วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 02:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: like เลย

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2012, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถูกต้องแล้วครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

คนที่มีความเป็นอยู่อย่างคุณ มันก็ต้องทำแบบนั้นครับ มันมีความจำเป็นบังคับ
คุณลองตรองดูนะครับ งานการไม่ทำ ปล่อยให้เมียทำงานงกๆเลี้ยงคุณ เลี้ยงลูกติดของคุณ
ถ้าคุณยังขืนไปเที่ยวดูสีเขียว สีแดง เพื่อนบ้านคุณจะคิดยังไงครับ เมียคุณอีกล่ะถึงเมียจะดี
อย่างไร ผมว่าแกคงไม่โง่พอที่จะมานั่งเลี้ยงผัวที่ไม่ทำงานเอาแต่เที่ยวเตร่หรอกครับ :b13:
bigtoo เขียน:
ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

ที่กินน้อยมันเป็นไปตามเหตุปัจจัย คนวัยทองการงานไม่ทำ พลังงานก็ไม่ได้ใช้
มื้อเดียวมันก็มากเกินพอแล้ว อีกทั้งจะกินอะไรตามใจตัวเองไม่ได้เพราะ เงินทอง
ที่ใช้อยู่เมียเป็นคนหา จะใช้แต่ละบาทมันก็จุกขึ้นมาถึงลำคอแล้ว นี่ก็เป็นสาเหตุ
ให้กินอะไรไม่ค่อยได้ :b32:
bigtoo เขียน:
แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

บอกว่าสติปัญญาไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้ แล้วทำไมยังมีความรู้สึกว่า.
เมียยังสาวยังสวยครับ

จะบอกให้ไอ้สิ่งที่อยู่เหนือคุณนั้นน่ะ ไม่ใช่เรื่องที่คุณกำลังคิดหรอกครับ
แต่ส่งที่อยู่เหนือคุณนั้นคือ บารมีของเมียคุณครับ
บารมีเมียคุณอยู่เหนือคุณสิ้นเชิง มันทำให้คุณเกิดความเกรงใจ
คนเราลองนับถือใครซักคน ทำให้คิดเรื่องการมีเพศสัมพันธน้อยลง
เพราะเราเข้าใจว่า การมีเพศสัมพันธเป็นเรื่องต่ำไม่ควร
วัยคุณก็มีส่วนครับ วัยขนาดนี้ร่างกายย่อมเสื่อมถ่อย ประเภทใจสู้แต่กายไม่สู้
มันตรงกับตัวคุณเลยครับ บิกทู่ ปากบอกไม่ยุ่งกับเมีย
แต่เคลิ้มคุยว่าเมียยังสาวยังสวย :b9:

bigtoo เขียน:
แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

รู้จักความเบื่อมั้ยครับ เบื่อตัวนี้เป็นกิเลสนะครับ ถ้าเรียกเป็นอาการของจิตก็คือโทสะ
คนเราลองอยู่บ้านทั้งวันงานไม่ต้องทำ ของที่อยู่ในบ้านเห็นทุกวันใช้ทุกวัน มันก็เบื่อครับ

อย่าหลงคิดว่า วางอุเบกขาแล้ว มันก็แค่กำลังโดนกิเลสเล่นงาน
แต่หลงเข้าใจผิดคิดว่าไม่ชอบความบันเทิง :b13:

bigtoo เขียน:
และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง

ไม่ใช่ครับ ที่คุณทำไปทั้งหมดเป็นเพราะ เส้นทางชีวิตมันกำหนดให้คุณเดินตามนั้น
มันเกิดจากเหตุปัจจัยเดียว ผลที่ตามมาก็คอ หลงเดินทางผิดครับ

ฟังจากสิ่งที่คุณเล่ามาทั้งหมด เหตุที่เป็นประธานก็คือ..
คุณไม่ทำงาน (อันนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่า ทำไมถึงไม่ทำงาน)
เพราะคุณไม่ทำงาน การดำรงชีวิตของคุณมันเลยกลับตาลปัตรไปหมด
มันเป็นหัวมังกุท้ายมังกร
ผลก็คือคำพูดของคุณ มันเป็นแค่คำปลอบใจตัวเอง
กับสภาพที่เป็นอยู่ ดูแล้วเหมือนอยู่ไปวันๆ แต่เอาเรื่องการปฏิบัติการทำบุญ
มาสร้างกำลังใจให้อยู่กับสิ่งที่กำลังประสบ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

คนที่มีความเป็นอยู่อย่างคุณ มันก็ต้องทำแบบนั้นครับ มันมีความจำเป็นบังคับ
คุณลองตรองดูนะครับ งานการไม่ทำ ปล่อยให้เมียทำงานงกๆเลี้ยงคุณ เลี้ยงลูกติดของคุณ
ถ้าคุณยังขืนไปเที่ยวดูสีเขียว สีแดง เพื่อนบ้านคุณจะคิดยังไงครับ เมียคุณอีกล่ะถึงเมียจะดี
อย่างไร ผมว่าแกคงไม่โง่พอที่จะมานั่งเลี้ยงผัวที่ไม่ทำงานเอาแต่เที่ยวเตร่หรอกครับ :b13:
bigtoo เขียน:
ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

ที่กินน้อยมันเป็นไปตามเหตุปัจจัย คนวัยทองการงานไม่ทำ พลังงานก็ไม่ได้ใช้
มื้อเดียวมันก็มากเกินพอแล้ว อีกทั้งจะกินอะไรตามใจตัวเองไม่ได้เพราะ เงินทอง
ที่ใช้อยู่เมียเป็นคนหา จะใช้แต่ละบาทมันก็จุกขึ้นมาถึงลำคอแล้ว นี่ก็เป็นสาเหตุ
ให้กินอะไรไม่ค่อยได้ :b32:
bigtoo เขียน:
แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

บอกว่าสติปัญญาไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้ แล้วทำไมยังมีความรู้สึกว่า.
เมียยังสาวยังสวยครับ

จะบอกให้ไอ้สิ่งที่อยู่เหนือคุณนั้นน่ะ ไม่ใช่เรื่องที่คุณกำลังคิดหรอกครับ
แต่ส่งที่อยู่เหนือคุณนั้นคือ บารมีของเมียคุณครับ
บารมีเมียคุณอยู่เหนือคุณสิ้นเชิง มันทำให้คุณเกิดความเกรงใจ
คนเราลองนับถือใครซักคน ทำให้คิดเรื่องการมีเพศสัมพันธน้อยลง
เพราะเราเข้าใจว่า การมีเพศสัมพันธเป็นเรื่องต่ำไม่ควร
วัยคุณก็มีส่วนครับ วัยขนาดนี้ร่างกายย่อมเสื่อมถ่อย ประเภทใจสู้แต่กายไม่สู้
มันตรงกับตัวคุณเลยครับ บิกทู่ ปากบอกไม่ยุ่งกับเมีย
แต่เคลิ้มคุยว่าเมียยังสาวยังสวย :b9:

bigtoo เขียน:
แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

รู้จักความเบื่อมั้ยครับ เบื่อตัวนี้เป็นกิเลสนะครับ ถ้าเรียกเป็นอาการของจิตก็คือโทสะ
คนเราลองอยู่บ้านทั้งวันงานไม่ต้องทำ ของที่อยู่ในบ้านเห็นทุกวันใช้ทุกวัน มันก็เบื่อครับ

อย่าหลงคิดว่า วางอุเบกขาแล้ว มันก็แค่กำลังโดนกิเลสเล่นงาน
แต่หลงเข้าใจผิดคิดว่าไม่ชอบความบันเทิง :b13:

bigtoo เขียน:
และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง

ไม่ใช่ครับ ที่คุณทำไปทั้งหมดเป็นเพราะ เส้นทางชีวิตมันกำหนดให้คุณเดินตามนั้น
มันเกิดจากเหตุปัจจัยเดียว ผลที่ตามมาก็คอ หลงเดินทางผิดครับ

ฟังจากสิ่งที่คุณเล่ามาทั้งหมด เหตุที่เป็นประธานก็คือ..
คุณไม่ทำงาน (อันนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่า ทำไมถึงไม่ทำงาน)
เพราะคุณไม่ทำงาน การดำรงชีวิตของคุณมันเลยกลับตาลปัตรไปหมด
มันเป็นหัวมังกุท้ายมังกร
ผลก็คือคำพูดของคุณ มันเป็นแค่คำปลอบใจตัวเอง
กับสภาพที่เป็นอยู่ ดูแล้วเหมือนอยู่ไปวันๆ แต่เอาเรื่องการปฏิบัติการทำบุญ
มาสร้างกำลังใจให้อยู่กับสิ่งที่กำลังประสบ :b13:
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ มีคนแสดงความเห็น2ท่าน คือท่านที่แสดงก่อนหน้าท่าน และก็ท่าน เห็นมั้ยครับท่านแรกแสดงความเห็นเป็นอย่างไร และท่านแสดงความเห็นเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ามืได้ต้องการใครสรรเสริญหรอกนะ เพราะท่านแรกเขาเห็นประโยชน์ แต่ท่านมันเห็นเป็นว่าข้าพเจ้าอวดตน มันห่างกันจริงๆกับความเห็นท่านแรก และเส้นทางที่ผมเดินนั้นมันเป็นทางที่ผมเลือกเองนั้นแหละ เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้วนอกจากสะสางของเก่า ถ้าผมจะเลือกใส่สูทผูกเน็คไทสวยๆมันไม่ยากสำหรับผมหรอก หรือจะเลือกขายของริมถนน นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอกครับ ผมผ่านมาหมดแล้ว โลกนี้มันไม่มีสาระอะไรที่จะเอาอะไร คิดได้ต้องทำได้ ดูตัวท่านเองนะทำอะไรอยู่ดูดีๆ ส่วนข้อความทั้งหมดที่ผมแสดงลองดุดีๆมันมีอะไรอยู่ในนั้น ไม่ใช่จะมาคอยว่าผมอวดตนเลย แต่ถ้าการกระทำที่ข้าพเจ้าทำให้คนเห็นกันจริงอยู่ในชีวิตประจำวันนั้นน่าจะดีกว่า เพราะทำให้คนลุกขึ้นมาหันหน้าสนใจธรรมมะกันมากเลย :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 09:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ.....

ยังไม่เลยจุดนี้...อีกหรอ...

หุหุ...

สาธุ...ที่อยากให้คนอื่นได้ดี....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 12:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อิอิ.....

ยังไม่เลยจุดนี้...อีกหรอ...

หุหุ...

สาธุ...ที่อยากให้คนอื่นได้ดี....
หลุดจุดไหนเหรอ :b9:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 21:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้บอกว่า..หลุด...วุ้ย...อ่านยังงัยเนี้ย...

บอกว่า...ยังไม่เลย...

จุด....อยากให้คนอื่น....ได้ดี...จนเจอใครก็พูดแบบ...ว่าอยากพูด...

ช่วงความปราถณาดี....อาจจะมากกว่าผม...เยอะ....จึงยังไม่พ้นไปซะที...

คนมันจะมีบริวารเยอะ....ก็มักจะเป็นยังงี้แหละ....งานที่ต้องทำก็เยอะตาม

(มีภาระ...ต้องไปบอกบุญเขา...มีมากเท่าไร...ก็ต้องรับผิดชอบเท่านั้น)

อิอิ....ชอบมั้ยละ... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ไม่ได้บอกว่า..หลุด...วุ้ย...อ่านยังงัยเนี้ย...

บอกว่า...ยังไม่เลย...

จุด....อยากให้คนอื่น....ได้ดี...จนเจอใครก็พูดแบบ...ว่าอยากพูด...

ช่วงความปราถณาดี....อาจจะมากกว่าผม...เยอะ....จึงยังไม่พ้นไปซะที...

คนมันจะมีบริวารเยอะ....ก็มักจะเป็นยังงี้แหละ....งานที่ต้องทำก็เยอะตาม

(มีภาระ...ต้องไปบอกบุญเขา...มีมากเท่าไร...ก็ต้องรับผิดชอบเท่านั้น)

อิอิ....ชอบมั้ยละ... :b32: :b32:
ที่จริงแล้วผมชอบอยู่คนเดียวสงบๆนะครับ ผมไม่ชอบยุ่งกับคนหรอกครับ ที่เข้ามาสนทนาธรรมก็เพราะเวลาของผมยังมาไม่ถึงที่จะปลีกไป การสนทนาธรรมของผมถ้ามันมีประโยชน์บ้างมันก็คงจะดี ถ้าถึงเวลาที่ผมกำหนดไว้ อาจจะไม่มีโอกาสได้สนทนากันเพราะต้องทำตามที่ตั้งใจไว้ ก็คือออกบวชครับ เพราะกลุ่มที่ปฎิบัติธรรมด้วยกันอยากให้ผมเป็นผู้นำปฎิบัติครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2012, 23:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บวช....เพราะมีเป้าประสงค์...คือ...นำผู้อื่นปฏิบัติ...หรอ?

แปลกดี....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2012, 04:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ มีคนแสดงความเห็น2ท่าน คือท่านที่แสดงก่อนหน้าท่าน และก็ท่าน เห็นมั้ยครับท่านแรกแสดงความเห็นเป็นอย่างไร และท่านแสดงความเห็นเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ามืได้ต้องการใครสรรเสริญหรอกนะ :

ไอ้ที่ว่าไม่เห็นหัวเห็นความดีคนอื่น จริงมั้ยล่ะ
แทนที่จะมองคุณstudentแกเป็นดี มองโลกในแง่ดี
ดันมองแต่ตัวเองตัวเองดีความเห็นตัวเองมีประโยชน์
เป็นเพราะคุณstudentแกเป็นคนดี มีมรรยาทก็เลยแสดงความเห็นให้กำลังใจ
มันก็แค่นั้น คุณStudent แกก็ทำแบบนี้เสมอต้นเสมอปลาย แกไม่ตั้งแง่ว่า
ความเห็นจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ
แกมองคนอื่นครับ ไม่มองแต่ตัวเองแบบคุณ
bigtoo เขียน:
และเส้นทางที่ผมเดินนั้นมันเป็นทางที่ผมเลือกเองนั้นแหละ เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้วนอกจากสะสางของเก่า ถ้าผมจะเลือกใส่สูทผูกเน็คไทสวยๆมันไม่ยากสำหรับผมหรอก หรือจะเลือกขายของริมถนน นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอกครับ ผมผ่านมาหมดแล้ว โลกนี้มันไม่มีสาระอะไรที่จะเอาอะไร คิดได้ต้องทำได้ ดูตัวท่านเองนะทำอะไรอยู่ดูดีๆ ส่วนข้อความทั้งหมดที่ผมแสดงลองดุดีๆมันมีอะไรอยู่ในนั้น ไม่ใช่จะมาคอยว่าผมอวดตนเลย แต่ถ้าการกระทำที่ข้าพเจ้าทำให้คนเห็นกันจริงอยู่ในชีวิตประจำวันนั้นน่าจะดีกว่า เพราะทำให้คนลุกขึ้นมาหันหน้าสนใจธรรมมะกันมากเลย :b12:

เส้นที่คุณเดินคุณเลือกเองใช่ครับ แต่คุณไม่รู้หรอกว่า คุณกำลังเอาภรรยาคุณ เพื่อนและลูก
มาเป็นทางเดินให้คุณ คุณกำลังเหยียบย่ำเกียรติ์และศักศรีกระทั่งความดีของคนรอบข้าง

มันก็เพราะความรักนั้นแหล่ะ แต่เขาไม่ได้รักคุณเพราะว่า ความดีของคุณอย่างที่คุณอ้าง
ที่เขารักก็เพราะคำว่า ผัว..พ่อ..และเพื่อน ถ้าคุณไม่อยู่ในสามสถานะนี้รับรองได้ คุณจะต้อง
รีบแจ้นไปขอให้สมภารวัดบวชให้ เพราะกลัวอดตายครับ

ก็อีกนั้นแหล่ะถ้าสมภารเจ้าอาวาส ลองได้รู้ประวัติย้อนหลังท่านก็คงแนะนำว่า
คนอย่างคุณอย่าบวชเลย เพราะไม่เข้าใจถึงการปฏิบัติ ไม่เข้าใจว่าไหนนักบวช
ไหนผู้ครองเรือน ไปเป็นแค่เด็กวัดคอยช่วยเณรหิ้วปิ่นโตบิณฑบารตเถอะ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2012, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับ มีคนแสดงความเห็น2ท่าน คือท่านที่แสดงก่อนหน้าท่าน และก็ท่าน เห็นมั้ยครับท่านแรกแสดงความเห็นเป็นอย่างไร และท่านแสดงความเห็นเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ามืได้ต้องการใครสรรเสริญหรอกนะ :

ไอ้ที่ว่าไม่เห็นหัวเห็นความดีคนอื่น จริงมั้ยล่ะ
แทนที่จะมองคุณstudentแกเป็นดี มองโลกในแง่ดี
ดันมองแต่ตัวเองตัวเองดีความเห็นตัวเองมีประโยชน์
เป็นเพราะคุณstudentแกเป็นคนดี มีมรรยาทก็เลยแสดงความเห็นให้กำลังใจ
มันก็แค่นั้น คุณStudent แกก็ทำแบบนี้เสมอต้นเสมอปลาย แกไม่ตั้งแง่ว่า
ความเห็นจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ
แกมองคนอื่นครับ ไม่มองแต่ตัวเองแบบคุณ
bigtoo เขียน:
และเส้นทางที่ผมเดินนั้นมันเป็นทางที่ผมเลือกเองนั้นแหละ เพราะผมไม่ปรารถนาอะไรมากแล้วนอกจากสะสางของเก่า ถ้าผมจะเลือกใส่สูทผูกเน็คไทสวยๆมันไม่ยากสำหรับผมหรอก หรือจะเลือกขายของริมถนน นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอกครับ ผมผ่านมาหมดแล้ว โลกนี้มันไม่มีสาระอะไรที่จะเอาอะไร คิดได้ต้องทำได้ ดูตัวท่านเองนะทำอะไรอยู่ดูดีๆ ส่วนข้อความทั้งหมดที่ผมแสดงลองดุดีๆมันมีอะไรอยู่ในนั้น ไม่ใช่จะมาคอยว่าผมอวดตนเลย แต่ถ้าการกระทำที่ข้าพเจ้าทำให้คนเห็นกันจริงอยู่ในชีวิตประจำวันนั้นน่าจะดีกว่า เพราะทำให้คนลุกขึ้นมาหันหน้าสนใจธรรมมะกันมากเลย :b12:

เส้นที่คุณเดินคุณเลือกเองใช่ครับ แต่คุณไม่รู้หรอกว่า คุณกำลังเอาภรรยาคุณ เพื่อนและลูก
มาเป็นทางเดินให้คุณ คุณกำลังเหยียบย่ำเกียรติ์และศักศรีกระทั่งความดีของคนรอบข้าง

มันก็เพราะความรักนั้นแหล่ะ แต่เขาไม่ได้รักคุณเพราะว่า ความดีของคุณอย่างที่คุณอ้าง
ที่เขารักก็เพราะคำว่า ผัว..พ่อ..และเพื่อน ถ้าคุณไม่อยู่ในสามสถานะนี้รับรองได้ คุณจะต้อง
รีบแจ้นไปขอให้สมภารวัดบวชให้ เพราะกลัวอดตายครับ

ก็อีกนั้นแหล่ะถ้าสมภารเจ้าอาวาส ลองได้รู้ประวัติย้อนหลังท่านก็คงแนะนำว่า
คนอย่างคุณอย่าบวชเลย เพราะไม่เข้าใจถึงการปฏิบัติ ไม่เข้าใจว่าไหนนักบวช
ไหนผู้ครองเรือน ไปเป็นแค่เด็กวัดคอยช่วยเณรหิ้วปิ่นโตบิณฑบารตเถอะ :b13:
เป็นไปได้เหรอที่เขารักไม่ใช่เพราะความดีน่ะ ถ้าเรื่องเลี้ยงชีพและเรื่องหาเงินนะสำหรับผมเรื่องเล็กแล้ว คนที่เคยสร้างตึกมาก่อน ยังไงก็สร้างตึกอีกได้เสมอ แต่ไม่รู้จะสร้างไปทำมัยในเมื่อมันไม่มีค่าแล้ว ท่านเถอะหลงอะไรอยู่หรือจะคอยหาเมียใหม่อิๆ :b12: อะไรเหรอที่บอกเหยียบย่ำเกียรติ์ ผมสั่งสอนให้ลูกผมรักษาศิลห้าให้ได้ บอกภรรยาให้เรียนรู้ธรรมมะ บอกเพื่อนให้รู้จักทำบุญปฎิบัติธรรม และก็เห็นผลมากซะด้วยนี่เหรอเรียกว่าเหยียบย่ำ ไม่ใช่เป็นผู้เสียสละแบบพี่เป้า สละให้เมียไปแต่งงานกับคนอื่นเหมือนจะดูดี ถ้าท่านไปบวชข้าพเจ้าก็จะสาธุความดี แต่..... ไงเป็นอย่างนี้ ฮึ...

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2012, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
บวช....เพราะมีเป้าประสงค์...คือ...นำผู้อื่นปฏิบัติ...หรอ?

แปลกดี....
ไม่ต้องแปลกหรอกพี่กบ ผมไม่เคยคิดหรอกเรื่องอย่างนี้หรอก มันมีเหตุปัจจัยเพื่อนเขาเห็นเราเป็นฆารวาสไม่มีกฎห้าม แต่ก็ทำได้ดีพอสมควร อยากให้ผมบวชจะไปอยู่ด้วยเพราะเชื่อในสิ่งที่ผมทำ เพราะคนที่อยู่ใกล้ผมเขารู้จักผมดี แต่เรื่องบวชนั้นมันเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจอยู่แล้วเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเพราะผมเคยบวชอยู่1ปีผมพอรู้ว่ามันเป็นทางแห่งความหลุดพ้นได้ดีทีเดียว :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2012, 05:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เป็นไปได้เหรอที่เขารักไม่ใช่เพราะความดีน่ะ ..

ก็คิดแบบนี้ไงถึงได้บอกว่า มันหลงตัวเอง ไม่เห็นความดีคนรอบข้าง
ถ้าลงได้เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เห็นแต่ตัวเองดีกว่าเขาเสมอ

จะอธิบายให้ฟัง ความรักมันเป็นกิเลสชนิดหนึ่ง แต่มันเป็นกิเลสฝ่ายกุศล
มันเกิดกับพ่อแม่ลูกเมีย เพื่อนฝูงพื่น้อง
การจะดูความดีของผู้อื่น มันต้องดูว่า ที่เขารักเราน่ะมันเป็นเพราะทรัพย์สิน
เงินทองหรือรักเพราะเยื่อใยความสัมพันธ์

จะเทียบให้ดูว่าความเป็นกุศลกับอกุศลให้ดู ระหว่างคุณกับเพื่อน
เพื่อนคุณเป็นคนทำงานมีเงินทอง แต่คุณไม่ทำงานย่อมต้องไม่มีรายได้
แต่คุณสองคนยังคบกันอยู่ แสดงว่าเพื่อนคุณรักเพื่อนแบบไม่คิดถึงเงินทอง
มันเป็นเพราะเยื่อใยความสัมพันธ์ สิ่งนี้แหล่ะที่คนดียังไม่สามารถก้าวข้ามได้
เป็นกิเลสที่เป็นฝ่ายกุศล

แต่ตัวคุณต่ำต้อยกว่าทั้งคุณวุฒิและทรัพย์สมบัติ มันก็ต้องพิจารณาดูว่า
คุณคบเพื่อนคนนี้เพราะสาเหตุใด ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์ อย่างแรกก็คือ
เพราะเพื่อนรวย อาจจะไม่ได้ไปเบียดเบียน แต่เอาไว้อวดชาวบ้านว่ามีเพื่อนรวย
ถ้าจะบอกว่าคุณก็รักเพื่อน ด้วยเยื่อใยแห่งความเป็นเพื่อน
มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ ก็ดูคุณยังหลงตัวเองอยู่เลยว่า เพราะตัวเองดีเพื่อนถึงได้คบ


อุตสาห์ยกเรื่องลูกถึงจะเลวแค่ไหน พ่อแม่ก็ยังรักตัดไม่ขาดมาให้ฟัง
ก็ยังไม่เข้าใจ นี่แหล่ะน่าเขาว่า เรียนป6แต่ดันบอกจบมหาลัย (ม6) :b32:

bigtoo เขียน:
ถ้าเรื่องเลี้ยงชีพและเรื่องหาเงินนะสำหรับผมเรื่องเล็กแล้ว คนที่เคยสร้างตึกมาก่อน ยังไงก็สร้างตึกอีกได้เสมอ แต่ไม่รู้จะสร้างไปทำมัยในเมื่อมันไม่มีค่าแล้ว ท่านเถอะหลงอะไรอยู่หรือจะคอยหาเมียใหม่อิๆ :b12:...

จะบอกสร้างยานอวกาศไปดาวอังคาร มันก็เป็นเรื่องของคุณ
มันขึ้นอยู่ว่า คนอื่นเขาจะมองคำพูดของคุณอย่างไร
ถ้าจะให้ผมมอง ผมก็มองว่า คุณมันดีแต่ปาก วันๆก็คอยแก้ตัว
สร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว

จะบอกให้ก่อนที่เขาจะฟังคำพูดที่ว่าสร้างตึกอะไรของคุณน่ะ
เขามองคุณก่อนแล้วว่า คนอย่างคุณขี้เกียจทำงาน ปล่อยให้แม่เลี้ยง
ทำงานส่งเสียลูกเลี้ยงอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่
เพียงแค่นี้คำพูดทุกคำที่คุณพูดมา มันก็กลายเป็นลมปากไร้ค่าไร้ราคาแล้วครับ

bigtoo เขียน:
ท่านเถอะหลงอะไรอยู่หรือจะคอยหาเมียใหม่อิๆ :...

แบบนี้เขาเรียกมือถือสากปากถือศีลครับ คำพูดที่คุณกล่าวหาผม
เรื่องที่ว่า "บิกทู่ทำได้ผมทำไม่ได้" ผมว่าคุณน่าจะเอามาใช้กับตัวเองนะครับ
bigtoo เขียน:
อะไรเหรอที่บอกเหยียบย่ำเกียรติ์ ผมสั่งสอนให้ลูกผมรักษาศิลห้าให้ได้ บอกภรรยาให้เรียนรู้ธรรมมะ บอกเพื่อนให้รู้จักทำบุญปฎิบัติธรรม และก็เห็นผลมากซะด้วยนี่เหรอเรียกว่าเหยียบย่ำ ไม่ใช่เป็นผู้เสียสละแบบพี่เป้า สละให้เมียไปแต่งงานกับคนอื่นเหมือนจะดูดี ถ้าท่านไปบวชข้าพเจ้าก็จะสาธุความดี แต่..... ไงเป็นอย่างนี้ ฮึ...

ที่คุณพูดมามันก็แค่ลมปาก สอนธรรมมะเมียสอนธรรมะลูก
เรื่องการปฏิบัติเบื้องต้นยังไม่เข้าใจ ริจะสอนคนโน้นคนนี้
วางมาด ยื่นหัวโด่กลางบ้านแสดงตัวตนเป็นผู้นำครอบครัว แสดงเป็นหัวหน้ากลุ่ม
แต่ไม่รู้จักหน้าที่ เป็นหัวหน้าครอบครัวมันต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ไม่ใช่ไม่ทำงาน
แล้วมาอ้างว่าเพราะปฏิบัติธรรมเลยไม่ยอมทำงาน มาอ้างความเป็นพ่อ แต่คนที่ส่งเสีย
กลับเป็นแม่ แถมเป็นแม่เลี้ยงอีกแน่ะ อ้างเป็นสามีแทนที่จะคิดถึงความปลอดภัยของภรรยา
แต่กลับไปคิดถึงความสิ้นเปลื้อง ทั้งๆที่เงินก็ไม่ใช่ของตัว แต่เป็นเงินของภรรยา
ภรรยาอุตสาห์ให้เกียรติ์ปรึกษา กลับได้คำกระทบกระเทียบ
นี่หรือบอกว่าสอนศีลสอนธรรมให้ลูกเมีย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2012, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bigtoo เขียน:
เป็นไปได้เหรอที่เขารักไม่ใช่เพราะความดีน่ะ ..

ก็คิดแบบนี้ไงถึงได้บอกว่า มันหลงตัวเอง ไม่เห็นความดีคนรอบข้าง
ถ้าลงได้เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เห็นแต่ตัวเองดีกว่าเขาเสมอ

จะอธิบายให้ฟัง ความรักมันเป็นกิเลสชนิดหนึ่ง แต่มันเป็นกิเลสฝ่ายกุศล
มันเกิดกับพ่อแม่ลูกเมีย เพื่อนฝูงพื่น้อง
การจะดูความดีของผู้อื่น มันต้องดูว่า ที่เขารักเราน่ะมันเป็นเพราะทรัพย์สิน
เงินทองหรือรักเพราะเยื่อใยความสัมพันธ์

จะเทียบให้ดูว่าความเป็นกุศลกับอกุศลให้ดู ระหว่างคุณกับเพื่อน
เพื่อนคุณเป็นคนทำงานมีเงินทอง แต่คุณไม่ทำงานย่อมต้องไม่มีรายได้
แต่คุณสองคนยังคบกันอยู่ แสดงว่าเพื่อนคุณรักเพื่อนแบบไม่คิดถึงเงินทอง
มันเป็นเพราะเยื่อใยความสัมพันธ์ สิ่งนี้แหล่ะที่คนดียังไม่สามารถก้าวข้ามได้
เป็นกิเลสที่เป็นฝ่ายกุศล

แต่ตัวคุณต่ำต้อยกว่าทั้งคุณวุฒิและทรัพย์สมบัติ มันก็ต้องพิจารณาดูว่า
คุณคบเพื่อนคนนี้เพราะสาเหตุใด ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์ อย่างแรกก็คือ
เพราะเพื่อนรวย อาจจะไม่ได้ไปเบียดเบียน แต่เอาไว้อวดชาวบ้านว่ามีเพื่อนรวย
ถ้าจะบอกว่าคุณก็รักเพื่อน ด้วยเยื่อใยแห่งความเป็นเพื่อน
มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ ก็ดูคุณยังหลงตัวเองอยู่เลยว่า เพราะตัวเองดีเพื่อนถึงได้คบ


อุตสาห์ยกเรื่องลูกถึงจะเลวแค่ไหน พ่อแม่ก็ยังรักตัดไม่ขาดมาให้ฟัง
ก็ยังไม่เข้าใจ นี่แหล่ะน่าเขาว่า เรียนป6แต่ดันบอกจบมหาลัย (ม6) :b32:

bigtoo เขียน:
ถ้าเรื่องเลี้ยงชีพและเรื่องหาเงินนะสำหรับผมเรื่องเล็กแล้ว คนที่เคยสร้างตึกมาก่อน ยังไงก็สร้างตึกอีกได้เสมอ แต่ไม่รู้จะสร้างไปทำมัยในเมื่อมันไม่มีค่าแล้ว ท่านเถอะหลงอะไรอยู่หรือจะคอยหาเมียใหม่อิๆ :b12:...

จะบอกสร้างยานอวกาศไปดาวอังคาร มันก็เป็นเรื่องของคุณ
มันขึ้นอยู่ว่า คนอื่นเขาจะมองคำพูดของคุณอย่างไร
ถ้าจะให้ผมมอง ผมก็มองว่า คุณมันดีแต่ปาก วันๆก็คอยแก้ตัว
สร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัว

จะบอกให้ก่อนที่เขาจะฟังคำพูดที่ว่าสร้างตึกอะไรของคุณน่ะ
เขามองคุณก่อนแล้วว่า คนอย่างคุณขี้เกียจทำงาน ปล่อยให้แม่เลี้ยง
ทำงานส่งเสียลูกเลี้ยงอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่
เพียงแค่นี้คำพูดทุกคำที่คุณพูดมา มันก็กลายเป็นลมปากไร้ค่าไร้ราคาแล้วครับ

bigtoo เขียน:
ท่านเถอะหลงอะไรอยู่หรือจะคอยหาเมียใหม่อิๆ :...

แบบนี้เขาเรียกมือถือสากปากถือศีลครับ คำพูดที่คุณกล่าวหาผม
เรื่องที่ว่า "บิกทู่ทำได้ผมทำไม่ได้" ผมว่าคุณน่าจะเอามาใช้กับตัวเองนะครับ
bigtoo เขียน:
อะไรเหรอที่บอกเหยียบย่ำเกียรติ์ ผมสั่งสอนให้ลูกผมรักษาศิลห้าให้ได้ บอกภรรยาให้เรียนรู้ธรรมมะ บอกเพื่อนให้รู้จักทำบุญปฎิบัติธรรม และก็เห็นผลมากซะด้วยนี่เหรอเรียกว่าเหยียบย่ำ ไม่ใช่เป็นผู้เสียสละแบบพี่เป้า สละให้เมียไปแต่งงานกับคนอื่นเหมือนจะดูดี ถ้าท่านไปบวชข้าพเจ้าก็จะสาธุความดี แต่..... ไงเป็นอย่างนี้ ฮึ...

ที่คุณพูดมามันก็แค่ลมปาก สอนธรรมมะเมียสอนธรรมะลูก
เรื่องการปฏิบัติเบื้องต้นยังไม่เข้าใจ ริจะสอนคนโน้นคนนี้
วางมาด ยื่นหัวโด่กลางบ้านแสดงตัวตนเป็นผู้นำครอบครัว แสดงเป็นหัวหน้ากลุ่ม
แต่ไม่รู้จักหน้าที่ เป็นหัวหน้าครอบครัวมันต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ไม่ใช่ไม่ทำงาน
แล้วมาอ้างว่าเพราะปฏิบัติธรรมเลยไม่ยอมทำงาน มาอ้างความเป็นพ่อ แต่คนที่ส่งเสีย
กลับเป็นแม่ แถมเป็นแม่เลี้ยงอีกแน่ะ อ้างเป็นสามีแทนที่จะคิดถึงความปลอดภัยของภรรยา
แต่กลับไปคิดถึงความสิ้นเปลื้อง ทั้งๆที่เงินก็ไม่ใช่ของตัว แต่เป็นเงินของภรรยา
ภรรยาอุตสาห์ให้เกียรติ์ปรึกษา กลับได้คำกระทบกระเทียบ
นี่หรือบอกว่าสอนศีลสอนธรรมให้ลูกเมีย
แสดงความเห็นได้ดี :b35: :b35: :b35: :b35: :b35:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร