วันเวลาปัจจุบัน 16 มิ.ย. 2025, 16:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2010, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

เบิกบานกับปัจจุบัน (ลป.ชา)

เจ้าอารมณ์ข่มอะไรที่ไหนเล่า
ก็ข่มใจของเจ้ามิใช่หรือ
เจ้าอารมณ์ข่มอะไรที่ไหนฤา
แท้ก็คือขืนข่มอารมณ์เอง

มีอำนาจยิ่งยงเป็นองค์เจ้า
เยี่ยงขุนเขามั่นคงดำรงเคร่ง
อารมณ์เลวอารมณ์ชั่วไม่กลัวเกรง
เพราะตนเองนี่ไงเล่าเจ้าอารมณ์

จิตที่เบิกบานอยู่กับปัจจุบันขณะ
คือจิตที่พร้อมรับผัสสะอยู่ทุกขณะแห่งอารมณ์
ผัสสะที่ก่อให้เกิดความรู้สึกยินดี ก็กำหนดรู้ตามความเป็นจริง
ผัสสะที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ยินดี ก็กำหนดลดละปลดปล่อย
ทุกผัสสะแห่งการกระทบทางอายตนะหก
จงมองให้เห็นเป็นเรื่องตลกในอารมณ์
ไม่ว่าจะเป็นสุขเวทนา หรือทุกขเวทนา จงมองให้เห็นอนิจจาในอารมณ์ สุขก็ไม่เที่ยง ทุกข์ก็ไม่เที่ยง
อย่าเอาจริงเอาจังกับความสุข อย่าเอาเป็นเอาตายกับความทุกข์

สุขทุกข์ในจิตเราก็เหมือนอาการหัวเราะและร้องไห้ของเด็กทารกอ่อนไร้เดียงสา บัดเดี๋ยวเกิด บัดเดี๋ยวดับ บัดเดี๋ยวมา บัดเดี๋ยวไป บัดเดี๋ยวใส บัดเดี๋ยวขุ่น สุขทุกข์มีไว้ให้เห็น มิได้มีไว้ให้เป็น แม้เรายังไม่ถึงขั้นพ้นสุขและพ้นทุกข์ในทางจิตโดยสิ้นรอบ ขอเพียงแต่กำหนดรู้เท่าทันสุขทุกข์ด้วยสติปัญญาที่แยบยล ก็นับว่ายอดเยี่ยมยิ่ง

เมื่อรู้ทางหนีทีไล่ของกิเลสในจิต ก็นับว่าง่ายที่จะพิชิตเอาชัยกับศัตรูภายใน ณ ใจตน อ่านอารมณ์เหมือนอ่านหนังสือ แม้หนังสือจะพิมพ์ผิด เราก็อ่านให้ถูก นวนิยายกำลังภายในของโกวเล้ง ที่ว่ากันว่าอ่านแล้วติดใจจนวางไม่ลงนั้น ยังไม่ชวนตื่นเต้นและน่าติดตาม เหมือนการอ่านอาการจิตของตนเอง
.........................................................................................


แปรสุข เป็นวัคซีน (ลป.ชา)

ชาวกีวี ยิ้มแย้ม แต้มใบหน้า
คนชรา ชอบเดินเหิน หากเดินไหว
เยาวชน ก็ร่ำเรียน เขียนอ่านไป
ทั้งผู้ใหญ่ ก็ทำงาน กิจการตน

ในความสุขสดสวยด้วยธรรมชาติของเมืองควีนส์ทาวน์ แห่งนิวซีแลนด์ เราได้ของแถมเป็นความทุกข์จากกระแสลมอันหนาวเหน็บพัดกระหน่ำ สายฝนโปรยปรายและพรั่งพรูลงสู่พื้น ความสุขสดชื่นก็พลอยเหี่ยวเฉา เมื่อฝนมาฟ้ามัว แต่เมื่อฝนซา ฟ้าใส ส่องประกายสายรุ้งนิวซีแลนด์ ความสวยสดงดงามที่ตามมาหลังสายฝน คือสุขที่เดินตามหลังทุกข์
สุขมิใช่มีไว้ให้เสพ เพราะสุขไม่จีรังยั่งยืน ทุกข์เท่านั้นที่เที่ยงแท้
ความสวยสดงดงามที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งอย่างพอดี
ไม่มากไป ไม่น้อยไป สอดคล้องต้องใจของคนที่นิยมชมชอบ การรักษาความบริสุทธิ์ของแหล่งน้ำสาธารณะให้ผลตอบแทนเกินคาด ธรรมชาติย่อมให้รางวัลแก่ผู้ที่มีกะจิตกะใจรักษาธรรมชาติ อย่างสะอาดดี กระแสคลื่นที่ส่งเสียงหัวเราะอยู่ริมตลิ่ง บอกเล่าถึงน้ำใจของมวลมนุษย์ เป็ดน้อยที่ว่ายน้ำอย่างร่าเริง บอกเล่าถึงเมตตาธรรมค้ำจุนโลกลูกนี้ ความสุข มีไว้ให้อาศัย ด้วยจิตใจที่รู้เท่าทันในธรรมชาติของสังขารขันธ์ มวลมนุษย์จำนวนมากพากันหลงใหลใฝ่รักอยู่ในกับดักแห่งความสุข ทั้งที่ความจริงมันก็คือกระแสคลื่นที่ก่อตัวเข้าหาฝั่งแล้วแตกกระจาย ชื่นชมธรรมชาติในขณะที่ยังมีธรรมชาติให้ชื่นชม โดยไม่จ่อมจมในจิตใจ มีความสุขกับน้ำใส ก่อนที่จะไม่เหลือน้ำใสให้เป็นสุข

........................................................................................

อารมณ์หมาแทะกระดูก (ลป.ชา)

จงห้ำหั่นตัณหาที่พาโหย
ที่โอดโอยออดอ้อนเพราะอ่อนหัด
จงหยุดอยากที่ต่ำช้าสารพัด
จงฝึกหัดตัดกามอย่าตามใจ

แต่ความอยากชนิดดีก็มีอยู่
อยากเป็นผู้ล้างละอนุสัย
อยากสร้างสรรค์สิ่งดีไม่มีภัย
อยากเข้าไปให้มากเถิดประเสริฐเอย

ปัญหาของความรักมีกันทุกคน ไม่มีใครไม่มีปัญหา เพราะว่าอารมณ์แห่งความรัก อารมณ์แห่งความปรารถนา ในทางเพศทางกามเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม เพียงแต่ว่าในคนที่อยู่ในวัยหนุ่มวัยสาวจำนวนมาก ยังหารู้ความจริงในเรื่องนี้ไม่ ยังคงหลงใหลเตลิดเปิดเปิงไปตามอารมณ์อยู่มิรู้แล้ว และบางทีก็กลายเป็นการเข่นฆ่าราวีกัน ทำลายชีวิตเอาเป็นเอาตายกับเรื่องเหล่านี้ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เป็นเรื่องจริง

ในพระไตรปิฎก มีกล่าวไว้ สรุปความว่า อารมณ์กามแบบนี้เป็นเหมือนหมาแทะกระดูก หมาไม่ได้กินเนื้อเป็นชิ้นเป็นอันหรอก หมาเพียงอร่อยอยู่กับน้ำลายของตัวเอง

กามนั้นเกิดจากความดำริ ถ้าดำริก็เป็นกาม ถ้าไม่ดำริก็ไม่เป็นกาม

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


แก้ไขล่าสุดโดย วรานนท์ เมื่อ 27 มี.ค. 2010, 20:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
จิตที่เบิกบานอยู่กับปัจจุบันขณะ
คือจิตที่พร้อมรับผัสสะอยู่ทุกขณะแห่งอารมณ์
ผัสสะที่ก่อให้เกิดความรู้สึกยินดี ก็กำหนดรู้ตามความเป็นจริง
ผัสสะที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ยินดี ก็กำหนดลดละปลดปล่อย
ทุกผัสสะแห่งการกระทบทางอายตนะหก
จงมองให้เห็นเป็นเรื่องตลกในอารมณ์
ไม่ว่าจะเป็นสุขเวทนา หรือทุกขเวทนา จงมองให้เห็นอนิจจาในอารมณ์ สุขก็ไม่เที่ยง ทุกข์ก็ไม่เที่ยง
อย่าเอาจริงเอาจังกับความสุข อย่าเอาเป็นเอาตายกับความทุกข์


:b8: สาธุค่ะ :b8:

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร