วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 12:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2011, 22:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้มองเห็นความจริงของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงที่มันเป็นไป
1 ตา และรูปที่มากระทบตา ไม่เที่ยง
2 การรับรู้ทางตา จักษุวิญญาณ ไม่เที่ยง
3 การสัมผัสทางตา จักษุสัมผัส ไม่เที่ยง
4 ความพอใจ ไม่พอใจ หรือเฉยๆ ที่เกิดจากผัสสะ หรือจักษุสัมผัสไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
สรุป ว่าสิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งไหนเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา เมื่อพิจารณาอินทรีย์ 6 (อายตนะภายใน) แล้วให้กลับย้อนมาพิจารณาขันธ์ 5 คือตัวเราประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พิจารณาอย่างเดียวกับตอนพิจารณาอินทรีย์ 6


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2011, 02:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2011, 17:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2007, 07:13
โพสต์: 17


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ให้มองเห็นความจริงของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงที่มันเป็นไป
1 ตา และรูปที่มากระทบตา ไม่เที่ยง
2 การรับรู้ทางตา จักษุวิญญาณ ไม่เที่ยง
3 การสัมผัสทางตา จักษุสัมผัส ไม่เที่ยง
4 ความพอใจ ไม่พอใจ หรือเฉยๆ ที่เกิดจากผัสสะ หรือจักษุสัมผัสไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
สรุป ว่าสิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งไหนเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา เมื่อพิจารณาอินทรีย์ 6 (อายตนะภายใน) แล้วให้กลับย้อนมาพิจารณาขันธ์ 5 คือตัวเราประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พิจารณาอย่างเดียวกับตอนพิจารณาอินทรีย์ 6


ต้องทำสมถะควบคู่ไปด้วยทำให้มากเจริญให้มาก จนเกิดปัญญาวิปัสสนา


ภิกษุ ท. ! อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว อย่างนี้แล
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
ภิกษุ ท. ! เมื่ออานาปานสติ อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้วอยู่อย่างนี้
ผลอานิสงส์อย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดาผล ๒ ประการ เป็นสิ่งที่หวังได้ ; คือ
อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือว่าถ้ายังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จักเป็น อนาคามี.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๙๖ – ๓๙๗/๑๓๑๑ — ๑๓๑๓.

.....................................................
ค้นหาอะไรก็ได้อย่างนั้นแล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2011, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มิ.ย. 2011, 10:28
โพสต์: 439


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: อนุโมทนามิ

.....................................................
สรรพสิ่งทุกอย่าง ล้วนมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

.................................................................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุและผลอยู่ในตัว
การกระทำของตนย่อมเป็นกรรมที่ตนกำหนดเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร