วันเวลาปัจจุบัน 07 พ.ค. 2025, 12:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ค. 2011, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5328


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจคำว่าเดือดร้อนให้ถูกต้องก่อนครับ ที่เราพูดว่าเดือดร้อน ในความเป็นจริงขณะ

ที่เป็นผลของกรรมที่ป็นวิบาก คือขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส

นี่คือผลของกรรม และการเห็นก็มีทั้งที่เห็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี การได้ยินก็มีทั้งได้ยินสิ่งที่ดี

หรือไม่ดี..การรู้สิ่งทีก่ระทบสัมผัสทางกายก็มีทั้งสิ่งที่ดีหรือไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องของกรรม

ของแต่ละบุคคลที่ทำมา ไม่ใช่เหตุอื่น ดังนั้นขณะที่เดือดร้อนหรือการับสิ่งที่ไม่ดีคือ

ขณะไหน ต้องเป็นขณะเห็นสิ่งที่ไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี .......รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่ไม่ดี

และที่สำคัญที่สุด เมื่อเห็นไม่ดีแล้ว ได้ยินสิ่งที่ไม่ดีแล้ว ก็ทำให้เดือดร้อนทางใจ เป็น

ความไม่สบายใจบ้าง ติดข้องบ้างนั่นก็เป็นความเดือดร้อนใจ การเห็นสิ่งที่ไม่ดี

การกระทบสัมผัสสิ่งที่ไม่ดีก็เหมือนกับลูกศรดอกแรก แล้วก็ทุกข์ใจ เดือดร้อนใจก็เป็น

เหมือนลูกศรดอกที่สองที่แทงซ้ำที่แผลเดิม ที่อธิบายนี้เพื่อให้เข้าใจว่า ความเดือดร้อน

ที่เราเข้าใจกันนั้นมีทั้งเดือดร้อนทางกาย กระทบสิ่งที่ไม่ดีและที่สำคัญที่สุด เดือดร้อน

ทางใจที่เป็นอกุศล และการเดือดร้อนทางกายคือการได้รับสิ่งที่ไม่ดี การเห็นสิ่งที่ไม่ดี

ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี นี้เป็นผลของกรรม ไม่มีใครทำให้ กรรมของตัวเองเท่านั้นที่ทาและให้

ผล ส่วนการเดือดร้อนทางใจ เช่น ความไม่สบายใจ กลุ้มใจ เหล่านี้ไม่ใช่ผลของกรรม

ไม่ใช่วิบากแต่เป็นอกุศลที่สะสมมาของกิเลสทำให้เกิดอกุศลมีความทุกข์ใจ ไม่สบายใจ

ดังนั้นที่กล่าวมาเพื่อให้เข้าใจว่าที่กล่าวว่าครอบครัวเดือดร้อน เดือดร้อนนั้นคืออะไร

และอะไรเป็นสาเหตุของความเดือดร้อน สาเหตุของความเดือดหรือการได้รับสิ่งที่ไม่ดี

ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย คือกรรมของเราเองที่ทำไว้ที่เป็นอกุศลกรรม เมื่ออกุศลกรรมให้

ผลย่อมเดือดร้อนคือได้รับสิ่งที่ไม่ดีคือ เห็นไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี เป็นต้น ส่วนความ

เดือดร้อนทางใจ สาเหตุคืออะไรไม่ใช่กรรมที่ทำไว้แต่เป็นเพราะมีอกุศล มีกิเลสอยู่ เมื่อ

ยังมีกิเลสก็ทำให้เกิดความไม่สบายใจ เดือดร้อนใจได้เพราะเห็นไมดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี

เป็นต้นครับ

เราจะเห็นได้ว่าสาเหตุของความเดือดร้อนหรือการได้รับสิ่งที่ไม่ดีทางตา หู...กาย

เป็นเพราะกรรมที่เป็นอกุศลกรรมที่ทำมา ส่วนความเดือดร้อนใจเป็นเพราะมีกิเลสที่

สะสมมา แสดงให้เห็นว่า ไม่เกี่ยวกับสถานที่ของบ้าน ไม่เกี่ยวกับทำเลที่ตั้งของบ้าน ไม่

เกี่ยวกับมีศพเด็กเคยตาย เพราะเป็นเรื่องของกรรมของเราเองที่จะทำให้เดือดร้อนและ

กิเลสของผู้นั้นเองที่ทำให้เดือดร้อนครับ จึงต้องมั่นคงในเรื่องของกรรมและผลของ

กรรม ไม่เกี่ยวกับสถานที่ตั้งของบ้านครับ
ที่สำคัญที่สุด มีสถานที่ไหน สถานที่ตรงไหนบ้างที่ไม่เคยมีสัตว์ตาย ทุกที่เคยมีสัตว์

ตายหมดแล้วครับ เพราะสังสารวัฏฏ์อันยาวนาน เพราะฉะนั้นทุกๆบ้าน ทุกๆที่มีทั้งเด็ก

ทารกสัตว์ทุกประเภทเคยตายมาหมดแล้วครับ แล้วความเดือดร้อนจะเกิดจากอะไร ถ้า

ไม่ใช่เพราะกรรมของเราเองและกิเลสที่สะสมมา และการที่ผู้นั้นไปดูหมอเข้าทรงแล้ว

เขาทำนายอย่างนั้น เกิดความไม่สบายใจ ขณะไม่สบายใจก็เดือดร้อนแล้ว ไม่ต้องรอ

ตอนอื่นเลย เดือดร้อนเพราะกิเลสเราเองครับที่ทำให้ไม่สบายใจ เมื่อเข้าใจอย่างนี้ ก็

ทำให้เบาด้วยปัญญา ความเข้าใจเพราะไม่มีสิ่งใดจะทำให้เดือดร้อนได้รับสิ่งที่ไม่ดี

และเดือดร้อนใจได้นอกจากกรรมและกิเลสที่สะสมมาครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 276

สถานที่สัตว์เคยตายและไม่เคยตาย

ลำดับนั้น พระศาสดา ตรัสถามสามเณรนั้นอีกว่า "ติสสะ เธออยู่ที่ไหน ?

สามเณร. อยู่ที่เงื้อมเขานี้ พระเจ้าข้า.

พระศาสดา. ก็เมื่ออยู่ในที่นั้น คิดอย่างไร ?

สามเณร. ข้าพระองค์คิดว่า ' การกำหนดที่ทิ้งสรีระ อันเราผู้ตายอยู่ ทำแล้วใน

ที่นี้ ไม่มี' พระเจ้าข้า.

พระศาสดา. ตรัสว่า "ดีละ ดีละ ติสสะ, ข้อนี้ อย่างนั้น,เพราะชื่อว่าสถาน

ที่แห่งสัตว์เหล่านี้ ผู้ที่ไม่นอนตายบนแผ่นดิน ไม่มี "ดังนี้แล้ว จึงตรัสอุปสาฬหก

ชาดก๑ในทุกนิบาตนี้ว่า :-………………..

เมื่อสัตว์ทั้งหลาย ทำการทอดทิ้งสรีระไว้เหนือแผ่นดิน ตายอยู่,สัตว์ทั้งหลาย

ชื่อว่าตายในประเทศที่ไม่เคยตาย ย่อมไม่มี ด้วยประการฉะนี้.
สถานที่ที่ไม่มีคนตายนั้น หาได้ยาก ในบ้านแต่ละหลัง ๆ นั้น ย่อมมีคนตาย และ

ในที่สุดแล้ว แต่ละบุคคล(รวมทั้งตัวเราด้วย) ล้วนจะต้องละจากโลกนี้ไปด้วยกันทั้ง

นั้น ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความตายไปได้

ชาวพุทธที่แท้จริง จะต้องเป็นผู้มีความมั่นคงในเหตุในผล ซึ่งจะต้องอาศัย

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เพราะเหตุว่า

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง สำหรับผู้ที่

ได้ฟัง ได้ศึกษาิอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นไปเพื่อความไ่ม่รู้

ถ้าไม่มีความมั่นคงแล้ว ใครว่าอะไร ให้ทำอะไร ก็จะทำตามไปทั้งหมด ด้วยความ

ไม่รู้ ด้วยการที่กระทำตาม ๆ กันมา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตาม

ลำดับแล้ว ก็จะทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น มั่นคงในความเป็นจริงมากขึ้น ไม่หวั่น

ไหวไปตามคำพูดของผู้อื่น(ที่ไม่เกื้อกูลให้ได้เข้าใจความจริง) แต่มั่นคงในพระธรรม

คำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

อีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ ไม่มีอะไรที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับชีวิตอย่างแท้จริง

นอกจากปัญญา ความรู้ความเข้าใจสิ่งที่มีจริงเท่านั้น ถึงแม้ว่าชีวิตประจำวันอาจ

จะมีพ่อแม่ พี่น้อง ได้คอยช่วยเหลือในกิจการงานต่าง ๆ บ้าง แต่ในที่สุดแล้ว ก็จะ

ต้องทอดทิ้งกันและกันอยู่ดี มารดาบิดาย่อมทอดทิ้งบุตร บุตรย่อมทอดทิ้งมารดาบิดา

ภรรยาย่อมทอดทิ้งสามี สามีย่อมทอดทิ้งภรรยา ญาติสนิทมิตรสหาย ย่อมทอดทิ้ง

ญาติสนิทมิตรสหาย ด้วยความตายที่เกิดขึ้น ท่านเหล่านั้น ไม่สามารถติดตามไป

ช่วยเหลืออะไรในภพหน้าได้ แต่ความดีที่ได้สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่


เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศ๊ล เจริญภาวนา สวดมนต์ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม อนุโมทนากับน้องคนหนึ่งและเพื่อนๆของน้องที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ให้ยานพหนะเป็นทาน ให้ที่อยู่อาศัยเป็นทาน
วันนี้ได้อนุโมทนากับผู้ที่บวชพระและผู้ที่ทำบุญเลี้ยงพระ
และตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ปิดทอง สักการะพระธาตุกราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย
รักษาศ๊ล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร