ทำใจให้เป็นเป็นกุศลแล้ว
เรื่องกิเลสยิ่งมองไม่เห็นใหญ่เลย ไหนน้องคิงคองมองเห็นกิเลสของพี่โฮช่วยสาธยายให้ฟังหน่อย

แล้วไอ้ที่ว่าปฏิบัติได้ดีกว่าพี่โฮ ไหนลองมาคุยกันหน่อยซิ

ถามเรื่องที่ตัวเองกำลังทุกข์ เรื่องที่เกี่ยวกับกามราคะ จะมีวิธีแก้อย่างไร
เอ้าพูดมาเลยไม่ต้องอาย โบราณว่า อายครูบ่รู้วิชา :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2012, 07:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมดาครับ เขียน:
เรียนถามว่า รู้ทันจิต กับ รู้ตามจิต ต่างกันอย่างไรครับ

s006


รู้ทันจิต ก็รู้ขณะที่มันกำลังเกิด เรียกว่ารู้ทันปัจจุบัน

รู้ตามจิต ก็รู้ขณะที่มันดับไปแล้ว เรียกว่ารู้ที่มันเป็นอดีต

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร