วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 00:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 22:34
โพสต์: 173

ชื่อเล่น: เจ้ก
อายุ: 23

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัจฉิมเทศนา โดย พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)ณ ชมรมพุทธธรรมลานทอง เลขที่ 100/240 ซอย 11 หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541

...อาจารย์ของหลวงพ่อนี้เป็นหลวงตานักธรรมตรีก็ไม่ได้ สอนลูกศิษย์ลูกหาก็ไม่มีปฏิภาณโวหาร แต่ว่าลูกศิษย์สอบได้นักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก ท่านกลัวว่าลูกศิษยืจะลบหลู่ดูหมิ่นท่านหรืออย่างไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ท่านก็เล่านิทานอันนี้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ

ท่านบอกว่ามีครูบาอาจารย์สำนักหนึ่งสอนลูกศิษย์ให้ภาวนา อิติปิโส ภะคะวือ แล้วลูกศิษย์ที่ยังไม่มีความรู้กว้างขวาง ก็ปฏิบัติตามครูบาอาจารย์อย่างคนว่าง่าย แต่ภายหลังลูกศิษย์เหล่านั้นมีโอกาสได้ไปศึกษาเล่าเรียนในต่างสำนัก บางท่านก็ได้เป็นมหาเปรียญกลับมา ทีนี้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็ไปค้นคว้าตำรับตำราหาคำว่า อิติปิโส ภะคะวือ ไปเปิดดูตำราไหนมันก็ไม่มี อิติปิโส ภะคะวือ ไม่มีเลย ทีนี้พอกลับมาแล้ว ก็มาปรึกษาหารือกันว่าอาจารย์ของเรานี้ เข้าใจผิดซะแล้วล่ะ พวกเราต้องมาช่วยกันแก้ทิฏฐิของอาจารย์ มีอย่างที่ไหนเอา อิติปิโส ภะคะวือ มาสอนกัน มันไม่มีในตำราสักหน่อยหนึ่งเลย พอกลับมาก็เข้าไปกราบอาจารย์

อาจารย์ๆ สอนพวกเราว่า อิติปิโส ภะคะวือ นี้สอนผิดซะแล้วล่ะ ควรแก้ใหม่ พวกเราไปค้นตำรับตำรากันหมดพระไตรปิฎกแล้ว ไม่เจอคำว่า อิติปิโส ภะคะวือ สักแห่งเลย อาจารย์เอาะไรที่ไหนมาว่าก็ไม่รู้ล่ะ

ทีนี้อาจารย์ท่านก็บอกว่า เราก็ปฏิบัติของเรามาอย่างนี้ ของพวกท่าน อิติปิโส ภะคะวือ ก็คือ อิติปิโส ภะคะวา ไปซิ จะมาให้ผมเลิก อิติปิโส ภะคะวือ ผมนี้มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะผมปฏิบัติมานานแล้ว ลงผลสุดท้ายอาจารย์กับลูกศิษย์เถียงกันไม่ตก ก็เลยต้องแยกทางกัน

อาจารย์บอกว่า เออ! ถ้า อิติปิโส ภะคะวา ของท่านทั้งหลายถูกต้อง พวกท่านพากันอยู่วัดซะผมจะไปภาวนา อิติปิโส ภะคะวือ ของผมบนภูเขาโน้น ว่าแล้วท่านก็เตรียมบริขารของท่านไปอยู่บนภูเขา

ฝ่ายลูกศิษย์อยู่ทางวัด ข้อวัตรปฏิบัติก็ย่อหย่อน แล้วประชาชนทั้งหลายก็เสื่อมศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส เพราะว่าพระภิกษุไม่สำรวมในสิกขาบท วินัยไม่เคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติ เขาไม่มีศรัทธา ไม่มีใครทำบุญก็พากันอดอยากเกิดความเดือดร้อน แล้วก็พากันคิดถึงครูบาอาจารย์ ก็มาปรึกษาตกลงกันว่าเราไปอาราธนาอาจารย์ของเรากลับคืนมาเถิด ว่าแล้วก็พากันไป ขึ้นไปบนภูเขาที่อาจารย์ท่านพักอยู่ พอไปถึงก็พากันไปกราบอาจารย์

อาจารย์ก็เดินจงกรมเฉย ทีนี้ท่านก็บอกพอ ท่านหันหน้ามา ก็ลูกศิษย์องค์หัวหน้าก็กราบเรียนท่านว่า พวกเรามาขอพักกับอาจารย์สักคืนหนึ่ง เออ! ที่พักที่นี้กุฏิก็ไม่มี มีแต่ร่มไม้กับพลาญหิน เสื่อหมอนก็ไม่มี มีแต่ก้อนหินกับใบไม้นั้นแหละ พวกท่านต้องการที่ไหนเป็นที่สบายก็นิมนต์จัดหาเอาเอง พอเสร็จแล้ว พระทั้งหลายก็พากันจัดที่พักผ่อนหลับนอนตามอัธยาศัยทีนี้พอตื่นเช้ามา

อาจารย์ก็เดินจงกรมเฉย จนกระทั่งสิบเอ็ดโมง มันเพลแล้วยังไม่พาบิณฑบาตเลย ลูกศิษย์ก็เข้าไปกราบอาจารย์ อาจารย์เมื่อไรจะพาออกบิณฑบาตสักที หือ! หิวแล้วหรือ หิวแล้วหล่ะ อ้าว! ถ้าหิวก็เก็บก้อนหินใส่บาตร พอเก็บก้อนหินใส่บาตรมา มาประเคนอาจารย์ อาจารย์ก็นั่งหลับตาลง ก็เพ่งลงในบาตร ก็ อิติปิโส ภะคะวือ อิติปิโส ภะคะวือ ก้อนหินอยู่ในบาตรกลายเป็นข้าวมธุปยาส อันหอมตลบไปทั่วทุกทิศทุกทาง พอเสร็จแล้วก็ยื่นมาให้ อ้าว! เอาไปฉันซะ ทีนี้พระทั้งหลายก็พากันฉัน ฉันเสร็จแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ทีนี้พอวันหลังมา

ลูกศิษย์ก็พากันไปกราบอาจารย์ อาจารย์ๆ วันนี้พวกเราขอทดลองดูหน่อยน่ะ เออตามใจ พอเสร็จแล้ว ต่างคนก็ต่างเก็บก้อนหินใส่บาตร แล้วก็ไปนั่งบริกรรมภาวนา อิติปิโส ภะคะวือ อิติปิโส ภะคะวือ จิตมันก็ไม่เป็นสมาธิสักที อิติปิโส ภะคะวือ แต่มัวนึกเมื่อไรมันจะเป็นสักที ลืมตาขึ้นมามันก็เป็นก้อนหินโค่โร่อยู่อย่างเก่า ลงผลสุดท้าย สิบเอ็ดโมงถึงเวลาฉัน ยอมจำนนเข้าไปกราบอาจารย์ โอ้อาจารย์ไม่ไหวแล้ว ท่องมาจนเมื่อยแล้วไม่เห็นเป็นข้าวมธุปายาสสักที

หือ! อ้าวเอาบาตรมาตั้งเรียงกันตอนนี้อาจารย์แสดงปาฏิหาริย์ใหญ่เลย เอามือไปแตะบาตรเท่านั้นแหละ ในบาตรควันตลบขึ้นมากลายเป็นข้าวมธุปายาส ทีนี้พอตกเย็นมาอาจารย์ก็เรียกมาประชุมกัน

ท่านก็เทศน์ให้ฟัง ท่านบอกว่า อิติปิโส ภะคะวือ หรือ อิติปิโส ภะคะวา เนี่ยนะ มันก็เป็นแต่เพียงคำบริกรรมภาวนาเท่านั้นเองแหละ เมื่อก่อนผมก็ภาวนาอิติปิโส ภะคะวา เหมือนกัน ทีนี้พอภาวนาไปจิตมันเคลิ้มๆ ลงไปสักหน่อยหนึ่ง คำว่า อิติปิโส ภะคะวือ มันก็โผล่ขึ้นมา ผมก็เลยจับเอาเป็นอารมณ์ภาวนาเรื่อยมา จนกระทั่งได้สมาธิ ได้ญาณ สามารถเสกก้อนหินเป็นข้าวกินได้

เพราะฉะนั้นพวกท่านจะไปสำคัญนั่นหมายอะไรกับคำบริกรรมภาวนา ท่านจะเอาคำไหนมาบริกรรมภาวนาก็ได้ทั้งนั้น ขอแต่ว่าให้เราจริงใจอดทน พากเพียรพยายามเท่านั้นเป็นพอ

นี้ถ้าจะพิจารณาตามนิทานย่อๆ นี้ เรา่ก็ไม่น่าจะไปสงสัยข้องใจกับคำบริกรรมภาวนา ภาวนาพุทโธไม่หยุดจิตมันเป็นสมาธิได้ สัมมา อะระหังไม่หยุดมันก็เป็นสมาธิได้ ยุบหนอพองหนอไม่หยุดมันก็เป็นสมาธิได้ เพราะฉะนั้นญาติโยมทั้งหลาย อย่าไปข้องใจสงสัยเรื่องคำภาวนา หรืออารมณ์จิตใจการภาวนา

เอาล่ะวันนี้ขอให้คติเตือนใจเพียงแค่นี้ ในท้ายที่สุดขอพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงคุ้มครองท่านทั้งหลาย ให้มีความสุขกาย สุขใจ ปรารถนาสิ่งใดให้สำเร็จตามใจที่ปรารถนา ในที่ทุกสถานตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ...


ทำได้ไหม อิติปิโส ภะคะวือ?.... (หลวงพ่อถามเด็กที่มาฟังเทศน์)

.....................................................
จะขอเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า..เพื่อเติมเต็มธรรมที่ขาดหาย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร