วันเวลาปัจจุบัน 06 มิ.ย. 2025, 08:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2011, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2008, 20:41
โพสต์: 448

ที่อยู่: bangkok, Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรม..


คนเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม.. เกิดมาเพื่อให้ละทางโลก เพื่อให้เข้าบ้านที่ดีที่สุด คือดินแดนแห่งนิพพาน แต่คนเราไม่สนใจที่จะละ แต่กับสนใจในสิ่งที่ลวงโลกเรานี้อยู่คือวัฏจักรการใช้ชีวิต เช่นการทำงานเพื่อมีครอบครัว มีครอบครัวอยากให้ครอบครัวมีความสุข จึงต้องเกิดวนเวียนอยู่ในโลกเช่นนี้

คนเราเกิดมาเพื่อให้ละ ละได้ทีละเรื่องเราก็สุขขึ้นทีละเรื่อง ไม่ต้องทุกข์กับเรื่องที่ละได้แล้ว แต่ถ้าหากละได้หมดทุกเรื่องชีวิตเป็นไท ก็เข้าใกล้ทางนิพพานของพระศาสดา เมื่อไม่ต้องห่วงก็ไม่ต้องทุกข์

แต่ถ้าหากเราละไม่ได้เช่นมีครอบครัวแล้ว มีลูก ที่ต้องดูแล ฉะนั้นก็ให้เราละเรื่องที่ไม่จำเป็นออกซะเพื่อให้เราทุกข์ได้น้อยที่สุด และก็หมั่นถือศีลและทำบุญ ผลบุญนั้นจะนำผลดีมาส่งในภายหลังอย่างแน่นอน

คนเราเกิดมาแล้วให้อยู่ร่วมโลกด้วยกันและกัน เหมือนกับปลาที่ว่ายวนอยู่ในตู้ เราต้องเจอเพื่อนร่วมโลกอยู่ทุกวัน ฉะนั้นเราควรอยู่ร่วมโลกด้วยกันอย่างมีความสุข และช่วยเหลือกันมอบสิ่งที่ดีให้แก่กัน ไม่เบียดเบียนกันชวนกันทำแต่สิ่งที่ดี แต่ที่โลกเป็นอย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะเราเริ่มไม่สนใจผู้อื่น ต่างคนต่างทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว จนบางทีผลประโยชน์ของครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวมีความสุข ฉะนั้นเราเกิดมาเป็นมนุษย์ต้องอยู่ในโลก ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ตัวคนเดียว ฉะนั้น แทนที่จะมอบความบึ้งตึง มอบทุกข์ให้แก่กัน เรามอบความสุขให้แก่กันจะดีใหม เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจะดีกว่าใหม ต่างคนต่างไม่ยิ้ม ต่างบึ้งตึงวางมาดวางศักดิ์ศรี ฉะนั้นก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งเสียสละก่อนดีมั้ย ที่จะยิ้มให้ผู้อื่นก่อน คนเราทุกวันนี้ อะไรก็ยอมกันไม่ได้ ไม่มีแล้วสิ่งที่ดีๆ แค่เพียงขับรถก็ยอมกันไม่ได้แล้ว แต่ถ้าหากเสียสละให้เค้าไปก่อน ไม่ทุกข์ไม่ร้อนก็ไม่มีทุกข์ ไม่ต้องลงมาทะเลาะวิวาทกัน ตอนนี้โลกเราบูดเบี้ยวไปรึป่าว เราเปลี่ยนโลกใหม่ได้เริ่มที่เรา ต้องมีซักคนแหละที่ยิ้มตอบกับเรา แทนที่จะมอบความบึ้งตึงแก่กัน มอบความสุขให้กันดีกว่า

บางทีแบ่งชั้นวรรณะเจอคนจนกว่าก็วางมาดวางฟอร์ม แต่ก็ยังนับถือพระพุทธเจ้า แต่นับถือแบบไหน เพราะพุทธเจ้าไม่ได้สอนแบบนี้ แต่ท่านสอนให้อยู่ร่วมโลกกันอย่างมีความสุข ช่วยเหลือกัน ขนเงินทำบุญเข้าวัดเป็นล้านๆ แต่เจอคนไม่มีจะกินก็ไม่สนใจ ทำบุญเพื่ออะไร ฉะนั้นเราควรอยู่ร่วมโลก อย่างมีความสุข อย่างมอบความสุขให้กัน เพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวเพียงเล็กๆ ก็ทำให้เกิดสงครามได้ เมื่อเกิดสงครามก็จะจบที่ความสูญเสีย แล้วความสุขอยู่ที่ตรงไหน

คนเราเมื่อทำให้คนอื่นทุกข์ จิตใจเราก็ทุกข์ ไม่มีทางที่ทำให้คนอื่นทุกข์แล้วจิตใจเราก็เป็นสุขหรอก เช่นทะเลาะวิวาทกัน ผลที่ได้คือฝ่ายนึงเจ็บตัว แต่ฝ่ายเราชนะ ถามว่าได้อะไร ได้ความสะใจ แต่มันไม่ใช่ความสุขแน่นอน แต่ถ้าเรามอบความสุขให้แก่กัน เห็นคนอื่นสุข เราก็จะปิติในใจหรือสุขในใจ หรือบางทีเฮฮาร่วมกันเลยก็ได้ ทำให้คนอื่นมีควาสุขเราก็ได้บุญเช่นกัน ฉะนั้น มอบความสุขให้แก่คนอื่นดีกว่าที่จะมอบความทุกข์ให้ผู้อื่น โลกเราควรหมุนด้วยความสุข ไม่ควรหมุนด้วยความทุกข์ ความสุขไม่ได้เริ่มที่ไหนไกลเลยแล้วก็ไม่ต้องรอใครมาเริ่มกับเรา แต่มันสามารถเริ่มได้ที่เราครับ ถ้าหากมัวคิดในแง่ลบ มันก็จะเป็นลบเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่เราจะเปลี่ยนมันได้ก็เริ่มที่ตัวเราเอง เราทำบุญในวัด เราก็สามารถทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ได้เช่นกันครับ บางทีคนอื่นเค้าไม่ต้องการอะไรเลยแค่รอยยิ้มให้แก่กัน เพียงเท่านี้โลกเราก็มีความสุขแล้ว เป็นบุญของโลกแล้ว ที่หมุนด้วยความสุข ผลที่เกิดตามมาคือ คนทุกคนดีกันหมด ก็จะได้อยู่ในโลกที่มีความสุข ต่างคนต่างสงสารซึ่งกันและกัน เรื่องเลวร้ายหลายๆเรื่องก็จะทุเลาลง มอบความสุขให้ผู้อื่น ผลที่เราได้รับคือความสุขในใจเราเช่นกัน ก็เหมือนกันการทำบุญ ก็เช่นเดียวกันครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า เรากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระโพธิสัตว์ ถ้าหากเรานับถือท่าน บางครั้งเราก็อาจจะทำจิตใจให้เป็นพระโพธิสัตว์ได้เช่นกัน ไม่ใช่สักแต่นับถือเพราะเราทุกข์ แต่ทำจิตใจให้เป็นพระโพธิสัตว์ได้ จิตใจพระโพธิสัตว์ของผมไม่ได้หมายถึงการยกตัวเองเสมอท่าน แต่หมายถึงทำใจให้เมตตาเช่นท่าน เช่นทำเพื่อส่วนรวมเพื่อสังคมบ้าง บางทีเสียสละทรัพย์สินเพียงน้อยนิดบ้าง หากมันเป็นผลประโยชน์ใหญ่เพื่อสังคม หรือได้ทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง นอกจากจะคิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ขนาดแม้พระอรหันต์บรรลุธรรมแล้วยังต้องออกมาโปรดช่วยเหลือญาติโยมแม้ธาตุขันธ์ท่านจะล้าเพียงใดเราก็มิอาจรู้ได้ ฉะนั้น คนธรรมดาอย่างพวกเราก็สามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้เช่นกัน แต่ไม่ใช่ช่วยเหลือจนตัวเองเป็นทุกข์หรือลำบาก แต่ถ้าลำบากแต่มีความสุขที่ได้ทำก็จงทำเถิด ฉะนั้นผมเป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นเรา โลกเรานี้หมุนด้วยความสุข เพียงแค่เริ่มที่รอยยิ้มที่มุมปากของเราครับ รอยยิ้มยิ่งยิ้มมากก็ยิ่งสุขมาก ทั้งคนยิ้มและคนที่ได้รับรอยยิ้มครับ ขอให้โลกนี้จงมีแต่ความสุข ด้วยเถิดสาธุๆๆ
__._,_.___


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2011, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ตั้งหัวข้อเสียน่ากลัว คนเราเกิดมาด้วยเหตุคือบุญหรือกรรมในอดีต แต่เกิดมาแล้วจะเพื่อใช้กรรมอย่างเดียวที่ไหน กรรมเก่าก็ใช้ไป บุญเก่าก็เสวยไป พร้อมๆกันนั่นแหละ ส่วนบุญใหม่ กรรมใหม่ก็แล้วแต่ศรัทธา
แล้วแต่ปัญญา ว่าจะเก็บเกี่ยวไปได้แค่ไหน....../เจโตวิมุติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2011, 03:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


คนเราเกิดมาเพราะกิเลส เกิดมาทำกรรม และรับผลคือวิบากของกรรมนั้น

(ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว)

วนเวียนเป็นวัฏฏะ ไม่จบสิ้น
การหลุดพ้นจากบ่วงกรรม การหลุดพ้นจากสังสารวัฏ
จึงเป็นเป้าหมายอันสูงสุด คือพระนิพพาน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร