วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 16:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


สธ.ชวนคนไทยฝึกทำสมาธิต่อต้านโรค ชะลอแก่ก่อนวัย



http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000073583


สธ. ชวนคนไทย ใช้ฤกษ์วันวิสาขบูชาโลก ฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ เกิดสติปัญญาช่วยแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน และที่สำคัญสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากความเครียด ที่ทำให้เป็นโรคอื่นๆตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง และการนั่งสมาธิยังสามารถชะลอแก่ก่อนวัยได้

นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้ (28 พฤษภาคม) เป็นวันวิสาขบูชาโลก ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นวันหยุดราชการ จึงเป็นโอกาสดีของชาวไทยที่จะใช้วันนี้ทำบุญตักบาตรได้รับบุญอิ่มอกอิ่มใจ และใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสุขภาพดีด้วยวิธีง่ายๆ สามารถทำได้ทุกวันคือ การนั่งสมาธิ เพราะการนั่งสมาธิเป็นการดูแลสุขภาพอีกวิธีหนึ่ง ทำให้เกิดความสงบทางจิตใจ หลุดพ้นจากสิ่งตึงเครียด เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา

นางพรรณสิริกล่าวว่า ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่าการทำสมาธิจะช่วยให้คลื่นสมองไม่ยุ่งเหยิง สมองสามารถหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข จะช่วยให้สมองเกิดการผ่อนคลาย ความคิดแจ่มใส ความจำดีขึ้น อารมณ์เย็นและสบายใจขึ้น นอกจากนี้การทำสมาธิยังทำให้ร่างกายสดชื่น ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดันโลหิต ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคมากขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย และยังช่วยขจัดเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็ง รวมทั้งยังขจัดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้แก่ก่อนวัยได้ด้วย

ขณะนี้วิถีการดำเนินชีวิตของคนไทย ประสบกับความกดดันต่างๆ และวิตกกังวล ทั้งจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก วิกฤตการเมือง หากประชาชนคนใดปรับตัวไม่ได้ อาจเกิดปัญหาลูกโซ่ต่างๆ ตามมามากมาย จนอาจกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูง และเกิดโรคเรื้อรังทางกายตามมาได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โดยเมื่อร่างกายประสบภาวะมีความดันโลหิตสูงอยู่เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง โดยเฉพาะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และไต อาจทำให้หลอดเลือดสมองแตกหรือตีบตัน นอกจากนั้นยังทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น จนหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายจนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

นางพรรณสิริกล่าวอีกว่า สธ.สนับสนุนให้คนไทยทุกคน ทุกวัย หันมานั่งสมาธิ ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเฉพาะในวันวิสาขบูชาเพียงวันเดียว หรือเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนา การที่ทำแล้วเกิดผลดีต่อร่างกายของตนเอง ก็ควรทำเป็นประจำทุกวัน ค่อยๆเริ่มจากวันละ 5 นาที วันต่อไปเพิ่มเป็น 10 นาที และ 15 นาที เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

“เมื่อฝึกนั่งสมาธิบ่อยๆ จิตใจก็สงบ สมองผ่อนคลายได้รับประโยชน์จากฮอร์โมนเอนดอร์ฟินอย่างเต็มที่ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี มีความสุขมากขึ้นแล้ว ผลพลอยได้ตามมาก็คือ ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นดีขึ้นกว่าเดิม ครอบครัวอยู่กันด้วยความสงบสุขมากขึ้นด้วย” นางพรรณสิริกล่าว

นางพรรณสิริ กล่าวต่ออีกว่า ในเย็นวันนี้ จังหวัดสุโขทัยจะจัดพิธีมหากุศลครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองสุโขทัยเนื่องใน “วันวิสาขบูชาโลก” โดยมีพิธีทำบุญบูชาธรรมพระสงฆ์ จำนวน 2,553 รูป สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย เวียนเทียนและจุดตะคันประทีปบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ณ บริเวณเกาะกลางแผ่นดินรูปหัวใจ ทะเลหลวง ตำบลปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย




..................................


ปล...มีความเห็นที่น่าสนใจในเว็บนั้น แต่ ผมเองก็ไม่ทราบรายละเอียด หรือ ความแม่นยำ ของเรื่องนี้นะครับ.แต่ละท่าน ควรอ่านโดยโยนิโสมนสิการด้วยความรอบครอบเอาเอง.



อ้างคำพูด:
ความคิดเห็นที่ 1

มีพระรูปหนึ่ง จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหลวงตา มหาบัว กาญจนบุรี สำเร็จวิชากฎหมายมาจากอังกฤษ ไปขออุปสมบท และปฎิบัติกรรมฐาน ในสำนักของ หลวงตา เดิมว่าจะบวชสัก 15 วัน ครบกำหนดก็ไปกราบ หลวงตา ขอลาสิกขาบท หลวงตาบอกว่า ตายในผ้าเหลืองประเสริฐกว่า ถ้าอยู่ในผ้าเหลือง บางทีอาจจะยังไม่ตายโยมของพระใหม่นั่งฟังอยู่ด้วยก็ปลาดใจ รีบนำพระลูกชายไปให้แพทย์ตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ในกรุงเทพ ฯ พบว่ามีเซลล์มะเร็งที่ปอด พระจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขา บท อยู่ปฎิบัติกรรมฐาน เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิ ท่านอธิษฐานให้มะเร็งในร่างกายหมดไป ประมาณ 3 เดือนต่อมา รู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น โยมจึงพาท่านไปให้แพทย์ตรวจใหม่ พบว่าเซลล์มะเร็งทีปอดหายไป เลยบวชไม่สึก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 14:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7920

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: ขออนุโมทนาสาธุการด้วยค่ะ คุณหมอตรงประเด็น :b8: :b8: :b8:

ตรงประเด็น เขียน:
ปล...มีความเห็นที่น่าสนใจในเว็บนั้น แต่ ผมเองก็ไม่ทราบรายละเอียด หรือ ความแม่นยำ ของเรื่องนี้นะครับ.แต่ละท่าน ควรอ่านโดยโยนิโสมนสิการด้วยความรอบครอบเอาเอง.

อ้างคำพูด:
ความคิดเห็นที่ 1

มีพระรูปหนึ่ง จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหลวงตา มหาบัว กาญจนบุรี สำเร็จวิชากฎหมายมาจากอังกฤษ ไปขออุปสมบท และปฎิบัติกรรมฐาน ในสำนักของ หลวงตา เดิมว่าจะบวชสัก 15 วัน ครบกำหนดก็ไปกราบ หลวงตา ขอลาสิกขาบท หลวงตาบอกว่า ตายในผ้าเหลืองประเสริฐกว่า ถ้าอยู่ในผ้าเหลือง บางทีอาจจะยังไม่ตายโยมของพระใหม่นั่งฟังอยู่ด้วยก็ปลาดใจ รีบนำพระลูกชายไปให้แพทย์ตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ในกรุงเทพ ฯ พบว่ามีเซลล์มะเร็งที่ปอด พระจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขา บท อยู่ปฎิบัติกรรมฐาน เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิ ท่านอธิษฐานให้มะเร็งในร่างกายหมดไป ประมาณ 3 เดือนต่อมา รู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น โยมจึงพาท่านไปให้แพทย์ตรวจใหม่ พบว่าเซลล์มะเร็งทีปอดหายไป เลยบวชไม่สึก


การสึกจากพระ ซึ่งมักจะมีผู้ใช้ว่า
“ลาสิกขาบท” เป็นการใช้ไม่ถูกต้อง
เพราะที่ถูกต้องนั้นจะต้องใช้คำว่า “ลาสิกขา”


สิกขา สิกขาบท ลาสิกขา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=32190

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณตรงประเด็น

:b48: ธรรมรักษาค่ะ :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ม.ค. 2010, 02:43
โพสต์: 4467

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


:b8: อนุโมทนา..สาธุ..ครับ..คุณตรงประเด็น :b8:

.....................................................
แบ่งปันกันกิน,รักษาศีล คือ กาย วาจา
เจริญสมาธิภาวนา, กาย- วาจา-ใจอ่อนน้อม
ยอมตนรับใช้, แบ่งให้ความดี
มีใจอนุโมทนา, ใฝ่หาฟังธรรม
นำแสดงออกไม่ได้เว้น, ทำความเห็นให้ถูกต้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2010, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การบำเพ็ญสมาธิภาวนา ก็สามารถรักษาโรคได้ (ถ้าโรคนั้นไม่ได้เกิดจาก วิบากกรรม)
เช่น ท่านพระอาจารย์ ในสายวัดป่ากรรมฐาน ท่านก็ ใช้ สมาธิวิธี ในการรักษา วัณโรค จนหายมาแล้ว ในยุคที่ยังไม่มียารักษา เป็นต้น
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร