วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 17:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 10:39
โพสต์: 1

สิ่งที่ชื่นชอบ: คู่กรรม
ชื่อเล่น: แอ๊ป
อายุ: 38

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคนที่ชอบสนใจคำพูดของตนอื่น ทำอย่างไรดีคะถึงจะไม่คิดมากกับคำพูดคนและความผิดพลาดของตนเอง สงสารลูกและสามีมากเลยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


เคยได้ยินคำที่เขากล่าวว่า ฟังหูไว้หูไหมครับ โลกนี้สุขทุกข์ สรรเสริญนินทาเป็นของคู่กันอยู่ในโลก พุทธฏีกาอยากให้มีหลักในการพิจารณาในการมองสองอย่าง ๑ มองบวก อาศัยคำที่เขาว่าฟังหูไว้หู แปลว่า แบ่งใจ เปิดใจ คิดในทางที่ดี ที่สร้างสรรค์ เพราะไม่ว่าบุคคลอื่นจะพูดเรื่องจริงหรือไม่จริง จะเสียหายไม่เสียหาย จะทำให้เจ็บใจหรือไม่เจ็บใจ เราเองนั่นแหละ จิตใจของเราที่หวั่นไหวต่อคำที่ชื่นชมคำที่ชอบใจ ที่หวั่นไหวและพลักไสต่อคำที่ไม่ชอบไม่พอใจ ประการแรกนี้ให้รู้ว่าใจคนเราเป็นแบบนี้

ที่ให้มองบวก ฟังหูไว้หูเพราะ เกิดมาในโลกนี้ต้องได้ยินได้ฟังสิ่งต่าง ๆ ดีบ้างร้ายบ้างไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ใช่คนหูหนวก อยู่ใกล้คน สังคมที่ดี ก็ต้องได้ยินแต่สิ่งที่ดี อยู่ใกล้คน สังคมที่ไม่ดี ก็ต้องได้ยินแต่สิ่งที่ไม่ดี เมื่อเรา เปิดใจ ฟังหูไว้หู คือหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้ยิน แต่เราแบ่งรับแบ่งสู้ ด้วยการคิดบวกมองบวกได้ ว่า สิ่งที่เขาพูด มันเป็นข้อผิดพลาดที่เราเคยพลาดพลั้งไป

และในสิ่งที่ผิดพลาดและผ่านไปแล้ว แม้จะเสียใจอยู่ แต่ก็อย่าอุดอู้จมฝังตัวเองอยู่กับอดีต เพราะไม่เคยมีใครไม่ทำผิดพลาดในชีวิต แม้แต่คนที่กำลังต่อว่าคนอื่น ก็เช่นกัน เมื่อเป็นดังนี้ ถ้าสิ่งที่บุคคลอื่นพูดเป็นเรื่องจริง นั่นแปลว่าเขาช่วยเตือนช่วยสอนช่วยบอก ให้เราไม่ประมาท ความจริงต้องขอบคุณ สิ่งที่เขาพูดเขาบอกต่างหาก ว่าเราจะไม่ย้อนกลับไปทำในสิ่งที่ผิดพลาด นั้น ๆ อีกแล้ว

ต่อมาหากสิ่งที่บุคคลอื่นพูด เป็นเรื่องไม่จริง ข้อนี้ก็ไม่ต้องเดือดร้อนวุ่นวายใจไปเอง แต่ก็ฟังหูไว้หูเหมือนเดิม พิจารณาทบทวน ในข้อไม่ประมาท ไม่เป็นไปตามคำพูดของบุคคลเหล่านั้น ก็จะได้ประโยชน์ทั้งสองทาง ไม่ว่าจะพูดจริงหรือไม่จริง เราก็ขอบอกขอบใจในสิ่งที่คนอื่นพูดถึง นั่นเพราะเราห้ามไม่ได้ในสิ่งที่คนอื่นพูด แต่เราแบ่งรับแบ่งสู้ได้ เปิดใจ มองบวก มีทัศนคติที่ดีได้ เมื่อต้องได้ยินได้ฟังอีก กลับมาดูที่ใจเรา ได้มองบวก เป็นรึยัง นี้ข้อแรกมองบวก

ข้อต่อมา ข้อ ๒ มองมุมกลับ สิ่งต่าง ๆ ที่เราได้รับได้รู้ ได้เห็นได้ยิน ที่ชอบใจก็ตาม ที่ไม่ชอบใจก็ตามหากมองในมุมกลับ ในทางพุทธศาสนาถือว่า เพราะเป็นไปตามกฏแห่งกรรม คือทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เคยไปนินทาว่าร้ายยุ่งเรื่องชาวบ้านยุ่งเรื่องคนอื่น ทำให้บุคคลอื่นเจ็บช้ำน้ำใจเสียใจ ทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แบกชีวิตของเขาเองอยู่กับคำพููดคำจาของเรา

เช่นเดียวกับเราในวันนี้ปัจจุบันนี้ ที่แบกชีวิตแบกความทุกข์อยู่บนปากคนอื่น หากเราเคยทำผิดทำพลาดโดยเจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ต่อคนอื่น ๆ มาก่อน วิบากกรรมมันย้อนมาสนองมองในมุมกลับนี้ จะได้รู้จักไม่ประมาทอีกเช่นกันที่จะ พูดในสิ่งไม่ดีแบบเดี่ยวกับบุคคลอื่นอีก สำรวมระวังพูดก็พูดแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ ถ้าไม่มีอะไรจะพูด ก็นิ่งเสียจะดีกว่า

การมองทั้งมุมบวก มุมกลับทั้งสองประการดังกล่าว ในคราวที่เจอกับคำพูดของคนอื่นบุคคลอื่น อย่ามัวแต่สงสารตัวเองและครอบครัว อย่าแขวนอดีตไว้กับปากของคนอื่น วันนี้คือวันนี้ วันนี้เปลี่ยนแปลงได้เสมอ มีสติแล้วยิ้มและขอบคุณความผิดพลาด ขอบคุณคนที่มาเตือนมาบอก ยอมรับเปิดใจ ในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จิตใจก็จะไม่ต้องทุกข์ต้องกังวล เพราะผลที่ปรากฏย่อมเกิดมาจากเหตุ มีเชื้อไฟ ก็ต้องมีเปลวไฟ เราเคยทำอะไรไว้ นั้นก็จะย้อนมาแสดงความจริงให้เราเห็น สมดังคำพระที่ท่านว่า กรรมมุนา วัตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ก็ขอให้มีสติ ที่โกรธที่ไม่พอใจ เพราะไม่มองบวก ฟังหูไว้หู เปิดใจยอมรับแก้ไข ที่น้อยใจเสียใจเพราะไม่มองมุมกลับ ไม่แน่ว่าอาจเคยทำกรรมแบบนี้ไว้ จึงต้องมารับผลของกรรมนั้น ๆ อย่างนี้

ประการสุดท้ายไม่เคยมีใครไม่ถูกกล่าวถูกพูดถึงในแง่ดีไปเสียหมด ส่วนเดียวแม้แต่พระพุทธเจ้า เราเองยังผิดยังประมาทอยู่มากมายบารมียังน้อย ไหนเลยจะไม่โดนคนอื่นพูดถึง เปิดใจนะครับ ฟังหูไว้หู แบ่งรับแบ่งสู้ ลองเอาหลักมองบวก มองกลับ เพื่อปรับปรุงแก้ไข เพื่อความสบายใจนะครับเจริญพร
รูปภาพ



Credit image by:
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... =5&gblog=6

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างแรกก็ต้องฝึกฝนก่อน ฝึกให้อยู่ในฐานที่ตั้งของใจ เช่น เรากำหนดฐานใดฐานหนึ่งขึ้นมาอย่าง
พุทโธ หรือว่าดูลมหายใจ หรือดูกาย

ในกรณีความผิดพลาดของตนนั้น ต้องกำหนดรู้แล้วแก้ที่ต้นเหตุพิจารณาว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แก้เท่าที่ความสามารถของตนเองจะทำได้ ที่เหลือก็วางเสียถ้าถือไว้มันจะหนัก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 03:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมคิดอย่างนี้นะครับ

1. ถ้าเราไม่ผิด แต่โดนนินทาว่าร้าย ลองคิดอย่างนี้ครับ

1.1 มันเป็นเรื่องธรรมดา ใครบ้างไม่โดนนินทา (แต่อย่าไปคิดว่าเค้าทำผิดต่อเรา เขาจะต้องได้รับกรรม หรืออะไรทำนองนั้นนะครับ คิดแบบนั้นเราเองนั้นละครับที่ผิด)
1.2 เขานินทาเรา ไม่ได้ทำให้ความดีที่เราสร้างสมมาลดลง เค้าว่าเราร้ายยังไง ความดีในตัวเราก็ไม่ได้ลดลงหรือเปลี่ยนไปตามที่เค้าว่าเลยจริงไหมครับ

2. ถ้าเราผิด ได้รับคำตักเตือน เกิดความไม่สบายใจขึ้น คิดซะว่ามันผ่านไปแล้ว ความผิดนั้นเราแก้ไม่ได้แล้ว อย่าใช้เวลาไปกับเรื่องในอดีต คิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรไม่ให้พลาดซ้ำดีกว่า

สุดท้ายแล้วตัวเราจะเป็นยังไงอยู่ที่เราเองแหละครับที่จะเป็นคนกำหนด คำพูดคนอื่นก็คือของๆคนอื่น เค้าย่อมมีสิทธิ์จะพูดอะไรอย่างไรก็ได้ เอาใจเราไปฝากไว้กับคนอื่น คิดว่าเค้าจะต้องชอบเรา ต้องชมเราตลอดเวลามันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ใจเราเอง จะให้ใครดูแลได้ครับนอกจากตัวเราเอง

เอาใจช่วยครับผม :b16:

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2011, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับทุกความเห็นค่ะ
มีประโยคที่ได้ฟังมาและเตือนใจได้ดีสำหรับเรื่องนี้คือ

ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะเรียกเราว่าอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะขานรับกับอะไรต่างหาก

คำพูดของคนอื่นเป็นการบ่งบอกตัวตนและแสดงคุณภาพจิตใจของเค้าเอง
แต่ไม่ใช่เป็นตัวตัดสินตัวตนและคุณค่าของเรานะ

และถ้าเค้าพูดในเรื่องที่เราบกพร่องจริง ก็เป็นโอกาสให้เราได้กลับมามองดูและแก้ไขตัวเอง
แต่ถ้ามานินทา ใส่ร้ายแบบไม่มีมูลเลย
ก็ถือว่าเราได้ฝึกความอดทน บำเพ็ญขันติบารมีนะ
ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างได้
ขอเพียงเรารักษาความดีของเราไว้ก็พอ อย่าเอาความคิดอันเป็นอกุศลมาใส่จิตใจเรานะคะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2011, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์เพราะคิด ให้หยุดคิด

หยุดคิดมันยาก ก็คิดให้สั้นลง
ไม่ปล่อยให้คิดยืดยาวสาวความไป

อะไรที่คิดแล้วภาระเพิ่ม เช่นเครียดเพิ่ม อย่างนี้ไม่ควรคิด
อะไรคิดแล้วปล่อยวาง ภาระลดลง คิดไปในทางดี ก็คิดไป

ไม่รู้ว่าจะเอาความคิดไว้ไหน ให้เอาไปดูร่างกาย ลมหายใจ

ดูร่างกายยังไง ก็เช่น ตอนนี้หน้าผากย่นอยู่ไหม รู้แล้วให้คลายออก
มือไม้เกร็งอยู่มั๊ย ถ้าเกร้งให้ปล่อย สำรวจร่างกายแล้วแก้ไขให้มันปกติ สบาย ไม่เบียดเบียนตนเอง

ถ้าดูไม่สะดวก อดคิดไม่ได้ ก็ให้สวดมนต์ หรือท่องนับอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้รำคาญขุ่นเคือง

แต่ดีที่สุดคือปล่อยวาง
เราไม่เอาความถูกต้อง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น ให้ทิ้งให้หมด เรารักษาอย่างเดียว คือรักษาใจ รักษาใจไม่ให้ตกอยู่ในความเครียด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2011, 18:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ทุกข์เพราะคิด ให้หยุดคิด

หยุดคิดมันยาก ก็คิดให้สั้นลง
ไม่ปล่อยให้คิดยืดยาวสาวความไป

อะไรที่คิดแล้วภาระเพิ่ม เช่นเครียดเพิ่ม อย่างนี้ไม่ควรคิด
อะไรคิดแล้วปล่อยวาง ภาระลดลง คิดไปในทางดี ก็คิดไป

ไม่รู้ว่าจะเอาความคิดไว้ไหน ให้เอาไปดูร่างกาย ลมหายใจ

ดูร่างกายยังไง ก็เช่น ตอนนี้หน้าผากย่นอยู่ไหม รู้แล้วให้คลายออก
มือไม้เกร็งอยู่มั๊ย ถ้าเกร้งให้ปล่อย สำรวจร่างกายแล้วแก้ไขให้มันปกติ สบาย ไม่เบียดเบียนตนเอง

ถ้าดูไม่สะดวก อดคิดไม่ได้ ก็ให้สวดมนต์ หรือท่องนับอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้รำคาญขุ่นเคือง

แต่ดีที่สุดคือปล่อยวาง
เราไม่เอาความถูกต้อง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น ให้ทิ้งให้หมด เรารักษาอย่างเดียว คือรักษาใจ รักษาใจไม่ให้ตกอยู่ในความเครียด


อนุโมทนา คุณชาติสยาม ตอบได้ดีมากค่ะ เฉพาะประโยคแรก

"ทุกข์เพราะคิด" หยุดคิดจึงหมดทุกข์ แต่ต้องอาศัยคิด
การปล่อยให้คิดไปในสมมุติแม้เพียงขณะจิตเดียวก็เป็นทุกข์แล้ว
เมื่อยังมีอวิชชาความหลงอยู่ สังขารคิดก็ต้องออกมา ไม่มีใครจะหยุดได้
แต่ต้องอาศัยคิดที่เป็นปรมัตถธรรม มองตามความเป็นจริงในปรมัตถ์
เพื่อทำลายความคิดสมมุติทั้งหมด จึงหมดทุกข์

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2011, 00:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ไง จิตส่งออกเป็นสมุทัย
"พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ..."
อย่างที่ คุณชาติสยาม แนะนำ เป๊ะ เลย

จิตส่งออกนอกเป็นสมุทัย.

จิตส่งออกนอก เป็นสมุทัย เวอร์ชั่น 2.

:b32:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร