สิ่งไหนๆก็ไม่ได้สมมุติว่ามันเป็นอะไรอยู่เองแล้ว ก่อนจะให้ความเห็นความหมายมันก็ไม่มีความเห็นความหมายอยู่เองแล้ว ก่อนจะติด มันก็ไม่ได้ติดกันอยู่เองแล้ว มันหลุดกันอยู่เองแล้ว ไม่วุ่นวายกันอยู่เองแล้ว ไม่อะไรกับอะไรอยู่เองแล้ว ที่ไม่ตั้ง ไม่ต้องอยู่เองแล้ว สุญญตาอยู่เองแล้วตลอด

ขออนุญาตคุณพงพัน ตอบนะขอรับ
ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/
ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

มันก็ค่อยๆปลงได้มากขึ้นล่ะครับ
อาศัยการเข้าไปพิจารณาเห็นความจริง ธรรมชาติของกาย ใจ ความเป็นไตรลักษณ์ของมัน
น๊อตที่ยึดไว้เหนียวแน่นก็ต้องหมั่นขัน สักวันก็หลุด
กิเลส ตัณหามันเหนียวแน่น ก็ต้องหมั่นพิจารณาถอดถอน สักวันก็หลุด
เมื่อกิเลส ตัณหาต่างๆคลายแล้วจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า
ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นอิสระต่อกันของมันอยู่แล้ว
ไม่มีสิ่งใดยึดมั่นถือมั่นไว้ได้แต่อย่างใด