วันเวลาปัจจุบัน 20 มิ.ย. 2025, 19:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 00:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นความเห็นของคนนึงที่น่ารับฟังค่ะ
(ไม่รู้จะผิดระเบียบลานธรรมจักรหรือเปล่า ถ้าผิดก็แล้วแต่เห็นสมควรนะคะ)
แหะๆ แต่ขอไม่ตอบกระทู้นะคะ แค่อยากให้อ่านเฉยๆ
และพิจารณาตามหลักกาลามสูตรค่ะ

หากข้อความใดอ่านแล้วทำให้เกิดอกุศลจิต ดิฉันขออโหสิกรรม ณ ที่นี้


ผมต้องบอกว่าผมเองก็คนเหมือนคนทั่วๆไป ที่ไม่ได้บรรลุธรรมอะไร
และใช้แนวทางการปฎิบัติเรื่องสติปัฏฐาน 4 ขณะที่ใช้แนวทางสมาธิควบคู่

ผมต้องบอกว่าผมเองเคยฝึกปฎิบัติ ในเรื่องสติปัฏฐาน 4 ที่วัดแห่งหนึ่งภาคอีสาน

ผมต้องบอกว่าผมสงสัยในหลวงพ่อหลายรูป
แต่ผมคิดว่าถ้าธรรมะมีอยู่แนวเดียวคือ แนวของพระพุทธเจ้า
เราควรใช้ปัญญาพิจารณาอย่างรอบคอบ
อันไหนมันเข้ากับแนวพระพุทธเจ้าเก็บไว้
อันไหนเห็นไม่เข้าท่าจริงๆก็ปัดทิ้งไป
อันไหนยังพิสูจน์ไม่ได้เก็บไว้ก่อน

ผมต้องบอกว่าแม้กับหลวงพ่อรูปที่ท่านสอนผม มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ
ผมก็ยังสงสัยว่าท่านสอนถูกแนวไหม แต่ผมใช้วิธีการพิสูจน์ที่ตัวท่านโดยตรง
มีอยู่บ้างที่ผมคิดไม่ดีปรามาสท่านทางความคิด สุดท้ายผมก็ต้องไปขอขมาท่าน
เพราะผมจัดตัวเองอยู่ในพวกปัญญามาก่อนศรัธทา

ผมต้องบอกว่าแม้ผมสงสัย ผมจะไม่มาโพสต์ว่าท่านนู้นผิดท่านนี้ผิด
เพราะผมคิดว่าถ้าท่านผิดจริงการแก้ปัญหาคือไปที่ต้นตอของปัญหา
ผมจะลุยไปคุยกับท่านเลยแล้วชี้แจงว่า ท่านผิดอย่างนี้ ท่านผิดอย่างนี้
กรุณาตอบผมด้วยว่าสิ่งที่ผมคิดเห็นอย่างนั้นท่านว่าอย่างไร

ผมต้องบอกว่าถ้าผมสงสัยจริงๆ แล้วมั่นใจว่าตัวเองถูก
ผมแก้ที่ต้นตอคือใจตัวเอง ถ้าใจมันสงสัย ผมก็หาเหตุแห่งทุกข์
แล้วค้นพบว่าปัญหาคือผมสงสัยที่ตัวหลวงพ่อ
สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือ ลุยไปที่ตัวหลวงพ่อ ที่เป็นต้นเหตุของความสงสัย
เพราะพระพุทธเจ้าให้แก้ที่ต้นเหตุ

ผมต้องบอกว่าถ้าท่านใดสงสัยในตัวหลวงพ่อรูปใดแล้วคิดว่าหลวงพ่อรูปนั้นสอนผิดจริงๆ
หลวงพ่อไม่ควรออกมาสอนธรรมะ ให้ลุยไปที่ตัวหลวงพ่อเลย
แล้วพูดให้ท่านเชื่อให้ได้ว่า ตัวเราเองเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ถูกต้องอย่างยิ่ง
ถ้าท่านผิดจริงแล้วกลับตัวก็ควรอภัยท่าน ถ้าตัวเราเองผิดก็ขอโทษท่านเท่านั้นเอง
แล้วก็เลือกปฏิบัติในสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง

ผมต้องบอกว่ากรรมที่ส่งผลกับคนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์
ท่านสร้างความสงสัย สร้างความหลงให้คนหมู่มาก มันไม่ใช่กรรมน้อยๆเลยนะ

ทำไมไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุล่ะ

สิ่งที่ผมค้นพบหลังจากความสงสัยของตัวเอง คือ
พระพุทธศาสนา สอนให้พึ่งตนเองมากกว่าพึ่งผู้อื่น "อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา"
สิ่งที่ผมค้นพลหลังจากความสงสัยของตัวเอง
คือพระพุทธศาสนา สอนให้พึ่งกัลยาณมิตร เพราะกัลยาณมิตรเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์

แล้วทำไมผมไม่สงสัยว่า 2 พุทธพจน์นี้ขัดแย้งกันล่ะ
นั่นเพราะการปฏิบัติ ทำให้เข้าใจมากกว่าการ อ่านหรือศึกษาตามตำรา
ท่านต้องพิสูจน์เองผมอธิบายมันเป็นคำพูดไม่ได้

แนวที่ท่านปฎิบัติอยู่ ที่ท่านว่าสำนักนั้นผิด สำนักนี้ผิด
คำว่าผิดๆ ที่เพ่งโทษกันอยู่นั้น ท่านไม่เคยได้รับประโยชน์จากมันเลยหรือ ?

แนวที่ท่านปฎิบัติอยู่ นั้นมาจากธรรมะแท้อันเดียวกันไม่ใช่หรือ ?

ธรรมะที่นำ เอาคำสอนของครูบาอาจารย์ มาตอบโต้กันนั้น
ครูบาอาจารย์ท่านรับรองแล้วหรือว่าท่านเข้าใจถูก ?

ธรรมะที่นำ เอาคำสอนของพระพุทธเจ้า มาตอบโต้กันนั้น
พระพุทธเจ้าท่านรับรองแล้วหรือว่าท่านเข้าใจถูก ?

ธรรมะที่ถูกต้องจริง ต้องมีผู้ใดเป็นผู้รับรอง แล้วใครควรเป็นผู้รับรอง ?

ธรรมะที่ถูกต้องจริง มันรับรองตัวมันเองไม่ใช่หรือ ?

พระรูปที่จะช่วยให้ชี้แนวทางได้ ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นหรือ ?

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ฟังธรรมะจากพระอรหันต์เท่านั้นหรือ ?

พระอาจารย์ที่สอน พุทธศาสนาตอนคุณเด็ก ท่านคงไม่ใช่พระอรหันต์
แต่ท่านสอนให้คุณได้รับประโยชน์จากมันไม่ใช่หรือ ?

คำว่าความผิด ความถูก ที่เราๆ ท่านๆ เข้าใจถูกผิดตามความคิดของตัวเอง
มันไม่ช่วยให้ท่านมีความสุขอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยคนไม่มีธรรมะหรือ ?

แล้วหลวงพ่อที่ท่านคิดว่าผิด ไม่ได้ช่วยให้ท่านมีความสุขเพิ่มขึ้นมาบ้าง
กับการมีธรรมะในหัวใจบ้างหรือ ?

สุดท้ายนี้ท่านต้องกรองสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ตามหลักการพึ่งพาตนเอง
ในขณะที่ท่านต้องมีเพื่อนธรรมร่วมเดินทาง ตามหลักกัลยณมิตร
เพราะสิ่งหนึ่งกรองด้านใน สิ่งหนึ่งกรองด้านนอก
ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่เคยขัดแย้งกัน มันขัดแย้งกันเพราะท่านไม่เข้าใจมันต่างหาก

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ท่านควรอ่านแล้วพิจารณาตามหลักกาลามสูตร

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 00:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ควรหันมาแก้ปัญหาของตน...ก่อนเป็นดีที่สุด

ที่ร่ำ ๆ อยากไปแก้ปัญหาผู้อื่น..มันกิเลสตัวเป้ง ๆ ของตัวเองทั้งนั้น

ตัวเองจะตายวันไหน...ก็ไม่รู้..
จะจมอยู่ในกองมู้ดกองคูถอีกนานเท่าไร...ก็ไม่รู้

ยังมีแก่ใจไปแก้ปัญหาผู้อื่นอยู่อีกหรือ??

:b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 01:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ควรหันมาแก้ปัญหาของตน...ก่อนเป็นดีที่สุด

ที่ร่ำ ๆ อยากไปแก้ปัญหาผู้อื่น..มันกิเลสตัวเป้ง ๆ ของตัวเองทั้งนั้น

ตัวเองจะตายวันไหน...ก็ไม่รู้..
จะจมอยู่ในกองมู้ดกองคูถอีกนานเท่าไร...ก็ไม่รู้

ยังมีแก่ใจไปแก้ปัญหาผู้อื่นอยู่อีกหรือ??

:b7: :b7: :b7:





สบายดีหรือคะคุณกบ :b32:
พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ :b28:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
สบายดีหรือคะคุณกบ
พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ



ขึ้นอยู้กับไวรัสตัวนั้นมีขันธ์เท่าไหร่


(ตอบให้ขำ ครับ)

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...กัลยาณมิตรที่ดีที่สุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...ยุคปัจจุบันก็คือพระอรหันต์จริงไหม...
...พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าพระธรรมและพระวินัยจะเป็นศาสดาเมื่อตถาคตได้ล่วงลับไปแล้ว...
...ธรรมะต้องศึกษาตลอดชีวิตและต้องอาศัยการฟังจากนักปราชญ์ที่ศึกษาและเผยแผ่ธรรมะด้วย...
...การตีความพุทธพจน์และคติธรรมขึ้นกับความรู้และเข้าใจคือปัญญาที่สั่งสมมาของแต่ละบุคคล...
:b6:
...ทั้งผู้แสดงธรรมและผู้รับเอาธรรมต้องพิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจถูกจึงจะเป็นปัญญาของตน...
...การแสดงธรรมพิจารณาได้ทั้งจากการเห็นมาก่อน...ถูก-ผิดให้เข้าใจว่านั่นน่ะล้วนแต่เป็นธรรมะ...
...ให้พิจารณาก่อน...ไม่ใช่ให้หลงงมงายโดยไม่ลืมหูลืมตา...ถูก-ผิดก็แค่ให้รู้และละความเห็นที่ผิด...
...เพราะทุกสิ่งที่เราแสดงออกทั้งทางกาย วาจา จิตใจ ก็จิตใจดวงที่ทำกรรมย่อมต้องรับผลของกรรมนั้น...
:b12:
:b44: :b44:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 11 มิ.ย. 2010, 11:15, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 11:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมโชคดีที่ผมไปวัดได้หนังสือการตอบปัญหาธรรมของพระอาจารย์ เทสก์ เทสรังสี แก่ผู้สงสัยในการปฏิบัติ
จากการค้นตู้หนังสือในวัดเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมไปเจอหนังสือเก่ามากๆ

หนังสือพิมพ์เมื่อปี 2525 หรือ ราว 30ปีมาแล้ว

ตอนนั้นท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมอ่านปัญหาการปฏิบัติธรรมของหลายคนที่เป็นพระและแมีชีที่ถามปัญหากับท่าน
และท่านก็แนะนำไปว่านั่งอย่างไรให้ดีขึ้น พิจารณาอะไร
เช่น คนที่คิดว่าตัวเองได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ เราขอเตือนท่านว่าตอนนี้ท่านกำลังเสื่อมจากธรรมแล้ว

ท่านรู้จริงเพราะท่านเป็นพระอริยะสงฆ์จากกระดูกท่านที่เป็นแก้วใสหลังมรณะภาพ

ลองหาอ่านดู หนังสือ ธรรมปฏิบัติ
พิมพ์ครั้งที่2 กรกฏาคม 2524 จำนวน 600 เล่ม (หกร้อยเล่ม)
พิมพ์ที่โรงพิมพ์ ส สง่า
333ฝ4 ถนนพระราม1 กรุงเทพฯ
สง่า ชุปวา ผู้พิมพ์โฆษณา

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการปฏิบัติของตนเองว่าปฏิบัติได้ไม่หลงทาง...
...เพราะข้าพเจ้าได้สดับเทศนาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระอรหันต์...
...คือเทศนาธรรมของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนที่เทศน์สอนพระเรียกว่าแกงหม้อจิ๋ว...
...และเทศนาธรรมที่เป็นแกงหม้อใหญ่คือเทศน์สอนทั้งพระและฆราวาสในคราวเดียวกันเลย...
:b16:
...และมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อสภาวะธรรมที่ได้เคยสดับมาก่อนนั้นเกิดขึ้นและเห็นผลของการปฏิบัติเอง...
...และความเชื่ออันนั้นเพราะเหตุได้พิสูจน์แล้วไม่สงสัยด้วยเป็นปัจจัตตังคือความรู้เฉพาะตนเจ้าค่ะ...
...และแจ้งด้วยตาเนื้อว่าเจ้าอาวาสหลายรูปที่มรณภาพอัฐิเป็นพระธาตุเจอว่ามีเทปของหลวงตาในกฏิ...
...เหตุคือส่งพระลูกวัดผลัดเปลี่ยนกันหมุนเวียนกันมาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาดกับหลวงตาฯเป็นประจำ...
:b12:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...การสั่งสมบุญกุศลเข้าสู่จิตใจต้องกระทำเป็นเนืองนิตย์ทำประจำๆจนเกิดเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง...
...แม้การฟังเทศน์อันเดียวกันครั้งแรกกับครั้งที่ร้อยก็เกิดความรู้ไม่เท่ากันเพราะต้องฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
...จนไม่สงสัยและรู้ตามสภาพธรรมะนั้นๆ แต่ละอย่าง ถ้ายังไม่หายสงสัยก็ต้องฟังซ้ำๆและอยากฟังซ้ำ...
...โดยลักษณะนิสัยส่วนตัวอ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศนาธรรม ก็จะน้อมจิตเสมอว่าท่านสอนเราจริงๆ...
...การศึกษาประวัติพระพุทธเจ้าก็น้อมที่จิตตนว่าทรงแสดงความจริงเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ให้เราได้รู้...
:b20:
:b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 11 มิ.ย. 2010, 14:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 00:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


สบายดีหรือคะคุณกบ :b32:
พอดีเครื่องโดนไวรัสเล่นงานนน ฆ่าไวรัสบาปป่ะคะ :b28:


:b12: สวัสดี..ครับคุณน้ำ..

ตัวสบายดีครับ.. :b4:

:b32: ..ฆ่าไวรัส..หรือครับ..บาปหรือไม่บาป..คงต้องไปถามเจ้าไวรัส..ว่า..ขณะจะถูกฆ่า..มันรักตัวกลัวตายหรือเปล่า?? :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 00:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
:b1:
...โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการปฏิบัติของตนเองว่าปฏิบัติได้ไม่หลงทาง...
...เพราะข้าพเจ้าได้สดับเทศนาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระอรหันต์...

:b12:
:b44: :b44:


:b8: :b8: :b8: สาธุ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 07:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเพ่งโทษผู้อื่น
ไม่ใช่วิสัยของบัณฑิต
ไม่ใช่การฝึกตนแก้กิเลสตน

การเพ่งโทษตน
เป็นการฝึกตนแก้กิเลสตน
พ้นทุกข์ พ้นโศก พ้นโลกสงสาร

สาธุขอรับ :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 03:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 03:10
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยสงสัยไหมว่า? หากธรรมะปัจจุบันไม่แตกจากพุทธกาล แล้วเหตุใดเราไม่บรรลุธรรมกันเลยล่ะ ผมว่านะก็เหมือนเราลอกการบ้านครับ ซึ่งส่วนมาพอได้คำตอบแล้ว ก็มักที่จะละเลยที่จะทำความเข้าใจกับมัน สักแต่รู้สักแต่ท่อง ปัญญาในการคิดใครควรไม่เกิด รู้ก็รู้ปลอมๆแตนๆ เด็กๆก็ท่องได้ว่าอริยสัจสี่คืออะไร?และมีอะไรบ้าง? แต่อริยสัจสี่แก่นแท้จริงๆ ต่อให้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ก็คงยากที่จะเข้าถึงและเข้าใจ

เราสบายเกินไป รู้ธรรมะเหมือนเด็กเคี้ยวคำข้าว..ป้อนกินป้อนกิน..! แล้วรู้ไหมว่าข้าวคำนั้นกว่าจะได้มาต้องทำอย่างไร? เราเห็นก้อนข้าวบนโต๊ะ แต่รู้ไหมว่ากระบวนการมันมากเพียงใด? (กว่าจะปลูก-เก็บเกี่ยว-แลกเปลี่ยนซื้อขาย-ปรุงสำเร็จพร้อมทาน) มันง่ายซะจน เวลาเจอรสชาติไม่ถูกใจ จัดปัดทิ้งปวนทิ้งซะงั้น?? แถมเที่ยวมาด่าว่ากับคนป้อนข้าวอีกว่า เจ้าโน้นดีกว่าอร่อยกว่าอีก..นี่แหละวิสัยพวกเนรคุณ (ครูบาอาจารย์ท่านมีวาระธรรมไม่เหมือนกัน..การสอนก็ไม่เหมือนกัน..ไม่ชอบ-ไม่ตรงจริต..เราก็ไม่ควรดูแคลน)

ของมันอยู่ข้างในแท้ๆ..ไหงหลงไปหาข้างนอกซะล่ะ..หลงๆๆๆๆ...!
เราว่านะที่แน่ๆ..สิ่งที่เราเรียนรู้ได้,รู้สึกได้ คือ ตัวทุกข์ ไม่ต้องไปหาศึกษาธรรมเลิศหรูที่ไหนหรอก? เข้าใจมันตัวเดียวเป็นพอ รักก็ทุกข์ สุขก็ทุกข์ เขาว่ากันว่า..ความสุขคือความทุกข์ที่ลดน้อยลงไปเท่านั้น ในเมื่อทุกข์มันอยู่กับเราทุกขณะ ทุกลมหายใจ ทำไมเราไม่ศึกษาเหตุของทุกข์ซะล่ะ หากเรารู้ถึงต้นเหตุของทุกข์ ผลการที่จะดับทุกข์..คงจะต้องมีสักวัน (ยึดติดยึดมั่น พัวพันหลงไหล เชือกเกลียวเกี่ยวก่าย ว่ายวัฐวนกรรม)

ศึกษาและฝึกฝนต่อไป..// smiley // มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะ..เรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะ.. tongue


แก้ไขล่าสุดโดย anisa2521 เมื่อ 14 มิ.ย. 2010, 03:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 03:10
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนพระพุทธเจ้าศึกษาสำนักของอาฬารดาบสและอุทกดาบสนั้น ท่านปฎิบัติจนถึงฌาน 8 แต่ก็ไม่บรรลุ ท่านเห็นว่าแบบนี้ไม่ใช่ทางหลุดพ้นแน่ๆ ก็เลยขอแยกตัวลาไปปฎิบัติด้วยองค์จนตรัสรู และก็กลับไปชี้ทางให้ผู้เป็นอาจารย์ได้เห็นแจ้งตามด้วย..สาธุ

อาจารย์เสาร์เป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น แต่ศิษย์บรรลุก่อน ท่านก็ไม่เห็นยึดมั่นถือตัวเลย ท่านอาจารย์มั่นก็มาแนะกรรมฐานจนให้ผู้เป็นอาจารย์บรรลุตามกัน คนเราถ้ามีมิจฉาทิฐิ-ไม่ใจกว้างแล้ว ก็ยากที่จะปฏิบัติธรรมเห็นผล

มาเอาอย่างพระพุทธเจ้าดีไหม?
1. ท่านไม่เคยตำหนิผู้เป็นอาจารย์เลยว่าทางนี้ผิด,ทางนี้ไม่ดี (แต่เรากลับว่าครูบาอาจารย์ทั้งที่เราเองก็ไม่รู้จริงๆซะด้วยซ้ำ)
2. ในเมื่อเรารู้ว่าไม่ใช่ ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์หน่อยดีไหม? พิสูจน์ให้รู้จริงๆหน่อยดิ อย่ามีแต่จับผิดสงสัย? ไม่รู้จริงอย่ามาคิดล้มทฤษฎีเขา
3. ในเมื่อคิดว่าตัวรู้ดี ก็ทำให้ดูทีซิว่าที่ตัวเองเชื่อนะ มันเป็นอย่างนั้น-มีผลออกมาอย่างนั้นจริงๆ
4. เก่งก่อนรู้ก่อน..แล้วค่อยมาเพ่งโทษคนอื่น (อย่าดีแต่จำเขามาพูดบ้างล่ะ? เขาว่าบ้างล่ะ? ตัวเองก็ไม่ได้อะไร? พาลคนจะเกลียดกว่าเดิมซะอีก.. Onion_L ) ใช่ม๊ะ..!!


แก้ไขล่าสุดโดย anisa2521 เมื่อ 14 มิ.ย. 2010, 04:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...เพราะเหตุไม่เข้าใจสภาวะธรรมตามเป็นจริง จริงๆ จึงหลงยึดมั่นถือมั่น...
...จึงต้องเทียวเกิดเทียวตายเพื่อมาเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมะตามความเป็นจริง...
...เพราะธรรมะคือธรรมชาติที่มีการเกิด-ดับตลอดเวลาโดยจิตไปยึดมั่นถือมั่นเอาไว้...
...เมื่อไม่เที่ยงจึงเป็นอนิจจัง ไม่มีตัวตนจึงเป็นอนัตตา การไปยึดถือจึงทำให้ทุกข์เกิดเป็นทุกขัง...
...ขออ้างอิงพระธรรมเทศนาของครูบาอาจารย์สายกรรมฐานที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมา...คิดตามว่าจริง?...
...สุขๆ ทุกข์ๆ คุกขังคน จะอาศัยในประเทศอะไรก็คือคุกดีๆที่ขังจิตคนให้เทียวเกิด-ตายไม่หยุดไม่ถอย...
...และขออ้างอิงในธรรมะของผู้ที่ศึกษาพระธรรมจนเข้าใจจริงๆจากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา...
:b12:
พระธรรมเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนควรศึกษาให้เข้าใจ
http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=1032
ธรรมะคือความจริงจริงๆ
http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=725
การรู้ความจริงประเสริฐกว่าอะไรทั้งหมด
http://www.dhammahome.com/front/videoclip/show.php?tof=pl&id=664
:b12:
:b44: :b44:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 14 มิ.ย. 2010, 10:15, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร