วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 20:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


ในชีวิตของข้าพเจ้านั้นได้เห็น บุคคลที่ใกล้ตัวที่ทำงานอย่างดีแต่ไม่มากมีความซื่อสัตย์อดทนอยู่กับบุคคลต่างๆ แต่เขาเหล่านั้นมักขาดการเอาใจใส่จากคนที่เขาอยู่ด้วยเสมอ ยกตัวอย่างเช่นลูกสาวคนโตที่อยู่คอยดูแลพ่อแม่มาตลอด กับลูกสาวคนเล็กที่เป็นที่รักแต่อยู่ไกลกันนานๆมาที สักวัน สองวันก็กลับเขากลับได้รับการเขาใจใส่อย่างมาก ซึ่งต่างกับพี่สาวคนโตมักใช้อารมณ์ในการพูดจากันตลอด หรือในระหว่างลูกสะไภ้ลูกเขย นายจ้างลูกจ้าง เหล่านี้ แม้ตัวผมเองในปัจจุบันก็มีอาการอย่างนี้กับคนใกล้ตัว จึงอยากฝึกตัวให้มีความเข้าใจกับคนใกล้ตัวให้มากขึ้น คือเขาดีแต่ไม่มากเท่าใจที่เราต้องการนั้นเอง
จึงอยากทราบแนวทาง ว่ามีคนที่มีอาการแบบผมบ้างไหม แล้วท่านมีวิธีแก้กันอย่างไรบ้าง :b39:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แม้ตัวผมเองในปัจจุบันก็มีอาการอย่างนี้กับคนใกล้ตัว
จึงอยากฝึกตัวให้มีความเข้าใจกับคนใกล้ตัวให้มากขึ้น
คือเขาดีแต่ไม่มากเท่าใจที่เราต้องการนั้นเอง
แล้วท่านมีวิธีแก้กันอย่างไรบ้าง


ทำความเข้าใจว่าไม่จำเป็นที่คนอื่นจะต้องเข้าใจเรา ไม่จำเป็นที่คนอื่นจะได้อย่างใจเราทั้งหมด

มองว่าทุกคนเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ในสังสารวัฏ
ยังมีอวิชชา(ความไม่รู้)เหมือนเรา
ยังมีกิเลสมากมายเหมือนเรา
จึงทำอะไรที่กระทบตัวตนคนอื่นได้เหมือนกับที่เราเคยทำ
แล้วเราจะมีขันติและเมตตาขึ้นได้เองค่ะ

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 09:39
โพสต์: 219

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาติครับ

ค่อยๆดูเขา มองเขา ในสิ่งที่เขาเป็น ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นอยู่
เราจะเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นอยู่
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาเสมอไป

แม้ในขณะที่เราที่เรา กล่าว ว่า ใดๆด้วยความหวังดีแล้ว
เราเป็นเป็นเพียงผู้บอก นอกจากนั้นแล้วเขาย่อมเป็นคนตัดสินใจเลือกทางเดิน

ทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่มีทางเดินของตน ด้วยใจที่ปรารถนาสะสมไว้เป็นทุนเดิม
เราทำได้เป็นเพียงเป็นคนดู มองด้วยความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เป็นไป
ตำหนิในสิ่งที่ควรตำหนิ สรรเสริญในสิ่งที่ควรสรรเสริญ

ใจที่เราต้องการ พยายาม บังคับ ให้เขาเป็น ในสิ่งที่เราต้องการ
ย่อมไม่ต่างจาก การบังคับ การล่ามโซ่เขาไว้ เพื่อให้สมดังใจเราปรารถนา
แล้ววันนึงนึงโซ่นั้นจะกลับมาคล้องคอเราเอง เมื่อเราไม่สมดั่งใจหวังไว้
จากคนที่เรารัก ด้วยทุกข์ทางใจ



ขอบคุณครับ

.....................................................
.................................................ธ ทรงครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม
........................................................พระปฐมบรมราชโองการว่า
.......................“ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม “

........................ขอพ่อเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ มีพระชนย์มายุ ยิ่งยืนนาน พระพุทธเจ้าข้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เก็บเกี่ยว เขียน:
คือเขาดีแต่ไม่มากเท่าใจที่เราต้องการนั้นเอง


ถ้าเปรียบใจเราเหมือนแก้วน้ำ
วีธีที่จะทำให้น้ำเต็มแก้วมีสองวิธี

1. หาน้ำมาเติมให้เต็มแก้ว
2. ใช้แก้วเล็กลง จนพอดีกับน้ำ น้ำก้จะเต็มแก้ว


ลดความคาดหวังลง คงจะดีนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 22:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
เก็บเกี่ยว เขียน:
คือเขาดีแต่ไม่มากเท่าใจที่เราต้องการนั้นเอง


ถ้าเปรียบใจเราเหมือนแก้วน้ำ
วีธีที่จะทำให้น้ำเต็มแก้วมีสองวิธี

1. หาน้ำมาเติมให้เต็มแก้ว
2. ใช้แก้วเล็กลง จนพอดีกับน้ำ น้ำก้จะเต็มแก้ว


ลดความคาดหวังลง คงจะดีนะครับ

ก่อนอื่น ขอขอบพระคุณ ท่านจันทร์ ณ ฟ้า และ ผงธุลีดิน มากที่แสดงความคิดเห็นให้มา ผมจะพยามทำอย่างนั้นต่อๆไป ผมได้ติดตามท่าน ชาติสยาม มาสักระยะหนึ่งแล้วท่านตอบกระทู้ได้ดีมากมาตลอด แม้กระทู้นี้ก็ตาม ในข้อที่ ๑ นั้นผมได้ทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น
ข้อที่ ๒ ความคาดหวังเมื่อให้ใครทำให้ลดความสำเร็จนั้นมาเป็น ๕๐ % ทั้ง ๒ ข้อนี้ทำอยู่ครับ :b1: :b8:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2010, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เก็บเกี่ยว เขียน:
ชาติสยาม เขียน:
เก็บเกี่ยว เขียน:
คือเขาดีแต่ไม่มากเท่าใจที่เราต้องการนั้นเอง


ถ้าเปรียบใจเราเหมือนแก้วน้ำ
วีธีที่จะทำให้น้ำเต็มแก้วมีสองวิธี

1. หาน้ำมาเติมให้เต็มแก้ว
2. ใช้แก้วเล็กลง จนพอดีกับน้ำ น้ำก้จะเต็มแก้ว


ลดความคาดหวังลง คงจะดีนะครับ

ก่อนอื่น ขอขอบพระคุณ ท่านจันทร์ ณ ฟ้า และ ผงธุลีดิน มากที่แสดงความคิดเห็นให้มา ผมจะพยามทำอย่างนั้นต่อๆไป ผมได้ติดตามท่าน ชาติสยาม มาสักระยะหนึ่งแล้วท่านตอบกระทู้ได้ดีมากมาตลอด แม้กระทู้นี้ก็ตาม ในข้อที่ ๑ นั้นผมได้ทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น
ข้อที่ ๒ ความคาดหวังเมื่อให้ใครทำให้ลดความสำเร็จนั้นมาเป็น ๕๐ % ทั้ง ๒ ข้อนี้ทำอยู่ครับ :b1: :b8:


ขอบคุณครับ

ผมก็ปากดีไปอย่างนั้นแหละครับ
ปัญหานี้ใหญ่มาก ผมก็เป็นทั้งเหยื่อและผู้ล่าเหยื่อในปัญหานี้
มีคนคาดหวังกับผมต่างๆนาๆ
แล้วก็มีคนที่ผมคาดหวังต่างๆนาๆกับเขา เหมือนๆกัน
เราทุกคน ไม่มีใครพ้นจากปัญหานี้

แม้แต่พระพุทธเจ้าผู้ชื่อว่าพ้นแล้ว(วิมุตติ) อิสระแล้ว สันติแล้ว
ยังไม่พ้นความคาดหวังเลยครับ
มีผู้คนคาดหวังกับพระองค์มากมาย
บางคนหวังให้พระองค์สิ้นพระชนม์ก็มี (พระเทวทัต)
และเพราะความคาดหวังอันนั้น พระองค์ก็เดือดร้อนแม้ว่าจะเป้นถึงพระพุทธเจ้าก็ตาม

น่าคิดกันต่อไปว่า แล้วที่ว่าท่านหลุดพ้นนั้น
อะไรที่หลุดพ้น แล้วหลุดพ้นจากอะไร
คงต้องตามหากันต่อไปโดยลำพังของแต่ละคนครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 14:54
โพสต์: 126

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: ผมมีข้อคิดที่ดีอยู่ว่าเราเขาต่างมีขันธ์ ๕เหมือนกัน มีกรรมเป็นที่ตั้งเหมือนกัน กรรมมากน้อยอยู่ที่เราเขา มีความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเหมือนกันตลอดเวลา แล้วตัวเราตัวเขาก็ไม่มี สิ่งที่มากระทบคืออารมณ์ต่างๆที่มีความเกิดดับตลอดเวลา โมหะ โทสะ โลภะ ทีเข้ามาเยี่ยมเยือนถือว่าเป็นการมาทดสอบอารมณ์ของเรา อดีตเราไม่รู้ อนาคตเราไม่รู้ รู้แต่เวลาปัจจุบันที่มีลมหายใจเข้าและออกเท่านั้นครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2010, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


ประยุทธ์ เขียน:
:b16: ผมมีข้อคิดที่ดีอยู่ว่าเราเขาต่างมีขันธ์ ๕เหมือนกัน มีกรรมเป็นที่ตั้งเหมือนกัน กรรมมากน้อยอยู่ที่เราเขา มีความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเหมือนกันตลอดเวลา แล้วตัวเราตัวเขาก็ไม่มี สิ่งที่มากระทบคืออารมณ์ต่างๆที่มีความเกิดดับตลอดเวลา โมหะ โทสะ โลภะ ทีเข้ามาเยี่ยมเยือนถือว่าเป็นการมาทดสอบอารมณ์ของเรา อดีตเราไม่รู้ อนาคตเราไม่รู้ รู้แต่เวลาปัจจุบันที่มีลมหายใจเข้าและออกเท่านั้นครับ :b8:

ท่านประยุทธ์ ที่พูดว่าสิ่งที่มากระทบ คืออารมณ์ต่างๆนั้นถูกต้องแล้ว สั้นๆก็คือ ความพอใจและความไม่พอใจนั้นเองที่เผาเราอยู่ทุกวัน ผมเองก็พยายามเรียนรู้กับมันโดยการอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น ไม่เก็บอดีตมาคิดให้มากไป ไม่ฝันกับอนาคตฟุ้งไป ดูลมหายใจบ่อยขึ้นๆ และทำต่อๆไป ขอบคุณมากครับ :b27: :b1: :b12: :b16: :b8:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2010, 00:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ในแนวคิดและการปฎิบัติของผมนั้น ผมพิจารณาว่าเป็นอารมณ์อะไร เช่นโกรธ เสียใจ

จากนั้นผมทำตัวเป็นอุเบกขา คือวางเฉยในอารมณ์ที่มากระทบให้มากที่สุด

จากนั้นหาเหตุมาแก้เช่นเราหวังผลจากการทำสมาธิ นี่ก็คือการทำสมาธิและวิปัสสนาที่เราต้องเอามาระลึกว่าธรรมใดเกิด ธรรมนั้นต้องดับลงเป็นธรรมดา อารมณ์ใดเกิดกับเรา อารมณ์นั้นไม่ช้าก็ดับลง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร