วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 13:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 09:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ

ว่ากันตามหลักแล้ว ทิฐิที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแก่บรรดาสาวก ก็คือ สัมมาทิฐิ
สัมมาทิฐิตัวนี้ไม่ใช่ สัมมาทิฐิแบบที่จขกทอธิบาย สัมมาทิฐิตามความหมายของพระพุทธเจ้า
คือสภาวะหนึ่งที่เราเข้าไปรู้มา รู้ตามความเป็นจริงโดยไม่มีความคิดเข้ามาเจือปน

สัมมาทิฐิที่ว่า ไม่มีชั่ว ไม่มีดี มันเป็นทางสายกลาง

ส่วนทิฐิทางโลก มันเป็นความคิดไม่ใช่ปัญญา ความดี ความชั่ว
อาศัยหลักการของศีลข้อห้ามเป็นกฎเกณท์ ใครทำผิดศีลเท่ากับผิดหลักเกณท์
ก็เป็นคนชั่ว ใครมีทานก็เป็นคนดี มันเป็นไปตามกฏเกณท์ที่ตั้งเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ได้เกี่ยวกับปัญญาที่ว่าด้วยสัมมาทิฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2011, 11:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ

ว่ากันตามหลักแล้ว ทิฐิที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแก่บรรดาสาวก ก็คือ สัมมาทิฐิ
สัมมาทิฐิตัวนี้ไม่ใช่ สัมมาทิฐิแบบที่จขกทอธิบาย สัมมาทิฐิตามความหมายของพระพุทธเจ้า
คือสภาวะหนึ่งที่เราเข้าไปรู้มา รู้ตามความเป็นจริงโดยไม่มีความคิดเข้ามาเจือปน

สัมมาทิฐิที่ว่า ไม่มีชั่ว ไม่มีดี มันเป็นทางสายกลาง

ส่วนทิฐิทางโลก มันเป็นความคิดไม่ใช่ปัญญา ความดี ความชั่ว
อาศัยหลักการของศีลข้อห้ามเป็นกฎเกณท์ ใครทำผิดศีลเท่ากับผิดหลักเกณท์
ก็เป็นคนชั่ว ใครมีทานก็เป็นคนดี มันเป็นไปตามกฏเกณท์ที่ตั้งเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ได้เกี่ยวกับปัญญาที่ว่าด้วยสัมมาทิฐิ



ใช่ครับสัมมาทิฏฐิ คือรู้ความเป็นจริงของโลกและชีิวิต ว่าไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน เกิดจากเหตุและปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวแล้วแตกสลายหายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2011, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8571


 ข้อมูลส่วนตัว


มาร่วมวงสนทนาด้วยครบ

คำว่า "ทิฏฐิ" คือความคิดเห็น(ยังเป็นธรรมที่เป็นกลางๆ)
คำว่า "สัมมาทิฎฐิ" คือความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ
คำว่า "มิจฉาทิฏฐิ" คือความเห็นผิดไปจากสภาพธรรมที่เป็นความจริง คือเห็นตรงกันข้ามกับสัมมาทิฏฐิ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ย. 2011, 10:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
มาร่วมวงสนทนาด้วยครบ

คำว่า "ทิฏฐิ" คือความคิดเห็น(ยังเป็นธรรมที่เป็นกลางๆ)
คำว่า "สัมมาทิฎฐิ" คือความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ
คำว่า "มิจฉาทิฏฐิ" คือความเห็นผิดไปจากสภาพธรรมที่เป็นความจริง คือเห็นตรงกันข้ามกับสัมมาทิฏฐิ


smiley smiley smiley
onion onion onion

"สิ่งใดมีการเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับเป็นธรรมดา"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร