วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 13:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 20:04
โพสต์: 25

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต ใจ เจตสิก คือสิ่งเดียวกัน หรือว่าต่างกันครับ ? :b10: ขอบคุณหลายๆ ครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"จิต คือ อะไร "
....อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์
คำถามนี้มีประโยชน์มาก
เพราะทุกคนรู้ว่ามีจิต
แต่ถ้าถามจริงๆ ว่า เมื่อมีจิตแล้ว
ขณะนี้จิตอยู่ที่ไหน..? ก็ยากที่จะตอบได้
เพราะยังไม่รู้ว่า จิต คืออะไร ?

จิตเป็นสภาพรู้
เป็นอาการรู้ เป็นลักษณะรู้ เป็นธาตุรู้

เพียงคำเหล่านี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ยากที่จะเข้าใจ ลักษณะของจิต
ทั้งๆที่ ขณะนี้ กำลังมีจิต ซึ่งกำลังเป็นสภาพรู้
เป็นธาตุรู้ เป็นอาการรู้

แต่ถ้าเปรียบเทียบกับรูปธรรมซึ่งไม่รู้อะไรเลย
ก็ย่อมจะเห็นได้ว่า สิ่งที่วางอยู่ใกล้ตัว ที่มีลักษณะแข็ง
เช่น โต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ นั้น ไม่ใช่สภาพรู้
เพราะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส
ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส
ขณะจับถ้วยแก้ว รู้ว่ามีสิ่งแข็งกำลังปรากฏ
(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สภาพที่กำลังรู้นั้นคือ จิต

แต่สภาพที่แข็งนั้นไม่รู้เลยว่ากำลังถูกสิ่งที่แข็งจับ
จิตที่เป็นสภาพรู้นั้น มีมาตั้งแต่เกิด
ถ้าสภาพรู้ไม่มี ก็เป็นแต่เพียงก้อนเนื้อเท่านั้น
ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได่กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่คิดอะไรเลย

แต่ขณะใดที่คิด ขณะนั้นเป็นสภาพรู้ที่กำลังคิด
ขณะใดที่กำลังได้ยินเสียง
เช่น ในขณะนี้ จิตเป็นสภาพรู้ที่ได้ยิน เสียงจึงปรากฏ

ถ้ารู้เเพยงเท่านี้ แต่ไม่พิจารณาสภาพรู้
ที่กำลังเกิดขึ้นรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ก็อาจจะคิดว่า รู้ว่ามีจิตแล้ว ก็พอแล้ว

เพราะความเป็นจริงนั้น เป็นจิตทางไหน ก็แยกไม่ออก
ซึ่งรู้สิ่งที่ปรากฏ ทางตา ซึ่งคนตาบอด ไม่มีโอกาสจะเห็น
ขณะได้ยิน ก็เป็นจิตอีกประเภทหนึ่ง
ซึ่งรู้ คือได้ยิน เฉพาะเสียงเท่านั้น คิดนึกไม่ได้
(ต่อ..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"เจตสิก" คืออะไร

เจตสิก เป็นนามธรรมที่ไม่ใช่จิต
แต่เกิดร่วมกับจิต แล้วก็ดับพร้อมกับจิต

เจตสิก ได้แก่ โลภะ โทสะ เป็นต้น
โทสะคือความโกรธ ก็เป็นสภาพธรรมที่มีจริงอย่างหนึ่ง
โลภะ คือสภาพที่ติดข้องต้องการ
ก็เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง

แต่ ทั้งโลภะ และ โทสะ ไม่ใช่จิต

จิต เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่
เป็นประธานในการรู้อารมณ์ (สิ่งที่ถูกจิตรู้)
เช่น การได้ยิน เป็นต้น

ส่วน เจตสิก ทั้งหลายนั้น บางเจตสิกก็เกิดกับจิตทุกประเภท
บางเจตสิกก็เกิดกับจิตประเภทหนึ่ง
ไม่เกิดกับจิตอีกประเภทหนึ่ง
เช่น โลภเจตสิก ไม่เกิดร่วมกับ โทสะมูลจิต

จิตที่มีโลภเจตสิกเกิดร่วมด้วย จะพอใจติดข้องในอารมณ์
จิตที่โทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย จะหยาบกระด้าง ขุ่นเคือง ไม่แช่มชื่น
จิตที่มี โลภเจตสิก เกิดร่วมด้วย
และจิตที่มีโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย เป็นจิตต่างขณะต่างประเภท
เพราะประกอบด้วยเจตสิกที่ต่างกัน (ต่อ..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 16:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจตสิก เป็นนามธรรมต่างๆ ชนิดที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต
ทำให้จิตต่างกันเป็น ๘๙ ประเภท หรือที่เรียกว่า ๘๙ ดวง
ไม่ว่าจะเป็นจิตของ พระ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือจิตที่โลกจักรวาลไหนๆ ทั้งสิ้น

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงประมวล
และทรงจำแนกจิตทั้งหมดออกเป็น ๘๙ ประเภท
ส่วนเจตสิกทั้งหมดนั้นมี ๕๒ ประเภท
เจตสิกบางประเภทเกิดได้ เฉพาะกับจิตที่ดีเท่านั้น
และ เจตสิกบางประเภทก็เกิดได้เฉพาะกับจิตที่ไม่ดีเท่านั้น


(ที่มา..หนังสือ "พระพุทธเจ้าเสวยเนื้อหรือไม่ และ ปกิณกะธรรม"
โดย อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์)


แก้ไขล่าสุดโดย ศรีสมบัติ เมื่อ 07 ก.ย. 2010, 20:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 11:59
โพสต์: 105

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
เจตสิก เป็นนามธรรมต่างๆ ชนิดที่เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต
ทำให้จิตต่างกันเป็น ๘๙ ประเภท หรือที่เรียกว่า ๘๙ ดวง
ไม่ว่าจะเป็นจิตของ พระ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือจิตที่โลกจักรวาลไหนๆ ทั้งสิ้น

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงประมวล
และทรงจำแนกจิตทั้งหมดออกเป็น ๘๙ ประเภท
ส่วนจิตทั้งหมดนั้นมี ๕๒ ประเภท
เจตสิกบางประเภทเกิดได้ เฉพาะกับจิตที่ดีเท่านั้น
และ เจตสิกบางประเภทก็เกิดได้เฉพาะกับจิตที่ไม่ดีเท่านั้น


(ที่มา..หนังสือ "พระพุทธเจ้าเสวยเนื้อหรือไม่ และ ปกิณกะธรรม"
โดย อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์)



รบกวนช่วยแสดงหลักฐานยืนยันคำกล่าวที่กล่าวว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงประมวลจำแนกจิตทั้งหมดออกเป็น๘๙ประเภท ฯลฯ
ว่าทรงกล่าวกับใคร กล่าวที่ไหน.
จักเป็นพระคุณ เป็นประโยชน์ ต่อพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตอนหลับสนิท ไม่ฝัน มีจิต หรือไม่

จิตกับความรู้สึกตัว จึงต่างกัน

จิตกับเรา จึงคนละส่วนกัน

ยามหลับสนิทไม่ฝัน ไม่มีเราเลย

จิต เขาว่า เกิดดับที่ตา ที่หู ที่จมูก ที่ลิ้น ที่กาย แต่........รู้สึกว่าเราไม่เกิดดับเลย

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2010, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนัตตญาณ เขียน:
รบกวนช่วยแสดงหลักฐานยืนยันคำกล่าวที่กล่าวว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงประมวลจำแนกจิตทั้งหมดออกเป็น๘๙ประเภท ฯลฯ
ว่าทรงกล่าวกับใคร กล่าวที่ไหน.
จักเป็นพระคุณ เป็นประโยชน์ ต่อพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ครับ


ความตามข้างบนที่โพสต์มาเสนอ เพื่อเป็นความรู้แก่ท่าน จขกท. และความบางตอนได้คัดย่อมาจากหนังสือ..ของท่าน อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ซึ่งกระผมผู้โพสต์เห็นควรว่าจักทำความเข้าใจแก่ผู้ถามไม่มากก็น้อยซึ่งท่านอาจารย์ก็อยู่ในฐานะที่เชื่อถือได้...
.....แต่ถึงอย่างไรก็ตาม...อาจจะมีท่านผู้รู้ท่านอื่น แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ นั่นก็จะเป็นเรื่องที่ดี..เป็นกำไรของผู้อ่านล้วนๆ..ต้องขออภัยท่าน "อนัตตญาน"ด้วยครับ...ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถแสดงหลักฐานให้ท่านตามคำขอนะครับ แต่หากมีโอกาสได้มีการศึกษาค้นคว้าก็จักนำมาแสดงภายหลังครับ
ด้วยความเคารพ.
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 17:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 07:11
โพสต์: 93

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


91One เขียน:
จิต ใจ เจตสิก คือสิ่งเดียวกันหรือเปล่าครับ

หลวงปู่เทศน์ ท่านเปรียบ จิกับใจ ไว้ดังนี้ จิตและใจเปรียบเหมือนน้ำในมหาสมุทร
- ใจ คือ น้ำที่สงบ
- จิต คือ ระลอกคลื่น
- จิตที่สงบ คือ ใจ
ท่านว่า จิตอันใดใจอันนั้น (รวมเจตสิกด้วยคะ) เพิ่มเติม (ความคิดเห็นของตนเอง) เจตสิก คือ
อาการของจิต ที่หลากหลายตามอารมณ์ที่ปรุงแต่งขึ้น
มีผิดถูกนะค่ะ โปรดพิจารณา :b16: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๔ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๑
ธรรมสังคณีปกรณ์
มหันตรทุกะ
[๗๖๖] ธรรมมีอารมณ์ เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมมี
อารมณ์.
ธรรมไม่มีอารมณ์ เป็นไฉน?
รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่มีอารมณ์.
[๗๖๗] ธรรมเป็นจิต เป็นไฉน?
จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นจิต.
ธรรมไม่เป็นจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรม
เหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นจิต.
[๗๖๘] ธรรมเป็นเจตสิก เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นเจตสิก.
ธรรมไม่เป็นเจตสิก เป็นไฉน?
จิต รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นเจตสิก.
[๗๖๙] ธรรมสัมปยุตด้วยจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมสัมปยุตด้วยจิต.
ธรรมวิปปยุตจากจิต เป็นไฉน?
รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมวิปยุตจากจิต.
จิต จะกล่าวว่าสัมปยุตด้วยจิตก็ไม่ได้ ว่าวิปปยุตจากจิตก็ไม่ได้.
[๗๗๐] ธรรมเจือกับจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเจือกับจิต.
ธรรมไม่เจือกับจิต เป็นไฉน?
รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เจือกับจิต.
จิต จะกล่าวว่าเจือกับจิตก็ไม่ได้ ว่าไม่เจือกับจิตก็ไม่ได้.
[๗๗๑] ธรรมมีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, กายวิญญัติ วจีวิญญัติ หรือรูปแม้อื่นใดซึ่ง
เกิดแต่จิต มีจิตเป็นเหตุ มีจิตเป็นสมุฏฐาน มีอยู่ คือ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ
รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูป
อุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมมีจิตเป็นสมุฏฐาน.
ธรรมไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน?
จิต รูปที่เหลือ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน.
[๗๗๒] ธรรมเกิดร่วมกับจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, กายวิญญัติ วจีวิญญัติ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อ
ว่า ธรรมเกิดร่วมกับจิต.
ธรรมไม่เกิดร่วมกับจิต เป็นไฉน?
จิต รูปที่เหลือ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เกิดร่วมกับจิต.
[๗๗๓] ธรรมเกิดคล้อยตามจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์, กายวิญญัติ วจีวิญญัติ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อ
ว่า ธรรมเกิดคล้อยตามจิต.
ธรรมไม่เกิดคล้อยตามจิต เป็นไฉน?
จิต รูปที่เหลือ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เกิดคล้อยตามจิต.
[๗๗๔] ธรรมเจือกับจิตและมีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเจือกับจิตและมี
จิตเป็นสมุฏฐาน.
ธรรมไม่เจือกับจิตและไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน?
จิต รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เจือกับจิตและไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐาน.
[๗๗๕] ธรรมเจือกับจิต มีจิตเป็นสมุฏฐาน และเกิดร่วมกับจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเจือกับจิต มีจิต
เป็นสมุฏฐาน และเกิดร่วมกับจิต.
ธรรมไม่เจือกับจิต ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน และไม่เกิดร่วมกับจิต เป็นไฉน?
จิต รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เจือกับจิต ไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐาน และไม่เกิดร่วมกับจิต.
[๗๗๖] ธรรมเจือกับจิต มีจิตเป็นสมุฏฐาน และเกิดคล้อยตามจิต เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเจือกับจิต มีจิต
เป็นสมุฏฐาน และเกิดคล้อยตามจิต.
ธรรมไม่เจือกับจิต ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน และไม่เกิดคล้อยตามจิต เป็นไฉน?
จิต รูปทั้งหมด และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เจือกับจิต ไม่มี
จิตเป็นสมุฏฐาน และไม่เกิดคล้อยตามจิต.
[๗๗๗] ธรรมเป็นภายใน เป็นไฉน?
จักขายตนะ ฯลฯ มนายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นภายใน.
ธรรมเป็นภายนอก เป็นไฉน?
รูปายตนะ ฯลฯ ธัมมายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นภายนอก.
[๗๗๘] ธรรมอาศัยมหาภูตรูปเกิด เป็นไฉน?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมอาศัยมหาภูตรูปเกิด.
ธรรมไม่อาศัยมหาภูตรูปเกิด เป็นไฉน?
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ มหาภูตรูป ๔ และอสังขตธาตุ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่อาศัยมหาภูตรูปเกิด.
[๗๗๙] ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิเข้ายึดครอง เป็นไฉน?
วิบากแห่งกุศลธรรมและอกุศลธรรม ประเภทที่ยังมีอาสวะ ซึ่งเป็นกามาวจร รูปาวจร
อรูปาวจร คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ และรูปที่กรรมแต่งขึ้น สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อ
ว่า ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิเข้ายึดครอง.
ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิไม่เข้ายึดครอง เป็นไฉน?
กุศลธรรมและอกุศลธรรม ประเภทที่ยังมีอาสวะ ซึ่งเป็นกามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร
คือ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์, ธรรมที่เป็นกิริยา ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล ไม่ใช่กรรม
วิบาก, รูปที่กรรมมิได้แต่งขึ้น, มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ และอสังขตธาตุ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมอันเจตนากรรมที่สัมปยุตด้วยตัณหาทิฏฐิไม่เข้ายึดครอง.
มหันตรทุกะ จบ.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 11:59
โพสต์: 105

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่เคยได้ถามคำถามนี้มาหลายครั้ง ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เช่นกันครับ

ครั้นไปค้นหาในพระไตปิฏก ฉบับที่เป็นต้นฉบับภาษาบาลีนั้น
มีการกล่าวถึงคำว่าเจตสิกนี้น้อยมาก แทบจะนับคำได้
ก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด คำว่าเจตสิก จึงมีอย่างล้นหลามในภายหลัง.

การจะหาคำตอบว่า จิต ใจ เจตสิก คือสิ่งเดียวกันหรือเปล่า
ผมเชื่อว่าคงไม่มีผู้ใดให้คำตอบที่ชัดเจนถูกต้องได้เท่ากับพระพุทธเจ้า
และการกลับไปหาคำตอบจากพระพุทธเจ้านั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด
แต่เรากลับค้นหาคำอธิบายคำว่า"เจตสิก"จากปากของพระพุทธเจ้าได้น้อยมาก
หรือแทบจะค้นหาไม่ได้เลย...ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

แล้วคำว่า"เจตสิก"นี้นั้น ทำไมถึงมีการอธิบายในชั้นของสาวกมากมายเหลือเกิน :b45:


เพียงแค่เราศึกษาเรียนรู้รายละเอียดของขันธ์ห้าให้ได้ครบทั้งหมดว่าคืออะไร หมายถึงอะไร
เท่านี้ยังไม่พอเพียงอีกหรืออย่างไร
พระพุทธเจ้า ท่านก็ทรงจำแนก แจกแจง อธิบาย ขันธ์ทั้งห้า เสียจนล่อนจ้อนหมดแล้ว
ยังไม่พอเพียงกับการที่จะปล่อยวางขันธ์ทั้ง๕ได้อีกหรือ...

ผมมิได้ดูถูก หรือไม่ไห้เกียรติ กับคำ"เจตสิก" นี้แต่อย่างใด
เพียงแต่ต้องการแสดงความเคารพต่อคำอธิบายของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
เพราะหากยังไม่จบการศึกษาจากคำของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังมิสมควรที่จะไปก้าวข้ามศึกษาคำที่มิใช่คำของพระพุทธเจ้าแต่อย่างไร และการถกเถียงคำที่มิใช่คำของพระพุทธเจ้านั้น ย่อมที่จะหาจุดสิ้นมิได้ง่ายเลยครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เท่าที่เคยได้ถามคำถามนี้มาหลายครั้ง ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เช่นกันครับ

ครั้นไปค้นหาในพระไตปิฏก ฉบับที่เป็นต้นฉบับภาษาบาลีนั้น
มีการกล่าวถึงคำว่า เวทนา สัญญา สังขาร นี้น้อยมาก แทบจะนับคำได้
ก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด คำว่า เวทนา สัญญา สังขาร จึงมีอย่างล้นหลามในภายหลัง.
........................................................................................

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 20:04
โพสต์: 25

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านคร้าบบ ก็ต้องรอความเห็นท่านอื่นต่อไป :b12: :b4: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร