วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 09:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเข้าใจการจำแนกจิตทั้งหมด เป็นวิญญาณธาตุ ๗ จะชัดเจนกว่า

ประมวลจิต ๘๙ เป็นวิญญาณธาตุ ๗ ประเภท คือ ...

จักขุวิญญาณธาตุ ๑

โสตวิญญาณธาตุ ๑

ฆานวิญญาณธาตุ ๑

ชิวหาวิญญาณธาตุ ๑

กายวิญญาณธาตุ ๑

มโนธาตุ ๑

มโนวิญญาณธาตุ ๑

สรุปว่า นอกจากธาตุ ๖ ประเภท ที่เหลือเป็นมโนวิญญาณครับ
แสดงว่า ช่วงปัญจทวารวิถี..................ก็มีมโนวิญญาณเกิดดับร่วมด้วย

และช่วงมโนทวารวิถี........................ก็มีมโนวิญญาณเกิดดับร่วมด้วย

ช่วงพ้นวิถี(คือภวังค์)..........................ก็มีมโนวิญญาณเกิดดับอยู่ด้วย

โดยทั่วไปทุกท่านก็ต้องทำความสะอาดร่างกาย มีมือ เป็นต้น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก

ออกจากร่างกาย หากแต่ว่าถ้าไม่เป็นผู้มีศรัทธาคือไม่เป็นผู้ยินดีในการให้ ควรแก่การขอ

แล้ว แม้จะล้างมือถึงเจ็ดครั้งก็ชื่อว่ายังมีมือเปื้อนอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นควรอย่างยิ่งที่

จะล้าง ทำความสะอาดมือด้วยการกำจัดความตระหนี่ ยินดีในการให้อันแสดงให้เห็นถึง

ความไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการครับ ผู้มีศรัทธาจึงเป็นผู้ปรารถนาพบผู้มี

ศีล ยินดีในการฟังธรรมและกำจัดความตระหนี่ยินดีในการให้ด้วยครับ ความสะอาดจึง

ไม่ได้อยู่ที่น้ำล้างมือแต่อยู่ที่ใจที่ยินดีในการให้ ละคลายความตระหนี่ มีใจไม่ขัดข้อง

ในการให้ จึงขื่อว่ามีมืออันล้างแล้วอันแสดงถึงเป็นผู้มีศรัทธา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 192

๒. ฐานสูตร

ว่าด้วยลักษณะผู้มีศรัทธา ๓ ประการ

ผู้ใดใคร่ในการเห็นผู้มีศีล ปรารถนาจะฟังพระสัทธรรม กำจัดมลทินคือความ

ตระหนี่เสียได้ ผู้นั้นชื่อว่า ผู้มีศรัทธา.
เรื่อง มีมืออันล้างแล้ว

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 193

อรรถกถาฐานสูตร

บทว่า วิคตมลมจฺเฉเรน ความว่า ปราศจากมลทินคือความตระหนี่.บทว่า มุตฺตจาโค

ความว่า มีการสละโดยไม่ข้องใจ.บทว่า ปยตปาณีความว่า มีมืออันล้างแล้ว อธิบาย

ว่า ผู้ไม่มีศรัทธา แม้จะล้างมือถึง ๗ ครั้งก็จัดว่ายังมีมือเปื้อนอยู่นั่นแล แต่คนมีศรัทธา

ชื่อว่ามีมืออันล้างสะอาดแล้วทีเดียว เพราะเป็นผู้ยินดียิ่งแล้วในทาน. บทว่า โวสฺสคฺคร

โต ความว่ายินดีแล้วในทาน กล่าวคือการเสียสละ. บทว่า ยาจโยโค ความว่า สมควร

ให้ขอ. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ยาจโยโค เพราะมีความเหมาะสมกับด้วยยาจกทั้งหลาย

บ้าง.บทว่า ทานสวิราครโต ความว่า เมื่อจะให้ทานก็ดี เมื่อจะทำการจัดแบ่งก็ดี ย่อม

เป็นผู้ชื่อว่า ยินดีในทานและการจัดแบ่ง.

เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทานกับแม่และหลาน
อนุโมทนาบุญกับผู้ใส่บาตรตามวัด กรวดน้ำอุทิศบุญ
เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน
รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม
ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ
ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน
และจะเจริญอาโปกสิน
รักษาอาการป่วยของแม่ทุกวัน
และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายเทียนพรรษา
085-0889150

ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิจงบรรลุมรรคผลนิพพานเทอญ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron