วันเวลาปัจจุบัน 03 มิ.ย. 2025, 07:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 19:13
โพสต์: 69

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1.กระทำโดยบันดาลโทสะถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนาหรือไม่ครับ เพราะเห็นทางกฎหมายบันดาลโทสะถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาครับ
2. นาย ก : ในสมองมัวแต่ท่องว่า "ฆ่านาย ด " อยู่ได้
นาย ข : ช่างสมองมันซิ
นาย ก : มันไม่บาปหรอ
นาย ข : ไม่บาปจริงๆ
นาย ก ถามจนนาย ข รำคาญ นาย ข จึงตอบว่าถ้าไม่หยุดคิดก็คิดวิธีฆ่าซิ นาย ข ตอบแบบนี้เพื่อให้นาย กหยุดคิดเสียที
ผมจึงเรียนถามว่านาย ข บาปหรือไม่ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2009, 17:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




001.jpg
001.jpg [ 22.09 KiB | เปิดดู 5557 ครั้ง ]
ภิกษุพึงเป็นผู้สำรวมจักษุ
ไม่พึงเป็นผู้โลเลเพราะเท้า
พึงเป็นผู้ขวนขวายในฌาน
พึงเป็นผู้ตื่นอยู่มาก
พึงเป็นผู้ปรารภอุเบกขา มีจิตตั้งมั่น
พึงเข้าไปตัดความตรึก
และตัดธรรมที่อาศัยอยู่แห่งความตรึกและความรำคาญ






บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ในกาลทุกเมื่อ
มีปัญญา มีใจตั้งมั่นดีแล้ว
ปรารภความเพียร มีตนส่งไปแล้ว
ย่อมข้ามโอฆะที่ข้ามได้ยาก
เขาเว้นขาดแล้วจากกามสัญญา
ล่วงรูปสัญโญชน์ได้
มีภพเป็นที่เพลิดเพลินสิ้นไปแล้ว
ย่อมไม่จมในห้วงน้ำลึก ฯ


เจริญในธรรมครับ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดชั่ว แค่คิดก็น่ารังเกียจมากพอแล้ว

อยุ่ที่ตัวนาย ก จะว่ายังไงดีกว่า

ถ้าไม่นำคำพูดอย่างนั้นไปปรุงแต่งก็ถือว่าประเสริฐแล้ว

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


tammylala เขียน:
1.กระทำโดยบันดาลโทสะถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนาหรือไม่ครับ เพราะเห็นทางกฎหมายบันดาลโทสะถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาครับ
2. นาย ก : ในสมองมัวแต่ท่องว่า "ฆ่านาย ด " อยู่ได้
นาย ข : ช่างสมองมันซิ
นาย ก : มันไม่บาปหรอ
นาย ข : ไม่บาปจริงๆ
นาย ก ถามจนนาย ข รำคาญ นาย ข จึงตอบว่าถ้าไม่หยุดคิดก็คิดวิธีฆ่าซิ นาย ข ตอบแบบนี้เพื่อให้นาย กหยุดคิดเสียที
ผมจึงเรียนถามว่านาย ข บาปหรือไม่ครับ


กฎหมาย แม้จะแอบอิงจากหลักศาสนา แต่ก็ยังมีข้อที่ควรพิจารณาแก้ไข
ในทางศาสนา ถึงแม้บุคคลจะโกรธหรือบันดาลโทสะสักเพียงใดก็ตาม บุคคลนั้นก็ย่อมมีสติ คือความระลึกได้ มีสัมปชัญญะคือความไม่หลงลืม รู้สึกตัวอยู่
แต่เขาผู้มีความโกรธ หรือบันดาลโทสะ นั้น มีสติ หรือความระลึกได้ มีสัมปชัญญะ คือความไม่หลงลืม รู้สึกตัวอยู่ ในความรู้ ที่ได้รับการขัดเกลามา เช่นเขาได้รับการขัดเกลาทางสังคม มาว่า ถ้าโมโห โกรธ บันดาลโทสะ มีความอาฆาตแค้น หากบุคคลอื่่นมาด่า หรือทำไม่ถูกใจ ฯลฯ ต้องทำร้าย ต้องฆ่า เขาก็จะมีพฤติกรรมตามที่เขาได้รับการขัดเกลาทางสังคมมา ดังนั้นในทางศาสนาจึงมีข้อปฏิบัติหลายข้อ และย่อมมีความผิดเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะบันดาลโทสะ หรือใตร่ตรองไว้ก่อน

ในทางกฎหมาย หากบุคคลนั้นบันดาลโทสะ โมโห ทำร้ายผู้อื่น เพราะขาดสติ หรือระลึกไม่ได้ว่า การทำร้ายผู้อื่น ผิดกฎหมาย คือ ขณะทำร้ายผู้อื่นนั้น แม้มีสติสัมปชัญญะอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มีสติสัมปชัญญะเพียงพอที่จะยับยั้ง ความบันดาลโทสะหรือโมโห เขาจึงลดหย่อนโทษให้เบาลง เพราะสภาพสมองสติปัญญาของคนเราไม่เท่ากัน ความรู้ที่มีอยู่ในตัวบุคคล อันเป้นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความยั้งคิด ยั้งทำ แตกต่างจากกัน วัดไม่ได้ ไม่อาจรู้ได้ว่า เขาทำเพราะบันดาลโทสะขาดความยั้่งคิด หรือเพราะได้รับการขัดเกลาทางสังคมมาเยี่ยงนั้น จึงต้องว่ากันไปตามเหตุ หากวินิจฉัยตามพยานที่เป็นจริง (ที่เป็นเท็จก็มี ไม่มีใครรู้ดอก เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี่) ปรากฏว่า บันดาลโทสะจริง ก็ย่อมีเหตุอันควรลดหย่อนโทษ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐสามารถแก้ไขตนเอง ให้ดีได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 17:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


tammylala เขียน:
1.กระทำโดยบันดาลโทสะถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนาหรือไม่ครับ เพราะเห็นทางกฎหมายบันดาลโทสะถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาครับ

ทางกฏหมายก็เป็นเรื่องของทางโลกครับ...พิจารณากันแบบหยาบๆ
ทางธรรมนั้นละเอียดกว่ากันมากครับ... :b6:
tammylala เขียน:
2. นาย ก : ในสมองมัวแต่ท่องว่า "ฆ่านาย ด " อยู่ได้
นาย ข : ช่างสมองมันซิ
นาย ก : มันไม่บาปหรอ
นาย ข : ไม่บาปจริงๆ
นาย ก ถามจนนาย ข รำคาญ นาย ข จึงตอบว่าถ้าไม่หยุดคิดก็คิดวิธีฆ่าซิ นาย ข ตอบแบบนี้เพื่อให้นาย กหยุดคิดเสียที
ผมจึงเรียนถามว่านาย ข บาปหรือไม่ครับ

บาปครับ :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
1.กระทำโดยบันดาลโทสะถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนาหรือไม่ครับ เพราะเห็นทางกฎหมายบันดาลโทสะถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาครับ

เป็นวิธีการของพวกเจ้ากรรมนายเวร หรือ มารทั้งหลาย พวกนี้ใช้ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นเครื่องมือให้คนทำบาป บ้างหลอกยืมปากด่าพระพุทธเจ้าเป็นภาษาฮินดู คนด่าก็ยังไม่รู้ตัว เข้าใจว่าเป็นภาษาเทพ

บาปเกิดจากเหตุที่เป็นอกุศล บันดาลโทสะ คือ ขาดสติ + โทสะ + โมหะ = รับบาปเต็มๆ ไม่มีข้ออ้าง

อ้างคำพูด:
2. นาย ก : ในสมองมัวแต่ท่องว่า "ฆ่านาย ด " อยู่ได้

ถือเป็นมโนกรรม

อ้างคำพูด:
นาย ก ถามจนนาย ข รำคาญ นาย ข จึงตอบว่าถ้าไม่หยุดคิดก็คิดวิธีฆ่าซิ นาย ข ตอบแบบนี้เพื่อให้นาย กหยุดคิดเสียที
ผมจึงเรียนถามว่านาย ข บาปหรือไม่ครับ

ถือเป็นการให้สติ อย่างคนอยากฆ่าตัวตาย เราไปคุยบอกสารพัดวิธีตาย ค่อยแทรกผลของการฆ่าตัวตาย ปัญญาจะทำให้ผู้นั้นคิดได้ในที่สุด เพราะปัญญาเป็นธรรมฝ่ายกุศล

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue

ลองคิดพิจารณาเอาเองนะคะว่าเป็นกรรมหรือเปล่า

...ในทางธรรม...การกระทำไม่ว่าเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี...สัตว์โลกก็ย่อมเป็นไปตามกรรม...
...เมื่อทำไปแล้วไม่ว่าจะผูกกรรมเพียงฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายย่อมส่งผลถึงกันทั้งสิ้น...
...จึงต้องมีการอโหสิกรรมไงล่ะ...ทางโลกมันคิดไปคนละอย่างกับทางธรรม...กำหนดเอง...
...แต่ทางธรรมจะกำหนดหรือไม่ก็ตาม...เมื่อทำแล้วไม่จะทางกาย...วาจา..ใจ...ถือว่าสำเร็จ...
...ส่วนการตัดสินก็มี2อย่างคือ...ดีกับชั่ว...ไม่งั้นคงไม่มี...ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว...
...เพราะตัวเองเป็นผู้ก่อ...ไม่ว่าดีหรือชั่ว...ตัวเองนั่นแหละเป็นผู้รับ...ส่งผลเร็วหรือช้าขึ้นกับ...
...เป็นกรรมหนักในทางดี...ก็ได้เสวยกรรมดีก่อน...หนักทางชั่วก็จักได้เสวยวิบากกรรมตามนั้น...
...กรรมใดที่น้อยมาก...ก็ไม่ส่งผลเลย...อันดับแรกถ้าเราโกรธ...ร้อนที่จิตเราเผาตัวเองก่อนแล้ว...


...อาชีพก็มีผลต่อบุพกรรมนะเจ้าคะ...นายพรานที่อยู่คือมหานรก1ใน8ขุมชื่อสังฆาฏนรก(ขุมที่3)...
...อายุนรกขุมนี้2000ปีอายุกัป(1วันนรกขุมนี้=144ล้านปีมนุษย์)ดูในผังวัฏสงสาร 31 ภูมิสิ...
...พวกที่ขโมยของที่เขาไปให้ทานที่วัด..ไปอยู่มหานรกขุมที่5ชื่อมหาโรรุวนรก...ขุมลึกยิ่งอายุยืน...
...อายุนรกขุมนี้8000ปีอายุกัป(1วันนรกขุมนี้=2304ล้านปีมนุษย์)เห็นภัยของการกระทำรึยังเจ้าคะ...


...ผู้ไม่เห็นภัยน่าสงสารนะ...เพราะมันให้ผลทั้งทางกายกรรม วจีกรรม มโกรรม...
......เห็นไหมคะว่าทำไมต้องศีล5ไม่ให้ขาด...เพราะกรรมหยาบ/ละเอียดต่างกัน...อันนี้อาศัย...
...อาจบุญเก่าที่ข้าพเจ้าทำมาก็ได้...ทำให้จิตชอบเก็บเอามาคิดพิจารณาด้วยเหตุผลแบบเห็นภัย...
...ยังไงก็ขอชักชวนให้ทุกคนทำความดีเอาไว้...มันอาจเห็นผลไม่เร็วนักทำไปเถอะนะ :b27: :b27:


...ตัวอย่างพระเทวทัตผูกอาฆาตต่อพระพุทธเจ้า...มาตั้งแต่ชาติที่เป็นพ่อค้าเครื่องประดับก็แล้วกัน...
...พระเทวทัตสมัยนั้นเดินทางข้ามแม่น้ำไปค้าขายเครื่องประดับ...มี2คนยายกับหลานขอแลกสินค้า...
...ด้วยถาดทองคำ...ด้วยความโลภอยากได้เงินค่าเรือข้ามฟาก...จึงบอกไปว่าถาดราคาน้อยกว่าของ...
...รอให้ขายของแล้วเหลือจะมาแลก...แล้วก็จากไป...พอดีกับพระพุทธเจ้าก็ข้ามฝั่งมาเช่นกัน...
...มาเจอยายกับหลานคนเดิม...ยายเห็นเป็นสินค้าแบบเดียวกัน...ก็ถามขอแลกสินค้าทันที...
...พระพุทธเจ้าบอกยายกับหลานว่า...ถาดมีราคาสูงกว่าสินค้าที่เรามี...ยายยิ่งขอแลกทันที...
...ไม่มีสินค้าจำหน่ายแล้วจึงจ้างเรือข้ามฟากกลับ...พระเทวทัตกลับมาหวังแลกสินค้าจึงไม่ได้...
...พอรู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าก็แค้นหนักเรียกให้เรือกลับมารับ...พระพุทธเจ้าไม่ให้เรือกลับมา...
...นับแต่นั้นมาความอาฆาตแค้นของพระเทวทัตจึงเป็นที่มาให้เกิดมาจองกรรมพระพุทธเจ้าทุกชาติ...
...จนถึงชาติที่เป็นพระเทวทัตฉะนี้แล...เวลาศึกษาธรรมต้องคิดให้ลึกซึ้ง...เข้าให้ถึงสัจจธรรม...

:b19: :b19: :b19:
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


บาป Onion_L


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2009, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลักษณะคำถามไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับตัวเอง การสงสัย ก่อให้เกิดความลังเล ตามมา ท่านจัดว่าเป็นนิวรณ์ธรรม อย่างหนึ่ง สงสัยสิ่งในต่าง อยากรู้เห็นสิ่งนั้น ไปเรื่อยๆ ไม่จักจบสิ้น ฟุ้ง ปรุงแต่งไปเรื่อย
หัดแล้วๆไปบ้าง ในภาวะอารมณ์สงสัยนั้น ไม่ต้อง ค่อยเติม ความเห็นความหมายมากมาย ให้จิตใจนี้รก จะไม่ได้หาละหาวางอีก เดิมก็อยู่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ย. 2009, 15:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บาปค่ะ ฆ่าคนน่ะ บาปในทุกกรณีค่ะ เพราะการฆ่าคนทำได้ไม่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นการจะฆ่าต้องเกิดจากการไตร่ตรองแน่นอน เพียงแต่ไม่ยอมรับเท่านั้นค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 20:05
โพสต์: 60

แนวปฏิบัติ: พิจารณา......
ชื่อเล่น: ดุ๊กดิ๊กๆ
อายุ: 24
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


กระผมรู้แค่ว่า ตายกันทั้งคู่ ไม่ว่าเจตนาหรือไม่.....
ก็เห็นแต่ว่าไม่ต้องมานั่งคิดฆ่าให้เสียเวลา เพราะถ้ามีปัญญาจะรู้ว่าธรรมชาติฆ่าให้เอง
ก็เพราะมัวแต่ประมาทธรรมนั่นแหละ....
:b13: :b12: :b4: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 15:28
โพสต์: 307

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาจเป็นการช่วยบันดาลโทสะครับ
ถ้ามีเรื่องทุกข์ใจ ควรอย่างไปปรึกษาคนที่มีด้านลบมาก ๆ จะดีกว่าครับ
อนุโมทนาครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sabye เขียน:
กระผมรู้แค่ว่า ตายกันทั้งคู่ ไม่ว่าเจตนาหรือไม่.....
ก็เห็นแต่ว่าไม่ต้องมานั่งคิดฆ่าให้เสียเวลา เพราะถ้ามีปัญญาจะรู้ว่าธรรมชาติฆ่าให้เอง
ก็เพราะมัวแต่ประมาทธรรมนั่นแหละ....
:b13: :b12: :b4: :b8:


:b16: :b16: :b16:

ซาบาย จริง ๆ ด้วย...

:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
tammylala : เขียน
1.กระทำโดยบันดาลโทสะถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนาหรือไม่ครับ เพราะเห็นทางกฎหมายบันดาลโทสะถือว่าเป็นการกระทำโดยไม่เจตนาครับ
2. นาย ก : ในสมองมัวแต่ท่องว่า "ฆ่านาย ด " อยู่ได้
นาย ข : ช่างสมองมันซิ
นาย ก : มันไม่บาปหรอ
นาย ข : ไม่บาปจริงๆ
นาย ก ถามจนนาย ข รำคาญ นาย ข จึงตอบว่าถ้าไม่หยุดคิดก็คิดวิธีฆ่าซิ นาย ข ตอบแบบนี้เพื่อให้นาย กหยุดคิดเสียที ผมจึงเรียนถามว่านาย ข บาปหรือไม่ครับ

ตอบข้อ1
...ข้าพเจ้าไม่ทราบข้อกฏหมาย...ข้อมูลการกระทำที่บันดาลโทสะน้อยไปหน่อย...เกี่ยวกับเรื่องอะไร...
...ไม่ทราบว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง...บันดาลโทสะมีมูลเหตุมาจากอะไร...สมมุติสถานการณ์ไม่ชัด...
...คนสติฝั้นเฟือนกับคนสติดี...กระทำด้วยบันดาลโทสะ...การไต่สวนคดีความก็ตัดสินต่างกัน...
...ถ้าลูกเมายาบ้าฆ่าแม่ตายด้วยบันดาลโทสะ...ก็ต้องให้แพทย์ตรวจก่อนว่าบ้าจริงหรือแกล้งบ้า...
...มันต้องมีเหตุผลประกอบอีกตั้งมากมาย...ถ้าผิดจริงก็จำคุก...หรืออื่นๆแล้วแต่ศาลพิจารณาเหตุผล...

:b12:
...แต่ในทางธรรม...การกระทำไม่ว่ากรรมดีหรือไม่ดีเริ่มมาจากคิดก่อน...แล้วตัดสินใจ...ลงมือทำ...
...เช่นวันเสาร์นี้เราคิดว่าจะไปวัด...จิตที่คิดทางกุศลก็เรียกว่าจิตใจเทวดาแค่คิดยังไม่ทำก็เป็นบุญ...
...คิดว่าต้องเตรียมซื้ออาหารไปใส่บาตรด้วยแล้วไปซื้อมาเตรียมไว้...พอถึงวันก็ได้ไปทำตามตั้งใจ...
...ทำแล้วกลับมาบ้านก็ยินดีมีสุขในการกระทำนั้น...ได้บุญทั้งก่อนทำ...ขณะทำ...และหลังทำด้วย...

:b1: :b8:

ตอบข้อ2
...นาย ข คิดเองว่านาย ก จะหยุดคิดฆ่านาย ด...ถ้านาย ข เกิดยุนาย ก แล้วนาย ก ทำตามก็บาป...
...ในทางกลับกันการตัดสินว่าบาปมากหรือน้อยก็ตัดสินที่เจตนาตั้งแต่ก่อนทำ...ขณะทำและหลังทำ...
...นาย ก แค่คิดก็สร้างมโนกรรมให้ตนเองร้อนลุ่มในหัวอกแล้ว...ถ้าใจครุ่นคิดหาวิธีฆ่าบาปก็หนักขึ้น...
...เจตนามากขึ้น...พอลงมือฆ่า...ถ้านาย ด ไม่ตายก็บาปไม่หนักมากแต่ก็มีสิทธ์ติดคุกเพราะทำผิด...
...กฏหมายบ้านเมืองก่อนอื่น...นรกในเมืองมนุษย์ก็คือเรือนจำดีๆนี่เอง...ถ้านาย ก ทำสำเร็จ...
...นาย ข...ก็มีส่วนสมรู้ร่วมคิดครั้งนั้นๆด้วย...เจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามทีเถอะน่า...นะ...บาปแน่

:b21:
...ยิ่งถ้าเกิดนาย ด เกิดตายลงไปโทษตามกฏหมายบ้านเมืองก็หนักขึ้น...บาปรุนแรงมากด้วย...
...ทางธรรมบาปตั้งแต่เจตนามีสติสัมปชัญญะคิดวางแผนล่วงหน้า...แล้วลงมือฆ่าจนนาย ด ตาย...
...เรียกว่าเจตนาทั้งกายวาจาใจตั้งแต่คิดทำให้ผู้อื่นตายและสำเร็จอย่างสมบูรณ์...นรกแน่ๆ...
...กรณีที่ยกตัวอย่างยังอยู่ในระยะคิดยังไม่ลงมือทำ...ก็สร้างวิบากกรรมที่ตัวเองจะเป็นผู้รับผลไว้แล้ว...
...บุญ-บาป...เริ่มมาจากใจ...ใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธาน...ทุกอย่างสำเร็จที่ใจของผู้คิด...พูด...ทำ...
:b17:

...ทำไปแล้วมาคิดได้ทีหลังอย่างพระเทวทัต...ทำร้ายพระพุทธเจ้า...ยังต้องไปใช้กรรมในนรกก่อน...
...ความที่ยังมีโอกาสทำความดีถวายคางกรรไกรพระพุทธเจ้า...ก็ยังจะมีโอกาสได้มาเกิดเสวยกรรมดี...
...เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งชือ...อัฐิสาระ(เคยฟังเทศน์มาไม่แน่ใจว่าเขียนถูกรึเปล่า)...
...โอเคไหมคะ...ได้ข้อคิดไหม...หรือว่ายังงงอยู่หรือเปล่ากับการตอบคำถามครั้งนี้...

:b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 11:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาทุกท่านครับ :b9:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร