วันเวลาปัจจุบัน 21 มิ.ย. 2025, 07:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 06:09
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่นี่คือภาพ วัดป่าดงหวาย บ้านจาร
ต.บ้านม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร 47140


รูปภาพ

ถ้าได้ดูแล้ว ภาพที่เป็นวงธรรมจักรจะคล้ายละอองน้ำนะครับ แต่ถ้าดูให้ดีดีจะพบว่ามันไม่ใช่ครับ เพราะมันมีลวดลายด้วยครับ เป็นเหมือนธรรมจักรที่เราพบตามหนังสือพระนะครับ

รูปภาพ
รูปภาพ

ธรรมจักรเหล่านี้มีหลายสีแตกต่างกันไปนะครับ พบก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่หรอกนะครับ นี่เป็นภาพจาก พระพุทธนิมิตเจดีย์ ณ วัดป่าดงหวาย แล้วก็ภาพธรรมจักรที่ผมถ่ายภาพมานี้มีแค่บางที่เท่านั้นครับ

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

รูปต่างๆ นี้เป็นรูปที่ผมได้ไปถ่ายมาตอนไป บวชที่วัดป่าดงหวายมานะครับ เป็นความอัศจรรย์มากครับเพราะผมไปถ่ายรูปมาด้วยตัวเองนะครับ แล้วก็ที่สำคัญวัดนี้มี พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ พระพุทธนิมิตเจดีย์ ซึ่งศักดิ์สิทธิ์มากครับเพราะเป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าครับ ถ้าใครมีโอกาสไปวัดนี้ ก็ไปกราบไหว้หน่อยนะครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่แฟ็บ สุภัทโท
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20128


ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 08:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


ผมว่ารูป เทวดา ครับ :b4:

:b8: :b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใช้กล้องอะไรถ่ายครับ กล้องถ่ายรูปธรรมดาหรือกล้องดิจิตอล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อาจารย์กรัชกายครับ ผมก็เคยถ่ายได้เช่นนี้ครับ แต่เป็นกล้องดิจิตอล (เปิดแฟลชด้วย ถ้าไม่เปิดไม่ติดครับ) :b12:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


พิสูจน์แล้วทางวิยาศาสตร์ว่าเป็นเพราะกล้องดิจิตัล

ซึ่งอาศัยหลักการแสงอินฟาเรด ยิงออกไปกระทบวัตถแล้วสะท้อนกลับมาที่หน่วยรับแสง
แปลค่ากลับมาเป็นภาพ
ซึ่งเป็นคนละวิธีกับกล้องทั่วไปแบบฟิล์ม

วงดวงดังกล่าวเกิดจากแสงอินฟราเรดสะท้อนโดนมลทินในอากาศ
เช่น ละอองน้ำ ฝุ่น เลยเกิดแสงสะท้อน

ในการทดลอง สามารถสร้างดวงพวกนี้ได้ตามต้องการอีกด้วย
เรื่องนี้เขารู้กันมานานแล้วครับ
ผมจำได้อย่างนี้ ผิดพลาดขออภัย

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องพันยังงี้กรัชกายไม่อยากแสดงความเห็นเท่าไหร่นัก เพราะอาจกระทบศรัทธาผู้คนซึ่งมั่นในศรัทธา แต่สกิดๆไว้ให้ดูหรือพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อเปิดทางให้ปัญญาได้โอกาสทำงานบ้าง จะได้ไม่ถูกชักจูงเข้าสิ่งเหนือจากนี้ได้ ฯลฯ

จะเล่าให้ฟัง สมัยจตุคามรุ่งเรือง มีการถ่ายรูปหมู่กัน ในคนเหล่านั้นมีอยู่คนหนึ่งแขวน
จตุคาม ถ่ายแล้วปรากฏว่า มีดวงกลมๆ คล้ายจตุคามลอยเต็มไปหมด ต่างก็ตกใจปนสาธุจตุคาม-รามเทพ ในนั้นมีคนหนึ่ง เอาภาพนั้นไปให้ช่างภาพมืออาชีพดู ช่างเห็นร้องจ๊าคคค อิอิ :b1:

บอกว่าฝุ่นในอากาศเพราะถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล ซึ่งมีความละเอียดสูง ว่าแล้วช่างคนนั้นก็แสดงให้ดูด้วยการเอาหมอนมาตบๆๆๆแล้วถ่าย แม่จ้าวจตุคามลอยเต็ม

หากศรัทธาในทางศาสนา จะกราบไหว้เจดีย์ หรือ รูปเคารพอื่นๆ ก็พึงไหว้ด้วยน้อมจิตใจถึงคุณพระรัตนไตรว่ามีคุณอย่างไร ๆ ผู้ใดน้อมนำคำสอนท่านมาปฏิบัติแล้วจะประสบสุข...อย่างนี้แนวนี้ไม่เสียหายแต่อย่างได

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อาจารย์ครับผมก็เคยคิดว่าเป็นจากกล้องดิจิตอลเช่นกัน และถ่ายติดเฉพาะกลางคืน :b6:

ผมเลยเอามาถ่ายที่บ้านผมบ้างกลางคืนครับ......แห้วไม่ติด
ถ่ายในตลาด...แห้วไม่ติด
ถ่ายในท้องนา....แห้วไม่มี...

แต่.....(ไม่เชื่อ ลบหลู่ได้เลยครับ)
เอาไปถ่ายที่ๆมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่....กลางคืนติดทุกคืนครับเช่นสถานปฏิบัติธรรม
แถมกลางวันแสกๆๆ...........ก็ติดหลาเห็นชัด....ได้ไงเนี่ย.... :b10: :b10:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นภาพอะไรก็แล้วแต่ครับ...แต่กระผมว่า เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุนั้นงดงามมากครับ :b8: :b8:
มีโอกาสจะต้องไปกราบนมัสการสักครั้งนะครับ.... :b12: :b12:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2008, 06:09
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ครับผมใช้กล้องดิจิตอลถ่ายภาพมาครับถ่ายเปิดแฟรชด้วยครับ แล้วก็อย่างที่อาจารย์กรัชกายได้กล่าวมาตามทฤษฎีวิทยาศาสตร์ก็ดีนะครับ เพราะรู้ในหลายหลายด้านหลายหลายมุมก็ดีครับ :b12: :b12: เพราะคนเราอาจจะคิดไม่เหมือนกันนะครับ แล้วคิดหลายๆ ด้านก็ดีครับ ตามศรัทธาครับ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 14:05
โพสต์: 54


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องใช้หลักกาลามสูตรเข้าจับแล้วคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่จะไม่มีในความคิดของคนเราอีกต่อไปครับ :b15: :b15: :b15: :b15:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ต.ค. 2008, 14:05
โพสต์: 54


 ข้อมูลส่วนตัว


เสฏฐวุฒิ เขียน:
ต้องใช้หลักกาลามสูตรเข้าจับแล้วคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่จะไม่มีในความคิดของคนเราอีกต่อไปครับ :b15: :b15: :b15: :b15:

กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะหมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร ก็มี กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มี 10 ประการ
1.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3.อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4.อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดาเอา
6.อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใดท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงายในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2,500 ปีก่อนได้รับบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิด หรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking)ไว้ใน "กระบวนการเรียนรู้" ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก ฉบับ มมร. ชุด 91 เล่ม
จาก เล่ม 49 หน้า 30

บุคคลผู้ไม่ตระหนี่ ควรทำเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง คือปรารภถึงบุรพเปตชน (นึกถึงบรรพบุรุษผุ้ตายไป)
หรือเทวดาผู้สิงอยู่ในเรือน หรือท้าวมหาราชทั้ง ๔ ผู้รักษาโลก ผู้มียศ
คือ ท้าวธตรฐ ๑ ท้าววิรุฬหก ๑ ท้าววิรูปักษ์ ๑ ท้าวกุเวร ๑
ให้เป็นอารมณ์แล้วพึงให้ทาน

ท่านเหล่านั้นเป็นอันบุคคลได้บูชาแล้ว และทายก (ผู้ให้ทาน) ก็ไม่ไร้ผล

ความร้องไห้ ความเศร้าโศก หรือความร่ำไห้อย่างอื่น ไม่ควรทำเลยเพราะความร้องไห้เป็นต้นนั้น
ย่อมไม่เป็น ประโยชน์แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ญาติทั้งหลาย (ที่ตายไป) คงตั้งอยู่ตามธรรมดาของตน ๆ
อันทักษิณาทาน (สิ่งของทำบุญ) นี้ที่ท่านเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในสงฆ์
ให้แล้ว (อุทิศให้ญาติที่ตายไป) ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่บุรพเปตชนโดยทันที สิ้นกาลนาน.

จากพระไตรปิฎก ฉบับ มมร.ชุด 91 เล่ม
เล่ม 61 หน้า 555

บทว่า คนฺธพฺพา ความว่า ได้ยินว่า เทวดาผู้มีกำเนิด ๔ เกิดภายใต้ท้าวจาตุมมหาราช ชื่อว่า คนธรรพ์.
บทว่า ปิตโร ได้แก่ ท้าวมหาพรหม.
บทว่า เทวา ได้แก่ เทวดาชั้น ฉกามาพจร (เทวดาทั้ง 6 ชั้น)
ด้วยสามารถแห่งอุปัตติเทพ (เทพที่ผุดเกิดขึ้น)
บทว่า ตาทิโน ความว่า ท่านเหล่านั้นต่างมีชีพ มีชีวิตสม่ำเสมอหล่อเลี้ยงชีวิตไว้
เพื่อพระราชาผู้ทรงยินดีในกุศลอย่างนั้น เพราะพระราชาเช่นนั้น เมื่อทรงกระทำบุญทาน เป็นต้น
ย่อมทรงอุทิศส่วนบุญแก่เทวดาทั้งหลาย เทวดาเหล่านั้น
รับอนุโมทนาส่วนบุญนั้นแล้ว ย่อมเจริญด้วยทิพยยศ.
บทว่า อนุติฏฺฐนฺติ ความว่า เมื่อพระราชาเช่นนั้นทรงทำความเพียรถึงความไม่ประมาทอยู่
เทวดาทังหลายย่อมพากันพิทักษ์รักษา ตามไปจัดแจงอารักขา อันชอบธรรม.


เล่ม 49 หน้า 348

.....เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้มีปัญญา พึงให้ทักษิณา (ผลบุญ) บ่อย ๆ
เพื่ออนุเคราะห์แก่เปรตทั้งหลาย

เปรตเหล่าอื่น บางพวกนุ่งผ้าขี้ริ้วขาด รุ่งริ่ง บางพวกนุ่งผม หลีกไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่เพื่อหาอาหาร
บางพวกวิ่งไปแม้ในที่ไกลก็ไม่ได้อาหารแล้ว กลับมา บางพวกสลบแล้วเพราะความหิวกระหาย
นอนกลิ้งไปบนพื้นดิน บางพวกล้มลงที่แผ่นดินในที่ตนวิ่งไปนั้น ร้องไห้ร่ำไรว่า
เมื่อก่อนเราทั้งหลายไม่ได้ทำกุศล (ความดี) ไว้ จึงได้ถูกไฟคือความหิวและความกระหายเผาอยู่
ดุจถูกไฟเผาแล้ว ในที่ร้อน เมื่อก่อน พวกเรามีธรรมอันลามก เป็นหญิงแม่เรือนมารดาทารกในตระกูล
เมื่อไทยธรรม (ของทำบุญ)ทั้งหลายมีอยู่ไม่กระทำที่พึ่งแก่ตน
เออ…ก็ข้าวและน้ำมีมากแต่เราไม่กระทำการแจกจ่าย ให้ทาน
และไม่ได้ให้อะไรในบรรพชิตทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติชอบ
อยากทำแต่กรรมที่คนดีไม่พึงทำ เป็นคนเกียจคร้านใคร่แต่ความสำราญและกินมาก
ให้แต่เพียงโภชนะก้อนหนึ่ง ด่าปฏิคาหก (ผู้รับทาน) ผู้รับอาหาร เรือน
พวกทาสีทาสา (คนรับใช้ชาย – หญิง) และผ้าอาภรณ์ของเราเหล่านั้น
ไม่สำเร็จประโยชน์แก่พวกเรา พวกเขาไปบำเรอคนอื่นหมด เรามีแต่ส่วนแห่งทุกข์
เราจุติ (ตาย) จากเปรตนี้แล้ว จักไปเกิดในตระกูลอันต่ำช้าเลวทราม คือ ตระกูลจักสาน ตระกูลช่างรถ
ตระกูลนายพราน ตระกูลคนจัณฑาล ตระกูลคนกำพร้า ตระกูลช่างกัลบก
นี้เป็นคติ (ที่ไปเกิดของสัตว์) แห่งความตระหนี่

ส่วนทายกทั้งหลายผู้มีกุศลอันทำไว้แล้ว ในชาติก่อน ปราศจากความตระหนี่ ย่อมยังสวรรค์ให้บริบูรณ์
และย่อมยังนันทวันให้สว่างไสวรื่นรมย์แล้วในเวชยันตปราสาทสำเร็จความปรารถนา
ครั้นจุติ (ตาย) จากเทวโลกแล้ว ย่อมเกิดในตระกูลสูง มีโภคะ (ทรัพย์สมบัติ) มาก....

บางทีเขามาขอส่วนบุญบ้างมาอนุโมทนาบุญบ้าง แต่มนุษย์ก็ว่าไม่มีพวกเขา เขาพยายามทำปรากฎให้เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่เยอะนะทำบุญอุทิศให้หน่อย มนุษย์ก็ งง ตีความไปต่าง ๆ นา ๆ อ่านพระไตรปิฎกซิจะได้รู้ว่ามีพวกเขาอยู่กับพวกมนุษย์นี่แหละ และทำบุญอุทิศซะ ชีวิตจะได้สุขสบายไม่งง ๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2004, 08:57
โพสต์: 154


 ข้อมูลส่วนตัว




watben07.jpg
watben07.jpg [ 41.92 KiB | เปิดดู 8531 ครั้ง ]
อันนี้ตัวอย่าง ผมถ่ายจากกล้องดิจิตอลของผม เป็นรูปหกเหลี่ยม เพราะเลนส์ของกล้องเป็นแบบนั้น

ถ่ายตอนกลางวัน ที่วัดเบญจมบพิตร

ถ้าถ่ายตอนกลางคืน ยิ่งเป็นดวงๆมากขึ้นอีก

***********

นำมาให้พิจารณาดูครับ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 12:36
โพสต์: 91

สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือธรรมะทุกเล่ม
ชื่อเล่น: ก้อย
อายุ: 28
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกับคุณกรัชกาย และคุณคามินธรรม และทุกท่านที่บอกว่าเป็นฝุ่นละอองค่ะ ตอนแรกที่ดิฉันเถ่ายพบตามวัดต่างๆ ก็เป็นดังเช่นเจ้าของกระทู้ค่ะ แต่พอเห็นข่าวคราวนั้น และตอนนั้นองค์จตุคามบูมมาก และเขาก็มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ก็ลองพิสูจน์ดูด้วยตัวเองค่ะ ก็เป็นฝุ่นละอองจริงๆค่ะ ดิฉันได้ลองเอาแป้งมาเป่าใส่กล้องแบบอ่อนๆนะค่ะ ไม่ต้องมาก และถ่ายกับที่มืด ปรากฏว่า เป็นรูปวงล้อแห่งธรรมเยอะมากค่ะ (ไม่รู้เรียกถูกไหม) แต่ถ้าเป็นที่แจ้งก็ติดไม่ค่อยมากคะ ลองมาหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่นะค่ะ เชื่อเรื่องอีกโลกหนึ่งค่ะ แต่ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ และจะไม่เชื่อตามที่ใครบอกทั้งนั้น ดิฉันจะพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ

.....................................................
"ใช้ใจมองคน" แล้วคุณจะรู้ว่า คนๆนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเห็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ม.ค. 2009, 13:11
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..คำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" นั้น ควรจะต้องมีอยู่ในความคิดของทุกคน..นั่นคือ..ถ้าคุณไม่เชื่อ..ก็เป็นเรื่องของคุณ แต่คุณอย่าได้ไปลบหลู่ "ความเชื่อของคนอื่นเขา"..เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องขึ้นมาได้.. :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร