วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 01:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เผอิญผมทราบแต่ประวัติ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ว่าท่านทรงอธิษฐานไว้ว่า "ช่วยสรรพสัตว์หมดเมื่อใดจึงขอบรรลุสัมมาสัมโพธิ หากนรกยังไม่ว่างจากสัตว์นรก ปฏิญาณไม่ขอสำเร็จเป้นพระพุทธะ" นับว่าทรงมีปณิธานสูงส่ง น่าอนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง พระองค์เป็นหนึ่งใน จตุรมหาโพธิสัตว์ แห่งพุทธมหายาน โดยสรรเสริญว่า "ด้านมหาปัญญา ควรสรรเสริญ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์, "ด้านมหาจิรยา" ควรสรรเสริญ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์, "ด้านมหากรุณา" ควรสรรเสริญ พระกวนอิมโพธิสัตว์ และ "ด้านมหาปณิธาน" ควรสรรเสริญ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ แต่อีกสามพระองค์ผมไม่ทราบประวัติรบกวนผู้รู้ช่วยด้วยครับ

ส่วนประวัติ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ มีดังนี้
พระสูตรของมหายานกล่าวว่า พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ได้จุติมาเกิดเป็นราชโอรสของอาณาจักรซินหลอ(คาบสมุทรเกาหลีในปัจจุบัน)ซึ่งตรงกับสมัยพระนางบูเช้กเทียนแห่งราชวงศ์ถังของจีน เดิมแซ่ "กิม" ชื่อ "เกียวกั๊ก" ออกบวชแต่อายุเยาว์ เดินทางมาเผยแผ่พระธรรมที่เมืองจีนรัชสมัยถังเสียนจงฮ่องเต้ บำเพ็ญเพียรบนเขาจิ่วหัวซัน มณฑลอานฮุย ครั้นอายุ 99 พรรษาก็นั่งสมาธิดับขันธ์ด้วยอาการสงบหลังจากเก็บศพไว้ 3 ปี ปรากฏว่าวากศพไม่เน่าหน้ายังคงสีเลือดเหมือนคนมีชีวิต เวลาหามโครงกระดูกเคลื่อนไหว
และเกิดเสียงดังเหมืองเสียงโซ่ทองกระทบกัน ทุก ๆ วันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ เดือน 7 เป็นวันคล้ายวันสมภพและวันบรรลุธรรมของพระองคืท่านสาธุชนจากทั่วสรทิศจะหลั่งไหลมายังภูเขาจิ่วหัวซัน เพื่อนมัสการกราบไหว้พระสถูปเจดีย์มังสะกานแห่งพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และประกอบพิธีเฝ้าพระปรางคื พร้อมด้วยการสวดมนต์เวียนเทียนรอบพระปรางค์จนถึงรุ่งสว่าง(กษิติ แปลว่า ดิน, ครรภ์ แปลว่า ใต้ เพราะท่านโปรดสัตว์นรกซึ่งอยู่ใต้ดินจึงเรียกพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ตรงกับภาษาจีนว่า ตี้จัง ซึ่งแปลว่า ใต้ดิน )

ยังมีประวัติพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระกวนอิมโพธิสัตว์ รบกวนผู้รู้ทุกท่านด้วย

อย่างประวัติพระอมิตาพุทธภเจ้า เราสามารถศึกษาได้จากมหาสุขาวดีวยุหสูตร ประวัติว่าแต่เดิมท่านคือภิกษุชื่อธรรมกร แล้วเพียรสร้างความดีเพื่อแดนสุขาวดีพุทธเกษตรสุขสันต์เพื่อโปรดสรรพสัตว์ แดนสุขาวดีพุทธเกษตรก็เกิดจากบุญกุศล และปัญญาบารมีของท่าน จึงกำเนิดสุขาวดีพุทธเกษตรขึ้นเพื่อรองรับปณิธานที่ท่านจะโปรดสรรพสัตว์ให้ถึงความสมตาหรือเท่าเทียม เพียงเอ่ยพระนามของพระอมิตาพุทธเจ้า ซึ่งผมงง ข้อความของคุณอมิตาพุทธตรงที่ว่า "พระธยานิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน อวตารมาจากพระอาทิพุทธะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธะเจ้า แล้วพระอมิตาภะพุทธะ ก็จัดเป็นพระธยานิพุทธะด้วย งั้นก็ต้องสำเร็จและกำเนิดมาจากฌานของพระอาทิพุทธะเจ้าด้วยใช่หรือไม่ครับ แต่ทำไมตามประวัติของพระอมิตาพุทธเจ้าที่อ่านในมหาสุขาวดีวยุหสูตรท่านกำเนิดเป็นมนุษย์เป็นพระพุทธเจ้าประเภทที่เป็นมานุษพุทธะไม่ใช่เกิดด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธะเจ้านี่ครับ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 04:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


perish เขียน:
...
ยังมีประวัติพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระกวนอิมโพธิสัตว์ รบกวนผู้รู้ทุกท่านด้วย

มีแต่ประวัติย่อ พอสังเขป เดี๋ยวเอามาลงให้ครับ :b8:
perish เขียน:
อย่างประวัติพระอมิตาพุทธภเจ้า เราสามารถศึกษาได้จากมหาสุขาวดีวยุหสูตร ประวัติว่าแต่เดิมท่านคือภิกษุชื่อธรรมกร แล้วเพียรสร้างความดีเพื่อแดนสุขาวดีพุทธเกษตรสุขสันต์เพื่อโปรดสรรพสัตว์ แดนสุขาวดีพุทธเกษตรก็เกิดจากบุญกุศล และปัญญาบารมีของท่าน จึงกำเนิดสุขาวดีพุทธเกษตรขึ้นเพื่อรองรับปณิธานที่ท่านจะโปรดสรรพสัตว์ให้ถึงความสมตาหรือเท่าเทียม เพียงเอ่ยพระนามของพระอมิตาพุทธเจ้า ซึ่งผมงง ข้อความของคุณอมิตาพุทธตรงที่ว่า "พระธยานิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในคติความเชื่อของมหายาน อวตารมาจากพระอาทิพุทธะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธะเจ้า แล้วพระอมิตาภะพุทธะ ก็จัดเป็นพระธยานิพุทธะด้วย งั้นก็ต้องสำเร็จและกำเนิดมาจากฌานของพระอาทิพุทธะเจ้าด้วยใช่หรือไม่ครับ แต่ทำไมตามประวัติของพระอมิตาพุทธเจ้าที่อ่านในมหาสุขาวดีวยุหสูตรท่านกำเนิดเป็นมนุษย์เป็นพระพุทธเจ้าประเภทที่เป็นมานุษพุทธะไม่ใช่เกิดด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธะเจ้านี่ครับ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ไม่ทราบว่า ได้อ่านความเชื่อเรื่องตรีกายของมหายานหรือครับ
ลองกลับไปอ่านที่กระทู้เก่าดูนะครับ
:b1:
viewtopic.php?f=1&t=27804
ภิกษุธรรมกร ในสมัยนั้น ท่านก็น่าจะเป็น นิรมาณกาย ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 04:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: พระมัญชุศรีโพธิสัตว์
(ภาพบฏพู่กันจีน ของคณะสงฆ์จีนนิกาย แห่งประเทศไทย)

m1.JPG
m1.JPG [ 44.51 KiB | เปิดดู 15887 ครั้ง ]
พระมัญชุศรีโพธิสัตว์
(文殊師利菩薩)


พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ มีความหมายว่า ประเสริฐยิ่ง มงคลยิ่ง (妙吉祥) สวยงามยิ่ง
พระองค์ เป็นองค์แทนของพระมหาปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง
ทั้งทรงมีหลายพระนามเช่น มัญชุโฆษ(五字文殊) มัญชุกุมารภูตะ(文殊童子)
มัญชุศรีธรรมราชกุมาร(文殊法王子) มหามติโพธิสัตว์ (大智菩薩) เป็นต้น
พระองค์ทรงปรากฏอยู่ในพระสูตรต่างๆ มากมายในฐานะของผู้อาราธนาพระพุทธเจ้า
ให้แสดงธรรมเทศนา หรือเป็นผู้บรรยายธรรม หรือโต้ธรรมกับพระโพธิสัตว์ด้วยกัน
หรือกับพระอรหันตสาวก


มหายานจะบูชาพระองค์ท่านเพื่อความมีสติปัญญาดี
รู้แจ้งแทงตลอดในอรรถธรรมที่ลึกซึ้ง
เพราะว่าพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ทรงเป็นมหาโพธิสัตว์ชั้นสูง
ทรงเป็นอาจารย์ของพระพุทธเจ้าทั้งปวง กล่าวคือพระมัญชุศรีทรงสั่งสอนและชี้แนะ
แนวทางของโพธิสัตว์หรือแนวทางที่จะให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าคือบารมี ๖
มีทาน ศีล ขันติ วิริยะ ฌาน ปัญญา
ให้แก่พระพุทธเจ้าทั้งปวงในตอนที่ยังมิทรงตรัสรู้
ทั้งคอยชี้แนะการบำเพ็ญโดยตลอด พระพุทธเจ้าทั้งปวงจึงทรงสรรเสริญพระมัญชุศรีว่า

“มัญชุศรีเป็นผู้ยังให้เราได้ตรัสรู้พระโพธิญาณ ทั้งเป็นคุรุแห่งเราในสมัยนั้น”

พระมัญชุศรีโพธิสัตว์มีพระมหาปณิธานว่า
“หากสรรพสัตว์ใดได้สดับพระนามแล้วจิตใจตั้งมั่น ระลึกอยู่แต่พระองค์
หากสรรพสัตว์นั้นมิได้บรรลุถึงปัญญาญาณอันยิ่งใหญ่แล้วไซร้
พระองค์จะมิขอสำเร็จพระโพธิญาณ ฯลฯ”
ด้วยความตั้งพระทัยอันยิ่งใหญ่นี้ ทำให้พระองค์ยังให้สรรพสัตว์จำนวนมหาศาล
สำเร็จซึ่งพุทธปัญญาอันยิ่งใหญ่แล้ว


พระปฏิมาหรือภาพวาดของพระองค์ทางจีนและธิเบต
จะให้พระองค์ประทับบนพญาราชสีห์สีเขียว
อันแสดงถึงการประกาศธรรมหรือการแสดงธรรมที่เปี่ยมด้วยเดชานุภาพ
คือพระมหาปัญญาญาณที่ยิ่งใหญ่ ปราศจากอุปสรรค และมิมีผู้ใดปราดเปรื่องไปยิ่งกว่า
ประดุจการคำรามหรือการบันลือสิงหนาทของพญาราชสีห์ ที่หากคำรามขึ้นคราใด
บรรดาสรรพสัตว์น้อยใหญ่ก็ให้ขยาดหวั่นเกรงมิกล้าออกมาต่อกร
ความหมายคือพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งปวง
ทรงประกาศธรรมที่เป็นความจริงแท้ของสรรพสิ่ง คือความทุกข์ของความไม่เที่ยง
ยังให้สรรพสัตว์หรือมารเดียรถีร์ที่ยังลุ่มหลงอยู่ ตระหนกตกใจและหวั่นเกรง
ในภัยของวัฏสงสาร เร่งรีบหันกลับมาบำเพ็ญธรรมด้วยความไม่ประมาณ
บางแห่งประทับบนดอกบัวก็มี บางแห่งจะทรงถือพระขรรค์ที่พระหัตถ์ขวา
หมายถึงการตัดบ่วงแห่งวิจิกิจฉาความสงสัยที่ผูกมัดจิตให้ขาดสิ้น
พระหัตถ์ซ้ายทรงถือคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตร แสดงถึงศูนยตาความว่างเปล่าแห่งธรรมทั้งปวง
บางแห่งก็ทรงถือคฑาจินดามณี (如意)


ที่มา :
โดย...ภิกษุจีนวิศวภัทร (沙門聖傑 )
วัดเทพพุทธาราม(仙佛寺) จ.ชลบุรี

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


แก้ไขล่าสุดโดย อมิตาพุทธ เมื่อ 02 ม.ค. 2010, 04:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2010, 04:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: พระสมันตภัทรโพธิสัตว์
(ภาพบฏพู่กันจีน ของคณะสงฆ์จีนนิกาย แห่งประเทศไทย)

sa1.JPG
sa1.JPG [ 42.63 KiB | เปิดดู 15881 ครั้ง ]
พระสมันตภัทรโพธิสัตว์
(普賢菩薩)


พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ มีความหมายคือ ผู้เจริญโดยรอบ ผู้ประเสริฐโดยรอบ
บ้างก็เรียกว่าพระวัชรสัตว์(金剛薩埵) พระองค์ทรงปรากฎเป็นพระมหาจริยาธิคุณอันยิ่งใหญ่
ของพระพุทธเจ้าทั้งปวง มักจะปรากฏคู่กับพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ในฐานะหัวหน้าของพระโพธิสัตว์ทั้งปวง
ในพระสูตรกล่าวว่าพระองค์ทรงเป็นสภาวะของจักรวาล มีความว่างเปล่าและยิ่งใหญ่ประดุจอากาศ
ทรงมีมหาปณิธาน ๑๐ ประการ ที่สาธุชนนิยมสวด
สาธยายและยึดถือปฏิบัติดังนี้


๑.ขอคารวะนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้าทั้งปวง
๒.ขอกล่าวสดุดีพระตถาคตเจ้าทั้งปวง
๓.ขอถวายสักการะด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ
๔.ขอขมาสำนึกในความผิดบาปทั้งปวง
๕.ขออนุโมทนาในบุญกุศลทั้งปวง
๖.ขออาราธนา(พระพุทธเจ้าทั้งปวง)ให้ทรงหมุนเคลื่อนพระธรรมจักร
๗.ขออาราธนา(พระพุทธเจ้าทั้งปวง)ให้ทรงดำรงพระชนมชีพอยู่ในโลก
๘.ขอศึกษาบำเพ็ญตามพระพุทธองค์
๙.ขออนุโลมคล้อยตามสรรพสัตว์
๑๐.ขออุทิศซึ่งกุศลบารมีทั้งปวง(แด่สรรพสัตว์และโพธิญาณ)


ด้วยพระมหาปณิธานทั้ง ๑๐ ประการนี้ สาธุชนมหายานจึงถวายสมญาแด่พระองค์ว่า
“มหาจริยาราชาโพธิสัตว์” (大願王菩薩,大行王菩薩)
คือพระผู้มีกิจกรรมและการกระทำที่ประเสริฐและยิ่งใหญ่

พระปฏิมาของพระองค์ประทับบนคชสารเผือก ๖ งา หมายถึงพระโพธิสัตว์เป็นผู้มีพละกำลังมาก
เหมือนช้างสาร สามารถบรรทุกนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามห้วงทะเลแห่งสังสารวัฏได้คราวละมากๆ
และ ๖ งานั้นหมายถึงบารมี ๖ ประการของพระโพธิสัตว์ที่เป็นเครื่องยังให้บรรลุถึงความเป็นพระพุทธเจ้า
และช้างเผือกนั้น หมายถึงความเป็นสัตว์ประเสริฐหายากและเป็นสิ่งมงคล
ภาพศิลปะโบราณจะวาดคชสารที่ประทับนี้มี ๗ ขา ซึ่ง
หมายถึงตอนพระพุทธประสูติ ทรงก้าวเดิน ๗ ก้าว แล้วบันลือสิงหนาทอันยิ่งใหญ่ว่า
“ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในจักรวาล”
ซึ่งถ้าเป็นสัตว์ชนิดอื่นก็มิอาจทำได้เช่นนี้ หรืออาจเปรียบช้างนี้ได้กับ
มหายานที่สามารถนำพาสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ทีละมากๆ
ทางธิเบตให้พระองค์ทรงถือวัชราวุธในพระหัตถ์ขวา และทรงระฆังวัชระที่พระหัตถ์ซ้าย
ในนามของ“พระวัชรสัตว์” ที่แปลว่า สัตว์ผู้มีความแข็งแกร่งประดุจเพชร
ซึ่งภายในสรรพสัตว์ทั้งปวงก็มีความแข็งแกร่งประการนี้อยู่ หรือก็คือพุทธภาวะนั้นเอง


ที่มา :
โดย...ภิกษุจีนวิศวภัทร (沙門聖傑 )
วัดเทพพุทธาราม(仙佛寺) จ.ชลบุรี

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 04:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
(ภาพบฏพู่กันจีน ของคณะสงฆ์จีนนิกาย แห่งประเทศไทย)

aa1.JPG
aa1.JPG [ 37.87 KiB | เปิดดู 15852 ครั้ง ]
พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
(觀世音菩薩)

พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ แปลว่า พระโพธิสัตว์ผู้เพ่งมองด้วยความเป็นอิสระ (觀自在菩薩)
และพระโพธิสัตว์ผู้เพ่งพิจารณาในกระแสเสียงของโลก (觀世音菩薩)
หรือที่สาธุชนทั่วไปรู้จักพระองค์ในนามของ “กวนอิม” ผู้เปี่ยมด้วยพระมหาเมตตา พระมหากรุณา


ในคัมภีร์พระสูตรหลายเล่มกล่าวถึงพระองค์ว่า
หากได้สรรเสริญเอ่ยขานพระนามของพระองค์ด้วยความศรัทธาแล้ว
ถึงแม้จะตกในหลุมเพลิง หลุมเพลิงจะกลายเปลี่ยนเป็นสายชล
หากจมน้ำจะได้พบที่ตื้นเขิน หากพลัดตกจากเขาสูง ก็จะล่องลอยอยู่ในอากาศ
ภูติผีปีศาจร้ายมิกล้าแม้แต่จ้องมอง ฯลฯ เป็นต้น
นี้แลคือพลานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์อันจักตอบสนองได้
ทุกความต้องการของสรรพสัตว์ ยังให้พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เป็นที่เคารพบูชาของ
สาธุชนมากที่สุด ผนวกกับเรื่องราวปฏิหาริย์แห่งเมตตาของพระองค์ที่มีบันทึกสืบทอดต่อเนื่องมา
แต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันมิได้ขาด ยังให้ทุกครัวเรือนรู้จักและกราบไหว้พระโพธิสัตว์พระองค์นี้
ด้วยรูปลักษณะต่างๆ นานัปการ


แต่เดิมมานั้นพระอวโลกิเตศวรทรงวิภูษณะอาภรณ์แบบมหาบุรุษ ตามแบบอินเดียโบราณ
(ชมได้ที่โรงพยาบาลเทียนฟ้า วงเวียนโอเดียน) เมื่อมาถึงประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง
ก็ยังคงศิลปะอินเดียแบบเปลือยพระอุระอยู่ แต่พอมายุคหลังคือสมัยราชวงศ์หยวน
พระอวโลกิเตศวรจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นสตรีเพศ เนื่องจากคติความเชื่อในเรื่องของ
องค์หญิงเมี่ยวซ่าน (妙善) ที่ทรงเคร่งครัดและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาก ทรงเปี่ยม
ด้วยเมตตาการุญต่ออาณาประชาราษฎร์ ที่ในสมัยนั้นพระราชบิดาของพระองค์ทรงเป็นทรราช
ชอบทำศึกสงครามขูดรีดประชาชน ฯลฯ องค์หญิงพระองค์นี้ทรงถือกำเนิดมาเพื่อปลดเปลื้อง
ทุกข์เข็ญของปวงประชาในครั้งนั้น ทรงยังให้พระราชบิดากลับพระทัยได้ ด้วยเหตุนี้
จึงทำให้รูปปฏิมากรของพระอวโลกิเตศวรเป็นสตรีอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
และพระองค์ยังทรงนิรมาณกายได้หลากหลายคือ หากผู้มีจริตสมควรได้รับการโปรดด้วยรูปกาย
ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกโพธิ พระอรหันตสาวก ท้าวมเหศวร องค์อินทราธิราช ท้าวจตุโลกบาล
พุทธบริษัท ๔ พราหมณ์ สตรีเพศ เด็กหญิงเด็กชาย หรือจักเป็นเทวดา ยักษ์ นาค อสูร กินนร
มโหราค(ภูติชนิดหนึ่งมีร่างเป็นงูใหญ่) ครุฑ มนุษย์และอมนุษย์ทั้งปวง
พระอวโลกิเตศวรก็จักอวตารกายเป็นรูปลักษณ์ที่ประเสริฐอลังการกว่าบุคคลนั้น
เพื่อสยบทิฐิมานะของผู้นั้นเสียก่อนแล้วจึงเทศนาธรรมโปรดในภายหลัง
พระปฏิมารูปเคารพของพระอวโลกิเตศวรมีพระหัตถ์ตั้งแต่ ๒ ขึ้นไปจนถึง ๑,๐๐๐
บางแห่งสร้างถึง ๘๔,๐๐๐ พระหัตถ์ก็มี ทั้งยังมีพระเนตรและพระเศียรจำนวนมากมาย
ตามจำนวนดังกล่าวนี้ด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงพระมหาเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาล
สามารถสอดส่องช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้อย่างทั่วถึงเป็นต้น


ที่มา :
โดย...ภิกษุจีนวิศวภัทร (沙門聖傑 )
วัดเทพพุทธาราม(仙佛寺) จ.ชลบุรี

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณมากๆๆเลยครับ ความรูที่ดีอยากแบ่งปันให้ท่านอื่นได้อ่านบ้างจังเลยครับ

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร