วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 06:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2011, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์มี ๗ อย่าง คือ ให้

ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์

ประการที่ ๑. ให้ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว เป็น

ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ทั้ง ๒ ฝ่าย ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว นี้เป็น

ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๒.

บทว่า พุทฺธปฺปมุเข อุภโตสงฺเฆ ความว่า สงฆ์นี้คือ ภิกษุสงฆ์

ฝ่ายหนึ่ง ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายหนึ่ง พระศาสดาประทับนั่ง ณ ท่ามกลาง ชื่อว่า

สงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข. บทว่า อย ปมา ความว่า ชื่อว่า

ทักขิณา มีประมาณเสมอด้วยทักขิณานี้ไม่มี. ก็ทักขิณาทั้งหลายมีทักขิณาที่สอง

เป็นต้น ย่อมไม่ถึงทักขิณาแม้นั้น. ถามว่า ก็เมือพระตถาคตปรินิพพานแล้ว

อาจเพื่อถวายทานแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่ายมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขหรือ. ตอบว่า

อาจ. อย่างไร. ก็พึงตั้งพระพุทธรูปที่มีพระธาตุในฐานะประมุขของสงฆ์ ๒ ฝ่าย

ในอาสนะ วางตั้ง ถวายวัตถุทั้งหมดมีทักขิโณทกเป็นต้นแด่พระศาสดาก่อนแล้ว

ถวายแด่พระสงฆ์ ๒ ฝ่าย. ทานเป็นอันชื่อว่าถวายสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้า

เป็นประมุข





เรื่อง อาหารของเทวดาและพรหม


กรรมที่ให้บังเกิดในนรก.นั่นแล ชื่อว่าอาหารของเหล่าสัตว์นรก ด้วยว่าเหล่าสัตว์นรก

นั้น ดำเนินไปได้ในนรกนั้น ก็ด้วยกรรมนั้นนั่นแล. ส่วนอาหารของเหล่าสัตว์

เดียรัจฉาน ก็พึงทราบ คือใบหญ้าเป็นต้น. ของเหล่ามนุษย์ ก็คือข้าวสุกขนมสด

เป็นต้น ของทวยเทพ ก็คือ สุทธาโภชน์อาหารทิพย์ เป็นต้น



ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนาง

พราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า

ดูก่อนนางพราหมณี ท่านถือการ

บูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใด มั่นคงเป็น

นิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจาก

ที่นี้ ดูก่อนนางพราหมณี ภักษา(อาหาร)

ของพรหมไม่ใช่เช่นนี้ ท่านไม่รู้จักทางของ

พรหม ทำไมจึงบ่นถึงพรหม.







ถ้าเราพูดถึงผลของกรรมเก่าในทางพระพุทธศาสนา คือผลของกรรมที่เรียกว่าวิบาก

วิบากที่เป็นผลของกรรม เช่น ขณะที่เกิด เป็นผลของกรรม ขณะที่เห็นดีหรือไม่ดี เป็น

ผลของกรรมที่ได้ทำมา การได้ยินเสียงที่ดีหรือไม่ดี การได้กลิ่นที่ดีหรือไม่ดี การลิ้มรส

ที่ดีหรือไม่ดี การกระทบสัมผัสที่ดีหรือไม่ดี เป็นต้นเหล่านี้ เป็นผลของกรรมทีได้ทำ จะ

เรียกว่าเป็นผลของกรรมเก่าก็ได้ครับ เพราะฉะนั้นเราจะต้องเข้าใจคำว่าผลของกรรม

เก่าคือวิบากให้ถูกต้องครับ

การดื่มสุรา คนที่ดื่มเป็นชีวิตจิตใจ นั่นแสดงถึงความติดข้อง ความชอบในรสชาติ

ของสุรานั้น ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ดื่มเป็นชีวิตจิตใจแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นในทางธรรม

ความชอบเรียกว่าโลภะ โลภะคือความติดข้อง ความชอบ เป็นอกุศลธรรม เป็นสภาพ

ธรรมที่ไม่ดี ในทางธรรม โลภะไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นเหตุ เหตุที่จะทำให้เป็นผล

ของกรรมในอนาคต เมื่อมีผลของอรรม ก็ต้องมีเหตุที่ทำให้ได้รับผลของกรรม เหตุที่

ทำให้เกิดผลของกรรมที่เป็นฝ่ายอกุศลคือ โลภะ โทสะ โมหะ เพราะฉะนั้นการชอบดื่ม

สุรา เป็นชีวิต จิตใจจึงไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นเหตุที่เป็นโลภะนั่นเองครับ





ถามว่าทำไมถึงชอบ อยู่ดีๆจะชอบไมได้เลยครับ แต่เพราะเคยชอบมาแล้ว เคยสะสมมา

เพราะฉะนั้นเพราะอาศัยความชอบในอดีตที่เคยดื่มมาก่อน เมื่อดื่มบ่อยๆก็ติดข้องมากขึ้น

ในการดื่มสุรา ดังนั้นการดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจจึงเป็นเรื่องการสะสมมาของสภพธรรมที่

เป็นอกุศลธรรมที่เป็นโลภะครับ จึงเป็นเรื่องของการสะสมอกุศลที่เป็นเหตุบ่อยๆ แต่การ

ชอบดื่มสุราไม่ใช่ผลของกรรมเก่าครับ เพราะเคยดื่มในอดีตก็ติดข้องในรสชาตินั้น จำ

ในรสชาตินั้นและเมื่อดื่มอีกก็ติดข้องมากขึ้นครับ เพราะฉะนั้นะต้องแยกระหว่างเหตุที่

เป็นอกุศลกรรมที่เป็นโลภะและผลของกรรมเก่าที่เป็น ขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้

กระทบสัมผัสครับ

ขณะที่ดื่มสุรา ขณะที่ชอบดื่ม ขณะที่ติดข้องเป็นเหตุไม่ใช่ผลของกรรม แต่ขณะที่รู้

รส ขณะนั้นเป็นผลของกรรมเก่า ขณะที่สัมผัสขวดสุราเป็นผลของกรรมเก่า ขณะที่เห็น

ขณะนั้นเป็นผลของกรรมเก่าครับ แต่อุปนิสัยที่ชอบทานสุราเพราะเกิดจากการ

สะสมของอกุศลคือโลภะบ่อยๆที่ชอบสุราจนทำให้เป็นผู้มีอุปนิสัยทานสุรานั่นเองครับ

ซึ่งไม่ใช่ผลของกรรม เป็นการสะสมมาของอกุศลที่เป็นโลภะที่เป็นเหตุครับ ซึ่งเราจะ

เห็นได้ว่าทำไมคนนี้มักโกรธเพราะเขาเกิดความโกรธบ่อยๆที่เป็นเหตุ ก็ทำให้มีอุปนิสัย

มักโกรธครับ การชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจก็โดยนัยเดียวกัน

ส่วนผลของกรรมที่เป็นวิบากของการดื่มสุราคือเมื่อกรรมให้ผลย่อมทำให้เกิดในอบาย

มีนรก เป็นต้น เศษของกรรมที่ยังเหลือเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ทำให้เป็นคนบ้า วิกลจริต นี่

คือผลของกรรมครับ

อำนาจของจิตมีหลายอย่าง การสั่งสมสันดานของตนในชวนวิถีจิตก็เป็น

กิจของจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งขณะที่จิตเป็นชวนวิถี ขณะนั้นจิตเป็นกุศล หรือ

อกุศล คือเป็นโลภะ โทสะ โมหะ หรือกุศล ติดต่อกัน ๗ ขณะ(กามชวนะ)

ในขณะที่จิตเกิดขึ้นมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย คำที่ว่าจิตสั่งสมสันดานของตน

นั้นต้องรวมถึงเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย การสั่งสมก็คือเมื่อจิตประเภทใดเกิด

แล้วย่อมเป็นปัจจัย เป็นอุปนิสัยให้จิตและเจตสิกประเภทนั้นๆ เกิดขึ้นอีก

คนเราจึงมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน บางคนมักโลภ บางคนมักโกรธ บางคนใจดี

และเมื่อสะสมจนมีกำลังเพิ่มขึ้น ก็จะมีการก้าวล่วงออกมาทางกายวาจา เป็นไปใน

กุศลบ้าง เป็นไปในอกุศลบ้าง จากกิเลสวัฏฏ์เป็นกรรมวัฏฏ์ และจากกรรมวัฏฏ์เป็น

วิปากวัฏฏ์ สะสมวนเวียนไปอย่างนี้ไม่มีวันจบ จนกว่าจะสามารถดับกิเลสได้เป็น

สมุจเฉท ถึงความเป็นพระอรหันต์ คือไม่เกิดอีกเลย







เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ฟังธรรม สักการะพระธาตุ
รักษาศ๊ล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้าง ธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆัง ผสมทองคำเปลวถวายพร้อมนำดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆของน้องที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพหนะเป็นทาน ให้ที่อยู่อาศัยเป็นทาน

เมื่อวานนี้ได้ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาส ที่วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี อนุโมทนากับผูทำบุญที่วัด อนุโมทนากับแม่ที่ได้ฟังธรรม อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆที่ให้การอุปการะผู้อื่น

และจะถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ฟังธรรม สักการะพระธาตุ

ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาส ที่วัดแจ้ง จ.ปราจีนบุรี
รักษาศ๊ล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังผสมทองคำเปลวถวายพร้อมนำดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2011, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


นั้นนะสิ ทำไมคนเราชอบดื่มสุรากัน พอมามองตัวเองก็เป็นว่าเราชอบดื่มกาแฟ โลภะคือความติดในกามเป็นอย่างนี้เอง
อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร