วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 16:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 เม.ย. 2012, 23:09
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโลกกลม ขอปิดกระทู้


:b20: สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ เราเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ มีเรื่องจะขอปรึกษาค่ะ เราเป็นข้าราชการค่ะทำงานที่สำนักงานแห่งนี้มาได้ ปีกว่าแล้ว และก็มีผู้บริหารที่ออกจะแนวหัวงู ตอนแรกๆ ดิฉันกลัวมาก คิดว่าเค้าคงคิดไม่ดีกับดิฉัน จนเรื่องเข้าหูเค้า ผอ.คนนี้ก็ว่าดิฉันในที่ประชุมบอกว่าผมมีบ้านสามหลัง มีรถสองคัน ผมกำลังส่งลูกผมเรียนหมอ ผมไม่เอาคุณหรอกนะประมาณเนี๊ย ตอนแรกๆ ก็ไม่ชอบโกรธมากเพราะโดนด่าในที่ประชุม แต่ก็ดีถ้าประกาศในที่ประชุมแบบนั้นคงไม่มีอะไร แต่รู้สึกว่าระยะนี้ ผอ.แกจะลุกหนัก โทรมาหา ส่งแมสเซส หาเราบ่อยมากๆ และลงท้ายด้วยคะว่า จุบุๆ ซึ่งแต่ละครั้งไม่เคยมีเรื่องงานเลยให้ตายเหอะ ไม่รับก็ไม่ได้เพราะเคยเจอเคสไม่รับโทรศัพท์ โดนด่าอีก แล้วก็ชอบแสดงการหึง เวลามีผู้ชายมานั่งใกล้เรา แล้วก็ชอบพูดทำนองว่าเรามีรัยกับ ผอ. :b2: :b2: ไม่รู้จะทำงัยดีอะ พูดตรงๆ ก็กลัวอนาคตจะไม่สวย ไม่พูดก็อึดอัด ทำตัวเงียบๆ เฉยก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องอีก เราควรทำอย่างไรดี :b2: cry cry cry cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขออนุญาตเรียกผอ. คุณโยมว่า มัน! จะได้ไหมเนี้ย ^^



ทำใจหน่อยนะ ไม่ว่าถูกล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอบอกว่า เพราะเราเคยก่อกรรมแบบนี้ไว้ คุกคามเบียดเบียน
เขามาอย่างไรก็ต้องได้รับผลของวิบากกรรมนั้นๆ อย่างนั้น

แน่นอนคนเราไม่อยากมีความทุกข์ ยิ่งคนไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม
เวลาที่เจอวิบากกรรมให้ผล ก็มักต้องทนทุกข์ขื่นขมสาหัสทีเดียว

ลองฟังวิบากของคนที่เคยผิด ศีลข้อ ๓ ว่ากว่าจะได้มาเกิดเป็น
มนุษย์มาใช้เศษกรรมที่เหลือ (ใช่...นี่แค่เศษ) ที่เคยได้รับมานั้น
ถ้าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ก็ต้องบอกว่า โดนมาเยอะเจ็บมาเยอะ
ที่นี้ ไอ้ที่ มัน ทำกับเรา ต้องรู้ไว้ว่า เราเคยมีอำนาจ เคยกดขี่
ข่มเหงมันมามิใช่น้อย ตอนมันโดน มันก็ทุกข์ เรามันก็มัวแต่
หลงมัวแต่สุข ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ผูกโกรธ พยาบาท
กันข้ามภพข้ามชาติ มาเนิ่นนาน

กว่ากรรมจะเบาบาง จนมาเกิดเป็นหญิงในชาตินี้ นี่แหละเศษเหลือๆ
ของอกุศลกรรมที่ทำเอาไว้ิอย่างไ่ม่่น่าเชื่อ เป็นไปไม่ได้เลย
ต้องบอกว่า ไม่ต้องเชื่อกันนะครับ แค่เพียงหวังไว้ว่าจะอยากหลุด
อยากพ้นจาก กรรมตรงนี้ ^^

อะบอกเหตุ บอกลูกไม้ของ "มัน" ให้ฟังก่อน มันทำมาบ่อย จริงๆ ก็ลูกไม้
เก่าของเรา หมาหยอกไก่ ที่เล่นที่จริง จนใครๆ ในที่ทำงาน คิดว่าจริงก็มี
คิดว่าไม่จริงก็มี มองดูหน้าพี่สาวหลายๆ คนดูว่า ผ่าน มันมาได้ไง
เพื่อจะมีที่ปรึกษา ช่วยเราให้มีทางออก ทีี่่นี้ ลูกไม้ของมัน ก็จะทำแบบนี้
ไปเรื่อยๆ จนเราทุกข์ จิตตกใจตก งานก็ลำบากอึดอัด อยู่อย่างตกนรก
หมกไม้ทั้งเป็นดีๆ นี่เองใน ออฟฟิต นี่แค่เศษวิบากที่หลงเหลือ

มันก็จะส่งข้อความ อะไรต่อมิอะไรตามปกติ ที่มันบอกว่า มันไม่เอาเรา
มันก็เคืองเรื่องที่ไปถึงหูมันก็เท่านั้น แต่มันก็ได้ดำเนินการตามแผนต่อ
ค่อยๆ ตอดไปทำให้เราจิตตกไปเรื่อยๆ แล้วก็มีแต่มัน ด้วยอำนาจหน้าที่
ของมันอีกต่างหาก ที่จะรุ่งหรือจะร่วง ต้องบอกว่า เราเล่นมาจัดมาหนัก
ในอดีต วิบากกรรมมันตามมาแล้วที่ี้นี้

ทำกุศลกรรม สร้างบุญให้มากครับ ทำจิตใจให้ได้รับความสุข เป็นวิธีเดียว
ที่จะทำให้ เราคลายจากความเศร้าหมองตรงนี้ได้ ยากไหม? ก็ยาก แต่
ท่านว่า คนเราล่วงทุกข์ ได้ด้วยความเพียร ไหนๆ ก็พูดเรื่องกรรมเวร ถ้าหาก
ว่าเกิดมาแล้วชาติหน้า แค้นมันมาก ได้มาเป็นนายมัน ที่นี้เราก็เอาคืน ตักตวง
หาประโยชน์ เหมือนๆ กับที่มันทำกับเราอยู่ในตอนนี้ ถามว่าถ้าเรามีสติมีศีล
มีธรรมดีพอ จะหยุดไหม มันเหมือน เกมส์ เหมือนไทม์แมชชีน ที่เราไม่ต้อง
ย้อน ต้องรอตายค่อยไปแก้ไข กรรม ^^

ข่าวร้ายแต่ไม่มาก คือ เราไม่สามารถแก้ไขในสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วในอดีตได้
ไม่ว่า คำพูด ความคิด การกระทำ ที่เราทำเอาไว้หรือ สิ่งที่มันย้อนกลับมากระทำ
ต่อเราในปัจจุบันชาตินี้

ข่าวดี คือเราสามารถสร้างกรรมใหม่ สร้างเหตุปัจจัยดีๆ ได้ในปัจจุบันเพื่อไม่ให้
อนาคตมันเกิดผลไม่ดี หรือเราป้องกันได้ เท่าที่จะป้องกันได้

ตอนนี้เราอาจยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าเชื่อ ก็ต้องเห็นมันกำลังน่าสงสาร เหมือนๆ
กับเราที่ก็น่าสงสารไม่แพ้กัน ที่ทำไปเพราะความไม่รู้ แค่สนุกสนาน
เพลิดเพลิน ในรูปหล่อรูปสวย เมาเพลินในการคุกคามภัยทางเพศอย่างไม่รู้
เนื้อรู้ตัว คนทำก็สนุกก็พอใจ คนรับก็ทุกข์ช้ำอกตรม วนเวียนหาที่สุดไม่ได้
พูดถึงมัน แท้จริงแล้ว มันก็คือ อกุศลจิตที่เป็นกุญแจ ขับเคลื่อนกรรมและ
วิบากกรรมในเรื่อง ชู้สาว,คุกคามทางเพศ มันคือ กามราคะสังโยชน์
มันคือ สิ่งที่สิงอยู่ในจิตในใจของตัวตนบุคคลทั้งเราทั้งเขา ให้กระทำ
คิดพูดไปตามอำนาจของ อกุศลนั้นๆ

พุทธฏีกาไม่แน่ใจว่า จะพอแก้ไขจากหนักให้เป็นเบาได้หรือไม่ จะว่า
ยากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย ก็ถือว่าเล่าสู่กันฟัง เรื่องกรรมวิบาก อาจส่ง
ไปใ้ห้มันดูก็ได้ มันหรืออกุศลจิตที่ ฝังอยู่ในอนุสัยสันดาน จะได้สะดุ้ง
กลัวภัยของวิบากกาม กลับใจได้ หรือมิฉะนั้น คุณโยมต้องช่วยผอ.
งานไม่ให้ถูก กามราคะ ครอบงำ เชื่อแน่ว่า นี้เป็นปัญหา เป็นภัยคุกคาม
อยู่เงียบๆ ในสังคม คนที่กล้าฟ้องกล้าเปิดเผย ถ้าเหตุปัจจัยไม่อำนวย
ส่วนใหญ่ หมดอนาคต ถูกกลั่นแกล้งจองเวรไม่มีที่สิ้นสุด(นี้ก็ทำไว้เยอะ)
ดังนั้น เป็นไปได้ไหม แยกอกุศลจิตที่มีอยู่ในตัว ผอ.ออกมาก่อน
ไม่คิดว่า ผอ. มันเลวตลอด แม้วันๆ กามราคะ มันจะเกิดบ่อยๆ เกิดมาก
ก็ตามที่ อีกหน่อยมันจะเจ็บป่วย ด้วยโรคภัยต่างๆ ตามเวรตามกรรม
ของมันเอง ไม่ต้องแช่งต้องสาปว่างั้น

ให้นำดอกไม้พวงมาลัยสวยๆ หากไม่กล้าพูดกับ "มัน"(อกุศลจิตของผอ.)
ก็ให้เขียนแผ่นการ์ด บอกมันว่า เราเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรมวิบากกรรม
จะไม่ผูกโกรธ ไม่พยาบาทอาฆาต ต่อสิ่งที่ถูกกระทำ นั่นเพราะเป็นผล
กรรมที่เคยก่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการ กล่าววาจา ลบหลู่ดูหมิ่น หยาบคาย
กล่าววาจาเพ้อเ้จ้อ ว่าเรามีอะไรกัน เพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจเป็นที่เล่นที่จริง
เพื่อจะได้หาโอกาส หรือแสวงหาประโยชน์จากการคุกคามทางเพศ
โอกาสนี้ข้าพเจ้าขอ อโหสิกรรมทั้งในอดีตที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับ
ผลกรรมนั้นๆ แล้ว และไม่อยากได้รับความทุกข์ทรมานใจ ตลอดจน
ผูกโกรธต่อกันและกันอีกเลย จึงนำพวงมาลัยดอกไม้ พร้อมข้อความ
อยากกราบขอขมา ให้อด ให้เว้น ไม่สร้างอกุศลกรรมต่อข้าพเจ้า
เพื่อเบียดเบียนกันและกันต่อไป ทั้งขอให้ท่าน ผอ.ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจ
ของอกุศลกรรม ไม่กระทำกรรมชั่วหยาบ ต่ำช้ากับใครที่ไหนอีก
ขอให้ผอ. อโหสิกรรมต่อข้าพเจ้า ขอให้หนูมีความสุขปราศจากทุกข์
ขอให้ผอ. ก็จงพ้นจากอำนาจของอกุศลกรรม เป็นคนดี คิดดีพูดดีทำดี
เป็นแบบอย่างที่ดีงามแก่สังคม แก่องค์กร พร้อมกันนี้ได้นำ

...จดหมายที่ปรึกษากับ พระคุณเจ้า (ถ้าอยาก,หรือกล้าให้เขาอ่าน)
การ์ดขออโหสิกรรมพร้อมขอขมาต่อกัน อีกทั้งพวงมาลัยดอกไม้
และคลิป,หนังสือเกี่ยวกับ วิบากกรรมของการ ผิดศีลข้อ ๓ หนังสือ
ธรรมะเพื่อเป็นแสงสว่าง นำทางให้ผอ.ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม
มีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ในโอกาสนี้ด้วยเทอญ
ลงชื่อ ข้าพเจ้า..... อะไรก็ว่าไป

หมายเหตุ หนังสือ พุทธฏีกาไม่ได้เข้าร้านหนังสือ แต่เชื่อว่าในเวปนี้
มีกระทู้ ที่แสดงโทษภัยของศีลข้อ ๓ จะรวบรวมแล้วปริ้นท์ ให้ผอ.
ได้อ่าน ได้ทำความเข้าใจ นอกจากนั้น คงเคยทำบอร์ดประกาศทำ
บอร์ดประชาสัมพันธ์ไหมครับ อาจขอให้ผอ. เป็นหัวหน้าเป็นผู้รณรงค์
เกี่ยวกับ สิทธิสตรีและการคุ้มครองภัยคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
ใช้การระดมสมอง ให้ทุกคนช่วยกัน จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผอ. ได้มี
ส่วนร่วมในโครงการดีๆ กับกิจกรรมเล็กๆ ในองค์กร ในที่ทำงาน
การกระทำตรงนี้ จะช่วยให้ผอ.มีจิตสำนึกที่ดีงาม ลดอกุศลจิตที่
คอยครอบงำ เราไม่ได้สู้กับ อกุศลจิตของผอ.โดยตรง โดยการโกรธ
และเกลียด แบบหาทางออกไม่ได้ พอเรามาทำกิจกรรมสร้างสรร
แบบนี้ในที่ทำงาน องค์กรก็น่าอยู่ ทำงานก็มีความสุข

ไม่สงวนนะครับ ใครจะสรรหาวิธีการต่างๆ ตลอดจนหนังสือ สื่อต่างๆ
เพื่อนำมาใช้ จัดการกับ "มัน" (อกุศลจิต,กามราคะสังโยชน์) ด้วย
การทำความดี คิดดี พูดดี หาทางออกอย่างสร้างสรร ไม่สู้แบบ
ตาต่อตาฟันต่อฟัน(ผูกโกรธ) ทำแบบนี้ จะได้ชนะทั้งคู่ที่เขาเรียกว่า win&win
ทำแบบนี้ เราก็ไม่ได้สู้กับ "มัน" ลำพังอาจมีพี่ๆ ผู้หญิง คนด้อยกำลัง
คนถูกรังแก จะได้มี จุดยืนมีที่ รุกขึ้นมาสู้ บอกแล้วว่า กรรมในอดีตแก้
ไขกันไม่ได้ สิ่งที่เขาทำกับเรา ก็แก้ไขไม่ได้ มีแต่จะต้อง ยอมรับ
ว่าเป็นเพราะกรรมที่เราทำเอาไว้ และไม่สร้างกรรมใหม่ๆ เช่นผูกโกรธ
อาฆาตต่อ ความไม่รู้ของเขา สร้างกรรมใหม่ๆ ด้วยการ คิดบวก
ใช้ความสร้างสรรค์ สู้กันด้วยการหาแนวร่วม การร่วมมือกัน และดึง
โจทย์(ผอ.) เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อละลาย พฤติกรรม อกุศลกรรม
ให้เบาบางลง เป็นการสร้างจิตสำนึกในเบื้องต้นให้กับผอ. ตลอดจน
เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา ในการปัองกันปกป้อง คุ้มครองสิทธิ
สตรีในที่ทำงานในระยะยาวด้วย

แค่คิดก็สนุกแล้ว อโหสิกรรมต่อกันและกันนะครับ รู้จักให้อภัยนะครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ ค่อยๆ พิจารณาตัดสินใจ ดำเนินการแก้ไขปัญหา
ด้วยตัวเราเอง พุทธฏีกาคงให้แค่แนวทางเท่านั้น ที่เหลือก็ขอให้
โชคดี มีความสุข พ้นจากทุกข์ภัยอันนี้ไปนะครับ เจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: ท่านพุทธฏีกา เทศน์ยาวมาก

ผมขอเสริมอีกนิด ก็แล้วกัน

กรรมส่งผล ไม่ได้ส่งผลแค่ชาติเดียว แต่ส่งผล นับชาติไม่ถ้วน
บางผลกรรมก็ แสนชาติ
บางผลกรรมก็ หมื่นชาติ
บางผลกรรมก็ พันชาติ
บางผลกรรมก็ หลายร้อยชาติ

ดังนั้น เรามักจะได้ยินประโยคที่ว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
ทำนองนี้เป็นต้น

คนเราไม่ได้ทำกรรมชั่วแต่เพียงอย่างเดียว กรรมดีก็ทำมาผสมปนเปกันไป

กรรมดี ก็ส่งผลในแบบเดียวกัน คือ ส่งผลหลายชาติ

ในชีวิต จริง เราจึงได้เห็นว่า บางคนมีความเป็นอยู่สุขสบาย แต่ทำความชั่วสารพัด แล้วไม่เห็นกรรมชั่วส่งผลทันตาเห็นสักที

เรื่องของกรรมมันเป็นเรื่องอจินไตย

กรรมบางอย่างก็ส่งผลเร็ว บางอย่างส่งผลช้า

การที่คนชั่ว เขาสุขสบาย มีพลานามัย ดีอยู่ ก็แสดงว่า กำลังรับผลกรรมดีจากอดีตชาติอยู่
กรรมชั่วที่เขาทำยังไม่ได้ส่งผลทันที นั่นเอง แต่ในอนาคตกาล หนีไม่พ้นหรอกนะ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกกลม เขียน:
:b20: สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ เราเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ มีเรื่องจะขอปรึกษาค่ะ เราเป็นข้าราชการค่ะทำงานที่สำนักงานแห่งนี้มาได้ ปีกว่าแล้ว และก็มีผู้บริหารที่ออกจะแนวหัวงู ตอนแรกๆ ดิฉันกลัวมาก คิดว่าเค้าคงคิดไม่ดีกับดิฉัน จนเรื่องเข้าหูเค้า ผอ.คนนี้ก็ว่าดิฉันในที่ประชุมบอกว่าผมมีบ้านสามหลัง มีรถสองคัน ผมกำลังส่งลูกผมเรียนหมอ ผมไม่เอาคุณหรอกนะประมาณเนี๊ย ตอนแรกๆ ก็ไม่ชอบโกรธมากเพราะโดนด่าในที่ประชุม แต่ก็ดีถ้าประกาศในที่ประชุมแบบนั้นคงไม่มีอะไร แต่รู้สึกว่าระยะนี้ ผอ.แกจะลุกหนัก โทรมาหา ส่งแมสเซส หาเราบ่อยมากๆ และลงท้ายด้วยคะว่า จุบุๆ ซึ่งแต่ละครั้งไม่เคยมีเรื่องงานเลยให้ตายเหอะ ไม่รับก็ไม่ได้เพราะเคยเจอเคสไม่รับโทรศัพท์ โดนด่าอีก แล้วก็ชอบแสดงการหึง เวลามีผู้ชายมานั่งใกล้เรา แล้วก็ชอบพูดทำนองว่าเรามีรัยกับ ผอ. :b2: :b2: ไม่รู้จะทำงัยดีอะ พูดตรงๆ ก็กลัวอนาคตจะไม่สวย ไม่พูดก็อึดอัด ทำตัวเงียบๆ เฉยก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องอีก เราควรทำอย่างไรดี :b2: cry cry cry cry

ถ้าคุณเชื่อเวรเชื่อกรรม โดยไม่พยายามหาวิธีปกป้องตัวเองก่อน
ผมกล้าบอกได้เลยครับว่า คุณจะต้องเสียใจ

แล้วก็อีกอย่างครับ อย่าเอาศีลไปยื่นให้คนที่ไม่มีศีล ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีอายุด้วยแล้ว
มันเหมือนกับน้ำมันนราดลงบนกองเพลิง คนมีหน้าที่การงาน มีคุณวุฒิและวัยวุฒิ
มีหรือจะไม่รู้จักศีล เขารู้ดีครับแต่เขาไม่ใส่ใจครับ

เรื่องเวรเรื่องกรรมไม่ใช่ผมจะมายุไม่ให้เชื่อนะครับ แต่มันต้องสู้ต้องพยายาม
กระทำในสิ่งที่ถูกที่ควรเสียก่อนครับ วิธีการไหนถูกและช่วยปกป้องเราได้ทำไปเลยครับ
ไม่ต้องกลัวไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคต


ถึงตอนนั้นค่อยเอาเรื่องเวรเรื่องกรรมมาคิดว่า เราสู้แล้ว เอาตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแล้ว
อนาคตจะเป็นอย่างไรช่างมันครับ

เลิกกลัวโน้นกลัวนี่แล้วลุกขึ้นมาสู้ซะ วิธีการไม่ต้องบอกคุณก็รู้
เพียงแต่เพราะเป็นห่วงอนาคตตัวเองเท่านั้นแหล่ะ


อ่านแล้วโมโหนะเนี้ย! :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
โลกกลม เขียน:
:b20: สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ เราเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ มีเรื่องจะขอปรึกษาค่ะ เราเป็นข้าราชการค่ะทำงานที่สำนักงานแห่งนี้มาได้ ปีกว่าแล้ว และก็มีผู้บริหารที่ออกจะแนวหัวงู ตอนแรกๆ ดิฉันกลัวมาก คิดว่าเค้าคงคิดไม่ดีกับดิฉัน จนเรื่องเข้าหูเค้า ผอ.คนนี้ก็ว่าดิฉันในที่ประชุมบอกว่าผมมีบ้านสามหลัง มีรถสองคัน ผมกำลังส่งลูกผมเรียนหมอ ผมไม่เอาคุณหรอกนะประมาณเนี๊ย ตอนแรกๆ ก็ไม่ชอบโกรธมากเพราะโดนด่าในที่ประชุม แต่ก็ดีถ้าประกาศในที่ประชุมแบบนั้นคงไม่มีอะไร แต่รู้สึกว่าระยะนี้ ผอ.แกจะลุกหนัก โทรมาหา ส่งแมสเซส หาเราบ่อยมากๆ และลงท้ายด้วยคะว่า จุบุๆ ซึ่งแต่ละครั้งไม่เคยมีเรื่องงานเลยให้ตายเหอะ ไม่รับก็ไม่ได้เพราะเคยเจอเคสไม่รับโทรศัพท์ โดนด่าอีก แล้วก็ชอบแสดงการหึง เวลามีผู้ชายมานั่งใกล้เรา แล้วก็ชอบพูดทำนองว่าเรามีรัยกับ ผอ. :b2: :b2: ไม่รู้จะทำงัยดีอะ พูดตรงๆ ก็กลัวอนาคตจะไม่สวย ไม่พูดก็อึดอัด ทำตัวเงียบๆ เฉยก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องอีก เราควรทำอย่างไรดี :b2: cry cry cry cry

ถ้าคุณเชื่อเวรเชื่อกรรม โดยไม่พยายามหาวิธีปกป้องตัวเองก่อน
ผมกล้าบอกได้เลยครับว่า คุณจะต้องเสียใจ

แล้วก็อีกอย่างครับ อย่าเอาศีลไปยื่นให้คนที่ไม่มีศีล ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีอายุด้วยแล้ว
มันเหมือนกับน้ำมันนราดลงบนกองเพลิง คนมีหน้าที่การงาน มีคุณวุฒิและวัยวุฒิ
มีหรือจะไม่รู้จักศีล เขารู้ดีครับแต่เขาไม่ใส่ใจครับ

เรื่องเวรเรื่องกรรมไม่ใช่ผมจะมายุไม่ให้เชื่อนะครับ แต่มันต้องสู้ต้องพยายาม
กระทำในสิ่งที่ถูกที่ควรเสียก่อนครับ วิธีการไหนถูกและช่วยปกป้องเราได้ทำไปเลยครับ
ไม่ต้องกลัวไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคต


ถึงตอนนั้นค่อยเอาเรื่องเวรเรื่องกรรมมาคิดว่า เราสู้แล้ว เอาตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแล้ว
อนาคตจะเป็นอย่างไรช่างมันครับ

เลิกกลัวโน้นกลัวนี่แล้วลุกขึ้นมาสู้ซะ วิธีการไม่ต้องบอกคุณก็รู้
เพียงแต่เพราะเป็นห่วงอนาคตตัวเองเท่านั้นแหล่ะ


อ่านแล้วโมโหนะเนี้ย! :b9:

rolleyes rolleyes
อ้างคำพูด:
เห็นด้วยกับท่านพี่โฮ เราต้องอยู่กับความเป็นจริง บนโลกมนุษย์มีทั้งคนดีและคนชั่ว ลุกขึ้นสู้ โลกมนุษย์ไม่ใช่ละครไทยน้ำเน่า มนุษย์เราก็ไม่ใช่นางเอกหรือตัวร้าย ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบเจ้าค่ะ Fighting สู้ๆ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 12:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องมีวิธีเสนอ ไม่ต้องลบข้อความวิปตาถารของ ผอ.คนนั้นทิ้งนะเจ้าค่ะ เพราะเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเรายังมีหลักฐาน ไว้มัดตัวไอ้บ้าโรคจิตได้ หรือถ้าโทรมาเราอัดเสียงที่คุยไว้ด้วยเลย จะคุยงานหรือคุยไรก็อัดไว้ก่อน มันตายแน่เจอใครไม่เจอ มาเจอน้องคิงคอง :b2: ตอนนี้เราเฉยๆไปก่อนค่ะมันจะกวนประสาทก็นิ่งไว้มันเบื่อ มันคงเลิกเอง คุนน้องว่ามันจงใจเล่นสงครามประสาทกับท่าน จขกท เพราะว่ามันโกรธที่ จขกท ไม่มีใจให้มันไม่เล่นด้วย ตอนนี้ก็ใจเย็นๆก่อน เพราะว่าไม่อยากให้เรื่องบานปลายเพราะมันเกี่ยวกับชื่อเสียงและอนาคตด้วย :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2012, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูคลิปของ หลวงพี่พุทธฎีกาแล้วรู้สึกสลดใจจัง กว่าจะได้เกิดเป็น มนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณน้องเคยอ่านเจอธรรมมะของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าเทวดาบนสวรรค์ก็ทำผิดได้เหมือนกันกับมนุษย์ เทวดาตกสวรรค์ต้องลงมาชดใช้กรรมเป็น มนุษย์ก็มี เทวดาพวกนี้จะอยู่ก้ำกึ่งระหว่างบุญและบาป ถ้าพลาดก็ร่วงลงอบายภูมิเลยแต่ถ้าประพฤติอยู่ในศีลในธรรมก็จะได้กลับไปบนสวรรค์เช่นเดิมหรือบางคนอาจจะถึง มรรคถึงผล นิพพานเลยก็มี คุณน้องสงสัยว่าเทวดามีผิดศีลข้อกามเมด้วยหรือเปล่าเจ้าค่ะ เทวดาก็มีกิเลศเช่นกับมนุษย์เช่นกันใช่ไหมเจ้าค่ะ :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ค. 2012, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


เจริญพร ขออนุญาตคุณโยมเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
และขออภัยที่ตอบช้า เนื่องจากมีกิจธุระเดินทางบ่อย^^

nongkong เขียน:
คุณน้องสงสัยว่าเทวดามีผิดศีลข้อกามเมด้วยหรือเปล่าเจ้าค่ะ เทวดาก็มีกิเลศเช่นกับมนุษย์เช่นกันใช่ไหมเจ้าค่ะ :b10:

เทวดาส่วนใหญ่หรือทั้งหมด เสวยกามคุณ ด้วยกันทั้งหมด
อยู่แล้วนะครับ อภิธรรมแบ่งหรือจัดจำแนก มนุษย์และเทวดา
อยู่ใน กามาวจรภพ หรือกามาวจรภูมิ ๗

มนุษย์ ๑ กายหยาบ(กามหยาบ),กายละเอียด(กามละเอียด)
จาตุมหาราชิกา ๑

(เฉพาะมนุษย์ที่มีใจสูง มีกายทิพย์และเทวดาในชั้นจาตุม
พวกรุขเทวา ภุมเทวา โอกาสาเทวา นาค ครุฑ อสูรบางเหล่า
คนธรรพ์ เป็นเทวดาชั้นต่ำทั้งหมด)

ตาวติงสา ๑
ยามา ๑
ตุสิตา ๑
นิมมานรตี ๑
ปรนิมมิตวสวัตตี ๑
(รวมเป็นเทวดาชั้นกลาง)

พวกพรหมทั้งรูปอรูป (รวมเป็นเทวดาชั้นสูง)
เว้นกาม ไม่เสวยกาม พ้นโลก ไม่เวียนกลับมาสู่โลก
เสวยแต่ภพ ติดภพของรูป และอรูป แต่พ้นกาม(กามาวจรภูมิ)


แปลว่ามนุษย์และเทวดายังเสวยกามทั้งหยาบและละเอียด
เหมือนๆ กัน เช่น รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทพิย์
และธรรมารมณ์ที่เป็นที่พอใจ ได้รับอยู่ เสวยอยู่ เป็นปกติๆ
แต่การจะเข้าถึง กามาวจรที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไปนั้น ไปด้วย
ผลของทาน ศีล ภาวนา ด้วยกุศลกรรมบท ๑๐ พรั้งพร้อม
ด้วยสุจริต ๓ มีหิริโอตตัปปะ ฯลฯ

ในบาลี มีว่าไว้ว่า เมื่อกายแตก ก็จะจุติสู่ สวรรค์ชั้นต่างๆ
ตามบุญ ตามกรรมที่สั่งสมไว้ เทวบุตรจะมีนางสวรรค์หรือ
หมู่เหล่าเทพธิดา นางอัปสร เป็นบริวารมากมายเลยทีเดีย
เหมือนๆ เจ้าจักรพรรดิ์สมัยก่อน ที่มีราชินีมีมเหสีอยู่มาก
แต่ละวิมานๆ ของตนก็มีนางสวรรค์แวดล้อม จะยุ่งจะเกี่ยว
ก็แต่เฉพาะกับนางสวรรค์ของตน ที่มีแม้มากมายนั้นก็เท่านั้น
แต่จะไปยุ่งล่วงเกิน นางสวรรค์ เทพธิดา หมู่นางอัปสร
ของเทพบุตร ตนอื่น องค์อื่น นี้ *** ตรงนี้แหละครับ
ที่จะเข้าข่ายความผิด กาเมสุมิจฉาจาร

เพราะหญิงอื่นที่ไม่ใช่ของๆ ตน ถ้าไปล่วงเกินเข้าแล้ว
ก็จะเกิดการวิวาท แข่งดีกันขึ้น นั่นเป็นเหตุให้ โกรธกัน
เกลียดกัน แล้วเทพบุตรเหล่านั้น ก็จะถึงคราวมรณะจุติ
เพราะสิ้นบุญ ไม่ก็สิ้นกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งทันที

ต่างกรรม ต่างวาระ ได้เสวยทิพย์สุข สุคติภูมิเพราะผล
ของกุศลกรรม สุจริตกรรม แต่อีกวาระหนึ่งที่เป็นทุจริต
กรรม เป็นอกุศลกรรมก็ ตายจากเทวดา มาเกิดเป็นมนุษย์
ก็มี แต่ส่วนมาก ไปเกิดในอบายเสียมากกว่า ดังบาลี
ต่างๆ ที่เคยว่าไว้ ว่ามนุษย์ก็ดี เทวดาก็ดี ที่จะได้กลับมา
เกิดในที่ๆ ของตนอีกมีน้อย ส่วนมากไปเกิดในอบาย
เสียมากกว่ายิ่งกว่ามาก
ฯลฯ

ตัวอย่างเทวดา แกล้งพระภิกษุให้แตกกัน
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=20&p=4
เรื่องพระโกณฑธานเถระ ตายจากเทวดาไปรับวิบากในอบาย
แล้วเกิดเป็นภิกษุใช้กรรม ทำให้ใครๆ ก็เห็นมีหญิงติดตามตน!!!

ตัวอย่างเทวดาที่ไม่ชอบไม่พอใจ ในทิพย์อาสน์และหมู่สาวสรรค์ของตน
อ้างคำพูด:
บทว่า สเก เทโว เทวาสเน นาภิรมติ ความว่า จะไม่ยินดี คือไม่ได้ความชื่นใจในทิพอาสน์สำหรับเล่นและบำเรอกับด้วยหมู่สาวสวรรค์ของตน.

----------------------------อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ติกนิบาต
จตุตถวรรค จวมานสูตร

เหมือนๆ พวกมากรัก หนักในกามที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่
ไม่ว่าคนรัก สิ่งของต่างๆ ที่ตนอยากได้อยากมี ไม่เคยพอใจ

ในจวนานสูตร ยังมีบอกแสดงถึง เหตุให้เทวดาสิ้นบุญ สิ้นกรรม
เอาไว้ให้ศึกษา^^


แถมอีกนิดเทวดา บัญญัติเขาแบ่งกัน ๓ จำพวกครับ

๑.สมมติเทพ = เจ้าจักรพรรดิ์ ผู้นำผู้ปกครอง
ยังมีเครื่องผูก คือสังโยชน์ ๑๐ ครบถ้วนก็มี เบาบางก็มี

๒.อุปบัติเทพ = จำพวกกายทิพย์มนุษย์ และเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา
ไปจนจรดชั้นปรนิมมิตตวัสสวตี เป็นเทวดาชั้นต่ำ คือนับมนุษย์กะเทวดา
ในชั้นจาตุมหาราชิกา ส่วนที่เป็นเทวดาชั้นกลาง คือ ตาวติงสาไปจนจรดชั้นปรนิมฯ
เทวดาชั้นสูง คือ ตั้งแต่ปาริสัชชาพรหม ไปจนจรดชั้น
เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม อันนี้ก็ระหว่าง รูปาวจรภูมิ ๑๖
และอรูปาวจรภูมิ ๔ รวมกะข้างบน กามภพอีก ๑๑ ก็เท่ากับ ๓๑ ภูมิ

มนุษย์ที่มีใจสูง ไม่ใช่สัตว์ในร่างคน(ใจต่ำ)แบบนี้มีโอปปาติกะเทพ
หรือมีนัยยะว่า มีสุคติภูมิเป็นที่ไป เป็นคติสุข

เป็นกัลยาณปุถุชน(มีสุคติ) ไม่ใช่พาลปุถุชน(มีทุคติ) ในชั้นนี้
เป็นหมู่สัตว์หมู่ใหญ่ที่สุด คือเฉพาะที่เป็น กัลยาณปุถุชน ตลอดจน
อริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันไปจนถึงขั้นพระอนาคามี ก็เป็นอุปบัติเทพ
ถูกสมมติ และบัญญัติอยู่ในหมวดหมู่นี้ ซึ่งก็ยังมี กิเลส ตามที่คุณโยม
ถามเอาไว้ ว่าเทวดาก็ยังมีกิเลสเช่นกับมนุษย์ใช่ไหม

ทั้งสมมติเทพ ทั้งอุปบัติเทพ(กัลยาณปุถุชน,อริยบุคคลชั้นโสดาบัน-
อริยบุคคลชั้นอนาคามี) ก็ยังติดอยู่ในข่ายของ กิเลสสังโยชน์ด้วย
กันทั้งหมดทั้งสิ้น เว้นไว้แต่ วิสุทธิเทพ ผู้เดียวเท่านั้น^^

๓.วิสุทธิเทพ

ได้แก่เหล่าพระอริยสาวกชั้น พระอรหันต์ที่ข้ามเครื่องข้อง
ทิ้งเครื่องผูกคือสังโยชน์กิเลสได้หมดสิ้น เป็นเทพ เป็นเทวดา
จำพวกเดียวที่ไม่มี กิเลสเหมือนมนุษย์ หรืออีกนัยยะหนึ่งคือ
เหนือมนุษย์และเทวดาทุกๆ ชั้นภูมินั่นเองเจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2012, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หาสามีซักคนดิแล้วให้สามีไปรับไปส่งรับลอง.....คิดเอาเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2012, 06:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ในบาลี มีว่าไว้ว่า เมื่อกายแตก ก็จะจุติสู่ สวรรค์ชั้นต่างๆ
ตามบุญ ตามกรรมที่สั่งสมไว้ เทวบุตรจะมีนางสวรรค์หรือ
หมู่เหล่าเทพธิดา นางอัปสร เป็นบริวารมากมายเลยทีเดีย
เหมือนๆ เจ้าจักรพรรดิ์สมัยก่อน ที่มีราชินีมีมเหสีอยู่มาก
แต่ละวิมานๆ ของตนก็มีนางสวรรค์แวดล้อม จะยุ่งจะเกี่ยว
ก็แต่เฉพาะกับนางสวรรค์ของตน ที่มีแม้มากมายนั้นก็เท่านั้น
แต่จะไปยุ่งล่วงเกิน นางสวรรค์ เทพธิดา หมู่นางอัปสร
ของเทพบุตร ตนอื่น องค์อื่น นี้ *** ตรงนี้แหละครับ
ที่จะเข้าข่ายความผิด กาเมสุมิจฉาจาร


ยุ่งเกี่ยวกันแบบไหนครับ ท่านพุทธฏีกา
ได้ยินมาว่า เทวดา แค่มองตา ก็ท้อง .................... เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2012, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


govit2552 เขียน:
อ้างคำพูด:
ในบาลี มีว่าไว้ว่า เมื่อกายแตก ก็จะจุติสู่ สวรรค์ชั้นต่างๆ
ตามบุญ ตามกรรมที่สั่งสมไว้ เทวบุตรจะมีนางสวรรค์หรือ
หมู่เหล่าเทพธิดา นางอัปสร เป็นบริวารมากมายเลยทีเดีย
เหมือนๆ เจ้าจักรพรรดิ์สมัยก่อน ที่มีราชินีมีมเหสีอยู่มาก
แต่ละวิมานๆ ของตนก็มีนางสวรรค์แวดล้อม จะยุ่งจะเกี่ยว
ก็แต่เฉพาะกับนางสวรรค์ของตน ที่มีแม้มากมายนั้นก็เท่านั้น
แต่จะไปยุ่งล่วงเกิน นางสวรรค์ เทพธิดา หมู่นางอัปสร
ของเทพบุตร ตนอื่น องค์อื่น นี้ *** ตรงนี้แหละครับ
ที่จะเข้าข่ายความผิด กาเมสุมิจฉาจาร


ยุ่งเกี่ยวกันแบบไหนครับ ท่านพุทธฏีกา
ได้ยินมาว่า เทวดา แค่มองตา ก็ท้อง .................... เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

อรรถกถาอุปปัตติสูตร


ในอุปปัตติสูตรที่ ๖ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กามูปปตฺติโย ได้แก่ การได้กาม หรือการซ่องเสพกาม.
บทว่า ปจฺจปฏฺตกามา ได้แก่ เป็นผู้ใคร่อยู่เป็นนิตย์ คือมีอารมณ์เป็นนิตย์ เช่นมนุษย์ทั้งหลาย.

อธิบายว่า มนุษย์ทั้งหลายตกอยู่ในอำนาจวัตถุเป็นนิตย์ที่จิตปฏิพัทธ์อยู่ ถึงจะนำเอามาตุคามนั้นแหละมาให้ตั้งร้อยตั้งพันก็ยังรับอยู่ได้เป็นประจำ และเทวดาบางพวก (ก็เหมือนกัน).

อธิบายว่า เทวดาผู้อยู่ในเทวโลก ๔ ชั้นนับแต่เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาไป ก็ตกอยู่ในอำนาจวัตถุเป็นนิตย์เหมือนกัน ก็ในข้อนี้ มีเรื่องของปัญจสิขเทพบุตร เป็นตัวอย่าง ถึงสัตว์ที่เกิดในอบายที่เหลือบางเหล่า เว้นสัตว์นรกที่เกิดในอบาย ก็เหมือนกัน คือตกอยู่ในอำนาจวัตถุเนืองนิตย์ทั้งนั้น เพราะว่า ปลาก็ตกอยู่ในอำนาจของปลาตัวเมียของตน เต่าก็ตกอยู่ในอำนาจของเต่าตัวเมียของตนเป็นอันว่า สัตว์เดียรัจฉานแม้ทั้งหมด และเปรตจำพวกวินิปาติกะย่อมตกอยู่ในอำนาจวัตถุเนืองนิตย์ ดังพรรณนามานี้ เพราะฉะนั้น สัตว์เหล่านี้ตั้งแต่สัตว์ที่เกิดในอบายที่เหลือ จนถึงเทวดาเหล่าชั้นดุสิต เว้นสัตว์นรก ชื่อว่ามีกามปรากฏแล้ว.

บทว่า นิมฺมานรติโน ความว่า เทวดาทั้งหลายชื่อว่านิมมานรดี เพราะมีความยินดีในสมบัติเนรมิตที่เนรมิตขึ้นเอง. อธิบายว่า เทวดาเหล่านั้นย่อมปรารถนารูปชนิดใดด้วยสามารถแห่งรูปสีเขียว รูปสีเหลืองเป็นต้น ก็เนรมิตรูปชนิดนั้นแล้วยินดีอยู่ เหมือนเทวดาเหล่ามนาปกายิกา ผู้อยู่เฉพาะหน้าท่านพระอนุรุทธเถระฉะนั้น.

บทว่า ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน ความว่า เทวดาชื่อว่าปรนิมมิตวสวัตดี เพราะตกอยู่ในอำนาจกามที่เทพเหล่าอื่นเนรมิตไว้. อธิบายว่า เทวดาเหล่าอื่นรู้ใจของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี แล้วเนรมิตกามโภคะให้ตามใจชอบ เทวดาเหล่านั้นจึงตกอยู่ในอำนาจกามโภคะนั้น

ถามว่า เทวดาเหล่านั้นรู้ใจของผู้อื่นได้อย่างไร?
แก้ว่า รู้ได้ด้วยสามารถแห่งการคบหากันมาเป็นประจำ.
อธิบายว่า เหมือนเจ้าพนักงานห้องเครื่อง ผู้ฉลาดรู้พระกระยาหารที่พระราชาผู้เสวย ชอบเสวยฉันใด เทวดาเหล่าอื่นก็รู้อารมณ์ที่เทวดาชั้นปรนิมมิตวัตดี ชอบใจ โดยปกติย่อมเนรมิตอารมณ์เช่นนั้นแหละฉันนั้น เทวดาเหล่านั้นตกอยู่ใต้อำนาจอารมณ์นั้น ย่อมบริโภคกามทั้งหลาย ด้วยสามารถแห่งการเสพเมถุนเป็นต้น

แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า กามกิจของเทวดาเหล่านั้น ย่อมสำเร็จด้วยเหตุเพียงยิ้มแย้ม ด้วยเหตุเพียงการมองดู ด้วยเหตุเพียงสวมกอด และด้วยเหตุเพียงจับมือ ดังนี้ ในอรรถกถา ท่านค้านคำนั้นไว้ว่า ก็เหตุเพียงการยิ้มแย้มเป็นต้นนั้น ไม่มี.

อธิบายว่า ผู้ที่ไม่ถูกต้องกันด้วยกาย กามกิจคือโผฏฐัพพะ ย่อมไม่สำเร็จได้เลย. สำหรับเทวดาชั้นกามาวจรทั้ง ๖ มีกามเป็นปกติเหมือนกัน.
-----------------------------------------------------------
อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ติกนิบาต
ปัญจมวรรค อุปปัตติสูตร


เรื่องมองแล้วท้อง เป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมานานเลยครับ
ยกอรรถกถาจารย์ มีมติค้านไว้ การเสพเมถุน เรียกว่ายังมีเป็นปกติ
ของทั้งสัตว์ในอบาย(เว้นนรก) กามที่เป็นของมนุษย์ กามที่เป็นของทิพย์
กามที่เป็นของปรากฏเฉพาะหน้าที่เนรมิตเอง ที่ผู้อื่นเนรมิต เหล่านี้เรียกว่า
วัตถุกาม ธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ มีรูปที่พอใจเป็นต้นก็เรียกว่า วัตถุกาม

ในกามาวจรภูมิ ๗ อบายภูมิ ๓ เว้น นรก ๑ เรียกว่าข้องอยู่ใน วัตถุกาม กิเลสกาม
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นครับเจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร