วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 22:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 13:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เรื่องจริง...เรื่องหลอก!!!

เรื่องจริงบางเรื่องฟังคล้ายเรื่องหลอก
ส่วนเรื่องหลอกหลายเรื่องกลับคล้ายเรื่องจริง

แต่เรื่องจริงกับเรื่องหลอกก็เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
คือต้องหายไปด้วยกันทั้งคู่
พอต่างก็หายไป
ความจริงกับความลวงจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ไม่หลงเหลือความหมายอะไรไว้ให้ยึดว่าจริงหรือเท็จเลย


สาระจึงไม่ใช่พยายามจับให้ได้ไล่ให้ทัน
ว่าอันไหนกันแน่เรื่องจริง อันไหนกันแน่เรื่องหลอก
สาระอยู่ที่รู้หรือไม่รู้ว่าที่จิตของเราเข้าไปถืออยู่
ถืออยู่ผิดๆโดยสำคัญว่าเที่ยง
หรือถืออยู่ด้วยความรู้ชัดว่าไม่เที่ยง
เดี๋ยวจะต้องเปลี่ยนไป เดี๋ยวจะต้องสาบสูญไป

และแม้รู้จริงกับรู้ไม่จริง
ก็ยังเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
คือทั้งสองรู้จะต้องดับไปเป็น "ไม่รู้ไม่เห็น"


อย่างไรก็ตาม
ผลของการรู้จริงในบางเรื่อง
คือความสุขชั่วนิรันดร์
แม้ความรู้จริงดับไปแล้ว
บรมสุขก็ยังไม่หายไปไหน
นั่นเพราะความรู้จริงบางอย่าง
ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ล้างผลาญเหตุแห่งทุกข์
เมื่อเหตุแห่งความทุกข์ดับไม่เหลือ
ความเคลื่อนจากสุขออกมาสู่ทุกข์จึงไม่มี


ในสมรภูมิระหว่างประเทศ
คนที่จับตัวพระราชาได้คือเจ้าของดินแดนใหม่
แล้ววันหนึ่งก็อาจต้องโดนไล่ล่าจับตัวเข้าให้บ้าง

ในสงครามธุรกิจ
คนที่ได้ลูกค้าคือผู้ครองตลาด
แล้วเดี๋ยวก็อาจต้องโดนใครแย่งส่วนแบ่งตลาดคืนบ้าง

แต่ในการรบกับกิเลส
คนที่อยู่อย่างสงบสุขได้คือผู้ชนะที่แท้จริง
และเป็นสมบัติติดตัวที่ไม่มีใครมาแย่งได้อีกเลย


ดังตฤณ
พฤศจิกายน ๕๒


:b8: :b8: :b8:

(ที่มา : นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ ๐๘๒, ๒๖ พ.ย ๒๕๕๒)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เอาแบบดังตฤณ...หน่ะ....

เคยอ่านที่..ดังตฤณเขียน อ่านแล้วไม่เห็นซึ๊ง...

แต่พอได้มาอ่านที่ มัทนา ณ หิมะวัน เอาของเขาเขียนแล้ว ยังซึ้งกว่า...

:b9: :b9: :b9:

อุ๊ อุ๊ อุ๊ ไหง๋ งั๊น...หว๋า...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 17:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อ เป็นอย่างนี้เอง มิน่าโดนหลอกทุกวันเลย.. :b10:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ไม่เอาแบบดังตฤณ...หน่ะ....

เคยอ่านที่..ดังตฤณเขียน อ่านแล้วไม่เห็นซึ๊ง...

แต่พอได้มาอ่านที่ มัทนา ณ หิมะวัน เอาของเขาเขียนแล้ว ยังซึ้งกว่า...

:b9: :b9: :b9:

อุ๊ อุ๊ อุ๊ ไหง๋ งั๊น...หว๋า...


พวกเดียวกันเลย
แบบว่าผมใจร้อน ชอบแบบตรงโป๊ะตรงเช๊ะ ฉับๆๆ เลย
เลยชอบอ่าน"อาจารย์ของคุณดังตฤน"แทน
ตรงใจถูกจริตมากมาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 22:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
ไม่เอาแบบดังตฤณ...หน่ะ....

เคยอ่านที่..ดังตฤณเขียน อ่านแล้วไม่เห็นซึ๊ง...

แต่พอได้มาอ่านที่ มัทนา ณ หิมะวัน เอาของเขาเขียนแล้ว ยังซึ้งกว่า...


:b43: :b43: :b43:

มัทนา ก็เป็นเพียงผู้นำมาถ่ายทอดอีกต่อนึงนะเจ้าค่ะ
ข้าพเจ้ามิบังอาจหรอก ท่านมังกรเอรากอน :b8: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 26 พ.ย. 2009, 22:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
พวกเดียวกันเลย
แบบว่าผมใจร้อน ชอบแบบตรงโป๊ะตรงเช๊ะ ฉับๆๆ เลย
เลยชอบอ่าน"อาจารย์ของคุณดังตฤน"แทน
ตรงใจถูกจริตมากมาย


:b43: :b43: :b43:

เชื่อว่าถูกจริตท่านพระเอกแน่นอน
เลยขอนำธรรมบรรยายของ "พระอาจารย์ของคุณดังตฤณ"
มาเป็นอภินันทนาการ ตามนี้นะเจ้าคะ :b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 23:29
โพสต์: 1065


 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ธรรมะใกล้ตัว :b42:
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช


คุณดังตฤณขอให้หลวงพ่อช่วยเขียนบทความ
เพื่อลงหนังสือธรรมะออนไลน์
หลวงพ่อนึกภาพของหนังสือชนิดนี้ไม่ออก
จึงไม่ทราบว่าควรจะเขียนเรื่องอะไรดี
แต่ก็ปฏิเสธคุณดังตฤณไม่ลง
เพราะรักน้ำใจและเคยช่วยกันเผยแผ่ธรรมะมานานแล้ว


ไหน ๆ หนังสือของคุณดังตฤณก็ชื่อว่า "ธรรมะใกล้ตัว"
หลวงพ่อจึงขอเล่าให้พวกเราฟังเกี่ยวกับความใกล้ตัวของธรรมะเสียก่อน
เพราะ "ชาวพุทธ" จำนวนมากมักคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัว เช่น

(๑) ธรรมะเป็นเรื่องของคนอื่น เช่น คนแก่ คนเจ็บหนักคนอกหัก
นักโทษประหาร หรือเป็นเรื่องของพระ ฯลฯ

(๒) ธรรมะอยู่ที่อื่น เช่น อยู่กับพระหรืออยู่กับวัด และ

(๓) ธรรมะเป็นเรื่องในเวลาอื่น คือเวลาในอนาคต
ส่วนปัจจุบันขอเอาเวลาไปทำกิจกรรมอื่นๆ เสียก่อน
เอาไว้แก่แล้วจึงจะค่อยหันมาศึกษาธรรมะ เป็นต้น


กล่าวโดยสรุป คนส่วนมากมักเห็นว่า
ธรรมะเป็นเรื่องของใครก็ได้ ที่ไม่ใช่ตัวเรา
ความรู้สึกเหล่านี้เกิดจากทัศนะที่ว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัวทั้งสิ้น

แต่ถ้าพวกเราได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ดี
จะพบว่าธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างยิ่ง
หลวงพ่อจึงเห็นว่าคุณดังตฤณมาถูกทางแล้ว
ที่ชวนให้พวกเราสนใจธรรมะใกล้ตัว

คำว่า "ใกล้ตัว" มีความหมายได้หลายนัย
อย่างแรกก็คือ ใกล้ในด้านตัวบุคคล
หมายความว่า ถ้าจะแสวงหาธรรมะก็ไม่ต้องไปแสวงหาที่คนอื่น
เพราะธรรมะอยู่กับคนที่เราใกล้ชิดที่สุด คือตัวเราเอง
ซึ่งในประเด็นนี้ขอให้ลองศึกษาอริยสัจจ์ดูได้

ในบรรดาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น
อริยสัจจ์เป็นธรรมที่ครอบคลุมธรรมทั้งปวง
ถ้าปราศจากอริยสัจจ์ก็คือปราศจากพระพุทธศาสนา
และอริยสัจจ์ข้อแรกนั้นเริ่มต้นด้วยทุกขสัจจ์
ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงระบุไว้ชัดเจนเลยว่า อุปาทานขันธ์คือทุกข์

สิ่งที่เรียกว่าอุปาทานขันธ์ก็คือรูปนาม/กายใจของเรานี้เอง
และทรงสอนว่า ภารกิจต่อทุกข์คือการรู้
ดังนั้น ถ้าพวกเราเพียงแต่สนใจคอยตามรู้กาย ตามรู้ใจของตนเองเนือง ๆ
ก็คือการทำกิจต่อทุกขสัจจ์แล้ว


หากเราตามรู้จนจิตยอมรับความจริงว่ากายนี้ใจนี้ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
จิตก็จะเข้าถึงธรรมในระดับพระโสดาบัน
หากเรียนรู้จนจิตปล่อยวางความยึดถือกายและใจ
จิตก็จะเข้าถึงธรรมในระดับพระอรหันต์

พวกเราเห็นหรือยัง ว่าธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัวเพราะเป็นเรื่องของตัวเราเอง
ดังนั้น ธรรมะจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวในอีกแง่มุมหนึ่งคือ ใกล้ในด้านสถานที่
เพราะไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน ธรรมะก็อยู่ที่นั่น
เราไม่จำเป็นต้องเที่ยวแสวงหาธรรมะไกลตัวเลย
เพียงมีสติตามรู้กายใจของตนเองด้วยจิตที่ตั้งมั่นมีสัมมาสมาธิ
เราจะอยู่ที่ไหน เราก็เห็นธรรมะที่นั่น


อีกอย่างหนึ่ง ธรรมะเป็นของใกล้ตัวในด้านเวลา
เพราะธรรมะไม่ได้อยู่ในอดีตหรืออนาคตอันห่างไกล
แต่ปรากฏอยู่ที่กายที่ใจในปัจจุบันนี้เอง
พวกเราควรหยุดการแสวงหาธรรมภายนอก
แล้วพัฒนาสติและสัมมาสมาธิขึ้นมา
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเรียนรู้ทุกข์คือกายกับใจของเราเองที่กำลังปรากฏในปัจจุบัน
แล้วจะพบว่าความทุกข์ทางใจเริ่มหล่นหายเป็นลำดับ ๆ ไปทีเดียว


:b8: :b8: :b8:

ที่มา http://dungtrin.com/mag/?59


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 26 พ.ย. 2009, 22:49, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอย่าไปยึดมั่นถือมั่นจริง ๆ ครับ
อนุโมทนาครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรม แท้

ย่อม :b8: น่าปฏิบัติตาม

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร