วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 16:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2011, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าสำเร็จเป็นพระโสดาบันแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็มีโอกาสที่จะทำความเพียรจนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์ ดังเช่นพระอานนท์เถระเป็นพระโสดาบันแม้จนพระพุทธเจ้าปรินิพพานยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์จนถึงช่วงของการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรกแล้วพระมหากัสสปะเถระเตือนสติเรื่องความเศร้าโศกต่อการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าจึงทำความเพียรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาติเดียวกัน
หากบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วตายเสียก่อนก็จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกแต่ไม่เกิน7ชาติก็จะบรรลุเป็นพระอรหันต์
หากความรู้พลาดไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้
อ้างคำพูด:
(สังโยชน์ ๑๐ โสดาบันละสังโยชน์ ๓ ได้แล้ว เหลืออีก ๗ ข้อ จึงหมดจดจากกิเลสเด็ดขาด)


ต้องขอไปเปิดดูว่าสังโยชน์ หรือ กิเลส เรียงลำดับอย่างไรเลยไม่กล้าตอบกลัวผิดไปแต่ รู้ว่าเหลืออีก 7ข้อ แล้วตายเสียก่อนก็เหลืออีกไม่เกิน 7 ชาติ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มี.ค. 2011, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ต.ค. 2010, 21:21
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณของพระโสดาบัน คือ ละสังโยชน์ ได้ ๓ ข้อแรกคับ.. คือ
๑. ละสักกายทิฐิ (ความเห็นผิดในกายเรานี้ว่าเป็นของเรา)
๒.ละวิจิกิจฉา ละความสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ คือไม่สงสัยแล้ว ในพระนิพานว่าเป็นอย่างไร มีจริงไหม? จะไปถึงได้อย่างไร
๓.สีลัพพตปรามาส คือไม่ถือศีลแบบลูบคล่ำ มีศีลเป็อารมณ์ เป็นปกติ มีองค์ธรรมช่วยรักษา ไม่บังคับกดข่มให้อยู่ในศีล

ส่วนที่ว่า โสดาบันเหลือสังโยชน์ ๗ ข้อ หรือเหลืออีก ๗ ชาติ ?
เหลือสังโยชน์ ๗ข้อถูกคับ แต่ที่ว่าเหลือ ๗ ชาติ ไม่แน่คับ เพราะพระโสดาบัน ยังแบ่งอีก ๓ ประเภท คือ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
สอุปาทิเสสสูตร

[๒๑๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ฯ.........................
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล
กระทำพอประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นเอกพีชีโสดาบัน เพราะสังโยชน์
สิ้นไป บังเกิดยังภพมนุษย์นี้ครั้งเดียว จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ดูกรสารีบุตร
นี้บุคคลจำพวกที่ ๗ ... ฯ
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล
กระทำพอประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นโกลังโกละโสดาบัน เพราะ>
สังโยชน์ ๓ สิ้นไป ท่องเที่ยวอยู่ ๒-๓ ตระกูล แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ดูกรสารีบุตร นี้บุคคลจำพวกที่ ๘ ... ฯ
อีกประการหนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล
กระทำพอประมาณในสมาธิ ในปัญญา บุคคลนั้นเป็นสัตตักขัตตุปรมโสดาบัน
เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป ท่องเที่ยวอยู่ยังเทวดาและมนุษย์ ๗ ครั้งเป็นอย่างยิ่ง
แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้

นี่แหละคับ พระโสดาบัน แยกได้อีก ๓ ประเภท คับ จะกลับมาเกิดอีกกี่ครั้ง ก็ตามกำลังของท่านคับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร