พระ ก. กำลังปฏิบัติธรรมและปฏิบัติกิจของสงฆ์อยู่ในวัด พอดีมีคนร้ายถือปืนไล่ยิงนาย ข. นาย ข.วิ่งเข้าหาพระและบอกพระว่าช่วยด้วยๆๆผมกำลังถูกเขาไล่ยิงไล่ฆ่า จึงขออนุญาตพระเข้าไปแอบอยู่ในห้องของพระแล้วพระก็อนุญาต พอดีคนร้ายวิ่งมาถึงที่วัดหานาย ข.ไม่เจอจึงถามพระว่าเห็นนาย ข.ไหม พระก็รู้และเห็นว่านาย ข.แอบอยู่ในห้อง แต่พระบอกกับคนร้ายว่าไม่เห็นก็เพียงเพื่อจะช่วยเหลือนาย ข.ไม่ให้ถูกฆ่า อย่างนี้พระจะผิดศิลข้อมุสาฯหรือไม่ครับ เพราะพระก็เจตนาที่จะมุสาเหมือนกัน ขอบคุณครับ

ตั้งใจโกหก ผิดศีลก็เป็นบาป
แต่ท่านก็ยอมบาปเพื่อช่วยชีวิตนาย ข. ซึ่งอาจยืนยาว มีโอกาศทำดีได้อีกมาก
อันนี้เป็นบุญ พิจารณาดูแล้วน่าจะมากกว่า บาปที่โกหกมาก

อย่างท่านเปา สั่งประหารชีวิตคนชั่วมากมาย ท่านก็ต้องได้รับบาปเหมือนกัน
ท่านก็ยอมเพื่อให้คนดีๆ มากมายไม่ต้องเดือดร้อน อันนี้ก็เป็นบุญ

ไม่บาป...และไม่ผิดศีลด้วยครับ

พระท่านไม่เห็นนาย ข...พระท่านเห็นเพียงคนถูกไล่ฆ่า เป็นทุกข์ เดือดร้อน มาขอพึ่งบารมีของท่าน(และนาย ข ก็ไม่ได้บอกด้วยว่าตัวเองชื่อ นาย ข )....แต่ว่าคนร้ายมาถามหานาย ข ไม่ได้มาถามหาคนที่ถูกไล่ฆ่า

พิจารณาให้ดี....พระท่านช่วยทั้ง 2 คน
ช่วยนาย ข ให้พ้นจากการถูกฆ่า....
ช่วยคนที่ไล่ฆ่า ให้พ้นจากการทำอกุศลกรรมที่ใหญ่หลวง....

พระอยู่ในฐานะที่สามารถช่วยเหลือโยมได้ ช่วยเหลือไปจะผิดสักเท่าไหร่เชียว

...พระท่านไม่ได้ผิดศีลข้อใดเลย...เพราะขณะที่ถามนั้นท่านไม่เห็นจริง...
...ท่านบริสุทธิ์ทั้งกาย...วาจา...ใจ...ทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ไม่ผิดศีล...
...แต่ในทางกลับกันถ้าเขาถามว่า5นาทีที่แล้วเห็นใครวิ่งมาทางนี้ไหม...
...ถ้าตอบว่าไม่เห็นก็มุสาอาจผิดทางวาจา...แต่เป็นเจตนาดีไม่ให้ผู้ร้ายทำผิด...
...จิตใจพระมีความเมตตาช่วยเหลือโปรดสัตวโลกไม่ได้เจตนาให้ผิดศีลจ้ะ...

ตอบแบบปัจจุบันธรรมเลยนะครับ คุณ Rosarin

การช่วยชีวิต ปลดปล่อยชีวิต ถือเป็นกุศลอย่างยิ่งครับ
อนุโมทนาครับ

ศึกษาแยกแยะเกียวกับข้อบัญญัติครับ ดูตรงเจตนารมณ์ของมัน
ศีลคือความปกติของจิตใจมนุษย์ ไม่ใช่ข้อบังคับหรือข้อห้ามหรอกนะครับ
ก็ถ้าพระท่านตอบโจรไปว่า อาตมาให้เค้าไปแอบอยู่ในที่ลับๆตรงนั้น(โดยที่พอจะสันนิษฐานได้ว่า นาย ข. ต้องการทำร้ายนาย ก.) การกล่าวบอกเช่นนั้น กระผมเห็นว่าศีลนั้นๆคงไม่ปกติเสียแล้ว