พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต

[๑๕๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระมหากัปปินะพักอยู่ ณ มัททกุจฉิมฤคทายวัน เขต
พระนครราชคฤห์. คราวหนึ่ง ท่านไปในที่สงัด หลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้น
อย่างนี้ว่า เราควรไปทำอุโบสถ หรือไม่ควรไป ควรไปทำสังฆกรรม หรือไม่ควรไป โดยที่แท้
เราเป็นผู้หมดจดแล้วด้วยความหมดจดอย่างยิ่ง. ทีนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบความปริวิตกแห่ง
จิตของท่านพระมหากัปปินะด้วยพระทัยของพระองค์ แล้วได้ทรงหายพระองค์ไปในคิชฌกูฏบรรพต
มาปรากฏอยู่ตรงหน้าท่านพระมหากัปปินะ ณ มัททกุจฉิมฤคทายวัน เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง
เหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียดฉะนั้น แล้วพระองค์ประทับนั่งเหนือพุทธอาสนะที่เขาจัด
ถวาย. ฝ่ายท่านพระมหากัปปินะถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสคำนี้กะท่านพระมหากัปปินะผู้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งว่า
ดูกรกัปปินะ เธอไปในที่สงัด หลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า เราควรไปทำ
อุโบสถ หรือไม่ควรไป ควรไปทำสังฆกรรม หรือไม่ควรไป โดยที่แท้ เราเป็นผู้หมดจดแล้ว
ด้วยความหมดจดอย่างยิ่ง ดังนี้มิใช่หรือ?
ท่านพระมหากัปปินะทูลรับว่า เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์ทั้งหลาย ถ้าพวกเธอไม่สักการะ ไม่เคารพ ไม่
นับถือ ไม่บูชา ซึ่งอุโบสถ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจักสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ซึ่งอุโบสถ
ดูกรพราหมณ์ เธอจงไปทำอุโบสถ จะไม่ไปไม่ได้ จงไปทำสังฆกรรม จะไม่ไปไม่ได้.
ท่านพระมหากัปปินะรับสนองพระพุทธพจน์ว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้ท่านพระมหากัปปินะเห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ
ร่าเริงด้วยธรรมีกถา แล้วได้ทรงหายพระองค์ไปในที่ตรงหน้าท่านพระมหากัปปินะ ณ มัททกุจฉิ
มฤคทายวัน มาปรากฏ ณ คิชฌกูฏบรรพต โดยรวดเร็ว เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง เหยียดแขน
ที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v ... 116&Z=4207

นี่เป็นอีกสูตรหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า พระอรหันต์มีการกระทำที่ยังไม่บริสุทธิ์เท่าตถาคต เป็นการเปรียบเทียบระหว่างพระตถาคตกับพระอรหันต์

ก็เหมือนกระทู้การันทิยชาดก ที่ผมเปรียบเทียบเรื่องการกระทำของพระสารีบุตรที่ยังไม่บริสุทธิ์เท่าตถาคต แต่ก็โดนผู้คุมกฎ ทั้งลบ ทั้งล็อค ทั้งเปลี่ยนชื่อ เพราะไปมองว่าไปดูหมิ่นแต่เพียงด้านเดียว บางท่านถึงกับมองไปเลยเถิดว่า กลัวผมจะไปทำลายศาสนาก็มี

ฉะนั้นการเลือกถือก็ต้องเลือกจากตถาคตก่อน เพราะตถาคตนั้นบริสุทธิ์ทั้งจิตทั้งการกระทำที่เป็นโลกวัชชะ บางท่านถือพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ก่อนโดยที่ไม่ได้ดูจากตถาคตมาก่อนเลย ทั้งที่ตถาคตเป็นหลัก เป็นศาสดา พระสงฆ์เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น บางท่านถึงกับยึดถือเป็นความเชื่อไปเลยว่า ภิกษุรับเงินรับทองไม่ผิด โดยอ้างเหตุผลมาสารพัดเพื่อสนับสนุนทิฐิตนเอง ทั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นโมฆบุรุษ เป็นการกล่าวต่อต้านพุทธบัญญัติ กล่าวตู่ตถาคต จะต้องประสบกับบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ประเด็นนี้เป็นการเปรียบเทียบให้ฟัง

สุดท้ายนี้ขอฝากกระทู้นี้ไว้พิจารณาด้วย.

มีรูปที่มันดีๆ สร้างสรรค์ๆ กว่านี้บ้างมั้ย อย่างเช่นภาพตักบาตรที่ราชประสงค์ หรือภาพกิจกรรมทางพุทธศาสนาวัดพระธรรมกาย หรืออะไรที่สร้างสรรค์ จรรโลงศาสนา ดูแล้วไม่หดหู่ใจน่ะมีมั้ย ไม่ใช่เอาแต่รูปความเสื่อม เช่นพระ(เก๊ไม่เก๊ไม่รู้)ใส่ชุดราตรี พระเต้นโคโยตี้ พระแอบลักลอบเล่นสะบะฮึ่ย ฯลฯ มาลง

ภาพที่คุณนำมาลงน่ะ แนะนำว่าไม่ต้องลงก็ได้ ถ้าไม่พอใจหรือทนไม่ได้ที่เห็นเรื่องแบบในรูป คุณก็นำรูปขึ้นทูลเกล้าต่อพระราชาคณะหรือพระมหาเถระสมาคม ไปเลยจะดีกว่า เป็นประโยน์กว่านะ

ฮาจริง

ขอฮาด้วยคน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

[color=#FF0000]คุนแสงธรรม14 ไม่รู้จักกาละเทศะ ทำผิดกฏของเวปดิฉันเตือนคุนด้วยความหวังนี้กรุณาลบภาพพวกนั้นเสียก่อนที่ ท่านadminจะเข้ามาเห็น คุนไปอ่านกฏกติกา มารยาทในการรใช้เวปบอดซะ![/color][/size]

ผมทำผิดกฏตรงใหนหรอครับ ในเมื่อผมเอาปัญหามาให้ช่วยกันหาทางออก อะไรที่ไม่ดีผิดต่อพุทธบัญญัติเราในฐานะชาวพุทธก็ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย ไม่สนใจ ทีคุณเจ้าของกระทู้แกยังต่อต้านพระรับเงินเลยที่ผมจะต่อต้าน พระตุ๊ด เณรแต่วบ้างไม่ได้หรอ ในเมื่อคนเหล่านนี้กระทำผิดพุทธบัญญัติชัดเจน จะปล่อยไว้ได้ไง

แต่นี้มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา คุนกำลังทำให้ศาสนาเสื่อมเสียชื่อเสียงอยู่ แล้วคิดดูว่ารุปนี้เผยแพร่สู้สาธารณะมันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคุนเอามาฝากทิ้งไว้ในเวป ลธมจ.ทางเวปก็เสียชื่อด้วยมันมะใช่หน้าที่ของคุนที่จะเอารูปภาพที่ไม่สมควรมาลง ดิฉันกำลังบอกว่าคุนเอารุปมาลงผิดที่ผิดทาง กกติกา มารยาท ของเวปก็บอกอยู่

ผมว่าผมเอารูปคนใส่ผ้าเหลือคล้ายๆพระลงนะไม่ใช่รูปโป้สักหน่อย ก็อย่างว่าแหละผมเคยบอกว่าพวกนักข่าวชอบทำข่าวพระในทางเสียหาย ทำให้ศาสนาเสื่อมกลับมีคนมาด่าผม ที่ผมเอารูปแบบนี้ลงไม่ได้เผยแพร่ทั่วประเทศเหมือนพวกนักข่าวเขาทำ แต่กลับโดนด่าว่าให้ศาสนาเสื่อม จริงๆรูปพวกนี้นักข่าวเขาก็เอาลงเป็นข่าวแล้วนิ

คุณต้น....ไม่นึกเลยว่าคุณ...ขาดความรอบคอบถึงปานนี้...


ความบริสุทธิ์..นะ..เท่ากัน....

แต่พุทธวิสัย...สาวกวิสัย....ไม่ได้เกี่ยวกับความบริสุทธิ์

แม้แต่สาวกะ..ก็มีความตื้นลึกหนาบางในเรื่องต่าง ๆ ไม่เท่ากัน...จึงมีเอกัคคตาแต่ละด้านไป

แต่ก็บริสุทธิเท่ากันนั้นแหละ...

อย่าเอาความโง่ของตัวมาขายอีก....ยิ่งอธิบายก็ยิ่งประจานตน



ความคิดที่จะธำรงค์พระศาสนาใว้สืบไป....นะคิดดี...

แต่ก่อนจะพล่ามว่านั้นว่านี้....นะ...ได้ทำดีอย่างที่พระศาสดา....ต้องการแล้วรึยัง?
ศีล....ครบถ่วนบริบูรณ์ดีแล้วรึ?

จาคะ..เพื่อละความโลภ...จาคะถึงใจรึยัง?

มีซองกะฐิน...ซองผ้าป่า...รู้สึกยังห่วงทรัพย์อยู่มั้ย?

กิเลศหยาบ ๆ ...ทำอะไรกับมันไปบ้าง

ชาตินี้...หวังนิพพาน...แล้วรึยัง?

หากนิพพาน...ก็ยังไม่ได้หวัง...แล้วจะรักษาพระศาสนาได้อย่าไร?

มันน่าอายนะ...ทีศาสดาสอนให้ทำ...ไม่ทำ

อันที่ไม่ได้บอก....ทำจัง

ปากก็ว่า...ฉักรักพระศาสนา

รักกะขี้หมาอะไร....รักแบบนี้

หาทางออกอะไรของคุณแสงธรรม14 ห๊า

วิธีแก้ปัญหาหรือทางออก ผมก็บอกคุณไปแล้วไง ว่าให้นำขึ้นทูลเกล้าต่อพระราชาคณะหรือมหาเถระสมาคม ได้ทำการตรวจสอบหรือตัดสินทางวินัย พุทธบริษัทมีหน้าที่ทำนุบำรุงศาสนาให้คงอยู่ ส่วนหน้าที่ตัดสินด้านวินัยมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายสงฆ์

ก็อย่างที่บอกว่าหากคุณแสงธรรม 14 หวังดีต่อพระพุทธศาสนาจริงจริ๊ง จริงใจไม่โจ้ เมื่อคุณเห็นอะไรไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการทำผิดวินัยสงฆ์ คุณแสงธรรมก็ต้องรีบเอาหลักฐานขึ้นทูลเกล้าต่อพระราชาคณะหรือพระมหาเถระสมาคม เพื่อให้ท่านได้รีบสืบหาต้นตอและดำเนินการทางพระวินัยทันที อย่างนี้จึงจะเรียกว่าทำนุบำรุงศาสนา

ไม่ใช่พบการกระทำผิดก็รีบตัดสินโดยการเอาภาพอะไรต่อมิอะไรมาประจาน แล้วยังไปอ้าง จขกท เอาเรื่องพระรับเงินมาลงเป็นตัวประกันให้คุณพ้นผิดอีกแน่ะ

เรื่องที่คุณ จขกท เอามาลง ที่ว่าพระรับเงินน่ะ ถ้า จขกท เขาหาหลักฐานได้เพียงพอที่จะเอาผิดทางวินัยกับพระ คุณ จขกท คงไม่รีรอที่เจ้าเอาความขึ้บกราบบังคมทูลต่อพระราชาคณะหรือพระมหาเถระสมาคมไปแล้วล่ะ แต่เขายังหาไม่ได้ ซึ่งต่างจากกรณีของคุณแสงธรรม 14 ซึ่งมีหลักฐานคามือ แต่ยังเพิกเฉย เอารูปมาประจารอีก ไม่รู้พระเก๊หรือพระจริง ประเดี๋ยวคนไม่เข้าใจ เขาก็คิดว่าศาสนาเสื่อมซะงั้น พลอยให้เขาหมดศรัทธากันไป นี่แหละหนา คุณแสงอธรรม 14 นี่เขาเรียกว่าพวก มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ หรือ อีกอย่าง พวก พายเรือขวางคลอง แถมคุณลองกอง อุตส่าห์สะกิดๆด้วยความหวังดี กลับถูกคุณยอกย้อนซะงั้น

จริ๊งๆเล๊ยยยย ปล๊งปลงล่ะหน่าย บ๊ะๆๆๆ

วู๊ เอานักข่าวมาอ้างอีก ก็มันอาชีพของเขาน่ะ เขาก็ซอกแซกๆ หาข่าวไปทั่วแหละ แล้วข่าวส่านมากก็มาจากคนประเภทคุณแสงอธรรม 14 นี่แหละที่ให้ข้อมูล ผมไม่ได้แนะนำให้ปิดข่าวนะครับ แต่ก่อนที่ข่าวจะไปถึงนักข่าว เมื่อคุณรู้ก่อนนักข่าว ทำไมคุณไม่เอาไปให้ต้นสังกัดเขาสืบหาข้อเท็จจริงก่อนล่ะ คุณกลัวว่าเขาจะไม่ให้ความยุติธรรมใช่ไหมล่ะ คุณจึงอาศัยนักข่าวให้ช่วยประโคมข่าว ก็อย่างนี้ไง จริงเท็จไม่รู้ ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไว้ก่อน แบบนี้ไงล่ะ แล้วเวลามีปัญหาก็ไปโทษนักข่าว ว่านักข่าวเป็นคนเอาเรื่องมาประจาน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนให้ข้อมูลเขาเองแท้ๆ

วู๊ อั๊ยย๊า ฮากลิ้งปิ้งไข่ไก่ย่าง แถมข้าวสวยอีกจานอ่ะ

ว่าแต่ใครคือพระราชาคณะใครคือมหาเถรสมาคม เป็นใครหรอ อยู่ที่ใหน ทำหน้าที่อะไร ไม่เคยรู้เลย แล้วจะไปแจ้งอย่างไงอ่ะ ไม่เคยเห็นนักข่าวเขาเอาลงเลย

ไปถามเรื่องซองกฐินกับคนแบบนี้ จะได้อะไร เพราะเขามีคติว่าถวายเงินเข้าวัดเป็นบาปเพราะเดียวพระก็จับเงิน คนแบบนี้หาอยากนะ น่ายกย่องจริงๆๆ