วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 14:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณขงเบ้งได้พบหลวงพ่อชานนท์แล้วหรือครับ
คุณขงเบ้งไปพบท่านที่ไหนครับ
ที่วัดพุทธปัญญาใช่มั้ยครับ
ตอนนี้ท่านมาพักและบรรยายธรรมอยู่ที่วัดนี้

ตอนแรกผมก็ว่าจะไปกราบท่าน
แต่ติดธุระไปไม่ได้ครับ

แล้วได้ฟังธรรมจากท่านหรือเปล่าครับ
ได้สนทนากับท่านหรือเปล่าครับ

เล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ


แก้ไขล่าสุดโดย สาวิกาน้อย เมื่อ 29 พ.ย. 2009, 21:00, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


มาแล้วงับ

ตามคำเรียกร้อง

ก็เล่านิดหน่อยนะงับ

ตอนแรกได้ไปกราบพระอาจารย์ที่วัดนะงับ

แล้วก็ไม่ได้สอบอารมณ์ อิอิ

ครั้งที่สอง ก็ไปกราบพระอาจารย์ใหญ่

ครั้งที่สามก็ไปอีกงับ

แต่ก็ไม่ได้สอบอารมณ์ 55+

ครั้งนี้ ก็ที่วัดพุทธปัญญางับ ไปประจำอยู่แล้ว อิอิ

ก็เจอพระอาจารย์ครั้งที่ 4 แล้วงับ

อิอิ

พระอาจารย์ท่านสอน อิอิ สำหรับผมโดยเฉพาะ

พระอาจารย์สอนว่า เพียร คำเดียวงับ

55+

เพราะว่า ถามแม่ชีเอ๋แล้วงับ

ที่เหลือท่านบอกว่าไปได้เอง ไม่ต้องสอบอารมณ์ก็ได้ 55+

แล้วสุดท้ายท่านบอกให้ไปคุยกันที่วัดงับบ

เท่านี้ละงับ

อิอิ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อออ....
อนุโมทนาสาธุเป็นอย่างยิ่งเลยครับ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้ว ประสบการณ์ ของคุณ พงพันละงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2009, 16:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ประสบการณ์ผมหรอครับ ถ้าเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อชานนท์
คร่าวๆก็ดังนี้ครับ

ตอนแรกไปปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิที่วัดนึง จ.นครนายกครับ
มีหลวงตาองค์หนึ่งที่ผมกับเพื่อนศรัทธาเป็นอย่างยิ่งอยู่ที่นั่น
แต่ตอนนี้หลวงตาย้ายมาอยู่กับหลวงพ่อชานนท์แล้ว
(คิดว่าคุณขงเบ้งอาจเคยได้พบท่านแล้ว ถ้าได้ไปวัดป่าเจริญธรรม)
ท่านได้ธรรมจากหลวงพ่อชานนท์เมื่อไม่นานมานี้
พอพวกผมทราบข่าวก็ไปกราบท่าน
อยากจะขอความเมตตาจากท่านให้ท่านแนะนำหลักปฏิบัติบ้าง

หลวงตาท่านพูดกับพวกผมแค่ว่า
"โยมได้ฟังซีดีหลวงพ่อชานนท์หรือยัง ไปฟังดูนะ"
ท่านแนะนำหลักปฏิบัติเท่านี้จริงๆ
หลวงตาบอกว่าเกิดมาไม่เคยพบพระองค์ไหน
บอกทางให้หลุดพ้นได้ไม่ยากแบบนี้
แล้วท่านก็เล่าตัวอย่างผู้ที่ได้ธรรมแล้วให้ฟัง

ผมเชื่อหลวงตาครับ
แต่ผมไม่เชื่อว่าตัวเองจะปฏิบัติเข้าถึงได้

ด้วยความไม่เชื่อ ก็ต้องลองฟังธรรมของหลวงพ่อชานนท์และเร่งเพียรปฏิบัติดู

จนได้สอบอารมณ์และเห็นผลจากการปฏิบัติแล้ว ก็ค้านความจริงไม่ได้ครับ
หมั่นทวนหมั่นพิจารณาเพื่อความเข้าใจและการยอมรับของตัวเอง
พอมั่นใจแล้ว ก็ไม่ลังเลที่จะแนะนำให้คนอื่นฟังและปฏิบัติตามธรรมของหลวงพ่อครับ

ผมก็ได้ไปกราบท่านบ้างตามโอกาสที่ผมมีครับ
เร็วๆนี้ น่าจะภายในเดือนธค.ก็จะไปปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวรั้ววัดกัน
ถ้าคุณขงเบ้งหรือท่านใดว่างก็เชิญนะครับ
รายละเอียดติดตามได้ที่เว็บไซต์ครับ
http://www.watpachareongtham-chonburi.com


ประสบการณ์ย่อๆก็มีดังนี้ล่ะครับ :b1:


แก้ไขล่าสุดโดย พงพัน เมื่อ 02 ธ.ค. 2009, 16:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าแต่วิธีปฏิบัติที่ทำนี้ ปฏิบัติแบบใช้บริกรรมพุทโธป่าว หรือไม่ต้องบริกรรม
หรืออย่างไร หรือเจริญสติครับ

ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ... :b25: :b25: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
ว่าแต่วิธีปฏิบัติที่ทำนี้ ปฏิบัติแบบใช้บริกรรมพุทโธป่าว หรือไม่ต้องบริกรรม
หรืออย่างไร หรือเจริญสติครับ

ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ... :b25: :b25: :b44:


หลวงพ่อท่านเพิ่งเทศน์หลักธรรมนี้อย่างจริงจังเมื่อปี 51 นี้เองครับ
(ซึ่งเป็นหลักดั้งเดิมของพระพุทธเจ้านั่นแหละ)
ท่านสอนง่ายๆ ทำตามได้ง่าย และหลุดง่ายครับ
โดยมีหลวงปู่ครูบาอาจารย์หลายองค์ยืนยันและสนับสนุนอยู่ครับ

ขอตอบคุณอินทรีย์ตามความรู้ที่มีว่า

การปฏิบัติมี 2 ส่วน คือ สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน

การบริกรรมพุทธโธเป็นส่วนหนึ่งของการทำสมถกรรมฐาน
"เพื่อความเป็นสมาธิ" ซึ่งก็มีหลายวิธีเช่นการบริกรรมพุทธโธที่คุณอินทรีย์5ว่าไว้

ส่วนวิปัสสนากรรมฐานเป็นการใช้สมาธิเข้าไปพิจารณาความเป็นจริงในกายและใจเรา
"เพื่อความเป็นปัญญา เกิดการละความยึดมั่นถือมั่นในกายและใจ"
ซึ่งหลักปฏิบัติมีอยู่โดยละเอียดตามที่หลวงพ่อเทศน์ไว้ ในเว็บไซต์ที่ผมแนะนำ

หลวงพ่อท่านให้ปฏิบัติ สมถะ และ วิปัสสนา ควบคู่กันไป
แต่ท่านเน้นการทำวิปัสสนาเพื่อความถอดถอนความยึดมั่นถือมั่น
เพราะมนุษย์เรามีพื้นฐานของสมาธิเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
เพียงแต่คนที่มีสมาธิมากกว่าจะมีกำลังในการพิจารณา(วิปัสสนา)เป็นตัวช่วยในการพิจารณา

ผู้ที่เจริญสติ เจริญสมาธิเพียงอย่างเดียว จะไม่ทำให้ละความยึดมั่นได้
แต่การเจริญปัญญา(วิปัสสนา)เพียงอย่างเดียว สามารถละความยึดมั่นได้

มีสมาธิเหมือนเรามีกำลังในการยกมีดในการตัดท่อนไม้(ท่อนไม้เปรียบเสมือนกิเลส อุปาทานขันธ์ ๕)
แต่ถ้ามีกำลังยกมีดแต่ไม่เคยตัดท่อนไม้เลย ท่อนไม้ย่อมไม่มีวันขาด
การเข้าไปพิจารณา(วิปัสสนา)ถอดถอนความยึดมั่นถือมั่น เหมือนการเข้าไปตัดท่อนไม้
แม้ไม่มีกำลัง(สมาธิ)แต่เพียรตัดและหมั่นตัดอยู่เรื่อยๆ
ท่อนไม้ย่อมขาดได้ในไม่ช้า

แต่ถ้ามีกำลังด้วยและเข้าไปตัดบ่อยๆด้วย ท่อนไม้ก็จะขาดง่ายมากขึ้นครับ


แก้ไขล่าสุดโดย พงพัน เมื่อ 04 ธ.ค. 2009, 15:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่ท่านเน้นการทำวิปัสสนาเพื่อความถอดถอนความยึดมั่นถือมั่น

ตอบได้ชัดเจน แจ่มแจ้งดี ถ้าพูดมาในลักษณะนี้แสดงว่าเน้นการเจริญวิปัสสนาเป็นหลักใหญ่ โดยทำสมถะบ้าง แต่ไม่ต้องนิ่งจนเข้าถึงระดับฌาน เอานิ่งพอให้ควบคุมจิตได้ แล้วเอาการเจริญวิปัสสนามา
ต่อยอดให้เต็มแล้วทำภาวนาต่อไป...... ผมเข้าใจอย่างนี้ถือว่าถูกต้องไหมครับตามแนวคิดแนว
ปฏิบัติของวัดแห่งนี้ช่วยอธิบายเพิ่มก้ดีครับ

แสดงว่าk พงพัน ได้มีโอกาสไปปฏิบัติเพื่อถอดอุปาทานในตัวตน ที่วัดหลวงพ่อชานนท์ บ่อยๆใช่ไหมคับ
งั้นก้แสดงว่านอกจากคุณและคุณขงเบ้ง ก้คงมีคนอื่นๆ ในลานธรรมนี้เคยไปนมัสการท่าน..........
ผมเข้าใจว่า k พงพัน ได้นำมาปฏิบัติพอสมควรแล้ว ซึ่งอาจทำมาก่อนคุณขงเบ้ง และยังมีโอกาสได้
สอบอารมณ์กับท่านด้วย ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก :b35: :b55:
:b40: :b53: :b51:


แก้ไขล่าสุดโดย อินทรีย์5 เมื่อ 04 ธ.ค. 2009, 20:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2009, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อินทรีย์5 เขียน:
แสดงว่าเน้นการเจริญวิปัสสนาเป็นหลักใหญ่ โดยทำสมถะบ้าง แต่ไม่ต้องนิ่งจนเข้าถึงระดับฌาน เอานิ่งพอให้ควบคุมจิตได้ แล้วเอาการเจริญวิปัสสนามา
ต่อยอดให้เต็มแล้วทำภาวนาต่อไป......

:


เข้าใจถูกแล้วครับ :b1:
เน้นการวิปัสสนาโดยมีสมาธิเป็นฐานบ้าง

แต่ยิ่งใครมีสมาธิมากๆก็ยิ่งดีนะครับ
สมาธิจะช่วยในการวิปัสสนา จะไปได้เร็วขึ้น
แต่ไม่ควรยึดติดในสมาธิ เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องละสมาธิด้วย

แต่ใครสมาธิน้อยๆก็ไม่เป็นปัญหาในการวิปัสสนาครับ
เพียงแต่เพียรทำวิปัสสนาอยู่เสมอ ก็ไปได้เช่นกันครับ

ส่วนผมไม่เคยไปปฏิบัติที่วัดเลยครับ
ฟังซีดีของหลวงพ่อแล้วนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันครับ
ที่ไปวัดก็ไปกราบหลวงพ่อ หลวงตา พระและแม่ชีองค์อื่นๆครับ

ผู้ที่ต้องการหลุดพ้น
ถ้าปฏิบัติเพื่อความมีความยึดมั่นถือมั่นอยู่ถือว่าผิดทางครับ
แต่ถ้าปฏิบัติเพื่อความไม่มี เพื่อละความยึดมั่นถือมั่นถือว่าถูกทาง
ทุกอย่างมีได้อยู่ มีเพิ่มขึ้นได้อยู่ แต่ต้องไม่ยึดครับ
จะทำได้แบบที่ว่านี้ต้องอาศัยวิปัสสนา
ผู้ที่ปฏิบัติอยู่ย่อมจะเข้าใจ ผู้ที่ไม่เข้าใจ ผมแนะนำให้เริ่มปฏิบัติครับ
:b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร