วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 04:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 15:13
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: ทำไมคนเราจึงเห็นแต่ทุกข์ครับ ขอบคุณนะครับ :b4: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะนอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรตั้งอยู่
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับไป

โดยย่อแล้วขันธ์ 5นี้เป็นตัวทุกข์

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...คนปกติทั่วไปมีอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดว่าสุข-ทุกข์ปะปนกันไป...
...คือมีโลภ โกรธ หลงในความการดำรงชีวิตด้วยความไม่รู้ตามจริง...
...มีอวิชชาในจิตใจ...ซึ่งการไม่รู้ทำให้เข้าใจผิดและมองไม่เห็นความจริง...
...การไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม...เมื่อไม่เห็นธรรมก็ไม่รู้ว่าจะดับทุกข์อย่างไร...
:b27:
...ทางโลกการที่คนเราเห็นแต่ทุกข์อาจเกิดจากไม่เคยพบความสุขในชีวิต...
...เช่น อดอยากยากจน หาเช้ากินค่ำ ไม่มีรถขี่ ไม่มีบ้านอยู่ นอนข้างถนน...
...ทุกข์เป็นสภาวะที่จิตไม่ชอบ ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น...
...พอทุกข์มากๆ ก็จะไม่อยากมีทุกข์มากๆ อันนั้น...เป็นสภาวะของกิเลส...
:b12:
...ทุกข์ทางกายเป็นโรครักษาได้ด้วยยารักษาโรคและการดูแลร่างกาย...
...ทุกข์ทางใจเป็นโรค...พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีธรรมเท่านั้นเป็นยารักษาใจ...
...จิตทุกดวงที่เวียนว่ายตายแล้วเกิด ล้วนเป็นทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น...
...เพราะฉะนั้นหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาจึงเน้นที่การดับทุกข์...ที่ใจค่ะ...
:b4: :b4:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 04 มิ.ย. 2010, 16:06, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉัตรพงษ์ เขียน:
:b10: ทำไมคนเราจึงเห็นแต่ทุกข์ครับ ขอบคุณนะครับ :b4: :b8:



ทุกข์ สุข อุเบกขา ๆ ภาวะทั้งสามนี้มนุษย์ประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ที่ฉุกใจได้คิดคือความทุกข์

ในอริยสัจ (ความจริงของพระอริยะ) ท่านพูดถึงเหตุผลที่พระพุทธเจ้าเรียงทุกข์ไว้ต้น

viewtopic.php?f=2&t=22926&st=0&sk=t&sd=a&start=15


๑.ทุกข์ คือ ปัญหาต่างๆของมนุษย์ เป็นเรื่องบีบคั้นชีวิตจิตใจ มีอยู่ทั่วไปแก่สัตว์มนุษย์ทุกคน เกิดขึ้นแก่ใคร

เมื่อใด ก็เป็นจุดสนใจ เป็นของเด่นชัดแก่ผู้นั้นเมื่อนั้น แต่ว่า ที่จริงมองกว้างๆ ชีวิตมีปัญหาและเป็นปัญหากันอยู่

เรื่อยๆ เป็นธรรมดา

ดังนั้น ทุกข์จึงเป็นจุดสนใจปรากฏเด่นชัดอยู่ในชีวิตของทุกๆคน เรียกได้ว่า เป็นของรู้ง่ายเห็นง่าย จี้ความสนใจ

เหมาะที่จะยกขึ้นเป็นข้อปรารภ คือ เป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงธรรม

ยิ่งกว่านั้น ทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว และน่าตกใจสำหรับคนจำนวนมากคอยหลีกเลี่ยง ไม่อยากได้ยิน

แม้แต่คนที่กำลังเพลิดเพลินลุ่มหลงมัวเมา ไม่ตระหนักรู้ว่า ตนเองกำลังมีปัญหา และกำลังก่อปัญหา

เมื่อมีผู้มาชี้ปัญหาให้ ก็จะกระทบใจทำให้สะดุ้งสะเทือนและมีความไหวหวั่น

สำหรับคนที่อยู่ในภาวะเช่นนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนปรารภเรื่องทุกข์เพื่อกระตุ้นเตือนให้เขาฉุกใจได้คิด

เป็นทางที่จะเริ่มต้นพิจารณาแก้ปัญหาดับความทุกข์กันได้ต่อไป


เมื่อแสดงอริยสัจ โดยตั้งต้นที่ทุกข์ ก็เป็นการสอนที่เริ่มจากปัญหา เริ่มจากสิ่งที่เห็นง่ายเข้าใจง่าย

เริ่มจากเรื่องที่น่าสนใจ และโดยเฉพาะเป็นการสอนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคน ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย

ไม่ใช่เรื่องคิดเพ้อฝัน หรือสักว่าพูดตีฝีปากันไป เมื่อพูดกับใครก็เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคนนั้น เมื่อพูดเป็นกลางๆ

ก็เกี่ยวข้องกับทุกคน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 15:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉัตรพงษ์ เขียน:
:b10: ทำไมคนเราจึงเห็นแต่ทุกข์ครับ ขอบคุณนะครับ :b4: :b8:


ปุถุชน อยู่กับทุกข์ เพราะมีทุกข์เป็นที่อาศัย เป็นที่ดำเนิน แต่ไม่เห็นทุกข์ ไม่รู้จักทุกข์
ผู้ที่ศึกษาอยู่ อยู่กับทุกข์ มีทุกข์เป็นที่อาศัย เป็นที่ดำเนิน เรียนรู้ที่จะรู้จักทุกข์ แต่ก็ยังไม่เห็นทุกข์
ผู้ที่เสร็จกิจแล้ว เป็นผู้รู้อยู่เห็นอยู่ อยู่กับทุกข์ มีธรรมเป็นที่อาศัย เป็นที่ดำเนิน รู้จักทุกข์ เห็นทุกข์ด้วยประการทั้งปวง

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 15:13
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โมทนาคร้าบบ สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉัตรพงษ์ เขียน:
:b10: ทำไมคนเราจึงเห็นแต่ทุกข์ครับ ขอบคุณนะครับ :b4: :b8:

คนเราเห็นแต่ทุกข์...ยังดีกว่า....คนเราที่เห็นแต่ สุข สนุก เพลิดเพลิน
เพราะถ้าเห็นแต่ทุกข์แล้ว...จะได้หาหนทาง ดับทุกข์
...จะได้ไม่ประมาท ในการดำเนินชีวิต ปัจจุบัน อย่างถูกต้องแห่งศีลและธรรม

ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 18:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 14:54
โพสต์: 126

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์นั้นเกิดจากตัวเรา อยู่คู่กับตัวเรามาตลอดในการเวียนว่ายตายเกิดมาตลอดทุกภพชาติ เพราะความสำคัญว่านี่คือเรานี่คือตัว นี่คือคนที่เรารัก นี่คือของเรา ทุกสิ่งนี้คือตัวนำไห้เกิดความทุกข์ เราจึงมองเห็นความทุกข์มาโดยตลอดและอยู่คู่กับมันมาตลอด ถ้าตัดอุปทานต่างที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดได้ก็จะไม่มีเราเขา สิ่งต่างๆเป็นเพียงการรวมตัวประชุมกันของธาตุ ๔ เท่านั้น ด้วยจิตที่อบรมแล้ว เราก็จะพ้นทุกข์ทั้งหลาย

อย่าหลงในอุปทาน กิเลส ตัณหา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว



ความคิด ความหวนระลึกนึกถึง

ฯลฯ

คือสิ่งที่ทำให้คนเราเห็นแต่ทุกข์
แต่ ก็ไม่ได้เห็นแต่ทุกข์เพียงอย่างเดียวนะขอรับ
เห็น สุข เห็น การหลุดพ้น ตามมาด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2010, 09:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฉัตรพงษ์ เขียน:
:b10: ทำไมคนเราจึงเห็นแต่ทุกข์ครับ ขอบคุณนะครับ :b4: :b8:

เพราะทุกข์เห็นง่าย เราผู้มีปัญญา(น้อย)จึงเห็นแต่ทุกข์ ต่างจากเหตุของทุกข์(สมุทัย) ที่มองเห็นยาก ต้องอาศัยผู้มีปัญญา(มาก) มาคอยชี้แนะ จึงจะมองเห็นได้

เมื่อมองเห็นแต่ผล เห็นแต่ทุกข์ มองไม่เห็นเหตุไม่เห็นสมุทัย การแก้ทุกข์ก็สเปะสปะ กอดทุกข์อยู่ก็เข้าใจว่าเป็นสุข แบกทุกข์อยู่ก็ไม่รู้ว่าเป็นทุกข์ เอาแต่บ่นว่าหนัก แต่ไม่ยอมปลง ไม่ยอมละ ไม่ยอมวาง เพราะกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้แบก

ท่านผู้มีปัญญา(มาก) ท่านเห็นทั้งเหตุทั้งผล ทั้งทุกข์ทั้งสมุทัย ท่านไม่เอาแต่บ่น เมื่อท่านเห็นเหตุของทุกข์ ท่านก็ดับเหตุ ทุกข์ของท่านก็ดับ ท่านก็ละได้ วางได้ เหมือนแบกของแล้ววางลงฉะนั้น

กระผมผู้มีปัญญา(น้อย) ก็กอดทุกข์ไว้ ไม่ยอมวางกลัวเสียเปรียบ กลัวคนอื่นเกินหน้า
จึงบ่นว่าทุกข์ว่าหนัก ไม่ยอมละ ไม่ยอมวางอยู่อย่างนี้แล..

โมทนากับทุกท่าน สาธุครับ.. :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2010, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์ทางธรรมก็คือยังเวียนว่ายตายเกิดทุกคนเลยเห็นแต่ทุกข์ ทุกข์ทางโลกก็เกิดจากกิเลสที่มีความคาดหวังผูกเอาไว้ก็ทุกข์ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2010, 17:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 15:13
โพสต์: 33

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่าน อนุโมทนาสาธุ คร้าบบบ :b4: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2010, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2010, 14:44
โพสต์: 20

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรอะ ? ลองมองดูไปเรื่อย พอจะเห็นได้อย่างนี้รึเปล่า อย่าคิด ปล่อยให้จิตมันเห็นของมันเอง
ถ้าได้ ก็จะเห็นได้เองอย่างเป็นธรรมชาติว่า เพราะปัจจัยนี้มี สิ่งนี้จึงมี และเพราะปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปผลที่มีย่อมเปลี่ยนแปลงไป และ เมื่อปัจจัยนี้ไม่มีอยู่แล้ว สิ่งนี้จึงไม่มี
และถามว่า แล้วทุกข์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ก็ถ้ามีปัจจัยดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ก็มีโอกาสที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นอีก แล้วทำไม ถึงใช้คำว่าโอกาส คำว่าโอกาส คือ มันมีโอกาสเกิด และไม่เกิด
ก็ วิชา ไง วิชาอันจะนำพาไปสู่การไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัย คือตัวแปรสำคัญ :b6: มองไปมองมาก็เห็นอย่างนี้

:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ผ้าเช็ดเท้า เมื่อ 05 มิ.ย. 2010, 17:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร