วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 15:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2011, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมีประสบการณ์ในการโพสต์กระทู้มาหลายปี ได้เห็นอะไรที่หลากหลายในการโพสต์กระทู้
เมื่อเกิดความขัดแย้ง บ้างก็ยอมรับได้และเข้าอกเข้าใจ บ้างก็รับไม่ได้หนีไปเลยก็มี นับว่าเป็น
สิ่งที่น่าเสียดาย เพราะถ้าหากเขายอมรับที่จะพิจารณาและเรียนรู้จากความคิดที่หลากหลาย
เหล่านั้นอย่างพิจารณาด้วยความเข้าอกเข้าใจ เขาจะได้รับมุมมองใหม่ๆ และประสบการณ์ดีๆ
อีกมากมายเลยทีเดียว ซึ่งจะว่าไปเวบไหนๆก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ ไม่เว้นแม้แต่เวบธรรม
จักรแห่งนี้ แต่เมื่อตอนนี้เมื่อผมได้มีส่วนร่วมกับเวบนี้ จึงอยากจะให้กำลังใจเพื่อนสมาชิกหลายๆ
ท่านที่อาจจะอารมณ์เสียเมื่อเจอข้อความที่ไม่ถูกใจหรือไม่ชอบใจทั้งหลาย และเมื่อท่านจะรับ
ข้อมูลใดๆ ท่านควรทำดังต่อไปนี้

1.ก่อนอื่นขอให้ท่านทำใจเป็นกลาง และเมื่อเจอข้อความที่ไม่ถูกใจก็อย่าเพิ่งมีอคติ แต่พึง
พิจารณาถึงข้อความนั้นให้ดีเสียก่อน เพราะหากท่านรับข้อมูลใดๆโดยมีอคติมาร่วมด้วย
จะทำให้ท่านไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

2.อย่าใส่ใจแต่คำพูดหวานๆ หรือมองแต่คำพูดและข้อความที่ถูกใจ แต่จงพิจารณาถึงความจริง
และจุดประสงค์ของกระทู้ พิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะคำพูดทีไม่ค่อยจะถูกหูแต่บาง
ครั้งก็อาจจะแฝงไปด้วยคติและแง่คิดที่เป็นประโยชน์ในขณะเดียวกันคำพูดหวานๆเอาอกเอาใจ
ก็อาจจะเต็มไปด้วยความละเมอเพ้อพก อยู่ในจินตนาการ หาความจริงและหาสาระอะไรไม่ได้เลย
ก็มี

3. หากเจอกระทู้หรือความคิดเห็นที่พูดจาหยาบคาย เพ้อเจ้อ โพสต์ซี้ซั๊ว เหน็บแนม มั่วนิ่ม ต่างๆ
เมื่อท่านได้พิจารณาแล้วว่าหาสาระและประโยชน์อะไรไม่ได้ ก็ผ่านมันไป ไม่ต้องไปสนใจ เพราะ
เสียเวลาเปล่า ปล่อยให้คนโพสต์มันบ้าของมันไปคนเดียว เราเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ
เพราะยังไงเราก็หนีพวกซี๊ซัวนี่ไม่พ้นอยู่ดี ทำใจให้สบายอย่าไปเสียเวลากับพวกนี้ครับ

4.เมื่อเจอพวกซี๊ซั้วแต่งเรื่องหลอกให้คนอื่นเห็นอกเห็นใจ ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริง (เรารู้ได้จาก
เจตนาและความชำนาญครับ )ก็อย่าไปใส่ใจกับคนพวกนี้ครับ หากรำคาญก็ไม่ต้องไปโพสต์ตอบ
กระทู้ ปล่อยให้เขาบ้าไปคนเดียว เพราะอีกเดี๋ยวไม่มีใครสนใจก็เบื่อและเลิกโพสต์ไปเองครับ แต่
ขอให้เข้าใจไว้เสมอว่าคนที่ชอบแต่งเรื่องเหล่านั้นเขาไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกครับ เขาอาจจะเป็น
พวกที่เหงา ไม่ค่อยมีคนสนใจ ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับ จึงพยายามเรียกร้องความสนใจเพื่อให้ตนเอง
รู้สึกอบอุ่น รู้สึกว่าตนเองเป็นที่สนใจ ถึงแม้จะเป็นโลกออนไลน์ที่ไม่มีตัวตนก็ตาม

ถึงเราจะรู้ว่าการแต่งเรื่องมาล้อเล่นกับความรู้สึกสงสาร เห็นอกเห็นใจของผู้อื่น แม้จะเป็นเรื่องไม่ดี
ไม่ควรทำ แต่เราก็อย่าไปโกรธคนพวกนี้ครับ เห็นใจได้ก็ควรเห็นใจ และให้คิดเสมอว่าที่เขาทำอย่าง
นั้นเพราะความเหงาเป็นเหตุ

และถ้าท่านรับข้อมูลโดยปราศจากอคติแล้วนำมาพิจารณามองในหลายๆ ด้าน ท่านก็จะได้รับ
มุมมองและแง่คิดใหม่ๆ จากผู้คนที่หลากหลายและเป็นประโยชน์กับตัวท่านมากที่เดียว ซึ่งจะ
ทำให้ท่านโพสต์และอ่านกระทู้ได้อย่างมีความสุขและได้รับสาระประโยชน์ ไม่หงุดหงิดเมื่อเจอ
ข้อความที่ไม่ถูกใจ

ซึ่งผมเชื่อว่าทุกท่านที่เข้ามาในเวบธรรมจักรแห่งนี้ ก่อนที่ท่านจะเข้ามาก็เพราะท่านทั้งหลายมี
เจตนาดีเป็นที่ตั้งอยู่ก่อนแล้วจึงสมัครเข้ามาเป็นสมาชิก เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบ
การณ์ที่เป็นประโยชน์ และผมเชื่อว่าเจตนาดีเหล่านี้จำทำให้ท่านได้รับแต่สิ่งดีๆกลับไปแน่นอน
ครับ แต่บางครั้งเจตนาดีเหล่านั้น เมื่ออยู่รวมกันในกลุ่มคนที่หลากหลายทางความคิดก็อาจจะทำ
ให้ทะเลาะกันบ้าง ไล่ต้อนกันไป ไล่ต้อนกันมาบ้าง เนื่องมาจากความคิดเห็นหลากหลายที่ขัดแย้ง
กันเพราะที่ไหนมีคนมากที่นั่นก็มีปัญหามาก ที่ไหนมีคนน้อยก็ปัญหาน้อย ความคิดเห็นจะอาจขัดๆ
กันไปบ้างในบางครั้ง นั่นก็เพราะแต่ละคนต่างก็มีพื้นฐานทางความคิดแตกต่างกัน มีสภาพการดำ
เนินชีวิตมาจากต่างสถานที่ ต่างสภาพแวดล้อม ต่างสังคม ต่างวัฒนธรรม ต่างประเพณี ความคิด
จึงแตกต่างกัน แต่ขอให้ท่านพิจารณาเอาแต่สิ่งทีดี มีประโยชน์ในความต่างเหล่านั้น เพราจะเป็น
ประโยชน์แก่ตัวท่านเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าท่านจะยอมรับฟังและยอมรับในความต่างเหล่านั้นได้มาก
น้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ตัวท่านเอง

แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางก็เหมือนกัน นั่นคือความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนประ
สบการณ์ แลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ มีความหวังดีต่อพระพุทธศาสนา ต้องการทำนุบำรุงพระพุทธ
ศาสนา ต้องการเห็นพระพุทธศาสนาดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควรอย่างที่มันควรจะเป็น ซึงความคิด
เห็นที่หลากหลายนั้นถ้ามันเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ ให้แง่คิดและให้มุมมองใหม่ๆ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและ
มีประโยชน์มากถ้าหากเรานั้นรู้จักวิธีที่จะเลือกรับเอาความหลากหลายเหล่านั้นมาพิจารณาด้วยเหตุ
ด้วยผลโดยใช้สติปัญญา ซึงผมมองว่าความคิดเห็นและมุมมองที่หลากหลายนี้จะเป็นการเปิดโลก
ทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น รู้จักการที่จะยอมรับผู้อื่นมากขึ้น เรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่นและอะไรๆอีกมากมาย
บนโลกใบนี้ให้มากขึ้น

การรู้จักเข้าใจและยอมรับฟังผู้อื่นนับว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ดี เพราะในทุกๆวันเราต้อง
เจอเหตุการณ์ที่หลากหลายเข้ามาในชีวิต เจอเรื่องแปลกๆ พบเจอผู้คนที่มีพฤติกรรมที่หลากหลาย
การดำเนินชีวิตของผู้คนในหลายรูปแบบ ซึ่งการเรียนรู้ที่จะรับฟังและเข้าใจพวกเขาก็จะทำให้เรา
สามารถมองโลกได้กว้าง มีทัศนคติทางความคิดที่กว้างไกล รู้จักดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วย
ความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ซึ่งการแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ในกระทู้
ก็เป็นอีกวิธิการนึงที่จะทำให้เราสามารถเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้นผ่านทางความคิดและมุมมอง
ที่หลากหลายภายในกระทู้ ถึงแม้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกระทู้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ก็มี
ความสำคัญมากในแง่ของการศึกษาพฤติกรรมและการแสดงออกของผู้คน และนับได้ว่าเป็นแหล่ง
เรียนรู้ที่ดีอีกแหล่งนึง


ซึ่งผมเชื่อว่าความปราถนาดีเหล่านี้จะต้องย้อนกลับไปหาท่าน ให้ท่านนั้นได้รับแต่สิ่งดีๆ และเป็น
มงคลเข้ามาในชีวิต ผมอยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านทำความดีเหล่านั้นต่อไปเพื่อเป็นสารณะ
ประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อๆไปในอนาคต และขอพวกท่านทั้งหลายประสพแต่สิ่งดีดีและสมหวังทุก
ประการ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ถือโอกาสอวยพรทุกท่านเนื่องในวันสงกรานต์ก็แล้วกันนะครับ
:b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


แก้ไขล่าสุดโดย เสียงธรรม เมื่อ 17 เม.ย. 2011, 15:12, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2011, 22:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ละมานะได้..ประเสริฐยิ่ง

แม้แค่พยายามละ...ก็ยังประเสริฐ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 03:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


เราส่วนมากยังถูกกิเลสปิดตาไว้อยู่ มันก็คล้ายๆกับว่าเราตาบอด :b23:

เขาให้พวกเราคลำช้าง ให้พวกเราบอกเขาว่าช้างในความคิดของพวกเราแต่ละคนเป็นยังไง

เพราะช้างตัวใหญ่ เราแต่ละคนคลำได้ไม่ทั่ว เราแต่ละคนย่อมมีภาพใจจินตนาการของช้างต่างกัน คนตาบอดที่ใจไม่บอด ย่อมเข้าใจและยอมรับว่าด้วยเหตุนี้ พวกเราที่ยังถูกกิเลสบังตาบังใจอยู่ ย่อมมีความเข้าใจในคำสอนไปต่างๆกัน

แล้วจะเถียง ทะเลาะกันไปเพื่ออะไร

คงเป็นที่น่าสลดใจ เอือมระอาแก่เหล่าผู้ที่ได้เปลื้องกิเลส เปิดตาเปิดใจตัวเองแล้ว หากท่านเหล่านั้นได้มาพบเห็นเข้า

:b33: โกรธเคือง ตอบโต้กันเผ็ดร้อน ก็ล้วนเพื่มกำลังให้กิเลสตัวเองให้แข็งแรง บังตาบังใจเราได้ถนัดถนี่ขึ้น

สู้เอาภาพจินตนาการของช้างแต่ละส่วนจากคนหลายๆคนมาปะติดปะต่อกันเหมือน Jigsaw

ภาพใหญ่ที่ได้ ย่อมสมบูรณ์กว่า ภาพจากการจินตนาการของตัวเองคนเดียว แม้ภาพนั้น จะยังไม่สมบูรณ์เหมือนดังตาเห็นเองก็ตาม

ย่อมเกิดประโยชน์มากกว่าในการใช้ตามหาช้างตัวจริงใช่ไหมครับ :b16:

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 03:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วกัน .... :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วกัน .... :b1:

ใครเขาจะไปค้านคำของพระพุทธเจ้า พูดไม่คิด
ที่เขาค้าน เขาค้านคนที่ชอบแอบอ้างเอาความเห็นของตัวเอง
แล้วโมเมว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า

คนเข้าใจพระธรรมมากขึ้น มีปัญญาในการเชื่อมากขึ้น
ไม่หลงลมปากของพวกที่ชอบเอาพระธรรมบังหน้า
ซึ่งแท้จริงแล้ว คนพวกนี้มันก็แค่พวก พ่อมดหมอผี ทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ
ต้องการมีสาวกมากๆ โดยใช้วิธีการ ยกเอาอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์มาเป็นเครื่องมือ
ไว้ข่มขู่ให้คนอื่นเกิดความกลัว จะได้ปฏิบัติตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

สังเกตุดูให้ดีคนพวกนี้ ชอบคุยถึงเรื่องอรหันต์เรื่องนิพพาน
แล้วมักจะเน้นว่าคำพูดตัวเองศักสิทธิ์ ใครเข้าไปโต้แย้งจะต้องมีอันเป็นไป
หาว่าเราไปปรามาสพระอรหันต์ คือมันเข้าใจหรือตั้งใจหลอกเราว่า
คำพูดของมันคือคำพูดของอรหันต์

การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้พระธรรมอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้บุคคลอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรมคือการ เอาพระธรรมกลับไปในยุคก่อนที่จะมีพระธรรม
การค้านพระธรรมคือการ เข้าใจไปว่า การจะไปนิพพานได้คือการนั่งทำสมาธิแต่อย่างเดียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 05:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้งหมดนั่นพาโลโฮฮับ สำคัญผิดเอาเอง และ มีนิวรณ์พยาบาท :b32: :b32: :b32: แค้นฝังหุ่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 05:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ex คุณmes เขาคุยเรื่องฌาณ (ในกุศลจิตติดสุข)แต่กาสรก็มุ่งเข้ามา สอดว่า...
อ้างคำพูด:
โฮฮับ เขียน
ที่ว่ากิเลสถูกกดทับไว้ด้วยสมาธิ
ดังนั้นสมาธิที่ใช้หาใช่สัมมาสมาธิไม่
แต่มันเป็นกิเลส มันเป็นผลแห่งความอยาก
นั้นก็คือ อยากเสวยวิมุติสุข

สัมมาสมาธิ นับจากปฐมฌาณ จำไว้นะไอ้หนูโฮ หัดกราบพ่อแม่ สวดมนต์ไหว้พระด้วยล่ะ
น่าสมเพศ หัดสวดมนต์เยอะๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วกัน .... :b1:

ใครเขาจะไปค้านคำของพระพุทธเจ้า พูดไม่คิด
กาสรโฮไงค้าน เป็นพาโลด้วย :b1:

ที่เขาค้าน เขาค้านคนที่ชอบแอบอ้างเอาความเห็นของตัวเอง
แล้วโมเมว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
อันนี้พาโลโฮฮับ ชัดเจน :b6:
คนเข้าใจพระธรรมมากขึ้น มีปัญญาในการเชื่อมากขึ้น
ไม่หลงลมปากของพวกที่ชอบเอาพระธรรมบังหน้า
แต่ขอให้มาหลงโฮ :b28:
ซึ่งแท้จริงแล้ว คนพวกนี้มันก็แค่พวก พ่อมดหมอผี ทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ
ต้องการมีสาวกมากๆ โดยใช้วิธีการ ยกเอาอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์มาเป็นเครื่องมือ
ไว้ข่มขู่ให้คนอื่นเกิดความกลัว จะได้ปฏิบัติตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ต้องแถวๆปทุม :b21:

สังเกตุดูให้ดีคนพวกนี้ ชอบคุยถึงเรื่องอรหันต์เรื่องนิพพาน
แล้วมักจะเน้นว่าคำพูดตัวเองศักสิทธิ์ ใครเข้าไปโต้แย้งจะต้องมีอันเป็นไป
หาว่าเราไปปรามาสพระอรหันต์ คือมันเข้าใจหรือตั้งใจหลอกเราว่า
คำพูดของมันคือคำพูดของอรหันต์
ไม่ใช่ผมแน่ เพราะผมยังไม่บรรลุ

การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้พระธรรมอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้บุคคลอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรมคือการ เอาพระธรรมกลับไปในยุคก่อนที่จะมีพระธรรม
การค้านพระธรรมคือการ เข้าใจไปว่า การจะไปนิพพานได้คือการนั่งทำสมาธิแต่อย่างเดียว


นั่นไง เจ้าลัทธิเดียรถีย์กาสร โฮฮับ ออกตัวมาแล้ววว
เครื่องหมายสำนักพาโลโฮฮับคือ เด็กร้องไห้ นั่งทับควายธนู

กร๊ากกกกกกกก :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
โฮฮับเขียน
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้พระธรรมอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้บุคคลอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรมคือการ เอาพระธรรมกลับไปในยุคก่อนที่จะมีพระธรรม
การค้านพระธรรมคือการ เข้าใจไปว่า การจะไปนิพพานได้คือการนั่งทำสมาธิแต่อย่างเดียว


เดียรถีย์กาสรโฮฮับ
ปล่อย อธรรม
มาสอนแล้ว :b14: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วกัน .... :b1:

หลับอยุ่ เขียน:
ทั้งหมดนั่นพาโลโฮฮับ สำคัญผิดเอาเอง และ มีนิวรณ์พยาบาท :b32: :b32: :b32: แค้นฝังหุ่น

แป๊ะยู๋ครับ ผมจะไปสำคัญผิดอะไรครับ จขกทเขาปราถณาดีมีใจเป็นกุศล
สู้อุตสาห์มาพูดเพื่อให้สมาชิก มองโลกในแง่ดี
ก็เห็นมีแต่แป๊ะยู๋นี่แหล่ะครับ พยายามดึงให้มันเป็นเรื่องเป็นอกุศล
อาแป๊ะลองดูการกระทำของลื้อดูแล้วบอกกับตัวเองซิครับว่า
ใครมันพาลพาโลกันแน่ ฮิ ฮิ :b13:


หลับอยุ่ เขียน:
ex คุณmes เขาคุยเรื่องฌาณ (ในกุศลจิตติดสุข)แต่กาสรก็มุ่งเข้ามา สอดว่า...
อ้างคำพูด:
โฮฮับ เขียน
ที่ว่ากิเลสถูกกดทับไว้ด้วยสมาธิ
ดังนั้นสมาธิที่ใช้หาใช่สัมมาสมาธิไม่
แต่มันเป็นกิเลส มันเป็นผลแห่งความอยาก
นั้นก็คือ อยากเสวยวิมุติสุข

สัมมาสมาธิ นับจากปฐมฌาณ จำไว้นะไอ้หนูโฮ หัดกราบพ่อแม่ สวดมนต์ไหว้พระด้วยล่ะ
น่าสมเพศ หัดสวดมนต์เยอะๆๆ

อาแป๊ะเอ้ย! อั๊วถึงบอกให้ลื้อไปไหว้จ้าวเหมือนเดิม
ลื้อรู้หรือเปล่าว่า สมาธิมันมีสองตัว ขีเกียจสีซอ
ลื้อไปนั่งทำสมาธิเพื่อร้องฌาณของลื้อไปเถอะ
แต่อย่าเทียวพาโลไปว่าคนอื่นเขา มันเป็นอัตพาล
หรือว่าลื้อเป็นพวกสมาคมตั่วเฮียตะไกรขาเดียวหลงยุค :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
โฮฮับ เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วกัน .... :b1:

ใครเขาจะไปค้านคำของพระพุทธเจ้า พูดไม่คิด
กาสรโฮไงค้าน เป็นพาโลด้วย :b1:

อาแป๊ะ ที่อั๊วค้านคือตัวลื้อ จนทำให้ลื้อพาลพาโล
เป็นเจ๊กตื่นไฟมาด่าอั๊วป่าวๆ
หลับอยุ่ เขียน:
ที่เขาค้าน เขาค้านคนที่ชอบแอบอ้างเอาความเห็นของตัวเอง
แล้วโมเมว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
อันนี้พาโลโฮฮับ ชัดเจน :b6:

ใช่ครับผมเอง โปรดกลับไปดูย่อหน้าแรก :b13:
หลับอยุ่ เขียน:
คนเข้าใจพระธรรมมากขึ้น มีปัญญาในการเชื่อมากขึ้น
ไม่หลงลมปากของพวกที่ชอบเอาพระธรรมบังหน้า
แต่ขอให้มาหลงโฮ :b28:

แป๊ะยู๋ เข้าใจอะไรผิดแล้ว อั๊วไปทำให้ใครหลง
เห็นเขาไม่ชอบหน้าอั๊วกันทั้งเว็บ แต่ขอบอกว่า"ไอ ด้อน แคร์ ครับ" :b13:

:b13: ประทับตราไว้เป็นสำคัญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
โฮฮับ เขียน:
]ซึ่งแท้จริงแล้ว คนพวกนี้มันก็แค่พวก พ่อมดหมอผี ทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ
ต้องการมีสาวกมากๆ โดยใช้วิธีการ ยกเอาอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์มาเป็นเครื่องมือ
ไว้ข่มขู่ให้คนอื่นเกิดความกลัว จะได้ปฏิบัติตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ต้องแถวๆปทุม :b21:

นี่ไงหลักฐานคุยกับเราอยู่ดีๆ ดันพาลพาโลไปด่าชาวบ้านเขา
ตาแป๊ะยู๋เอ้ย ตาแป๊ะยู๋ ลื้อเที่ยวตั้งฉายาให้ชาวบ้าน ถามหน่อยเคยสำรวจตรวจตรา
นิสัยตัวเองมั้ยหา :b32:

หลับอยุ่ เขียน:
โฮฮับ เขียน:
อย่าไปค้านคำสอนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ก็ แล้วสังเกตุดูให้ดีคนพวกนี้ ชอบคุยถึงเรื่องอรหันต์เรื่องนิพพาน
แล้วมักจะเน้นว่าคำพูดตัวเองศักสิทธิ์ ใครเข้าไปโต้แย้งจะต้องมีอันเป็นไป
หาว่าเราไปปรามาสพระอรหันต์ คือมันเข้าใจหรือตั้งใจหลอกเราว่า
คำพูดของมันคือคำพูดของอรหันต์
หลับอยุ่ เขียน:
ไม่ใช่ผมแน่ เพราะผมยังไม่บรรลุ

อ้าว! เห็นไปคุยเรื่องนิพพานกับอีตาเม็ดไว้เป็นคุ้งเป็นแคว
สรุปที่คุณสองคนคุยกัน มันก็เป็นเรื่องเพ้อเจ้อของลื้อสองคน :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
อ้างคำพูด:
โฮฮับเขียน
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้พระธรรมอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้บุคคลอยู่เหนือธรรมชาติ
การค้านพระธรรมคือการ เอาพระธรรมกลับไปในยุคก่อนที่จะมีพระธรรม
การค้านพระธรรมคือการ เข้าใจไปว่า การจะไปนิพพานได้คือการนั่งทำสมาธิแต่อย่างเดียว

เดียรถีย์กาสรโฮฮับ
ปล่อย อธรรม
มาสอนแล้ว :b14: :b5:

ผมไม่ได้มาสอนใครครับ แต่ผมออกมาประนามคนพวกที่ชอบทำตัว
แบบนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าดี ข้าวิเศษกว่าใคร ถ้าใครไม่เชื่อข้ามันต้องตกนรกหมกไหม้
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..ข้ารู้ ข้าเห็นเพราะข้าคือจ้าวเจี้ยวแป๊ะยู๋ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้พระธรรมอยู่เหนือธรรมชาติ


การค้านพระธรรมคือการปฏิเสธหลักของความจริง หลักของเหตุผล หลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลงคิดไปว่าพระธรรมคำสอนเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในใบลานเท่านั้นซึ่งมนุษย์จะแตะต้องไม่ได้ หากแตะต้องแล้วจะมีอันเป็นไป เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วธรรมมะก็คือธรรมชาติ คือการพิจารณาธรรมชาติโดยใช้หลักเหตุและผล การอยู่กับความจริง การมองความจริงที่เป็นไปอย่างมีสติ มีเหตุผล มีคำถาม และค้นหาคำตอบอย่างเข้าอกเข้าใจ เจ้าชายสิทธัตถะแห่งกรุงพาราณสี ท่านก็เริ่ม ( คำนี้เน้น)ศึกษาธรรมโดยสังเกตุจากธรรมชาติรอบๆตัว และมีคำถามว่าทำไมต้องมีคนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทำไมสิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น ทำไมสิ่งนี้เป็นอย่างนี้ ทำไมต้องเกิดสิ่งนั้น ทำไมต้องเกิดสิ่งนี้ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเราค้านธรรมมะก็เท่ากับว่าเราปฏิเสธธรรมชาติ หลงทางเพราะมองไปว่า ความจริงเป็นสิ่งผิด มนุษย์ไม่ควรมีเหตุและผล แล้วกลับไปยกย่องพวกพ่อมดหมดผี พวกร่างทรง พวกที่มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชทั้งหลายว่าเป็นธรรมมะ เพราะสามารถบันดาลโชคลาภ ความสุขสมหวัง ซึงการค้านพระธรรมก็เป็นการค้านหลักความเป็นจริงของโลก ค้านธรรมชาติ ค้านหลักความจริง ค้านเหตุและผล และจมอยู่กับจินตนาการเหนือธรรมชาติอยู่ในมุมมืดของตนเองเพียงเท่านั้น
โฮฮับ เขียน:
การค้านพระธรรม คือการพยายามทำให้บุคคลอยู่เหนือธรรมชาติ


เมื่อค้านพระธรรม ค้านหลักของเหตุและผล ก็กลับไปยกย่องเจ้าพ่อเจ้าแม่ พ่อมดหมอผีทั้งหลายว่าคือธรรมมะเพราะบันดาลความสุขสมหวัง( หลายคนคิดว่าตนเองสมหวังน่ะนะ ) ได้ทันตาเห็น ยกย่องให้พ่อมดหมอผีคือธรรมมะ นับได้ว่าเขากำลังเดินไปผิดทาง เพราหน้ามืดตามัว ปิดหูปิดตาให้ตนเองจมอยู่กับความเพ้อพก ความเพ้อฝันต่อไป

โฮฮับ เขียน:
การค้านพระธรรมคือการ เอาพระธรรมกลับไปในยุคก่อนที่จะมีพระธรรม


คือการยกย่องสิ่งเหนือธรรมชาติ น้ำท่วม ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ก็ว่าเทวดาลงโทษ จะต้องหาของมาเซ่นไหว้เพื่อให้เทวดาไม่โกรธ ตั้งสำนักทรงเจ้า มีแม่หมดหมดผีเป็นตัวแทนเพื่อติดต่อกับเทวดา เพราะถ้าคิดว่าถ้าทำให้เทวดาพอใจก็จะไม่เจอกับเหตุการณ์อย่างนั้นอีกเป็นต้น เป็นการออกห่างความเป็นจริง ไม่มองความจริงตามความเป็นจริง ไม่ใช้เหตุผล ใช้แต่ความศรัทธาเป็นที่ตั้ง ศรัทธาเพราะกลัว เป็นต้น ซึ่งนับว่าน่าเสียดาย

โฮฮับ เขียน:
การค้านพระธรรมคือการ เข้าใจไปว่า การจะไปนิพพานได้คือการนั่งทำสมาธิแต่อย่างเดียว


ข้อนี้ขอไม่กล่าวถึง เพราะถ้ากล่าวถึงแล้วอาจจะไปกระทบกับศาสนาอื่นก็ได้ แต่การนั่งสมาธินั้นไม่ใช่หนทางไปนิพพานแน่นอน เพราะมิเช่นนั้นคนทั้งโลกคงบรรลุอรหันต์ สำเรจมรรคผลเป็นพระพุทธเจ้ากันหมดแล้ว
ขอบคุณ คุณโฮฮับ กับข้อความที่ให้มุมมองความรู้ที่ดี ให้มุมมองและแง่คิดที่หลากหลายและมีประโยชน์ มากเลยครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


แก้ไขล่าสุดโดย เสียงธรรม เมื่อ 13 เม.ย. 2011, 09:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2011, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


พระธรรมไม่ใช่ปรัชญา หรือนิรุติศาสตร์

พระธรรมคือธรรมชาติ

สิ่งที่เหนือธรรมชาติ ไม่มี

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 49 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร