วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 16:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 16:06
โพสต์: 52

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คือเมื่อวันที่17ธันวาคมปีที่แล้วซึ่งเป็นวันเกิดของผม ผมได้เข้ามาร่ำร้อง(เป็นกลอน) อยู่ในนี้ว่าช่างเงียบเหงาเศร้าสร้อยไม่มีใครเลย(คือไม่มีใครมาให้ของขวัญน่ะจะตามทวงก็กระไรอยู่) จริงๆรู้ตั้งนานแล้วว่าตัวเองเป็นเหยื่อของ "ถีนมิทธะนิวรณ์" ชอบเอาอะไรไปเปรียบเทียบกับภาพความทรงจำเก่าๆที่ดีๆแล้วบอกว่าวันนี้ซึ่งไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเศร้าอยู่เสมอ แทนที่ปัจจัยภายนอกปรากฏเบื้องหน้าอย่างไรควรพิจารณาด้วยปัญญาทางธรรมเสียก่อนแล้วจึงปฏิบัติสิ่งต่างๆออกไปให้สอดคล้องกันในทางที่ดีงามตามคำสอนของพระศาสดา แต่ด้วยความไม่รู้เท่าทันกิเลสจึงอาลัยอาวรณ์กับภาพความทรงจำเก่าๆที่ดีๆแล้วบอกว่าวันนี้เศร้าเสมอทั้งๆที่คิดดูจริงๆแล้ว การที่วันนี้เวลานี้จะดีหรือจะร้ายขึ้นอยู่กับการกระทำทางกาย วาจา ใจ ของเราในวันนี้มากกว่าซึ่งก็จะส่งผลไปยังอนาคตกาลด้วยว่าเราจะพบปัจจัยภายนอกดีหรือร้ายเช่นไร มิต้องมาอาลัยอาวรณ์กับวิบากกรมในปฏิสนธิกาล(เกิดวันนี้) มิฉะนั้นจะกลายเป็นจุดนี้มากำหนดวิบากกรรมในปวัตติกาล(ตั้งแต่เกิดจนตาย)ของเราได้อีก ท่านผู้อ่านได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจมีข้อสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วขออภัยอะไร ไม่เห็นเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เลย ถ้าเท่าที่บอกคงไม่มีอะไรต้องขออภัยแต่ผมยังติดลมอยู่ในเว็บบอร์ดนี้อีกหลายวันซึ่งนำไปสู่ทุจจริตกรรมทางวาจาอีกหลายประการซึ่งผมคิดว่าควรจะขออภัยบุคคลเหล่านั้น คือ
กลอนที่แต่งไปแต่งมาขาดเอกภาพ วกเข้าเรื่องตัวเองสับสนมัวหม่น(ออกจะมีสำนวนละคร) ไม่เหมือนที่ผู้อื่นแต่งซึ่งมีเนื้อหาหนักแน่นไปในทางเดียวและไม่กลับมาซ้ำสองให้เหมือนลักษณะของการต่อปากต่อคำเลย ตรงนี้ต้องขออภัยผู้ที่เสียเวลาอ่านช่วงท้ายๆที่เนื้อหาโดยรวมดูสับสนด้วยครับ(กลอนที่ผมแต่งนะครับ)
ใช้วาจาที่เป็นวจีทุจริตเพ้อเจ้อมากเกินเหตุ ไม่ทราบว่าได้เคยพิมพ์ออกตัวไว้ก่อนที่นี่หรือเปล่าว่าเป็นคนชอบพูดเพ้อเจ้อพวกล้อเล่น แซว อะไรทำนองนี้ โดยลืมสนิทว่าอายุของผมนั้น ครบ 40 ปีเมื่อวันเกิดนั้นพูด(พิมพ์)อะไรออกไปแม้เรารักษาศีลเคร่งครัดก็จริงอยู่แต่ถ้าเป็นการสนทนาเช่นนั้นกับเพศหญิง เพศหญิงจะเป็นฝ่ายเสียหาย ตรงนี้ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ไม่พิจารณาให้ดีเสียก่อนคิดเพียงแค่ เราไม่ได้คิดอะไรคงไม่เป็นไร ถึงทั้งสองฝ่ายไม่ได้คิดก็จริงแต่คนภายนอกมองเข้ามาจะทำให้ดูไม่ดี
การใช้วิปัสสนาวิธีไปกระทำการคาดการณ์ คาดเดา ชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์(เพิ่มทุกข์อีกด้วยซ้ำ) การใช้วิปัสสนาวิธีไปในการแก้ไขปัญหาผู้อื่นด้วยการยั่วโทสะซึ่งวิธีนี้จะมาใช้ในลักษณะไม่เลือกไม่ได้เลยโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถล่วงรู้วาระจิตของผู้อื่น(อย่างผม)ว่าจิตตอนนั้นแข็งกร้าวหรืออ่อนโยนมิฉะนั้นจะถูกปฏิเสธสถานเดียวซ้ำยังเกือบไปสร้างความแตกแยกกับศาสนาอื่นอีก(ผิดหลายต่อ)
การใช้วาจาเกรี้ยวกราด ไม่เหมาะสมต่างๆ ใส่อารมณ์ลงไปในตัวหนังสือที่พิมพ์ แทนที่จะพูดดีๆแนะนำดีๆแต่อย่าไปบังคับว่าทุกคนต้องมาคิดเหมือนที่ผมคิดเพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และผมก็ไม่ได้ฉลาดกว่าผู้อื่น หากผู้อื่นคิดหรือทำ อาจจะคิดหรือทำสิ่งนั้นๆได้ดีกว่าผม
การตำหนิโดยการอ้างอายุ คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างควรเป็นไปด้วยเหตุผลที่ถูกต้องตามธรรมมากกว่าจะเอาอะไรที่แตกต่างจากผู้อื่นมาอ้าง

และภาษาที่ใช้อีก ใช้ภาษาพูดที่ฟังดูถ้าอยู่กันคนละที่และไม่รู้จักกันจะดูอุกอาจและลามปามมากไปอีกประการหนึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราพิมพ์ลงไปนั้นใครอ่านอยู่บ้างเพราะความหลากหลายและความแปรผันในสังคมไซเบอร์นั้นย่อมมีอยู่สูงจึงควรใช้ภาษาสุภาพกลางๆที่เว้นจากวจีทุจริตทั้ง4เป็นดีที่สุดไม่ควรไปพิมพ์อะไรตามสบายเช่นนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 16:06
โพสต์: 52

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


และกายกรรม วจีกรรม หรือ มโนกรรมใดๆที่ไม่ทราบ จำไม่ได้ ที่ได้ไปล่วงเกินผู้หนึ่งผู้ใดหรือทำให้ผู้ใดไม่พอใจที่ไม่ได้พิมพ์ลงมาเพราะยังนึกไม่ออกก็ต้องขออภัยทั้งสิ้นเลยนะครับ

:b8: :b8: :b8:

คราวนี้ก็มีสิ่งที่ผมได้นำมาชดใช้เล็กน้อย(จะถูกหรือเปล่ายังไม่รู้เลยครับ) คือ วจีทุจริตข้อเพ้อเจ้อ(สัมผับปลาปะ) มีอันตรายไม่แพ้วจีทุจจริตทั้งสามข้อแรก เนื่องจากการพูดเพ้อเจ้อบ่อยๆเป็นการสั่งสมนิสัยว่า เมื่อมีเรื่องอะไรที่จะพบ หรือปัญหาอะไรที่ต้องแก้ จิตจะเดินทางชำนาญทันทีคือลากไปสู่ความเพ้อเจ้อเช่น ทำให้ดูตลกบ้าง เฉยชาซึมเซาบ้าง นินทาว่าร้ายบ้าง พอต้องพิจารณาอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆจิตเป็นสมาธิแสนยาก แล้วเป็นฐานให้ก่อวจีทุจริตอย่างอื่นด้วย เช่นคุยเรื่องในสื่อต่างๆที่พบเห็นในลักษณะแบ่งข้าง(ส่อเสียด)โดยคิดว่าไม่มีใครได้ยินหรอก ไม่เป็นไร จริงๆแล้วการที่ไม่มีใครู้ ไม่มีใครเห็นหรือไม่มีใครได้ยินเป็นภาวะที่อันตรายที่สุด อนุสัยหรือสันดานดิบของคนผมคิดว่ามาจากตรงนั้น
ถ้ามีคนรู้คนเห็นอาจเงียบเพราะกลัวฯ แต่การกระทำสิ่งใดก็ตามในสภาวะที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นแทบจะเป็นตัวบ่งชี้เลยว่าผู้นั้นเหมาะกับความเป็นมนุษย์หรือเปล่า(หิริโอตตัปปะ) ที่เคยคิดว่าเพ้อเจ้อไม่ร้ายแรง
ปรากฏว่าผมคิดผิด หากเปรียบกองกิเลสทางวาจาเหมือนกองขยะการโกหก ส่อเสียด หยาบคาย เราจะระวังอย่างดีเพราะสิ่งเหล่านี้สังคมประณามแต่เพ้อเจ้อสังคมไม่ถึงขนาดประณามจึงเสมือนช่องทางโกยขยะเข้าใส่ตัวได้ชนิดไม่อั้นและขึ้นชื่อว่าขยะไม่มีทางที่จะหอมหวนในเบื้องปลาย ตอนนี้ผมเลยเพลาๆปากลง คนอื่นๆคิดเหมือนผมมั๊ยครับ(ไม่ใช่ต้องตื่นขึ้นมานั่งใบ้นะแต่ละคนย่อมมีทางเป็นของตัวเองซึ่งผู้อื่นจะไปเดินทางนั้นด้วยก็ยาก อาจจะพบกันบางช่วงก่อนลาไปตามวิถีที่เหมาะสมของแต่ละคน)

ก่อนจากต้องขอขอบคุณคุณ อโศกะ ที่กรุณาให้ความหมายของอุเบกขาเวทนากับอุเบกขาสัมโพฌงค์นะครับ เป็นประโยชน์มากเลยและเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนในหัวข้อ เวทนานุปัสนาสติปัฏฐานมาก ขอบคุณมากๆครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 16:06
โพสต์: 52

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแถมอีกนิดนึงนะครับ

วจีทุจริต4
เจตนาลวงหรือตบตาเป็นโกหกหรือมุสาทุกคนคงทราบดีแล้ว
เสียดสี กระแนะกระแหน แดกดัน เหน็บแนม ผมจัดเป็นหยาบคายหรือ ผรุสวาจาครับ
เสี้ยม ยุแยงตะแคงรั่ว นินทาว่าร้ายในบางกรณี(ตรงนี้การเสพสื่อต้องระวังตัวเองด้วยนะครับ) มีแตกแยกที่ไหนต้องไปที่นั่นแม้เพื่อดูเฉยๆแล้วร้องว่าโถ่เอ๊ย แค่เนี๊ยะเหรอ ผมจัดเป็นส่อเสียดหรือปิสุณาวาจาครับ
นินทาว่าร้ายในบางกรณี และ เดรัจฉานกถาทั้งหมด ผมจัดเป็นเพ้อเจ้อหรือสัมผับปลาปะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 16:06
โพสต์: 52

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงเรื่องเหล่านี้(เรื่องที่สมควรขออภัย)ผมรู้ตั้งนานแล้วแต่วันนี้เพิ่งมาพิมพ์ ทอดธุระเสียนาน อ้างว่าร้อนไปบ้าง มีธุระอื่นบ้าง อ่านหนังสือยังไม่จบบ้าง แล้วมันก็เป็นสิ่งตกค้างอยู่อย่างนั้น(การผลัดวันประกันพรุ่งนี่ไม่ดีเลย) วันนี้เลยตั้งใจมา(ที่ร้าน) เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ไปก่อนนะครับ ขอให้โชคดีและเจริญในธรรมทุกคนครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เพิ่งเข้ามาไม่นาน ยังไม่เคยอ่านกระทู้หรือความเห็นของคุณกังวาน

แต่เท่าที่อ่านดูในกระทู้นี้ คุณกังวานก็กำลังสร้างเหตุใหม่ๆที่ดีแล้ว
(หากคิดถึงอารมณ์อกุศลซ้ำๆ จิตจะขึ้นวิถีอกุศลนั้นใหม่)

อนุโมทนาในความตั้งใจดีนะคะ :b8:

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


แก้ไขล่าสุดโดย จันทร์ ณ ฟ้า เมื่อ 16 มิ.ย. 2010, 13:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 20:27
โพสต์: 40

แนวปฏิบัติ: ดูจิตในชีวิตประจำวัน
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ท่องเที่ยว,ขี่จักรยาน,เลี้ยงสุนัข
อายุ: 43
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่รู้สึกว่าตัวเองผิด แล้วรู้จักขออภัยก็ถือว่าดีมากๆแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :b46: :b41: :b46:

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้
(ฟังจากธรรมะบรรยายของ พระไพศาล วิสาโล)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร