วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 20:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเจโตวิมุติเขียน

อ้างคำพูด:
ปกติไม่เคยแนะนำให้ใครฝึกนั่งสมาธิเองโดยลำพัง อันตรายพอสมควร


ต้องขอโทษคุณเจโตวิมุติ ด้วยน่ะค่ะ :b8:

ที่ยกเอาคำพูดของคุณมาถามค่ะ (ขอใช้คำว่าคุณน่ะค่ะ)
ขอความรู้ตรงนี้ของท่านผู้รู้ด้วยค่ะ
ขอเป็นคำพูดแบบกว้างๆน่ะค่ะ

เพราะเห็นมีคนชอบพูดกัน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะเหตุใด?
ก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเปลี่ยนไป
ชอบเก็บตัวชอบอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรให้เสียใจ

แต่ชอบกำหนดพุท-โธ เบื่อการคุยเรื่องทางโลก
ชอบคุยชอบฟังเรื่องธรรมมะ
ขอความรู้ด้วยค่ะ :b8: :b41: :b45: :b55:.....


อ้อ!ลืมบอกค่ะ เรานั่งสมาธิเอง
โดยมีเพื่อนๆในเว็บเป็นอาจารย์ค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ขอความรู้ตรงนี้ของท่านผู้รู้ด้วยค่ะ
ขอเป็นคำพูดแบบกว้างๆน่ะค่ะ

เพราะเห็นมีคนชอบพูดกัน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะเหตุใด?
ก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเปลี่ยนไป
ชอบเก็บตัวชอบอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรให้เสียใจ

แต่ชอบกำหนดพุท-โธ เบื่อการคุยเรื่องทางโลก
ชอบคุยชอบฟังเรื่องธรรมมะ

ถามเรื่องการฝึกสมาธใช่มั้ยครับ การฝึกสมาธินี่มันอันตรายตรงไหนครับ
การฝึกสมาธินี่เป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากกว่าอันตรายมั้งครับ

ดูข้อมูลที่ลิงก์นะครับ พิมพ์ไว้แล้วขี้เกียจพิมพ์ใหม่ เพราะเรื่องเดิมๆ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=37067

การฝึกสมาธิก็คือการอยู่กับจิตของตนเอง คือความปล่อยวาง
คือความว่างเปล่า ไม่ยึดติด ถือติด คือการผ่อนคลายจิตให้สงบนิ่ง
อาการที่คุณเป็นก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับ ไม่ต่างจากคนที่ฝึกสมาธิทั่วไป

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


การฝึกสมาธิมีข้อเสียอย่างไร

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราได้ยินคำสรรเสริญผลดีของการฝึกสมาธิมากมาย ทำให้จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน การงานบรรลุผล ได้ฌานอภิญญา อ่านใจคนได้ ระลึกชาติได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ เป็นต้น จึงมีการส่งเสริมการทำสมาธิโดยทั่วไปทั้งในวัด โรงเรียน และสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ หลายคนคิดว่า สมาธิเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าในการดับทุกข์ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ สมาธิใช้หลบทุกข์ชั่วคราวเท่านั้น เป็นคำสอนของพราหมณ์มาก่อน

สิ่งไดมีคุณอนันต์ย่อมมีโทษมหันต์ แม้แต่อากาศที่เราหายใจเข้าไป หรืออาหารที่เรากิน ก็ยังมีโทษ มีดีก็ต้องมีเสีย จึงข้อให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูตามความเป็นจริง เราไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เพียงแต่นำเสนอในสิ่งที่เป็นจริงเพื่อการศึกษาเรียนรู้ ไม่ได้มีเจตากล่าวร้ายใดๆ หรือกล่าวหาผู้ใดทั้งสิ้น

1) สมาธิดับทุกข์ไม่ได้ – พระพุทธเจ้าได้ปฐมฌานตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เมื่อออกบวชได้ไปเรียนวิธีการทำสมาธิกับฤๅษีพราหมณ์ 2 ท่านคือ อาฬารดาบสและอุทกดาบส จนได้สมาธิขั้นสูงคือ ฌาน 7-8 ในที่สุด ท่านก็เห็นว่าไม่ใช่ทางดับทุกข์ จึงได้ลาอาจารย์ทั้ง 2 มาวิปัสสนาจึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

2) พาตัวเองไปติดตาข่ายของมาร – ถ้าเราได้สมาธิขั้นสูงเป็นฌานสมาบัติแล้ว โอกาสพาตนเข้าไปสู่การวิปัสสนานั้นยากมาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเราได้ทำจนเป็นนิสัยเสียแล้ว เป็นอุปนิสัยที่ละเอียดหาทางแก้ไขได้ยากมาก ในที่สุดก็ไปติดกับตาข่ายมารหรือติดความสงบ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ฌานอภิญญาคือตาข่ายดักพรหม เป็นได้แค่พรหมเท่านั้น ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เหมือนกับปลาที่เข้าไปติดตาข่าย ลอบ ไซ ข้อง ของชาวประมง ไม่สามารถพาตัวเองออกมาได้ต้องมีคนอื่นช่วยพาออกมา ฉันใดฉันนั้น พระโมคัลลามีพระพุทธเจ้าดึงออกมาจากตาข่ายถึง 8-9 ครั้ง จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ถือเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ

3) เปิดโอกาสให้เปรตอสูรกายทำร้ายตนเอง – เจ้ากรรมนายเวรบางครั้งมาในรูปของเปรตอสูรกาย บางครั้งมาในรูปแบบของเทวปุตตมาร ปกติพวกนี้แฝงตัวอยู่รอบๆ เราทุกคน ส่วนมากเป็นพวกที่คอยจ้องล้างแค้น เพราะเราเคยไปทำร้ายเขามาก่อนในอดีต จะคอยมาขัดขวางไม่ให้เราทำความดีได้ถึงที่สุดในชีวิตที่เกิดมาเป็นคน ในระหว่างที่เรากำลังทำสมาธิ จิตของเราจะเลื่อนจากฟุ้งซ่านไปสูความสงบ จนมีจุดๆ หนึ่งที่จิตไปตรงกันกับพวกเปรตอสูรกายที่จ้องคอยเล่นงานเราอยู่ พวกนี้จึงได้โอกาสแทรกแซงจิตเราทันที ถ้าเราไม่ได้ทำสมาธิ พวกนี้ทำอะไรเราไม่ได้ ต่อจากนั้นพวกเขาก็จะครอบงำจิตใจเราตลอดเวลา โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย พวกนี้จะคอยเนรมิตให้เรารู้เห็นได้ยินอะไรต่างๆ นาๆ รวมทั้ง นรก สวรรค์ อ่านจิตใจทำนายทายทักคนอื่นได้ ถ้าคุณชอบอะไรพวกนั้นก็จะเนรมิตสิ่งนั้นให้คุณเห็น บางทีอ้างว่าเป็นเทพ เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ฯ ซึ่งพวกที่นั่งสมาธิบอกว่านิมิตเห็น ความจริงผู้นั่งสมาธิไม่ได้เห็นอะไรเลยเป็นพวกเปรตอสูรกายเหล่านั้นนิมิตให้เห็น แต่เมื่อไม่มีปัญญาพอที่จะแยกแยะว่าที่เห็นนั้นเป็นจริงหรือไม่ เมื่อแยกไม่ได้รู้ไม่จริงทำให้ผู้ปฏิบัติหลงตัวเองว่าสำเร็จขั้นโน้นขั้นนี้ ตัวผู้ฝึกสมาธิจึงเหมือนซากเปลือกหอยที่ปูเข้าไปอาศัย ปูจะพาเปลือกหอยไปที่ไหนก็ได้โดยที่หอยไม่มีโอกาสบังคับตัวเองได้ บางคนหนักเข้าไปอีกบอกว่าตัวเองพูดภาษาเทพได้ ภูมิใจนักหนาคิดว่าตัวเองเก่งวิเศษ หลงตนว่าได้ฌานสูงกว่าคนอื่น แต่ถ้าวันไหนเปรตอสูรกายไม่ผ่านเข้าร่างตนเองก็ไม่รู้อะไรเลย บางคนว่าเทพมาผ่านร่าง บางทีเป็นเอามากๆ บอกว่าพระพุทธเจ้าเข้ามาผ่านร่าง บางคนไม่เฉลียวใจบ้างเลยทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิง พระพุทธเจ้าจะมาผ่านร่างผู้หญิงได้อย่างไร ท่านมีตัวมีตนที่ไหน ท่านนิพานไปแล้ว ไม่กลับมาอีกแล้ว ภาพที่เห็นเป็นภาพเนรมิตไม่ใช่ของจริง หลายคนหลงไปสักการะบูชาเปรต ส่วนภาษาที่ว่าเป็นภาษาเทพนั้นก็เป็นภาษาฮินดูที่คนอินเดียพูดกันอยู่ทั่วไป เมื่อคนนั่งสมาธิไม่มีความรู้ว่า พวกเทพเทวดาทั้งหลายไม่ได้มาผ่านร่างหรือเข้าทรงคน มีแต่เปรตอสูรกายเท่านั้นที่เข้าทรงคน เทพ เทวดา อยู่ในสภาวะทิพย์มีที่อยู่ทิพย์ กินของใช้ทิพย์ ท่านไม่ได้มายุ่งหรือมาเกี่ยวอะไรกับคน ท่านไม่ได้ลงมากินของเซ่นสังเวยตามที่เราเข้าใจกัน พวกที่มากินของบวงสรวงเซ่นสังเวย เป็นเปรตอสุรกาย เป็นพิธีกรรมของพราหมณ์

ในบางครั้ง ในสถานที่ฝึกสมาธิ เราจะเห็นว่าบางคนนั่งๆ อยู่ลุกไปเต้นรำ ฟ้อน ร้องให้ หัวเราะ แสดงอาการต่างๆ นาๆ บางคนบอกว่าเป็นปิติที่รุนแรง ความจริงเป็นอาการที่เปรตอสุรกายได้เข้าร่างผู้ฝึกคนนั้นแล้ว จึงแสดงอาการของเปรตออกมา ซึ่งผู้สอนนั้นก็ไม่ทราบมองไม่ออกมองไม่เห็น พวกที่จะรู้ว่าพวกนี้เป็นใคร ต้องดับอวิชชาให้ได้ก่อน เพราะอวิชชาเป็นตัวปิดบังไม่ให้เรารู้ไม่ให้เราเห็นความเป็นจริง บางคนน่าสงสารมาก รักษาศีล 5 ได้มากข้อ ทำอะไรก็กลัวผิด จะตบยุงยังกลัวบาป เพราะมีศีลจึงทำให้เกิดสมาธิง่าย ศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิ มีศีลอย่างเดียวไม่มีปัญญาประกอบ ทำให้บุคคลนั้นเป็นคนขวัญอ่อนหรือใจอ่อนไหว เป็นเหยื่อของเปรตอสุรกายเจ้ากรรมนายเวรเทวปุตตมารได้ง่าย ในที่สุด บุคคลนั้นไม่มีโอกาสได้มรรคผลนิพพาน ทั้งๆ ที่มีโอกาส นอกจากนี้พวกนี้จะยืมร่างเราทำบาปกรรมหนักอย่างละเอียดที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นบาปร้ายแรง บางคนบอกว่าพระพุทธเจ้าผ่านร่าง บางคนถูกยืมปากด่าพระพุทธเจ้า ด่าพระอรหันต์ ก็มี ซึ่งถือว่าเป็นการดูถูกพระพุทธเจ้าอย่างร้ายแรง เป็นการลดชั้นของพระพุทธเจ้ามาเท่ากับเปรตอสุรกาย เป็นการทำบาปใกล้ๆ อนันตริยกรรม พวกนี้ไม่กลัวบาปกลับภูมิใจอีก เพราะว่าไม่มีปัญญากำกับ เพราะสมาธิให้แต่ความสงบ อาจจถูกครอบงำจนหมดสภาพความเป็นคนเหลือแต่ซาก ถ้าถูกพวกนี้ครอบงำก็แสดงว่าเรามีปัญญาน้อยกว่าเขา

คนทำสมาธิจะถูกพวกเทวปุตมารหรือพยามารและบริวารหลอกล่อให้หลงเข้าสู้สมาธิจนได้ฌานอภิญญา แล้วไปสู่กับดักของมารที่รอเอาไว้ นั่นก็คือความสงบ ทำให้ไม่มีปัญญาจะพาตัวเองออกมาจากตาข่ายนั้นได้ หน้าที่ของมารและบริวารก็คือ ขัดขวางมิให้มนุษย์ทำความดีสูงสุด ดับทุกข์ได้ คือ วิปัสสนา ถ้าเราไม่มีปัญญาเพียงพอก็ไม่สามารถเอาชนะพวกมารเหล่านี้ได้ เมื่อใดเรามีปัญญาเอาชนะตัวเองได้ก็ชนะมารพวกนี้ได้

สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุทำให้เกิดการเห็นผิด ถึงขั้นเปลี่ยนตัวเองจากศาสนาพุทธเป็นศาสนาอื่นได้ ถ้ายังไม่ได้ฌาน พวกเนรมิตให้เห็นเทพองค์ต่างๆ ก็เกิดเลื่อมใส ในที่สุดก็ไปนับถือเทพไป กลายเป็นคนศาสนาอื่นโดยไม่รู้ตัว ผู้ใดไม่ยึดถือกฎธรรมชาติ ไม่ประกาศอิสรสภาพให้กับตนเอง มัวไปอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ศรัทรามากกว่าปัญญา ก็แสดงว่ากำลังจะพาตัวเองออกจากศาสนาพุทธศาสนา

ถ้าจะมองคนรอบๆ 2 ประเภทคือ พวกทำสมาธิ กับพวกที่ไม่ทำสมาธิ พวกที่ไม่ทำยังทำบาปหยาบๆ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักขโมย กินเหล้า ผิดศีลธรรมหลายข้อ พวกนี้ยังแก้ไขให้ดีได้ง่ายกว่าคนทำสมาธิจนชำนาญลงร่อง ท่านเหล่านี้เรียกว่าทำความผิดอย่างละเอียดลึกซึ้งจนกลายเป็นคนมีมานะ ทิฏฐิไม่ยอมเชื่อบุคลใดๆ หลงตัวเอง บุคคลเหล่านี้แก้ไขให้ดียาก ไม่มีโอกาสฝึกตนถึงมรรคผลนิพานในชาตินี้ได้ แต่บุคคลที่ทำไม่ดีหรือทำความผิดอย่างหยาบยังมีโอกาสฝึกตนเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ง่ายกว่า เช่น องคุลิมาล ฆ่าคน 999 คนยังเป็นพระอรหันต์ได้ ตรงข้ามกับพวกฤๅษีที่มีมากมายในอินเดียสมัยนั้นไม่มีโอกาสปลดตัวเองออกจากตาข่ายของมารได้ ไม่สามารถได้มรรคผลนิพพานทั้งๆ ที่เกิดมาร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้าแท้ๆ

คนทำสมาธิไม่คิดทำร้ายผู้ใด แต่ทำร้ายตัวเองได้เจ็บแสบที่สุด

...

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆแล้ว ธรรมทั้งหลายควรที่จะกล่าวตามความเป็นจริงในปัจจุบัน

มีชาวบ้านคนหนึ่งที่ถามคำถามกับพระพุทธเจ้าว่า นรกมีจริงไหม พระพุทธเจ้าท่านตอบว่า ถ้าเราบอกว่า นรกมีจริงท่านก็จะมีคำถามอื่นอีกว่า เขาทำกรรมอะไรหรือถึงต้องตกนรก ดังนั้น ตถาคต กล่าวธรรมอยู่ตรงนี้ มีชีวิตอยู่เฉพาะเบื้องหน้า ตอบคำถามท่านอยู่เฉพาะตรงนี้
ดังนั้นธรรมที่เกิดจากการนั่งสมาธิย่อมทำให้คนที่นั่งสมาธิเกิดความสงบมีจิตที่พร้อมจะใช้งาน หากจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆล้วนไม่อยู่ในวิสัยของคนธรรมดาที่จะรู้ตามได้ หากเกิดความกลัวจากการนั่งสมาธิ เราทั้งหลายย่อมระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา เพื่อดับความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น
ความศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าเป็นของจริงด้วยการพิจารณาพระไตรลักษณ์ว่าทุกขัง อนิตจัง อนัตตา นั้นย่อมเป็นแนวปฎิบัติและเป็นครูอยู่แล้ว ครับผม การที่มีครูสอนย่อมถือเป็นความโชคดีของบุคคลนั้น แต่หากเรามีความมุ่งมั่นโดยไม่มีครูสอน ก็ไม่กระตือรือร้นต้องหาครู เพราะพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าก็เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว พุทธบริษัท4 ทั้งหลายย่อมมีพระธรรมเป็นครูสอนตน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2011, 20:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
เพราะเห็นมีคนชอบพูดกัน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะเหตุใด?
ก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเปลี่ยนไป
ชอบเก็บตัวชอบอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่มีเรื่องอะไรให้เสียใจ

แต่ชอบกำหนดพุท-โธ เบื่อการคุยเรื่องทางโลก
ชอบคุยชอบฟังเรื่องธรรมมะ
ขอความรู้ด้วยค่ะ :b8: :b41: :b45: :b55:.....


อ้อ!ลืมบอกค่ะ เรานั่งสมาธิเอง





เรื่องปกติน่ะค่ะคุณเต้ :b38:

ไม่ได้มีคุณเป็นคนเดียวหรอกค่ะ น้ำเองก็เป็น ที่บ้านน้องคนที่อยู่ด้วยก็เป็น คนรอบๆตัวที่ปฏิบัติกันอยู่ก็เป็น จึงบอกว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ

การที่มีข้อคิดเห็นต่างๆกันนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร

ใครคิดอะไรแบบไหน หรือเห็นอะไรมาแบบไหน ก็พูดกันไปแบบนั้น

การที่ใครปฏิบัติแล้วมีเหตุให้เป็นอะไรไปแบบนั้น ล้วนเกิดจากเหตุที่เขาทำมา ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกๆคน
ผลที่ได้รับของแต่ละคนแตกต่างกันไปก็ตามเหตุที่ทำมานั่นแหละค่ะ

การที่กล่าวกันว่า สิ่งนั้นดี สิ่งนี้ไม่ดี ล้วนเกิดจากอุปทานทั้งนั้น ตัวเองต่างหากที่ไม่ดีแต่มองไม่เห็น
เพราะมัวไปจ้องมองนอกกาย มองว่านั่นดี นี่ไม่ดี แต่ที่ตัวเองไม่ดีกลับไม่มอง

แม้แต่เรื่องสมาธิก็เช่นกัน เมื่อทำแล้วไม่ได้ผลก็กล่าวโทษเรื่องสมาธิ กล่าวโทษนอกตัว ไม่ได้ย้อนกลับมามองที่ตัวเองว่า ใครทำให้เหตุเป็นเช่นนั้นล่ะ ไม่มีใครที่ไหนเลย ตัวเองทำเองทั้งนั้น

ไม่มีคำว่าอันตรายจากการปฏิบัติหรอกค่ะ มันมีแต่เรื่องของเหตุ ทำไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น

วิธีแก้มีวิธีเดียว อดีตไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ที่แก้ได้คือ ปัจจุบัน แก้ได้โดยการเจริญสตินี่แหละค่ะ เรื่องนอกตัวไม่ต้องไปคิดแก้ไขอะไร

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว





เอามาจากของคุณเองน่ะแหละครับ คุณ bbby ที่คุณเคยโพสต์ไว้

ที่เอามาโพสต์น่ะเคยฟังเองบ้างหรือยังครับ คุณ bbby ถ้ายังก็ฟังซะนะครับ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 12:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเสียงธรรมเขียน

อ้างคำพูด:
อามาจากของคุณเองน่ะแหละครับ คุณ bbby ที่คุณเคยโพสต์ไว้

ที่เอามาโพสต์น่ะเคยฟังเองบ้างหรือยังครับ คุณ bbby ถ้ายังก็ฟังซะนะครับ



ฟังแล้วค่ะ หลังจากถามก็ไปหาดู
ลืมเอามาลงที่กระทู้นี้ค่ะ :b12:
ขอบคุณน่ะค่ะที่เอามาลงให้ :b1:

จริงๆแล้วเราอยากจะรู้ตรงนี้มากๆเลยค่ะ

เราอยากจะรู้ว่า การนั่งสมาธิเองอันตรายตรงไหน?
บางคนก็พูดว่า ถ้าจิตของเราเป็นสมาธิแล้ว
ถ้าโชคดีได้เจอกับเทวดาก็โชคดีไป
ถ้าไปเจอกับเหล่าวิญญาน บางคนก็กลับมาไม่ได้
เพราะไม่มีอาจารย์ไปดึงให้จิตกลับมา

ไม่ใช่เฉพาะคนไทยพูดน่ะค่ะ คนที่นี่เค้าก็พูดกันค่ะ
คนทึ่นี่ก็เลยใช้วิธีสวดมนต์ ไม่กล้านั่งสมาธิ
บางคนถ้าจะนั่งสมาธิ เค้าจะไป ใต้หวัน-จีน-เมืองไทย

เวลาที่เค้าพูด เราก็ไม่รู้จะอธิบายให้เค้าฟังอย่างไรดี
เวลาที่เราถามคนไทยที่พูดให้เราฟัง
เค้าก็จะตอบว่า " เค้าพูดกัน " เราก็เลยยังไม่ได้คำตอบว่า
"จริงหรือไม่จริง"


เราก็ยังแปลกใจว่า ถ้าอย่างงั้นคนที่อยู่ต่างประเทศ
อยากจะนั่งสมาธิ จะทำอย่างไรล่ะค่ะ
เราอยากจะได้คำตอบตรงนี้ล่ะค่ะ

เรายังคิดว่า ถ้าเราไปเมืองไทยน่ะ เราจะไปถามหลวงพ่อที่วัดดู
แต่เรายังไม่ได้กลับเมืองไทยเลยค่ะ
เราก็เลยตั้งกระทู้ถามท่านผู้รู้น่ะค่ะ :b12: :b41: :b45: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป้าหมายในการฝึกสมาธิของ คุณ bbby คืออะไรครับ :b1:

ว่างๆ เข้าไปอ่านลิงค์นี้ เลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับสมาธิดูก่อน มีอะไรสงสัย ค่อยๆคุยทำความเข้าใจกัน

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?board=24.0

แล้วดูๆหัวข้อที่เขาฝึกกันนะครับว่า มีอะไรยังไงที่ซ้อนเข้ามา ตรงนี้แหละครับท่านว่า ควรมีผู้รู้เข้าใจแนะนำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีคำถามคุณ bbby เพื่อทำความเข้าใจ เมื่อคุณฝึกสมาธิ หรือ เจริญภาวนาจะด้วยรูปแบบใดก็ตาม เหตุการณ์อย่างนี้ปรากฎแก่คุณ ขณะนั้นคุณจะทำไง :b1:


ขอถามหน่อยค่ะว่า เวลาที่นั่งสมาธิสักพัก จิตเริ่มสงบแล้ว ก็เกิดนิมิตเห็นคน หรือวิญญาณไม่แน่ใจค่ะ นั่งก้มหน้าสงบนิ่งอยู่ข้างๆ เรา เจอหลายครั้งค่ะ บางทีก็มากันหลายคน มีอยู่ครั้งหนึ่งชัดเจนมาก มาด้วยกัน 4 คนค่ะ ผู้ชาย 2 คน หญิงอุ้มลูกเล็กๆอีกหนึ่ง เกิดจากอะไรคะ และทำอย่างไรคะหากเจอแบบนี้ แค่แผ่เมตตาพอหรือเปล่า

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 24#msg5024

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายเขียน

อ้างคำพูด:
เป้าหมายในการฝึกสมาธิของ คุณ bbby คืออะไรครับ :b1:



เราเคยตั้งปฎิธานกับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไว้
ว่าเราจะขอช่วยท่านแบ่งเบาภาระ โดยช่วยให้สัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากความทุกข์
และผู้ยากไร้ตามกำลังของเราค่ะ :b1:

ขอบคุณ คุณกรัชกายมากน่ะค่ะที่นำลิงค์มาให้อ่าน



อ้างคำพูด:
มีคำถามคุณ bbby เพื่อทำความเข้าใจ เมื่อคุณฝึกสมาธิ หรือ เจริญภาวนาจะด้วยรูปแบบใดก็ตาม เหตุการณ์อย่างนี้ปรากฎแก่คุณ ขณะนั้นคุณจะทำไง



อ้างคำพูด:
ขอถามหน่อยค่ะว่า เวลาที่นั่งสมาธิสักพัก จิตเริ่มสงบแล้ว ก็เกิดนิมิตเห็นคน หรือวิญญาณไม่แน่ใจค่ะ นั่งก้มหน้าสงบนิ่งอยู่ข้างๆ เรา เจอหลายครั้งค่ะ บางทีก็มากันหลายคน มีอยู่ครั้งหนึ่งชัดเจนมาก มาด้วยกัน 4 คนค่ะ ผู้ชาย 2 คน หญิงอุ้มลูกเล็กๆอีกหนึ่ง เกิดจากอะไรคะ และทำอย่างไรคะหากเจอแบบนี้ แค่แผ่เมตตาพอหรือเปล่า




แต่ก่อนเราจะใช้คือ ขอให้ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้นั่งสมาธินี้ ช่วยให้วิญญานที่อยู่ที่ตรงนี้
ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ด้วยเทอญฯ

แต่ตอนนี้เราใช้คำว่า "เห็น-หนอ เห็น-หนอค่ะ
หรือบางครั้งก็เฉยๆ ก็ใช้คำว่าพุท-โธ
แต่ก็ไม่ไปยึดติดกับภาพเหล่านั้นแล้วค่ะ


ขอถามอีกอย่างหนึ่งน่ะค่ะ ตอนนี้เราจะชอบนั่งสวดมนต์
บทสวดภาษาจีน ก่อนที่เราจะสวดเราจะตั้งนะโม3จบก่อน
แล้วก็อธิฐานถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม
แล้วก็พูดว่า ขอให้บทสวดมนต์ต้าเปยโจ้ว
ที่ข้าพเจ้าได้สวดนี้ ช่วยให้เหล่าวิญญานสัมภเวสีทั้งหลาย
ที่อยู่ใกล้นี้ ได้หลุดพ้นจากความทุกข์
และขอให้เค้าทั้งหลาย ได้พบกับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วยเทอญฯ
เราทำแบบนี้ถูกหรือปล่าวค่ะ :b1: :b8: :b41: :b45: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


การฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ หรือสวดมนต์ ไม่มีอันตรายใดๆ

การฝึกที่ อาจ มีปัญหาบ้าง ก็คือวิธีอื่น โดยเฉพาะกสินและอสุภะ อสุภะไม่แนะนำเลย และขอให้หลีกเลี่ยงจะดีที่สุด เพราะมีผลเสียมากกว่าผลดี...

ส่วนกสิน เป็นวิธีที่ฤาษีโยคีชอบใช้ ถ้าไม่มีครูก็อาจ วิปลาส ได้
วิปลาสไม่ได้แปลว่าบ้า แต่หลงผิดไปต่างๆ นานา เช่น ฉันเป็นเทวดาที่จุติลงมา ฉันได้พบพระพุทธเจ้า ฉันระลึกชาติได้ ฉันได้ไปท่องเที่ยวสวรรค์นรก หรือได้ไปแดนนิพพาน หรือฉันเห็นดวงวิญญาณตามสถานที่ต่างๆ ฯลฯ

ที่เป็นแบบนี้ เพราะกสิน เป็นวิธีฝึกใช้อำนาจจิต เพื่อให้เกิดการสร้างภาพในสมอง (ปฏิภาคนิมิต) หากฝึกจนชำนาญ ผู้ฝึกจะเห็นภาพนั้นในเวลาปกติด้วย และเข้าใจไปว่าเป็นการเห็นด้วยตาเนื้อ แต่จริงๆ แล้ว จิตสร้างภาพนั้นขึ้นในสมอง และภาพนั้นมีความเข้มมากพอที่จะปรากฎซ้อนกับภาพจริงจากดวงตา

ว่าง่ายๆ คือ เป็นภาพจากความคิดตนเอง เมื่อไปสถานที่ไหน แล้วคาดหวังว่าจะเห็นผี จิตจะสร้างภาพผีขึ้นมาทันที ผู้ฝึกจึงมักเข้าใจไปว่า ตนมีทิพยจักษุ และเขาก็จะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ก็เพราะเขาเห็นจริงๆ

การฝึกแบบกสินจึง ควร จะมีอาจารย์ แต่ถ้าเข้าใจถึงระบบที่เกิดขึ้น หรือมีความสามารถคิดวิเคราะห์ได้ดี จะฝึกเองก็ย่อมได้

เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่ฝึกเองที่บ้าน จึงขอแนะนำให้ใช้วิธี อานาปานสติ หรือ สวดมนต์ หรือวิธีอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้การเพ่งรูป...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ขอถามอีกอย่างหนึ่งน่ะค่ะ ตอนนี้เราจะชอบนั่งสวดมนต์บทสวดภาษาจีน ก่อนที่เราจะสวดเราจะตั้งนะโม 3 จบก่อน แล้วก็อธิฐานถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แล้วก็พูดว่า ขอให้บทสวดมนต์ต้าเปยโจ้วที่ข้าพเจ้าได้สวดนี้ ช่วยให้เหล่าวิญญานสัมภเวสีทั้งหลาย ที่อยู่ใกล้นี้ ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ และขอให้เค้าทั้งหลาย ได้พบกับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วยเทอญฯ

เราทำแบบนี้ถูกหรือปล่าวค่ะ


คงไม่ผิดอะไรหรอกครับ ก็คล้ายๆการแผ่เมตตา... สัพเพ สัตตา ฯลฯ นั่นแหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2011, 13:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


นั่งสมาธิสติวิปลาส อุปาทานหมู่








นั่งสมาธิแล้วฟุ้ง ตัวโคลง









นั่งสมาธิแล้วฟุ้ง ตัวโคลง2



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2011, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


จิตพระอรหันต์เป็นอย่างไร



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2011, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ปกติไม่เคยแนะนำให้ใครฝึกนั่งสมาธิเองโดยลำพัง อันตรายพอสมควร


ตอนที่เริ่มฝึกใหม่ๆ....ขณะที่นั่งกำหนด เคยเห็นตัวเองเป็นพระอินทร์
ฤาษี...เทวดา...ได้กลิ่นหอมละมุนแบบไม่เคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อน...
เดินๆอยู่ก็มีความรุ้สึกว่าพี้นดินลอยขึ้นมารอรับเท้าที่ก้าวเดิน...
แปลกใจ ดีใจ ลิงโลดใจ....

พอออกจากสมาธิก็เกิดอาการ "เราแน่" ขึ้นมาทันที คิดว่าเราคงไม่ธรรมดาเสียแล้ว
ปรุงแต่งต่อทันทีว่า เราคงมาจากที่สูง...ฯลฯ

โชคดีที่มีอาจารย์คอยแนะนำ....ท่านก็บอกแต่เพียงว่า...ทุกสิ่งทุกย่างที่เห็น
เราเห็นจริง แต่อาจไม่ใช่ความจริง...เห็นแล้วก็ผ่านไปไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องยึดติด
ตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจ....แต่ใจก็ยังเหิมอยู่ ความรู้สึกที่ว่าเราเหนือกว่าคนอื่นๆยังติดอยู่นาน

มาถึงตอนนี้เข้าใจแล้วว่า การฝึกสาธิแต่เพียงลำพังนั้น"อันตราย" อย่างไร?
เหมือนรถที่ไม่มีเบรค มีแต่จะพุ่งไปข้างหน้า ถ้าถนนโล่ง ทางตรงก็ดี
ถึงที่หมายเร็วดี แต่ถ้าถนนมีสิ่งกีดขวาง ทางข้างหน้าโค้ง และมีหุบเหว
ก็ยากที่จะไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย....(ความคิดเห็นส่วนตัว)

เจริญในธรรม

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร