วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 22:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 16:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณคุณชาติสยามที่เอาพระราชดำรัสของในหลวงมาโพสล์นะคะ จุฬาภินันท์ขอตัดตอนมาจากกระทู้ของคุณชาติสยามค่ะ

จุฬาภินันท์คิดเสมอว่าคำตรัสของในหลวงลึกซึ้ง ทุกๆปี คำตรัสที่ทรงพระราชทานในวันเฉลิมของพระองค์ มีความหมายมากกว่าแค่คำตรัสน่ะค่ะ

ช่วยกันหาหน่อยได้มั้ยคะ จุฬาภินันท์มีประเด็น อยากรู้ความเห็นของคุณๆค่ะ

อ้างคำพูด:
“...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข..

ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสัมฤทธิ์ผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น

จึงขอให้ท่านทั้งหลาย ในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอัน ไพบูลย์ เพื่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ที่ทำกินของเรามีความเจริญมั่นคง ยั่งยืนไป..."


๑. ความสุขความสวัสดีของบ้านเมือง กับ ความพอเพียง

๒. ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ กับ การปฏิบัติธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


chulapinan เขียน:
๒. ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ กับ การปฏิบัติธรรม


ผมว่าตีความยาก เพราะคำพูดท่านตรงนี้มันลึกซึ้ง
จะขยายก็ได้ไม่จำกัดสำนวน
จะพูดในทางขมวดก็สั้นได้จุ๊ดจู
จะพูดในทางปฏิบัติกิจการใดๆแบบโลกก็ได้
จะพูดในการปฏิบัติธรรมก็ได้
จะพูดเป็นหลักคิดในชีวิตการทำงานก็ได้
จะพูดเป็นมหาสติปัฏฐานสุตรก็ได้ ก็สามารถยกกายานุปัสยา และจิตตานุปัสนา มาก็ได้
ความจริงทั้งสี่บรรพพูดอันใดมันก็เนื่องกันหมดอยู่แล้ว เพราะมันไปสุดรวมกันอยู่ที่จิต


จับย่อหรือขยายได้สุดประมาณ แล้วแต่ภูมิผู้รับฟัง

เหมืนอฝนตกเต็มฟ้า แล้วแต่ผู้ใดมีภาชนะอย่างไรไปรับเอา
ถ้าผู้รับมีใจที่มีสมรรถนะดั่งท้องทะเล ย่อมรับไว้ได้มากมายสุดคณา

:b13: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 07 ธ.ค. 2009, 18:57, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
“...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของ
เรามีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข..

ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสัมฤทธิ์ผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น….”


พระราชดำรัสในหลวง มีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว ไม่เห็นจะซับซ้อนตรงไหน
ท่อนแรก ในหลวงท่านจะมีความสุขมีความสวัสดี (อยู่ดี)ได้ก็ด้วยบ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติและมีความเจริญ
มั่นคง...

...ต่อมา ความมั่นคงของประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นจะเป็นอย่างนั้นได้ ก็ด้วยทุกคนปฏิบัติหน้าที่กันด้วยสติปัญญาและมีความสุจริตใจเป็นที่ตั้ง ฯลฯ เท่านี้เอง


แต่ จขกท.นำมาตั้งเป็นโจทก์ใหม่ โดยเติมข้อความในวงเล็บเข้าไป จึงแย้งกัน

อ้างคำพูด:
๑. ความสุขความสวัสดีของบ้านเมือง (กับ ความพอเพียง)

๒. ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ (กับ การปฏิบัติธรรม)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 07 ธ.ค. 2009, 20:29, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข..

ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสัมฤทธิ์ผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น

จึง ขอให้ท่านทั้งหลาย ในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอัน ไพบูลย์ เพื่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ที่ทำกินของเรามีความเจริญมั่นคง ยั่งยืนไป..."

อ้างคำพูด:
๑. ความสุขความสวัสดีของบ้านเมือง กับ ความพอเพียง


ความสุขอยู่ที่ความพอเพียงค่ะ และปัจจุบันคนไม่พอเพียงกับภาวะปัจจุบัน ความพอเพียงจึงอยู่ที่คนมีกิน มีบ้านอยู่ มีใช้ มีสังคม มีความเข้มแข็งในทุกๆด้าน เป็นการพอเพียงที่มากกว่าแค่ที่ใครๆเข้าใจกันน่ะค่ะ

อ้างคำพูด:
๒. ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ กับ การปฏิบัติธรรม


การปฏิบัติ คือ ถือศีล ทำสมาธิ แล้วได้ปัญญาธรรม

ถือศีล - ทำด้วยสติรู้ตัวด้วยใจที่สุจริตจริงใจค่ะ
สมาธิ - ก็เป็นการทำให้มีสติเพราะรู้ความจริงค่ะ
ปัญญา - เมื่อได้ปัญญาที่ทำให้รู้ความจริง เมื่อนั้นคนที่มีหน้าที่อย่างเราๆคนไทย ย่ิอมรู้และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2009, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




oba41.gif
oba41.gif [ 18.27 KiB | เปิดดู 2244 ครั้ง ]
หรอ ไม่ธรรมดาๆๆ

http://www.imeem.com/people/QIA6jTb/mus ... EM/02-mp3/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 08 ธ.ค. 2009, 07:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2009, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
“...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข..

ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสัมฤทธิ์ผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น

จึง ขอให้ท่านทั้งหลาย ในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอัน ไพบูลย์ เพื่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ที่ทำกินของเรามีความเจริญมั่นคง ยั่งยืนไป..."



ปัจจุบันบ้านเมืองไม่ปกติสุข คือ ประชาชนแตกแยกเป็นฝักฝ่ายเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยาแตก

แบ่งเป็นพวกเป็นเหล่าโดยใช้สีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ ฯลฯ

เมื่อประชาชนคนในชาติแตกแยกกันอย่างนั้นประเทศก็ไม่มั่นคง

ลองเงยหน้ามองไปทางทิศตะวันออกดิจะเห็นความเปราะบางประเด็นนี้ ฯลฯ

เมื่อเป็นอย่างนี้ผู้เป็นพ่อของแผ่นดินจะมีความสุขความสวัสดีอยู่ได้อย่างไร จึงตรัสทำนองเตือนสติอย่างนั้น


(และ) ความเจริญมั่นคงดังว่านั้น จะสัมฤทธิ์ผลเป็นจริงขึ้นมาได้ ทุกคนทุกฝ่ายในชาติพึงทำหน้าที่

ของตนให้เต็มกำลังสามารถ ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป ด้วยสติรู้ตัว, ด้วยปัญญารู้คิด

ด้วยความสุจริตจริงใจเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม... ฯลฯ

(สติรู้ตัว, ปัญญารู้คิด ...คำว่า สติ,ปัญญา ที่ท่านยกขึ้นตรัสนี้ สำเร็จรูปแล้ว

ไม่ใช่ให้นำเอาไปฝึก คือให้ทุกคนมี สติรู้สึกตัว มีปัญญารู้จักคิด...โตๆกันแล้ว)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร